ตอนที่ 14 จ้าวหงอยู่ที่ไหน ข้าไม่อยากพูดอีกเป็นครั้งที่สอง
ตอนที่ 14 จ้าวหงอยู่ที่ไหน ข้าไม่อยากพูดอีกเป็นครั้งที่สอง
ฉู่เสวียนยืนนิ่งไม่ไหวติง เสี่ยวหู่ก้าวไปข้างหน้าเขาพลางปัดเศษสกปรกนั้นออกจนมันปลิวไปไกล
“ฆ่าพวกสวะนี่ซะ อยู่ไปก็เลี้ยงเสียข้าวสุกเปล่าๆ” ฉู่เสวียนโบกมือ
“โฮ่ โฮ่!” เสี่ยวหู่และเสี่ยวเป้าตอบรับคำสั่งด้วยความตื่นเต้น
พลทหารศพทั้งสองเอามือเตะพื้นอย่างรวดเร็ว และทันใดนั้นร่างกายของพวกเขาก็กระโดดขึ้นสูงราวกับสปริง ไม่นานทั้งสองก็กระโดดขึ้นไปถึงตู้ยามด้านบนอย่างง่ายดาย ทำให้ดวงตาของชายสองคนนั้นเบิกโพลงด้วยความตกใจ พวกเขาไม่รู้ว่าคนทั้งสามเป็นใคร แต่ก็หวาดกลัวจนวิ่งหนีออกไปทันที แต่ยังไม่ทันจะได้หนี ก็ถูกเสี่ยวหู่และเสี่ยวเป้าจับมาและกินอย่างเอร็ดอร่อย
ฉู่เสวียนที่เห็นเช่นนั้นก็ได้พูดออกมาอย่างไม่ใส่ใจว่า "อย่าเพิ่งกิน มาเปิดประตูให้ข้าก่อน"
เสี่ยวหู่คำรามออกมาด้วยความลำบากใจสองสามครั้ง ก่อนจะรีบไปที่ประตู กระแทกอุ้งเท้าของเขาลงไปจากนั้นประตูก็เปิดออก
เมื่อประตูได้เปิดออกแล้ว ฉู่เสวียนก็เดินเข้าไปในโรงแรมห่าวไท่อย่างองอาจและไม่เกรงกลัวผู้ใด
เสียงดังจากประตูได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากที่อยู่ภายในโรงแรมทันที
พวกเขาโผล่หัวออกไปนอกหน้าต่างเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น
ซึ่งก็ทำให้เห็นฉู่เสวียนที่เดินเข้ามาข้างในด้วยท่าทางยโสโอหัง
ทว่าเมื่อมองไปข้างหลังของชายหนุ่ม ก็เห็นว่ายามสองคนกำลังถูกซอมบี้ร่างใหญ่เคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย
ก็เกิดความรู้สึกสยองขวัญขึ้นมาในทันใด
แย่แล้ว ! ซอมบี้บุกเข้ามาที่ฐานทัพของเราแล้ว!
ในไม่ช้าผู้ชายมากกว่ายี่สิบคนที่ถือหอกยาวและกระบองสั้น ก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าฉู่เฉวียนอย่างรวดเร็ว
พวกเขามองชายหนุ่มในชุดแปลกๆคนนี้ด้วยสีหน้าสงสัย แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจอธิบายได้ พวกเขากลับรู้สึกกลัวชายหนุ่มคนนี้อยู่ในใจอย่างบอกไม่ถูก
“ข้ากำลังตามหาจ้าวหง”ฉู่เสวียนพูดอย่างสบายๆ
“ไร้สาระ! แกคิดว่าแกจะเรียกหาลูกพี่จ้าวเมื่อไหร่ก็ได้ที่แกต้องการเหรอวะ!”ชายคนหนึ่งเยาะเย้ยและหัวเราะออกมา
ฉู่เสวียนโบกมืออย่างไม่แยแส ในตอนนั้นเสี่ยวเป้าก็รีบเข้าไปลากชายคนนั้นออกจากฝูงชนในทันใด กรงเล็บของเขาได้กระชากคอของชายคนนั้นจนหนังเปิดออก เลือดสีแดงสดพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ เมื่อคนที่เหลือเห็นต่างก็ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว
จากนั้นพวกเขาก็มองฉู่เสวียนเปลี่ยนไปทันที ซอมบี้เชื่อฟังเขาจริงๆ ! ผู้ชายคนนี้สามารถควบคุมซอมบี้ได้! ไม่น่าแปลกใจเลยที่ทำไมเขาถึงกล้าบุกเข้ามาถึงฐานทัพขององค์กรที่ใหญ่โตอย่างแก๊งหลิงฉวนด้วยท่าทางมั่นใจเช่นนี้!
