บทที่ 12 ตุ๊กตาหญ้าแสดงพลัง
บทที่ 12 ตุ๊กตาหญ้าแสดงพลัง
การกระทำของจ้าวซิงในลานหญ้าเข้าตาสามผู้คุมสอบบนเรือเหาะ
หลักๆ แล้วเขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ตอบสนองได้เร็วที่สุดและเริ่มทำตุ๊กตาหญ้าทันที แถมความเร็วและคุณภาพของการสร้างก็ถือว่ายอดเยี่ยม
ตุ๊กตาหญ้าของคนอื่นยังโซเซโยกเยก แต่ของจ้าวซิงกลับวิ่งกระโดดได้อย่างคล่องแคล่วเสมือนมีชีวิต
“หืม? วิชาหลิวทั้ง 81 แบบ เด็กคนนี้เป็นข้าราชการในสังกัดของท่านเกาหรือท่านถังหรือไม่?” เฉินชือเจี๋ยถามขึ้น
เกาหลี่หนงและถังหว่านชุนหันมามองหน้ากันเอง เพราะพวกเขาเองก็ไม่รู้จักเทคนิคนี้ดีนัก ตอนแรกก็ไม่รู้เลยว่ามันคือวิชาอะไร จะสอนให้ได้อย่างไรเมื่อพวกเขาเองก็ยังไม่เข้าใจ?
“เขาไม่ใช่ข้าราชการในสังกัดของข้า”
“เขาไม่ได้อยู่ในสังกัดข้าเช่นกัน”
“โอ้? ตุ๊กตาหญ้าของเด็กคนนี้ค่อนข้างมีความละเอียดอ่อน น่าสนใจว่าเขาอยู่ภายใต้การสอนของผู้ใด”
ถังหว่านชุนครุ่นคิดแล้วกล่าวว่า “วิชาหลิวทั้ง81แบบที่สมบูรณ์ คงมีเพียงท่านเฉินและท่านซวี่ผู้เฒ่าเท่านั้นที่สามารถสอนได้”
เฉินชือเจี๋ยพยักหน้าเล็กน้อย ซวี่เหวินจงรับตำแหน่งขุนนางการเกษตรมานานกว่าหกสิบปี การที่เขาจะมีวิชามากกว่าคนอื่นจึงเป็นเรื่องปกติ
เมื่อได้ยินถังหว่านชุนบอกเช่นนี้ เกาหลี่หนงและถังหว่านชุนก็เริ่มให้ความสนใจกับจ้าวซิง
ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นฉากที่จ้าวซิงแย่งชิงฟาง ใช้ก้อนหินขว้างใส่คนอื่นจนต้องล่าถอย
เกาหลี่หนงหึขึ้นมา “เด็กคนนี้จิตใจต่ำทราม แค่กองฟางก็กล้าลงมือกับเพื่อนร่วมงาน น่ารังเกียจจริงๆ”
ถังหว่านชุนเหลือบมองแต่ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขากำลังจับตาดูท่าทีของเฉินชือเจี๋ยอยู่ หัวหน้าพึ่งชมข้าราชการคนนี้ไป นี่ท่านเกากลับมาตำหนิก็ไม่เข้าท่าแล้ว
เฉินชือเจี๋ยกล่าวขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “ขุนนางการเกษตรคือผู้ที่แย่งชิงอาหารจากฟ้าดิน การแสดงออกถึงความแข็งกร้าวบ้างก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อย่างเช่น หลี่เฉิงเฟิง ข้าราชการในสังกัดของท่านเกาเองก็ทำตัวโดดเด่นใช่ย่อย”
เกาหลี่หนงกระตุกหางตา ในตอนนั้นเขาเพิ่งรู้ตัวว่าพูดผิดไป แม้จะคิดในใจ แต่ก็ไม่ควรพูดออกมาตรงๆ
“เฉินชือเจี๋ยมาจากดินแดนห่างไกลทางเหนือ ที่นั่นต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติมากมาย การกระทำของเด็กคนนี้คงถูกใจท่านเฉินเป็นแน่” ในใจคิดอย่างนั้น เกาหลี่หนงจึงรีบเปลี่ยนท่าที
“ท่านเฉินมองการณ์ไกล ข้าคิดตื้นเกินไป ยิ่งกว่านั้นเขาเป็นคนแรกที่ไปถึงกองฟางนั้น จึงมีเหตุผลอยู่”
นี่แหละคืออำนาจที่สูงกว่าหนึ่งขั้นสามารถกดคนได้เฉียบพลัน
เฉินชือเจี๋ยแค่ตำหนิเบาๆ เกาหลี่หนงก็ต้องรีบสนับสนุนเขาทันที เพราะเขาเป็นเพียงผู้ช่วย ขณะที่เฉินชือเจี๋ยเป็นหัวหน้า
จ้าวซิงไม่รู้เลยว่าผู้คุมสอบทั้งสามบนเรือเหาะกำลังพูดคุยเรื่องของเขาอยู่ เมื่อเขาใช้กองฟางที่สามจนหมด ในที่สุดก็ออกจากลานหญ้า
ตอนนี้เขาได้สร้างตุ๊กตาหญ้าสำเร็จถึงเจ็ดสิบหกตัว!
