ตอนที่ 5 ทดสอบพลังปราณและผู้ใช้พลังจิตระดับ1
การทดสอบยังคงดำเนินต่อไป
ไม่นานมู่ป้าเทียนก็มาถึง ตอนที่เดินออกจากแถว เขาหันกลับมามองหลี่หยวนด้วยสีหน้ามุ่งมั่นและจริงจัง ราวกับกำลังจะออกไปสู่สนามรบ
ติ๊ด!
พลังปราณ: 18.9
ทำลายสถิติสูงสุดของนักรบระดับ 1 ได้สำเร็จ
ทหารใหม่ที่ยืนดูอยู่พากันเบิกตากว้าง จ้องมองมู่ป้าเทียนที่กำลังเดินไปยังเครื่องทดสอบดัชนีพลังรบ
ผู้ที่ทำสถิติสูงสุดของดัชนีพลังรบในปัจจุบันอยู่ที่ 241
พวกเขาอยากรู้ว่ามู่ป้าเทียนจะทำลายสถิตินั้นได้แค่ไหน
สายตาทุกคู่ต่างจับจ้องมอง
มู่ป้าเทียนกำหมัดขวา กระแสไฟฟ้าสีม่วงแล่นผ่านแขนทั้งข้าง
ดุจสายฟ้าฟาด ดวงตาของทหารใหม่พร่ามัวไปชั่วขณะ ก่อนที่หมัดจะกระทบเข้ากับเครื่องทดสอบอย่างจัง
ดัชนีพลังรบ: 455
เสียงฮือฮาดังขึ้น
ทหารใหม่ต่างมองไปที่มู่ป้าเทียนด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ค่านี้เกือบจะสองเท่าของผู้ที่ทำสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้!
ยิ่งไปกว่านั้น กระแสไฟฟ้าสีม่วงที่ไหลเวียนอยู่บนแขน
ชัดเจนว่าเป็นพรสวรรค์ยุทธ์ธาตุที่หาได้ยาก!
อัจฉริยะทางยุทธที่แท้จริง!!
หัวหน้าครูฝึกเส้าไม่ได้ห้ามปรามเสียงฮือฮาของทหารใหม่เหล่านี้
เพราะแม้แต่ครูฝึกที่ยังไม่ได้อ่านข้อมูลของมู่ป้าเทียนก็ยังแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา
คิดได้ดังนั้น
หัวหน้าเส้าอดไม่ได้ที่จะมองไปที่หลี่หยวน
คาดหวังว่าหลี่หยวนจะสามารถทำคะแนนที่น่าตกใจแบบนั้นออกมาได้
...
ท่ามกลางสายตาของทหารใหม่ทุกนาย มู่ป้าเทียนเดินกลับไปเข้าแถว มองหลี่หยวนด้วยหางตา แววตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะแข่งขัน
หลี่หยวนไม่ได้สนใจ ยังคงรอคอยการทดสอบของตัวเอง
ในที่สุด หลี่หยวนก็เดินออกจากแถว มาถึงเครื่องตรวจสอบพลังปราณ
ติ๊ด!
ค่าพลังปราณ: 15.3
นักรบระดับ 1 อีกคนแล้ว
บรรดาทหารใหม่แทบจะชาไปแล้ว ปีนี้คนมีพรสวรรค์เยอะเกินไปแล้ว
ทหารใหม่ที่ผ่านประสบการณ์ในโรงงานร้างมากับหลี่หยวนต่างพากันกลั้นหายใจ จ้องมองหลี่หยวนที่กำลังเดินไปยังเครื่องทดสอบดัชนีพลังรบโดยไม่กะพริบตา
พวกเขารู้ดีว่า หลี่หยวนเป็นสัตว์ประหลาดที่สังหารสัตว์อสูรระดับ 2 มาแล้ว!
ไม่รู้ว่าจะทำดัชนีพลังรบออกมาได้เท่าไร
มาถึงเครื่องทดสอบดัชนีพลังรบ
หลี่หยวนหายใจออกเบาๆ บนร่างกายปรากฏแสงสีทองสว่างจ้าขึ้นมาอย่างกะทันหัน ส่องประกายราวกับเทพสงครามที่ก้าวออกมาจากตำนาน
จากนั้นเคล็ดวิชาหายใจดวงดาวขั้นสองและวิชามวยขั้นกลางก็ถูกใช้ออกไป
ตูม!
