ตอนที่แล้วบทที่ 15 ออกจากย่านการค้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 17  ศพที่น่าอนาถ

บทที่ 16  มู่ชิงเหยียน


บทที่ 16  มู่ชิงเหยียน

เมื่อเห็นเช่นนี้

โจวซื่อไห่ ผู้อยู่เบื้องหลังก็มีสีหน้าบึ้งตึง แต่เขาก็ไม่สามารถระเบิดอารมณ์ได้

ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าหวู่เป็นผู้นำในการจัดตั้งอย่างเปิดเผย

สีหน้าของหัวหน้าหวู่ก็ไม่ค่อยดีนัก เขามองทุกคน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ "เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนมาครบแล้ว พวกเรามาแบ่งกลุ่มกันก่อน!"

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจคือ แม้ว่าผู้ฝึกตนอิสระเหล่านี้จะเชื่องช้า แต่พวกเขาก็หาสหายร่วมทีมได้แล้ว

ส่วนการให้หน่วยลาดตระเวนช่วยแบ่งกลุ่ม ทุกคนไม่สนใจเลย

ตลกตายล่ะ! ใครจะไปเชื่อใจสหายร่วมทีมที่ไม่รู้จักกันนอกย่านการค้า?

"เอาล่ะ ในเมื่อทุกคนหาสหายร่วมทีมได้แล้ว งั้นข้าก็ไม่ยุ่ง แต่ก่อนออกเดินทาง ข้ามีเรื่องจะพูด"

หัวหน้าหวู่มองทุกคนที่อารมณ์เย็นลงหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน แล้วพูดว่า "การกำจัดสัตว์อสูรกับคนร้ายในครั้งนี้ ถ้าใครฆ่าพวกมันได้ หน่วยลาดตระเวนของเราจะให้รางวัล 500 หินวิญญาณ!"

"500 หินวิญญาณ?!"

"หัวหน้าหวู่ พูดจริงหรือขอรับ?"

"ให้รางวัล 500 หินวิญญาณจริงๆ เหรอ?"

"..."

คนยอมตายเพื่อสมบัติ นกยอมตายเพื่ออาหาร!

เมื่อได้ยินรางวัล 500 หินวิญญาณ ทุกคนที่เดิมทีไม่มีกำลังใจ จู่ๆ ก็เหมือนกับถูกฉีดเลือดไก่ ต่างก็ตื่นเต้นกันหมด

ไม่มีทางเลือก แม้ว่าผู้ฝึกตนอิสระที่อยู่ในที่นี้ส่วนใหญ่ จะทำธุรกิจบนเขตติ้งมาหลายปี แต่พวกเขามีเงินเก็บไม่มากนัก

บางคนเป็นเพราะการบริหารจัดการที่ไม่ดี หรือไม่ก็ธุรกิจไม่ดี

ส่วนผู้ฝึกตนอิสระบางคน ก็เป็นเพราะมีครอบครัวเหมือนท่านปู่กง

ในย่านการค้าชิงสุ่ย ผู้ฝึกตนต้องใช้ข้าววิญญาณ โอสถวิญญาณ สมบัติวิเศษ ยันต์วิเศษ และทรัพยากรการบ่มเพาะอื่นๆ ทุกปี มันไม่ใช่จำนวนเงินที่น้อยเลย

เขตด้านตะวันตกเป็นด้านที่ไม่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในย่านการค้าชิงสุ่ย ต่อให้ผู้ฝึกตนอิสระเหล่านี้พยายามหาหินวิญญาณ พวกเขาจะเก็บเงินได้สักเท่าไหร่กันเชียว?

กล่าวได้ว่า ผู้ฝึกตนหลายคนที่อยู่ในที่นี้ ส่วนมากมีทรัพย์สินทั้งหมดไม่ถึง 500 หินวิญญาณ

แน่นอน รวมถึงซูหมิงด้วย!

แม้ว่าซูหมิงจะมีความสามารถในการหาหินวิญญาณที่แข็งแกร่งมาก แต่เขาไม่อยากเปิดเผยความลับของพลังนิ้วทองที่สามารถแยกชิ้นส่วนและเสริมพลังสมบัติวิเศษได้ ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าซื้อสมบัติวิเศษจำนวนมากมาแยกชิ้นส่วนและเสริมพลัง ซึ่งจำกัดความเร็วในการหาเงินของเขาอย่างมาก

ประการที่สอง การบ่มเพาะของเขาใช้หินวิญญาณมาก ยิ่งไปกว่านั้น เขายังต้องใช้แต้มเสริมพลังเพื่อเสริมพลังหุ่นเชิดกระดาษกับโล่จิตวิญญาณเต่าเป็นประจำ

ดังนั้น ถ้าคิดจริงๆ แล้ว เขาอาจจะเป็นคนที่ยากจนที่สุดในบรรดาผู้คนเหล่านี้

แต่ถึงแม้ว่าซูหมิงจะไม่มีหินวิญญาณมากนัก แต่เขาก็ไม่สนใจหินวิญญาณที่หัวหน้าหวู่พูดถึงเลย

ล้อเล่นน่า หัวหน้าหวู่บอกว่าเจ้าของร้านและผู้ฝึกตนอิสระในย่านการค้าชิงสุ่ย ถูกสัตว์อสูรฆ่าตาย แต่คนที่มีตาก็ดูออกว่า ไม่มีสัตว์อสูรอยู่ใกล้ๆ ย่านการค้าชิงสุ่ย

ฆาตกรตัวจริงต้องเป็นตระกูลจางแห่งเขตปกครองซ่างหยาง!

