ไม่เชื่อต้องลบหลู่...ผมจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น!! (อ่านฟรี 05/01/2568)

“ใครมาอีกเนี่ย?!” เสียงของใครบางคนดังขึ้นมา ซึ่งหลาย ๆ คนก็มีความคิดเช่นนี้เหมือนกัน

แค่จะมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และขอให้ท่านตัวแทนให้โชคลาภช่วยเหลือ แต่ดันต้องมาเจอกับเหตุการณ์สุดวุ่นวายจนความคิดว้าวุ่นไปหมด

สุดท้ายท่านตัวแทนเทพแห่งโชคลาภที่กำลังถูกไล่ต้อนจนพูดไม่ออกยังไม่ทันจะได้พูดอะไร ก็มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ออกมาแย้งคนที่บอกจะมาแฉท่านตัวแทนอีก

ทำไมถึงมีแต่เรื่องวุ่นวายเข้ามาก็ไม่รู้...

“เธอเป็นใคร? ทำไมถึงเข้ามาปกป้องชายต้มตุ๋นคนนั้น หรือว่าจะเป็นพวกเดียวกัน?!” หมิงเจิ้นรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าจะเคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน แต่นึกยังไงเขาก็นึกไม่ออก

ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะกล่าวออกมาแบบนี้ไปก่อน เพราะถ้ามาถึงก็ออกตัวปกป้องอีกฝ่ายเลยก็คงเป็นพวกที่อยู่ฝ่ายเดียวกันไม่ผิดแน่

“ฉันจะเป็นใครก็ไม่สำคัญหรอก แต่นายใหญ่โตมาจากไหนกัน?” หญิงสาวผู้มาใหม่กล่าวออกมา ถ้ามองจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วคงจะงงน่าดูว่าทำไมอีกฝ่ายถึงพูดภาษาจีนได้

เพราะหญิงสาวผู้นี้มีผมสีบลอนด์ทองยาวสลวย หน้าตาสวยเข้มสไตล์คนขาว หุ่นของเธอก็ดีพอ ๆ กับนางแบบได้เลยทีเดียว

“เธอหมายความว่ายังไง?” หมิงเจิ้นพอจะเข้าได้ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อได้ แต่เขาเลือกที่จะตีหน้าซื่อไปก่อนเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูเหมือนคนดีที่สุด

“นายอย่ามาแกล้งโง่ไปหน่อยเลย คิดว่าฉันไม่รู้รึไงว่านายทำแบบนี้เพื่ออะไร” หญิงสาวกล่าวออกมาพลางจ้องไปยังโทรศัพท์ของอีกฝ่าย เธอรู้ดีว่าในตอนนี้อีกฝ่ายต้องกำลังไลฟ์สตรีมอยู่แน่ ๆ และในไลฟ์สตรีมนั้นก็คงมีคนดูอยู่มิใช่น้อย

“แต่ฉันกำลังทำให้สังคมของเรามันดีขึ้นนะ หรือเธอจะบอกว่าการทำแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่ดีรึยังไง? ไม่เห็นเหรอว่ามีผู้คนถูกหลอกเพราะพวกต้มตุ๋นแบบนี้มามากแค่ไหนแล้ว!” หมิงเจิ้นที่ถูกไล่ต้อนจึงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่หรอก สิ่งที่นายทำน่ะมันถูกต้องแล้ว แต่วิธีการมันออกจะรุนแรงไปหน่อย” แทนที่หญิงสาวจะตอบปฏิเสธเหมือนที่หมิงเจิ้นและอีกหลาย ๆ คนคิด เธอดันเห็นด้วยกับคำพูดของเขาเสียอย่างนั้น

“แล้วที่เธอพูดมาก่อนหน้านี้คือ...” หมิงเจิ้นทำหน้าสงสัยก่อนจะถามกลับไป

“การที่อยู่ดี ๆ ก็เดินเข้าไปในสถานที่ซึ่งผู้คนกำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ แล้วก็ไปลบหลู่ในสิ่งที่พวกเขาเชื่อพร้อมยืนยันว่ามันเป็นเรื่องโกหก มันเป็นการกระทำที่หยาบคายเป็นอย่างมาก”