ตัวเลขบนหน้าจอกระโดดขึ้น
1395!
เงียบกริบ
เงียบจนน่าขนลุก
ทุกคนจ้องมองตัวเลขที่น่าตกใจบนหน้าจอของเครื่องทดสอบจนลืมหายใจไปเลย
หัวหน้าเส้ากดกำไลข้อมือ ถ่ายรูปหลี่หยวนที่อาบแสงสีทองและค่าต่างๆ บนหน้าจอ ส่งไปให้ผู้บังคับกองพัน
ตอนที่กดปุ่มส่ง มือของเขายังสั่นโดยไม่รู้ตัว
...
หลี่หยวนเดินกลับไปเข้าแถว
ทหารใหม่ที่อยู่ด้านข้างยืนตัวตรงโดยอัตโนมัติ
ราวกับว่ารอบตัวไม่ใช่ทหารใหม่ที่เพิ่งเข้ากรมพร้อมกัน แต่เป็นนายทหารระดับสูงที่ลงมาตรวจสอบ
"มาตรฐานพลังปราณระดับ 1 ของฉันยังคงจำกัดประสิทธิภาพของกายาทองคำอมตะระดับ S"
"แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก พอพลังปราณเพิ่มขึ้น ดัชนีพลังรบก็ต้องเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณอย่างแน่นอน"
"ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีเคล็ดวิชาหายใจดวงดาวขั้นสองอีก ตราบใดที่แต้มอัปเกรดเพียงพอก็สามารถอัปเกรดเป็นขั้นสี่ ขั้นแปด หรือแม้แต่ขั้นสิบสองได้..."
การทดสอบพลังปราณและดัชนีพลังรบของทหารใหม่ยังคงดำเนินต่อไป
แต่หลังจากที่หลี่หยวนแสดงฝีมือให้เห็นแล้ว ขั้นตอนการทดสอบที่เหลือก็ดูจืดชืดไปเลย
ทหารใหม่หลายคนอดไม่ได้ที่จะมองหลี่หยวน ในใจรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะกำลังจะได้เห็นการกำเนิดของยอดฝีมือ
นี่ไม่ใช่เกียรติยศของคนๆ เดียว
ยังมีทหารหญิงหน้าสวยหลายคนที่แอบมองหลี่หยวน วางแผนว่าหลังจากเลิกแถวแล้วจะไปขอช่องทางติดต่อ หวังว่าจะได้พัฒนาความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง
เพราะในอนาคต เมื่อหลี่หยวนเติบโตขึ้น ยืนหยัดอยู่เบื้องหน้าผู้คนนับหมื่น พวกเธอคงไม่อาจเอื้อมถึงอีกต่อไป
...