พวกเขาคงมีชีวิตอยู่ไม่นานแน่ๆ ถ้าไปฆ่าคนของตระกูลจางเพื่อแลกกับ 500 หินวิญญาณ

หัวหน้าหวู่ไม่สนใจเรื่องนี้ เพราะหินวิญญาณก้อนนี้ไม่ใช่ของเขา แน่นอนว่าต้องมีคนโง่ๆ อย่างโจวซื่อไห่จ่ายให้เขา

เมื่อเห็นว่าทุกคนมีกำลังใจสูง โจวซื่อไห่ก็โบกมือ แล้วตะโกนว่า "ออกเดินทาง!"

ทันทีที่พูดจบ

ทุกคนก็ร่ายวิชาเหินหาว จากนั้นส่งปราณแก่นแท้เข้าไปที่ขา และหายตัวไปในทันที

ส่วนซูหมิงก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาไม่รู้วิชาเหินหาว!

ในถุงเก็บของของเขามียันต์วิชาเหินหาวอยู่หลายแผ่น แต่มันเป็นยันต์ที่เขาซื้อมาในราคา 30 เศษหินวิญญาณ

ในขณะที่ซูหมิงกำลังลังเลว่าจะใช้ยันต์วิเศษหนึ่งแผ่นดีหรือไม่? เขาก็รู้สึกว่าร่างกายเบาขึ้น รู้สึกเหมือนแรงโน้มถ่วงไม่มีผลกับเขา ร่างกายเบาหวิว

เมื่อหันกลับไปมอง เขาก็พบว่าท่านปู่กงร่ายวิชาเหินหาวให้เขา

"ไปกันเถอะ"

ท่านปู่กงพูดจบ ก็กลายเป็นเงาสีเทา แล้วหายไปต่อหน้าเขา

ซูหมิงไม่กล้าประมาท รีบตามไป

หลังจากวิ่งไปประมาณหนึ่งก้านธูป

เมื่อเห็นว่าอยู่ห่างจากย่านการค้าชิงสุ่ยพอสมควรแล้ว ทั้งสองก็ชะลอฝีเท้าลงโดยไม่ได้นัดหมาย

กำจัดสัตว์อสูรงั้นเหรอ?

แถวนี้มีสัตว์อสูรให้พวกเขากำจัดที่ไหนกัน? มันเป็นแค่ข้ออ้างของโจวซื่อไห่ที่ใช้รวบรวมผู้ฝึกตนอิสระเท่านั้น

ถ้าบอกว่าเป็นตระกูลจางตรงๆ คิดว่าจะมีผู้ฝึกตนอิสระกี่คนที่กล้าออกมาต่อต้านตระกูลจาง?

"ท่านปู่กง ข้าน้อยมีข้อสงสัย"

"ว่ามาสิ"

ทั้งสองเดินไปอย่างเรื่อยเปื่อย

ซูหมิงขมวดคิ้ว "ในเมื่อฆาตกรตัวจริงคือคนของตระกูลจาง ทำไมโจวซื่อไห่ถึงทำเรื่องใหญ่โตแบบนี้? มันมีประโยชน์อะไร?

ท้ายที่สุดแล้ว คนของตระกูลจางแค่ต้องหลบซ่อนตัวชั่วคราว หลังจากนั้นค่อยมาคิดบัญชีกับโจวซื่อไห่ โจวซื่อไห่จะทำอะไรตระกูลจางได้?"

เมื่อได้ยินเช่นนี้

ท่านปู่กงก็ส่ายหน้า "เจ้ายังมองปัญหาไม่ทะลุ"

เมื่อเห็นว่าท่านปู่กงตั้งใจจะชี้แนะ ซูหมิงก็โค้งคำนับทันที "ขอคำชี้แนะจากท่านปู่กง"

"ตระกูลจางลอบสังหารผู้ฝึกตนที่ทำธุรกิจข้าววิญญาณในช่วงสองปีที่ผ่านมา แม้ว่าทุกคนจะรู้ดี แต่ในทางเปิดเผย ผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกสัตว์อสูรฆ่าตาย"

พูดถึงเรื่องนี้ ท่านปู่กงก็มองซูหมิงแวบหนึ่ง ท้ายที่สุดแล้ว ในบรรดาผู้เสียชีวิต มีบิดาของซูหมิงรวมอยู่ด้วย