คนอื่นมองไปที่เสี่ยวหู่และเสี่ยวเป้าสองสามครั้ง ยิ่งพวกเขามองทั้งสองมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งดูคุ้นเคยกับซอมบี้ทั้งสองมากขึ้นเท่านั้น หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ก็มีคนอุทานออกมาว่า "ซอมบี้สองตัวนี้คือลูกพี่หู่และลูกพี่เป้าไม่ใช่เหรอ!"
คนอื่นๆ ก็คิดออกทันที หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ถังหู่ถึงเป็นน้องเขยของจ้าวหง ส่วนหวังเป้าเองก็เป็นคนสนิทของจ้างหง
ช่วงเวลาหนึ่ง สองคนนี้มีสถานะที่สูงมากในแก๊งหลิงฉวน ซึ่งสมาชิกทั่วไปอย่างพวกเขาไม่สามารถเทียบได้เลย
ทว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองกลับกลายมาเป็นซอมบี้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไปแล้ว และยังเชื่อฟังคำสั่งของชายหนุ่มคนนี้อีก! นี่มันเกินความคาดหมายของพวกเขาไปมาก!
“จ้าวหงอยู่ที่ไหน ข้าไม่อยากพูดเป็นครั้งที่สอง”ฉู่เสวียนขมวดคิ้ว
คนพวกนี้ไม่มีสมองจริงๆ อย่าเพิ่งพูดถึงจ้าวหงเลย เขาสงสัยจริงๆว่าหากแก๊งหลิงฉวนถูกปราบปรามขึ้นมา คนเหล่านี้ต้องแตกกระเจิงออกไปเหมือนกับหมาป่าผู้โดดเดี่ยว และไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากจะกลายเป็นซอมบี้ในอนาคต ไม่สู้เอาให้พลทหารศพทั้งสองของเขากินยังจะดีเสียกว่า
“แกกำลังมองหาฉันเหรอ?” จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากฝูงชน
ฝูงชนเคลื่อนตัวออกไปทันที ปรากฏให้เห็นชายร่างบางคนหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเขา ข้างหลังของเขามีสุนัขตัวใหญ่สามตัว แต่ละตัวมีความดุร้าย กระหายเลือด และไร้ปรานี ซึ่งชายคนนี้ก็ไม่ใช่ใคร เขาคือจ้าวหง หัวหน้าแก๊งหลิงฉวน
ฉู่เสวียนมองชายคนนี้ด้วยความประหลาดใจ เขารู้สึกได้ถึงพลังที่ผันผวนจากตัวจ้าวหงคนนี้
พลังนี้ไม่ใช่พลังวิญญาณ และโดยเนื้อแท้แล้วอ่อนแอกว่าระดับพลังวิญญาณมาก
และการที่สมรรถภาพทางกายของจ้าวหงนั้นเหนือกว่าคนทั่วไปมาก และที่เขาสามารถเลี้ยงหมาป่าวิญญาณตัวใหญ่ขนาดนี้ให้เชื่องได้ ก็เพราะพลังงานแปลก ๆ นี่
“ถ้าเขากลายเป็นศพหยิน เขาจะแข็งแกร่งมากอย่างแน่นอน”ดวงตาของฉู่เสวียนเป็นประกาย
เมื่อมองเข้าไปในดวงตาของจ้าวหงก็ยิ่งพึงพอใจมากยิ่งขึ้น มันเหมือนกับการดูงานศิลปะที่สมบูรณ์แบบ แต่ท่าทางนี้ทำให้จ้าวหงรู้สึกอึดอัดมากยิ่งขึ้น แต่เขาเห็นแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นคนพิเศษอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถในการควบคุมซอมบี้นั้น เขาไม่เคยได้ยินหรือเห็นที่ไหนมาก่อน