“อย่างน้อยก็ควรจะให้เขาพิสูจน์อะไรสักอย่างก่อนที่จะไปปรักปรำเขา จริงไหม?” หญิงสาวกล่าวอธิบายออกมาก่อนจะถามกลับไป

“อืม..ที่แท้ก็หมายความว่าอย่างนี้นี่เอง ถ้าอย่างนั้นจะพิสูจน์ยังไงล่ะ? ในเมื่อเจ้าตัวก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ” หมิงเจิ้นเข้าใจเจตนาของอีกฝ่ายได้อย่างไม่ยากนัก เขาจึงตามน้ำไป

ถึงยังไงพวกเรื่องเหนือธรรมชาติมันก็ไม่มีทางมีอยู่จริง อย่างมากก็คงเป็นการแสดงปาหี่อะไรสักอย่างเป็นแน่ พอถึงตอนนั้นตัวเขาที่เชี่ยวชาญในการเปิดเผยพวกต้มตุ๋นเหล่านี้ก็จะฉีกหน้ากากเจ้าตัวแทนแห่งโชคลาภนี่เอง!

แปะ แปะ แปะ

“ยินดีต้อนรับท่านผู้มาเยือนทุกท่าน ดูเหมือนว่าวันนี้จะค่อนข้างวุ่นวายไม่น้อยเลยนะครับ” ในที่สุดชายหนุ่มหน้าตาดีผู้ซึ่งเรียกขานตัวเองว่าตัวแทนเทพแห่งโชคลาภก็เปิดปากออกมาในที่สุด เขาปรบมือสามครั้งเพื่อเรียกสายตาของทุกคนให้หันมามอง

ซึ่งก็นับว่าได้ผลเป็นอย่างดี เพราะในตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นผู้คนที่อยู่ในศาลเจ้า หรือผู้คนในสตรีมของ[หนอนชาเขียวคอยรัก] ต่างก็เบนความสนใจจากหมิงเจิ้นและหญิงสาวแปลกหน้ามาอยู่ที่เขาจนหมด

ทุกคนต่างเฝ้ารอว่าชายหนุ่มผู้นี้จะทำอย่างไรในสถานการณ์ที่ถูกคนมาท้าทายเช่นนี้!

เขาจะเป็นตัวแทนเทพแห่งโชคลาภจริงหรือไม่? หรือที่ผ่านมาเป็นเพียงการแสดง?

ครึ่งหลัง

“ท่านตัวแทนเทพ! ในที่สุดท่านก็พูดอะไรออกมาสักที” ชายกลางคนที่มีปัญหาเรื่องอย่างว่ากล่าวออกมาด้วยความดีใจ

ถึงแม้เขาจะค่อยข้างเชื่อว่าสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าแสดงออกมาเป็นเรื่องจริง แต่พอเจอคนพูดของหมิงเจิ้นที่มีเหตุผลเป็นอย่างมาก แถมตัวแทนเทพแห่งโชคลาภก็ไม่ยอมตอบโต้อะไรก็ต้องยอมรับว่าตัวเขาเองก็มีแอบไขว้เขวบ้างเล็กน้อยเช่นกัน

แต่เมื่อชายหนุ่มผู้เป็นตัวแทนแห่งโชคลาภกล้าออกมาเผชิญหน้าเช่นนี้ มันก็เรียกความเชื่อความศรัทธาของเขาให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง!

“ตกลงว่าคุณเป็นใครนะครับ?” เย่เซวียนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของหมิงเจิ้นก่อนจะถามออกมา

“...ฉันคือหมิงเจิ้น เป็นคนที่คอยเปิดโปงพวกแกงค์ต้มตุ๋นหลอกลวงผู้บริสุทธิ์” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกล่าวออกมาเช่นนี้ หมิงเจิ้นก็นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับไป

“แล้วที่มาในวันนี้มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?” ชายหนุ่มกล่าวถามอีกฝ่ายเหมือนว่าเขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับการที่ถูกอีกฝ่ายชี้หน้ากล่าวหาก่อนหน้านี้เลย

ถึงแม้ภายในใจของเขาจะรู้สึกโกรธมากแค่ไหน แต่ใบหน้าและท่าทางของเขาก็ต้องไม่แสดงมันออกมาเด็ดขาด!