เมื่อเจอความกดดัน เขายิ่งมุ่งมั่น และเมื่อสร้างตุ๊กตาหญ้าตัวที่หกสิบ
[ตุ๊กตาหญ้า(ฟื้นฟู)] ความชำนาญทักษะของเขาก็ทะลุ 1000 ขึ้นไปถึงระดับ 'การเปลี่ยนแปลงหนึ่งครั้ง'
หลังจากนั้นตุ๊กตาหญ้าสิบหกตัวต่อมาเคลื่อนไหวได้รวดเร็วขึ้น แข็งแรงและว่องไวมากขึ้น
“น่าจะเพียงพอแล้ว”
ที่ขอบทุ่งนา ตุ๊กตาหญ้าทั้งเจ็ดสิบหกตัวเดินเข้าไปยืนถือไม้ไผ่คล้ายกับทหารที่เตรียมพร้อมต่อสู้
จ้าวซิงมองไปที่แผงสถานะ
พลังชีวิตของเขาลดลงต่ำกว่า 50
“ตามสถานการณ์ตอนนี้ [เคลื่อนเมฆ] และ [สายฟ้าฟาด] ก็ยังไม่อาจทนได้นาน การคงไว้ซึ่งสองคาถานี้ใช้พลังงานมากกว่าตุ๊กตาหญ้ามาก”
ตุ๊กตาหญ้าอย่างน้อยก็มีวัสดุรองรับ ทำให้ไม่ต้องใช้พลังชีวิตเพิ่มเติมเมื่อสร้างขึ้นมาแล้ว แต่การใช้คาถาเคลื่อนเมฆและสายฟ้าฟาดนั้นใช้พลังงานมากกว่า
อย่างไรก็ตาม จ้าวซิงยังคงตัดสินใจทนต่อไปจนกว่าจะไม่ไหว
ตุ๊กตาหญ้าไม่ดีเท่ากับคาถาเคลื่อนเมฆและสายฟ้าฟาดแน่ จึงยังมีข้อผิดพลาดอยู่มากมาย
...
ในการสอบฤดูร้อนเล็ก ชั่วยามแรก [เคลื่อนเมฆ] และ [สายฟ้าฟาด] สามารถขัดขวางการโจมตีของนกกินธัญพืชได้ทั้งหมด
ชั่วยามที่สอง ตุ๊กตาหญ้าเข้าประจำอยู่ในทุ่งนา
ชั่วยามที่สาม ความถี่ของสายฟ้าเริ่มลดลง นกกินธัญพืชเริ่มทะลุเมฆลงมากินข้าวเปลือก แต่ถูกตุ๊กตาหญ้าขัดขวางไว้
ชั่วยามที่สี่ จ้าวซิงละทิ้งการใช้คาถาสายฟ้าฟาดและใช้เพียงเคลื่อนเมฆเท่านั้นเพื่อขัดขวางนกกินธัญพืช แต่มีนกประมาณหนึ่งในสามบินทะลุลงมาและตุ๊กตาหญ้าต้องขับไล่อย่างเต็มที่
ชั่วยามที่ห้า นกกินธัญพืชจำนวนมากถูกตุ๊กตาหญ้าตีตกไป แต่ก็มีตุ๊กตาหญ้าห้าตัวที่ถูกทำลาย
ชั่วยามที่หก นกกินธัญพืชที่ไม่ได้กินอาหารบินหนีไปประมาณหนึ่งในสาม แต่จำนวนตุ๊กตาหญ้าที่ถูกทำลายเพิ่มขึ้นเป็นยี่สิบห้าตัว
ชั่วยามที่เจ็ด เมฆย่อขนาดลง ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด พลังชีวิตของจ้าวซิงเริ่มอ่อนแรง เขาใช้ตุ๊กตาหญ้าเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของนกกินธัญพืช เนื่องจากตุ๊กตาหญ้าถูกสร้างมาจากฟางข้าวซึ่งเป็นส่วนที่นกกินธัญพืชชื่นชอบ แต่เขาก็สูญเสียตุ๊กตาหญ้าไปกว่าครึ่ง
ชั่วยามที่แปด เมฆหดตัวลงครึ่งหนึ่ง ทุ่งนาครึ่งหนึ่งถูกเปิดเผย จ้าวซิงให้ตุ๊กตาหญ้าที่เหลือทั้งหมดเป็น 'เหยื่อ' ให้นกกินธัญพืชกัดกิน พื้นที่ทุ่งนาก็เริ่มถูกทำลาย
ชั่วยามที่เก้า เสียงระฆังดังขึ้น นกกินธัญพืชทั้งหมดบินออกจากทุ่งนาสาธารณะและหายไปในเมฆขาว
"ฮู้ ฮู้~"
จ้าวซิงหายใจหอบ เหงื่อท่วมตัว
แต่เขาไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ รีบเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ทุ่งนาที่เขารับผิดชอบ
“ทุ่งทางใต้ครึ่งไร่นี้เสียหายหนักที่สุด มันเป็นส่วนที่เปิดออกก่อน เพราะข้าใช้มันเป็นเหยื่อล่อ”
“ส่วนทุ่งนาที่เหลือได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย”
จ้าวซิงเดินวนไปรอบๆ ทุ่งนา เขารู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
เมื่อตรวจดูตุ๊กตาหญ้า เหลือเพียงแปดตัวและแต่ละตัวก็มีส่วนที่ขาดหายไป หากไม่ใช่เพราะตุ๊กตาหญ้าเหล่านี้มีความชำนาญระดับ 'ขั้นหนึ่ง' คงพังทลายไปนานแล้ว
“จบแล้ว ได้เวลาพักผ่อนแล้ว” จ้าวซิงโบกมือให้ตุ๊กตาหญ้าที่ยังเหลืออยู่ล้มลงที่ข้างทุ่งนา
อากาศร้อนจัด อีกทั้งต้องสู้รบอย่างหนักหน่วงเป็นชั่วยาม จ้าวซิงรู้สึกทั้งร่างกายและจิตใจอ่อนล้า เขาอยากจะล้มตัวลงนอนเสียเดี๋ยวนั้น
รอบๆ ตัวมีแต่เสียงโอดครวญของข้าราชการ
เพราะการสอบครั้งนี้ยากกว่าที่ผ่านมา ทุ่งนาที่รับผิดชอบของหลายๆ คนได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ส่วนใหญ่เสียหายเกินครึ่ง บางคนถึงกับถูกกินจนหมดสิ้น
“เหนื่อยยากมานานกว่าหนึ่งเดือน ต้องมาหายไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้?”
“ไอ้พวกนกกินธัญพืชน่ารังเกียจ!”
“เฮ้อ วิชาไม่แข็งแกร่งพอ จะโทษใครได้ล่ะ? เตรียมตัวสอบซ่อมดีกว่า”
“สอบซ่อมอย่างดีก็ได้แค่ระดับซีบน แค่ผ่านเกณฑ์ไปเท่านั้น เสียแรงไปโดยเปล่าประโยชน์ แล้วการสอบครั้งหน้าจะทำยังไง?”
“ใครว่าการเป็นขุนนางระดับจิ่วพินเป็นเรื่องง่าย? ที่สำนักงานการเกษตรนี่ยังถือว่าดี มีแค่ห้าร้อยคนที่แย่งชิงสามถึงห้าตำแหน่ง ท่านรู้หรือไม่ว่าในกองทัพทะเลสาบตะวันออกนั้น ขุนนางระดับจิ่วพินตำแหน่งเดียวก็มีผู้แย่งชิงถึงสามถึงห้าพันคน!”
“อย่าพูดเรื่องทหารเลย ในสำนักช่างนั้นก็มีคนแย่งชิงนับพัน”
“เฮ้อ เสียดายที่ข้าไม่ใช่หญิงสาว ได้ยินว่าการแข่งขันในสำนักทอผ้านั้นไม่รุนแรงขนาดนี้”
“แหวะ~ เจ้าช่างไร้ความทะเยอทะยานจริงๆ”
...
ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็มืดลง มีเมฆดำปกคลุมและฝนเริ่มตกลงมา
“ซ่า ซ่า~”
ฝนตกลงมาอย่างเบาบางในตอนแรก แต่ไม่นานก็กลายเป็นฝนห่าใหญ่
อุณหภูมิในอากาศลดลงอย่างรวดเร็ว
จ้าวซิงนั่งลงบนทุ่งนา ปล่อยให้ฝนชำระร่างกาย
พายุฝนมากะทันหันและจากไปอย่างรวดเร็ว
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการควบคุมของมนุษย์
เหล่าข้าราชการได้เวลาพักฟื้นหนึ่งชั่วยาม แล้วท้องฟ้าก็กลับมาแจ่มใส เมฆดำกลายเป็นเมฆขาว และอากาศกลับเข้าสู่สภาพของฤดูร้อนเล็กตามปกติ
มีเรือเหาะลอยลงมาที่ลานหญ้า หัวเรือมีชายสามคนยืนอยู่ ได้แก่ เฉินชือเจี๋ย หัวหน้าสำนักงานการเกษตร พร้อมด้วยสองผู้ช่วยคือ เกาหลี่หนงและถังหว่านชุน
“พวกเขามาแล้ว คงจะประกาศผลการสอบฤดูร้อนเล็ก” จ้าวซิงตั้งสติและเดินเข้าไปใกล้ลานหญ้า