ดังนั้นเขาจึงระงับความไม่พอใจภายในไว้ และถามออกมาอย่างใจเย็นว่า "แกเป็นใคร มาหาฉันทำไม และต้องการอะไรจากฉัน"
ฉู่เสวียนพูดอย่างใจเย็น "เจ้าเผาห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟาใช่หรือไม่ นั่นคืออาณาเขตของข้า "
จ้าวหงตกตะลึง เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเขาได้สั่งเผาที่นั่นจริงๆ ซึ่งเขาเองก็เกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว แต่เมื่อฉู่เสวียนพูดถึงมันขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็จำห้างสรรพสินค้าที่เหมือนกับถ้ำน้ำแข็งนั้นได้
จ้าวหงพยักหน้า "เป็นฉันเองที่เผามัน แต่ตอนนั้นฉันไม่รู้ หากแกเต็มใจ ฉันสามารถให้คนหาห้างสรรพสินค้าแห่งอื่นให้กับแกได้"
"เพราะแก๊งหลิงฉวนของเรา ยึดครองเมืองตงหูแห่งนี้แทบจะทั้งหมดแล้ว ”
ทว่าชายคนหนึ่ง ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา และกล่าวว่า “แต่ลูกพี่ เขาฆ่าคนของเรานะครับ!”
จ้าวหงพลักชายคนนั้นออกไปทันที
"ไม่เพียงพอ" ฉู่เสวียนส่ายหัว
จ้าวหงมองไปที่ฉู่เสวียนและพูดอย่างเย็นชาว่า "ฉันก็ได้ไถ่โทษไปแล้ว ถ้าแกไม่รับมันไป นั่นมันก็เรื่องของแก แต่ฉันขอบอกไว้ก่อนว่าแก๊งหลิงฉวนของเรา ไม่ยอมก้มหัวให้ใครเป็นครั้งที่สองหรอกนะ เพราะแกก็ฆ่าคนของฉันด้วย!”
ในฐานะหัวหน้าของแก๊งหลิงฉวน เขาไม่สามารถปล่อยให้ฉู่เสวียนเอาเปรียบสมาชิกในทีมของเขาได้ขนาดนั้น
ฉู่เสวียนหัวเราะและดีดนิ้ว "ง่ายๆ ข้าอยากได้หมาป่าวิญญาณของเจ้าทั้งหมด"
จ้าวหงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ "น่าสนใจดี นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้พบกับคนที่กล้าสั่งฉันแบบนี้! "
"ต้าเฮ่ย, ต้าหวง, เอ้อหวง ไปจัดการมันซะ แล้วกินได้เลย!" ทันทีที่เขาพูดจบ หมาป่าวิญญาณทั้งสามก็ได้กระโจนออกไปอย่างรวดเร็ว
ปากใหญ่ที่มีน้ำลายยืดไหลสามปาก ได้พุ่งเป้าไปที่ลำคอ แขนซ้ายและแขนขวา ของฉู่เสวียน
ทว่าฉู่เสวียนยังคงดูสงบและยืนเอามือไพล่หลังอยู่อย่างนั้น
ในตอนนั้นเสี่ยวหู่ก็ได้เข้ามาขวางหน้าเขาเอาไว้ และร่างของเสี่ยวเป้าก็หายไปทันที
ชั้นแสงสีทองเล็ดลอดออกมาจากร่างของเสี่ยวหู่ราวกับชุดเกราะ เหมือนทหารสวรรค์ที่ลงมายังโลกมนุษย์
ตุ้ม!