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
ทหารใหม่ทุกคนได้รับการทดสอบและบันทึกผลเรียบร้อยแล้ว
หัวหน้าครูฝึกเส้าออกคำสั่ง "เลิกแถว ไปทานข้าวเย็น จากนั้นก็กลับไปพักผ่อนที่ห้องพัก พรุ่งนี้เช้าเริ่มการฝึกทหารใหม่"
ตอนที่หลี่หยวนกำลังจะเดินออกไป ก็ถูกหัวหน้าครูฝึกเรียกตัวไว้ ดึงเข้าไปคุยในห้องทำงานนานกว่าสิบนาที
สรุปสั้นๆ ก็คือ กองพันต้องการทุ่มเทฝึกฝนเขาอย่างเต็มที่
ต้องการอะไรก็บอกได้เลย
ไม่ว่าจะเป็นยาศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพลังปราณ วิชายุทธระดับสูง ห้องบำบัดร่างกาย การฝึกสอนแบบตัวต่อตัวจากผู้เชี่ยวชาญ ฯลฯ
ก่อนออกจากห้อง
หลี่หยวนลองมองดูประวัติชีวิตของหัวหน้าครูฝึก
[ชื่อ: เส้าฉางชิง]
[เพศ: ชาย]
[เกิด - ตาย: พฤษภาคม ปีศักราชที่ 199 - เมษายน ปีศักราชที่ 243]
[อาณาจักรบ่มเพาะ: นักรบระดับ 5]
[ประวัติชีวิต: เกิดที่เขตตะวันออกของเมืองพิงเฟิง...มิถุนายน ปีศักราชที่ 217 เข้าร่วมกองทัพที่เก้า สร้างผลงานทางทหารทั้งเล็กใหญ่ 19 ครั้ง
มกราคม ปีศักราชที่ 239 ทะลวงสู่ระดับนักรบระดับ 5
มีนาคม ปีศักราชที่ 243 สัตว์อสูรใต้พิธภพอาละวาด บุกโจมตีเมืองชิงถัง เทือกเขาซงไป๋ เนื่องจากอยู่ใกล้กับภารกิจมากที่สุด จึงรับคำสั่งอย่างเร่งด่วน นำทีมเข้าป้องกัน สกัดกั้นฝูงสัตว์อสูรที่ทางเข้าเทือกเขานานหนึ่งชั่วโมงสี่สิบเจ็ดนาที ยืนหยัดจนกระทั่งกองกำลังเสริมมาถึง และสิ้นใจจากความอ่อนเพลีย]
หลี่หยวนยืนตัวตรง ทำความเคารพหัวหน้าครูฝึก จากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานไป ท่ามกลางสายตาประหลาดใจของอีกฝ่าย
...
ระหว่างทางไปโรงอาหาร
ข้อความแจ้งเตือนปรากฏขึ้นต่อหน้าหลี่หยวน
[เจ้าของได้รับอันดับหนึ่งในการทดสอบพลังปราณและดัชนีพลังรบของทหารใหม่]
[ได้รับรางวัล แต้มอัปเกรด: 20]
"แบบนี้ก็ได้รางวัลด้วยเหรอ?"
หลี่หยวนรู้สึกยินดีเล็กน้อย
20 แต้มเทียบเท่ากับการสังหารสัตว์อสูรระดับ 2 สองตัว
ทานข้าวเย็นเสร็จ กลับไปที่ห้องพัก ค่อยคิดว่าจะเอาไปเพิ่มอะไรดี
...
หลังอาหารเย็น กลับถึงห้องพัก
ไฟดับหมดแล้ว
ครูฝึกที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเดินเห็นทหารใหม่หัวเกรียนที่ยังไม่ยอมนอนเดินเตร็ดเตร่ไปมาก็อยากดุ แต่พอเป็นหลี่หยวน ก็เลยเก็บคำพูดที่จะเอ็ดเอาไว้
ผ่านไปครู่หนึ่งก็พูดขึ้นเสียงอู้อี้ "กลับไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าต้องรวมพล"
"ครับ ครูฝึก"
หลี่หยวนเดินเร็วๆ ไม่กี่ก้าว เปิดประตูห้องพัก ก้าวเข้าไป
ห้องพักแบบแปดคนมาตรฐาน
อาศัยแสงจันทร์จากนอกหน้าต่าง เห็นสภาพแวดล้อมภายในเลือนราง
เพื่อนร่วมห้องนอนกันหมดแล้ว
เขารีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
หลี่หยวนกำลังจะขึ้นเตียง พอเดินผ่านเตียงๆ หนึ่ง ก็เห็นดวงตาสองดวงจ้องมองมาที่เขาโดยไม่กะพริบตา
เห็นเขาหันไปมอง
ก็มีเสียงทุ้มต่ำและหนักแน่นดังขึ้น "ฉันไม่ยอมแพ้หรอก"
พอเห็นหลี่หยวนไม่สนใจ
หน้าอกของเขาก็ขึ้นๆ ลงๆ อย่างรวดเร็วสองครั้ง "ฉันต้องเหนือกว่านายให้ได้!"
หลี่หยวนมองเขาด้วยหางตา "ไม่อยากโดนลากไปวิ่งกลางดึก ก็รีบนอนซะ"
มู่ป้าเทียนได้ยินดังนั้นก็มองไปที่ประตูโดยไม่รู้ตัว
ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาทางนี้ตามทางเดิน ก็รีบปิดปากทันที
แต่แววตายังคงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะต่อสู้
...