“ก็ไม่เชิงหรอกครับ ถ้าเป็นไปได้คุณช่วยแสดงให้ทุกคนเห็นหน่อยได้ไหมว่าคุณสามารถติดต่อกับเทพแห่งโชคลาภได้จริง ๆ เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำในมุมมองของผมและคนส่วนใหญ่มันก็เป็นการหลอกลวงดี ๆ นี่เอง!”

“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง”

“คุณก็คือหนึ่งในคนที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ แล้วก็ต้องการให้ผมทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์ตัวเองใช่ไหมครับ? แล้วต้องการให้ผมทำอะไรบ้างล่ะ?” เย่เซวียนพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกล่าวถามออกมา

“แค่รบกวนคุณตัวแทนเทพแห่งโชคลาภ ช่วยแสดงอะไรสักอย่างให้กับทุกคนในที่แห่งนี้ และทุกคนบนโลกออนไลน์ได้รับชมสักอย่างหนึ่งได้ไหมครับ ว่าคุณไม่ใช่พวกหลอกลวงไปวัน ๆ แบบหลาย ๆ คนที่ผมไปเปิดโปงมา”

“ได้ครับ เช่นนั้นผมจะแสดงบางอย่างให้ทุกท่านได้รับชมก็แล้วกัน” ไม่เพียงแต่จะแสดงอาการร้อนลนออกมา แต่ชายหนุ่มที่เป็นตัวแทนของเทพแห่งโชคลาภกลับตอบรับเสียอย่างนั้น

ทำเอาหมิงเจิ้นรู้สึกไปต่อไม่ถูกอยู่บ้างเหมือนกัน แต่เขาก็ยังคงแสดงสีหน้าเคร่งขรึมเอาไว้ก่อนเพื่อไม่ให้คนอื่นได้รับรู้ถึงความรู้สึกจริง ๆ ของตนเอง

“ขอเชิญท่านเทพกิเลนทองผู้แสนยิ่งใหญ่ ประทานลมจากสรวงสวรรค์พัดพาควันธูปอันแสนชั่วร้ายเหล่านี้ให้หายไป ทำให้อากาศภายในศาลเจ้าแห่งนี้กลับมาบริสุทธิ์อีกครั้งด้วยเถิด!” เย่เซวียนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง เขาทำท่าพนมมือสวดอ้อนวอน ก่อนจะผายมือขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบนคล้ายกับนักบวชที่กำลังสรรเสริญเทพเจ้าบนท้องฟ้าไม่มีผิด

ทันใดนั้นกระแสลมก็เริ่มไหลมารวมตัวกันเป็นจำนวนมาก กลุ่มควันธูปปริมาณมหาศาลต่างไหลมารวมตัวกันอยู่ที่ด้านหน้าของชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหล่าอย่างผิดธรรมชาติ พวกมันค่อย ๆ รวมตัวกันจนกลายเป็นรูปร่างคล้ายหนึ่งในสัตว์ในตำนานของประเทศจีน ซึ่งก็คือเทพกิเลนนั่นเอง! ก่อนที่เทพกิเลนที่ก่อกำเนิดขึ้นมาจากควันธูปทั้งศาลเจ้าจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้าจนลับสายตาไป

หลังจากที่กิเลนควันธูปบินหายขึ้นไปบนท้องฟ้าทั้ง ๆ ที่มันไม่มีกระแสลมก่อนหน้านี้เลยสักนิด ทุกคนในศาลเจ้าแห่งนี้รวมถึงที่กำลังรับชมผ่านทางไลฟ์สดก็พากันอึ้งกันหมด

แต่เสียงของชายหนุ่มผู้เรียกตัวเองว่าตัวแทนของเทพแห่งโชคลาภก็ดังขึ้นมาเสียก่อน เรียกสติของพวกเขาให้กลับมาอีกครั้ง

“เท่านี้ก็น่าจะพอแล้ว...ทุกคนคิดว่ายังไงบ้างครับ?”