หมาป่าวิญญาณสามตัวชนเข้ากับเสี่ยวหู่ที่มายืนขวางเอาไว้ พวกมันจึงอ้าปากอันใหญ่โตกัดเสี่ยวหู่อย่างแรง อย่างไรก็ตาม ชั่วครู่ต่อมา ทั้งสามตัวก็ต้องตกใจ ฟันของพวกมันซึ่งสามารถบดขยี้ได้แม้กระทั้งกะโหลกศีรษะของมนุษย์ก็ได้หักทันที เมื่อกัดลงไปที่ผิวของเสี่ยวหู่ มันเปราะบางราวกับแก้ว!
จ้าวหงรู้สึกตกใจ นี่คงเป็นซอมบี้ระดับสูงแน่ๆ! ซอมบี้ระดับสูงนั้นแข็งแกรงเป็นอย่างมากมาก แต่ชายคนนี้กลับสามารถควบคุมมันได้อย่างนั้นเหรอ?
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้มีซอมบี้สองตัวไม่ใช่เหรอ? เมื่อเขาสังเกตได้ ก็รู้สึกเสียวซ่าไปทั่วสันหลัง โดยไม่ต้องคิดมาก ทันใดนั้นจ้าวหงก็หันกลับมาและหลีกเลี่ยงการโจมตีโดยไม่รู้ตัว
แต่ถึงอย่างนั้น ความเจ็บปวดอันรุนแรงก็เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
อ๊า!
ใบมีดที่เกิดจากการควบแน่นไฟหยินได้เฉือนเข้ามาที่แผ่นหลังของเขาโดยตรง ส่งผลให้เลือดพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก แผลนั้นทั้งยาวและลึก
ไฟหยินยังคงเผาไหม้บาดแผลของเขาต่อ และความเจ็บปวดนั้นก็เหมือนกับโดนเหล็กแหลมจำนวนนับไม่ถ้วนทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจของเขา
เพียงไม่กี่อึดใจ จ้าวหงก็รู้สึกราวกับว่ากำลังทั้งหมดได้ไหลออกมาจากบาดแผล ใบหน้าของเขาซีดเซียว ร่างกายของเขาสั่นเทา
ในเวลานี้เขาต้องการการสนับสนุนจากใครสักคนจริงๆ เพื่อให้ร่ายกายของเขายืนหยัดอย่างมั่นคงอีกครั้ง
วูวูวู... ในตอนนั้น หมาป่าวิญญาณทั้งสามก็ถูกเสี่ยวหู่ทุบตีอย่างรุนแรง
เมื่อสักครู่นี้ต้าแฮ่ยโจมตีฉู่เสวียนอย่างดุเดือดมากที่สุด แต่ในเวลานี้มันกลับมีเลือดไหลออกมาจากทวารและปากของมันเป็นจำนวนมากและกระตุกไปทั้งตัว เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว
ทว่าต้าหวงและเอ้อหวงกลับมีไหวพริบที่ดีมาก พวกมันได้นอนลงเผยให้เห็นท้องที่อ่อนนุ่มของพวกมัน เพื่อแสดงการยอมจำนน
จ้าวหงรู้สึกเย็นยะเยือกภายในเมื่อเห็นฉากนี้ หมาป่าวิญญาณสามตัวที่เขาฝึกฝนมาเป็นเวลานานนั้นอ่อนแอมากจนยอมจำนนต่อศัตรูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ส่วนร่างกายของเขาที่ภาคภูมิใจในความแข็งแกร่งมาตลอดนั้น ก็บอบบางราวกับเต้าหู้
เมื่อคิดได้แบบนั้น จ้าวหงก็สุดหายใจเข้าลึก ๆ จู่ๆก็ดึงลูกบิดโลหะสีเข้มขนาดเท่ากับหนึ่งกำมือออกจากแขนเสื้อของเขาแล้วยิงใส่ฉู่เสวียนทันที!
“ไปลงนรกซะ!” เขาพูดด้วยรอยยิ้มอันดุร้าย