นอนราบไปกับเตียง
หลี่หยวนคลิกที่แผงข้อมูล
[เจ้าของ: หลี่หยวน]
[อาณาจักรบ่มเพาะ: นักรบระดับ 1]
[ค่าพลังปราณ: 15.3]
[พลังจิต: 7.1]
[พรสวรรค์: กายาทองคำอมตะ (S)]
[วิชายุทธ: มวยขั้นกลาง (0/50) เพลงดาบขั้นกลาง (0/50) เคล็ดวิชาหายใจดวงดาว]
[แต้มอัปเกรด: 30]
การฝึกทหารใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น จะได้รับทรัพยากรที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเช่น ยาเพิ่มพลังปราณ ยาบำรุงไขกระดูก
พลังปราณจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นหลี่หยวนจึงไม่รีบร้อนที่จะใช้แต้มอัปเกรดกับพลังปราณ
มองไปที่ค่าพลังจิต: 7.1
แบ่งไป 8 แต้ม เพิ่มเข้าไป
กลายเป็น [พลังจิต: 15.1 (ผู้ใช้พลังจิตระดับ 1)]
หลี่หยวนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในจิตใจ สมองเย็นสบาย ความคิดปลอดโปร่ง ความทรงจำในวัยเด็กที่เกือบจะลืมเลือนไปแล้วก็สามารถระลึกได้อย่างง่ายดาย
เช่น นานมาแล้ว ครูสอนภาษาอังกฤษสุดฮอตเคยติวเข้มให้เป็นพิเศษหลายครั้ง ทุกฉากทุกความรู้สึก ล้วนปรากฏขึ้นอย่างละเอียด
ไม่เพียงเท่านั้น
หลี่หยวนยังค้นพบว่า เขาสามารถควบคุมพลังจิต มองเห็นกระดูกของตัวเอง หัวใจที่กำลังเต้น และเลือดที่ไหลเวียนอยู่
พลังจิตแผ่ขยายออกไป ครอบคลุมระยะประมาณร้อยเมตรในแนวสามมิติ
อาคารหอพักทหารใหม่ทั้งหลัง รายละเอียดทุกซอกทุกมุม ล้วนสะท้อนอยู่ในใจ ราวกับมีดวงตานับไม่ถ้วน ทุกดวงล้วนมองทะลุได้
"นี่คือพลังของผู้ใช้พลังจิตงั้นเหรอ?"
หลี่หยวนรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
ผู้ใช้พลังจิตนั้นหายากกว่านักรบเป็นร้อยเท่า พลังก็แข็งแกร่งกว่ามากเช่นกัน
ว่ากันว่า ผู้ใช้พลังจิตระดับ 1 สามารถเอาชนะนักรบระดับ 3 ได้อย่างง่ายดาย
ตอนแรกหลี่หยวนไม่เชื่อ
แต่ตอนนี้กลายเป็นผู้ใช้พลังจิตแล้ว ถึงได้รู้ว่ามันคือเรื่องจริง
เมื่อปล่อยพลังจิตออกไป ความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ อัตราการไหลเวียนของเลือด และการเปลี่ยนแปลงของรูม่านตาก่อนที่ฝ่ายตรงข้ามจะลงมือ ล้วนถูกจับภาพและฉายเข้าไปในจิตใจอย่างชัดเจน
คาดการณ์การกระทำของศัตรูได้อย่างแท้จริง
นักรบธรรมดา ไม่มีทางสู้กับผู้ใช้พลังจิตได้เลย
หลี่หยวนเล่นกับพลังจิตอยู่สิบนาที หลังจากที่คุ้นเคยกับพลังพิเศษนี้ดีแล้วก็ค่อยๆ เก็บเข้าไป
จากนั้นก็มองดูแผงข้อมูล ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
แบ่งไป 5 แต้ม เพิ่มความเชี่ยวชาญวิชาเพลงดาบขั้นพื้นฐาน
เพลงดาบขั้นพื้นฐาน → เพลงดาบขั้นกลาง (0/50)