เมื่อเห็นท่านปู่กงมองมาที่เขา ซูหมิงก็ต้องแสร้งทำเป็นเศร้าโศก

ท่านปู่กงพูดต่อ "ตอนนี้โจวซื่อไห่ให้หน่วยลาดตระเวนของเขตด้านตะวันตกเป็นผู้นำ จัดตั้งผู้ฝึกตนอิสระบนเขตติ้งทั้งหมดเพื่อกำจัดสัตว์อสูร

ถ้าคนของตระกูลจางหลบซ่อนตัว ไม่ยอมปรากฏตัว โจวซื่อไห่ก็แค่ต้องเอาศพสัตว์อสูรออกมา มันก็สามารถพิสูจน์ได้ว่า สัตว์อสูรถูกหน่วยลาดตระเวนนำทีมฆ่าตายแล้ว"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซูหมิงก็คิดอะไรบางอย่างได้ "ในเมื่อสัตว์อสูรถูกหน่วยลาดตระเวนนำทีมฆ่าตายแล้ว ถ้ามีสัตว์อสูรมาก่อกวนผู้ฝึกตนอิสระอีก นั่นก็หมายความว่า ตระกูลจางกำลังท้าทายหน่วยลาดตระเวนของย่านการค้าชิงสุ่ย

โจวซื่อไห่นี่มัน…. ช่างร้ายกาจยิ่งนัก!"

"ใช่"

ท่านปู่กงพยักหน้า "ดังนั้น ในครั้งนี้ ตระกูลจางต้องยอมให้โจวซื่อไห่ทำธุรกิจข้าววิญญาณในเขตด้านตะวันตก หรือไม่ก็ต้องใช้โอกาสนี้กำจัดโจวซื่อไห่!

เมื่อถึงเวลานั้น ตระกูลจางก็แค่ต้องเอาศพสัตว์อสูรออกมา ก็สามารถบอกว่าสัตว์อสูรถูกพวกเขาฆ่าตายแล้ว

ด้วยวิธีนี้ ตระกูลจางไม่เพียงแต่ผูกขาดธุรกิจข้าววิญญาณในเขตด้านตะวันตกเท่านั้น แต่ยังรักษาหน้าตาของคนที่อยู่เบื้องหลังหน่วยลาดตระเวนเอาไว้ด้วย

ท้ายที่สุดแล้ว คนผู้นี้ก็คือศิษย์ของโม่อวิ๋นซั่งเหริน"

คนที่ท่านปู่กงพูดถึงคือ…. มู่ชิงเหยียน ศิษย์คนสุดท้ายของโม่อวิ๋นซั่งเหริน และเป็นศิษย์หญิงคนเดียวของเขา

ผู้ฝึกตนทั้งหมดในหน่วยลาดตระเวนของย่านการค้าชิงสุ่ย ล้วนอยู่ภายใต้การดูแลของมู่เซียนจื่อ(เทพธิดามู่) เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนอิสระตัวเล็กๆ ในเขตตะวันตกอย่างซูหมิงแล้ว มู่เซียนจื่อเป็นบุคคลสำคัญจริงๆ

ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าหวู่ก็เป็นบุคคลสำคัญที่เอื้อมไม่ถึงในสายตาของทุกคน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมู่เซียนจื่อ ที่มีสถานะสูงกว่าหัวหน้าหวู่มาก

ไม่ว่าจะเป็นขอบเขตบ่มเพาะหรือสถานะ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ไม่แปลกใจเลยที่ตระกูลจางจะเกรงกลัวมู่เซียนจื่อ

ในตอนนี้ ซูหมิงก็เข้าใจแล้วว่า การอาศัยอำนาจผู้อื่น ที่แท้แล้วโจวซื่อไห่ไม่ได้อาศัยอำนาจของผู้ฝึกตนอิสระ แต่เป็นอำนาจของมู่เซียนจื่อนั่นเอง

เขาคิดว่าผู้ฝึกตนอิสระจะร่วมมือกันต่อต้าน ซึ่งจะทำให้ตระกูลจางหวาดกลัว

ที่แท้แล้ว ตระกูลจางไม่เคยสนใจผู้ฝึกตนอิสระกลุ่มนี้เลย

ซูหมิงเดินตามท่านปู่กงอย่างเงียบๆ เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ โลกแห่งการบ่มเพาะนี้ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก!

ท่านปู่กงเห็นว่าซูหมิงไม่พูดอะไร เขาคิดว่าซูหมิงกำลังคิดถึงเรื่องของบิดาของร่างเดิม เขาจึงปลอบใจด้วยความหวังดี "จำไว้ว่า ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ มันย่อมมีโอกาสแก้แค้น อย่าทำเรื่องโง่ๆ ล่ะ"

"ขอบคุณที่เตือนขอรับ ท่านปู่กง"

ซูหมิงพยักหน้ารับอย่างจริงจัง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด