บทที่ 10 สิ่งไม่สะอาด
ในความคิดของทุกคน แพทย์เคยบอกไว้ว่า หยานเชียนอี้ไม่มีทางฟื้นขึ้นมาได้อีก
และคนที่พาตัวเธอไปเมื่อคืนก็ตายหมดแล้ว
ดังนั้น การที่เธอปรากฏตัวอยู่ที่นี่ตอนนี้ ท่ามกลางฟ้าร้องฟ้าผ่า ย่อมทำให้หลายคนรู้สึกหวาดกลัว
ในกลุ่มฝูงชน หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเดินออกมา เธอคือแม่นมของหยานเชียนอี้ตั้งแต่เด็ก
เธอค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้หยานเชียนอี้ เสียงของเธอสั่นและเต็มไปด้วยความสะเทือนใจ
“คุณหนู ใช่คุณหนูจริงๆไหมคะ”
เมื่อเข้าไปใกล้ แม่นมซวีจับมือของหยานเชียนอี้ขึ้นมา
เมื่อสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากมือของหยานเชียนอี้ น้ำตาของแม่นมซวีก็ไหลพรั่งพรู “คุณหนู! คุณหนูกลับมาแล้วจริง ๆ คุณหนูยังไม่ตาย!”
“คุณหนู คุณหนูกลับมาได้เสียที!” แม่นมซวีร้องไห้จนพูดไม่ออก “เป็นเพราะคุณนายและสวรรค์คอยคุ้มครอง...”
“แม่นมซวี อย่าร้องไห้ค่ะ หนูไม่เป็นอะไรแล้ว” หยานเชียนอี้ยิ้มบางๆให้
ดูเหมือนว่าในบ้านนี้ ยังมีคนที่คิดถึงเธออยู่
ในขณะนั้น หยานหง พ่อของเธอก็รีบเดินลงมาจากชั้นบนเมื่อได้ยินเสียง
เมื่อหยานเชียนอี้เห็นเขา เธอก็รีบวิ่งเข้าไปกอดเขาทันที “พ่อคะ”
หยานหงตกใจไปชั่วครู่ ก่อนจะตั้งสติได้และกอดหยานเชียนอี้ไว้แน่น “ลูกพ่อ... ลูกฟื้นแล้วเหรอ”
หยานเชียนอี้รู้สึกสะอึกเล็กน้อย ตลอดหลายปีที่ผ่านมา พ่อของเธอมักจะเรียกเธอว่า "ลูกพ่อสุดที่รัก"
แต่ตอนนี้ เธอยังเป็นลูกสุดที่รักของพ่ออยู่หรือเปล่า ถ้ายังเป็น ทำไมพ่อถึงยอมขายเธอ
หยานเชียนอี้ร้องไห้อยู่ในอ้อมกอดของหยานหง
หยานหงลูบไหล่ของเธอเบาๆ “ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ลูกกลับมาก็ดีแล้ว”
หลังจากร้องไห้อยู่สักพัก หยานเชียนอี้ก็เงยหน้าขึ้น และหันไปมองหานย่าหรงและหานรู่ยีที่ยืนอยู่ไม่ไกล
“ป้าหาน คุณหนูรู่ยี ทำไมพวกคุณถึงอยู่ในบ้านของฉันคะ”
หานย่าหรงชะงักไปชั่วขณะ บรรดาคนรับใช้รอบ ๆ ก็มองหน้ากันอย่างประหลาดใจ
บรรยากาศตึงเครียดและน่าอึดอัดทันที
“เชียนอี้ เรื่องมันเป็นแบบนี้...” หานย่าหรงก้าวไปข้างหน้าเตรียมอธิบายบางอย่าง
แต่หยานหงกลับขัดจังหวะเธอ “ลูกพ่อ ลูกเพิ่งฟื้นขึ้นมา ขึ้นไปพักก่อน มีอะไรก็ค่อยว่ากันทีหลัง”
หยานเชียนอี้พยักหน้า ทั้งน้ำตาและทำหน้าเหมือนเด็กน้อยที่ทั้งเชื่อฟังและรู้สึกอัดอั้นใจ
ขณะที่เธอเดินขึ้นบันไดไป เธอสังเกตเห็นหางตาของหานย่าหรงที่เริ่มบึ้งตึง สีหน้าแข็งกระด้างขึ้นทันที
และสีหน้าของหานรู่ยีก็ไม่ดีไปกว่ากัน
รับไม่ได้แล้วหรือ? รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากของหยานเชียนอี้ที่ยังคงมีน้ำตาเอ่อล้นปรากฏขึ้นมา
นี่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อขึ้นมาถึงชั้นบน หยานเชียนอี้ตรงไปยังห้องนอนของตัวเองทันที
หานย่าหรงรีบใช้ศอกสะกิดแขนหยานหง พร้อมกับส่งสายตาเตือน
ตอนนี้ห้องนอนของหยานเชียนอี้เป็นห้องที่หานรู่ยีใช้พักอาศัยอยู่
หยานหงเข้าใจความหมายที่หานย่าหรงสื่อ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นว่า “ลูกพ่อ ตอนที่ลูกยังเป็นเจ้าหญิงนิทรา พ่อได้เตรียมห้องพักอีกห้องไว้ให้ พร้อมอุปกรณ์การแพทย์ครบครัน ตอนนี้ลูกเพิ่งฟื้นร่างกาย ยังไม่ได้ตรวจร่างกายดีนัก ไปพักที่ห้องนั้นก่อนดีไหม จะได้สะดวกกว่า”
“พ่อคะ หนูหายดีแล้วค่ะ” หยานเชียนอี้พูดพลางเปิดประตูห้องนอนของตัวเอง
ทันทีที่เปิดประตู เธอรีบยกมือขึ้นปิดจมูกและหันหน้าหนีอย่างรังเกียจ “อุ๊ย ทำไมถึงมีกลิ่นเหม็นแปลกๆ”
หยานหงดมดูแล้วพูดว่า “มีกลิ่นเหรอ พ่อไม่เห็นได้กลิ่นเลย”
คนรับใช้ที่เดินตามมาข้างหลังต่างก็ดมดูกัน แต่ก็ไม่มีใครได้กลิ่นอะไร
ในขณะนั้น ใบหน้าของหานรู่ยีก็เริ่มซีดเผือดและดวงตาก็เริ่มแดงขึ้น
ทุกคนที่อยู่ที่นั่นรู้ดี ยกเว้นหยานเชียนอี้ ว่าหานรู่ยีใช้ห้องนี้อยู่ในปัจจุบัน
“มีกลิ่นจริงๆ ค่ะ” หยานเชียนอี้พูดอีกครั้ง “หรือว่าเพราะห้องนี้ไม่ได้ใช้งานมาสองปี มีอะไรสกปรกเข้าไปอยู่หรือเปล่านะ”
แม่นมซวีรีบพูดขึ้นว่า “คุณหนู รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวฉันจะทำความสะอาดให้เอง ฉันจะฉีดแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อให้”
หานรู่ยีรู้สึกถึงความอับอายท่วมท้นในใจจนทนไม่ไหว เธอหันหลังวิ่งหนีไปทันที
หากเป็นเมื่อก่อน เธอคงจะเป็นจุดศูนย์กลางของบ้านตระกูลหยาน คนรับใช้ทุกคนคงจะคอยเอาใจเธอ
แต่ตอนนี้ เจ้าของตัวจริงของบ้านกลับมาแล้ว ไม่มีใครสนใจเธอเลย คนรับใช้ทุกคนต่างยุ่งอยู่กับการจัดห้องให้กับเจ้าของบ้านตัวจริง
มีเพียงหานย่าหรงที่รีบวิ่งตามไปปลอบลูกสาวของเธอ
ผ่านไปสักครู่ คนรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาหาหยานหงแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ “ท่านค่ะ คุณผู้หญิงบอกว่าเธอรู้สึกไม่สบาย อยากให้ท่านไปดูเธอหน่อยค่ะ”