บทที่ 255 กองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียนเดินทางถึง การต่อสู้ของแต่ละฝ่ายยังคงทวีความรุนแรง

“คุยจบแล้วหรือ?”

จ้าวเสี่ยวชิวเห็นเฉินซิงกำลังจัดการสัญญาอยู่ จึงเดินเข้ามาใกล้และถาม

เนื่องจากตอนนี้ยังมีค่าหัวในเว็บมืด เธอจึงไม่อยากให้เฉินซิงเจอหน้าคนแปลกหน้าบ่อยๆ เพราะมันจะเพิ่มความยากในการคุ้มครอง

“คุยเรื่องผู้ให้บริการเครือข่ายจบแล้ว แต่ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกหลายเรื่องที่ต้องปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น เช่น ช่องทางการจัดส่งสินค้า บริษัทขนส่ง และการลงทุนในแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ รวมถึงสถานีในพื้นที่ต่างๆ” เฉินซิงพูดถึงสิ่งที่เขายังคงต้องเจรจาเพิ่มเติม

การค้าขายไม่ใช่แค่เรื่องของซัพพลายเออร์กับผู้ใช้ ยังมีพ่อค้าคนกลางที่คอยหากำไรจากส่วนต่างเหล่านี้ด้วย

แน่นอนว่า “พ่อค้าคนกลาง” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ แต่หมายถึงกระบวนการทั้งหมดที่สินค้าถูกส่งไปถึงมือผู้บริโภค

ตัวอย่างเช่น การขนส่งสินค้าต้องมีค่าขนส่ง หากซื้อจากร้านค้าปลีก สินค้าที่มาจากโกดังต้องมีค่าใช้จ่ายในการขนส่งไปยังร้านค้าใช่ไหม?

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นค่าใช้จ่าย และเป็นสิ่งที่เฉินซิงต้องเจรจาต่อรองให้ดีที่สุด

เขามาที่ปากีสถานครั้งนี้ไม่ใช่แค่เพื่อกินพื้นที่ในอิสลามาบัด แต่ต้องการครองตลาดทั้งประเทศ!

จากนั้นจะใช้ตลาดปากีสถานเป็นฐานในการขยายสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียใต้ เพื่อครองส่วนแบ่งในตลาดเหล่านั้นให้มั่นคง หากต้องการทำสิ่งนี้สำเร็จ ตลาดปากีสถานต้องถูกบริหารให้ดี

จ้าวเสี่ยวชิวพยักหน้าเล็กน้อยเหมือนเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แล้วพูดว่า “ในอีกไม่กี่วันพยายามคุยให้จบ ถ้าคุยไม่เสร็จก็ให้ส่งตัวแทนมาคุยแทน เมื่อเครื่องบินทหารมาถึงแล้วเรากลับประเทศทันที”

“อืม”

เฉินซิงไม่ปฏิเสธ

เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้ในตลาดมืดมีคนสั่งเก็บเขา และการที่กลับไปยังประเทศจีนจะเป็นการป้องกันตัวที่ดีที่สุด

เงินนั้นหาได้ไม่หมด แต่ต้องหามาในขณะที่ตัวเองปลอดภัยด้วย

......

แต่สิ่งที่จ้าวเสี่ยวชิวและแม้แต่จ้าวเฉินกวงไม่ได้คาดคิดคือ เงินรางวัล 15 ล้านเหรียญสหรัฐนั้นล่อใจผู้คนได้มากเพียงใด

ในตะวันออกกลาง

ที่ฐานทัพแห่งหนึ่ง

กลุ่มชายฉกรรจ์ในเสื้อยืดสีเขียวมะกอกและผมสั้นกำลังพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน พวกเขามีทั้งผิวสีดำ สีขาว และชาวเอเชีย

“การจับกุมที่ไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อคนขาว ก็ไม่แปลกที่หัวหน้าจะส่งทหารเชื้อสายเอเชียและทหารจากเอเชียใต้ไปแทน โชคดีของพวกนายเลยนะเพื่อน”

“ด้วยกำลังความปลอดภัยของปากีสถาน การลอบสังหารพ่อค้านักธุรกิจที่มือเปล่า ฉันคิดว่ามันไม่ต่างอะไรกับการรอของตกจากฟ้ามาใส่ปาก”

“ฉันก็อยากจะล้างผิวสีดำของฉันออก ถ้าฉันเป็นคนเอเชียใต้ ฉันคงได้ไปทำงานลอบเข้าไปสนับสนุนแล้ว”

“เบาๆ หน่อยเถอะ นี่เป็นงานพิเศษ ถ้าหัวหน้ารู้เรื่อง เราคงโดนลงโทษทางทหารกันหมด”

“ไม่ต้องห่วงหรอกเวนดิล การรักษาความปลอดภัยของปากีสถานก็เหมือนสร้างด้วยกระดาษ จากประสบการณ์การแอบลอบของพวกเรา มันก็เหมือนเล่นสนุกนั่นแหละ”

“ถังพูดถูก”

ไม่มีใครคิดว่าภารกิจนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ ทุกคนคิดว่าเงินรางวัล 15 ล้านจากเว็บมืดนั้นแทบจะอยู่ในกระเป๋าแล้ว รอแค่แจกจ่ายรางวัลเท่านั้น

ในขณะที่พวกเขากำลังพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน พวกเขาก็สวมใส่อุปกรณ์การรบไปด้วย

เสื้อเกราะยุทธวิธี JPC 2.0 ซึ่งเป็นเสื้อเกราะที่ใช้โดยหน่วยรบพิเศษของสหรัฐฯ มักจะใส่แผ่นกันกระสุนด้านใน และภายนอกมีช่องเก็บแม็กกาซีนและกระสุนจำนวนมาก

หลังจากสวมเสื้อเกราะยุทธวิธีเรียบร้อย พวกเขาก็ติดตั้งระบบวิทยุ PRC152 และสวมหมวกตัดของ Ops Core จากนั้นหยิบปืนไรเฟิล HK416 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว

หากมีแฟนทหารหรือแฟนภาพยนตร์สงครามเห็นภาพลักษณ์ของพวกเขา จะต้องจำได้ทันทีว่าทหารเหล่านี้คือหน่วยเดลตาฟอร์ซ หน่วยรบพิเศษที่ลึกลับที่สุดของสหรัฐฯ และเป็นหน่วยที่มีความสามารถเหนือกว่าหน่วยซีล

หลังจากที่พวกเขาสวมใส่อุปกรณ์เสร็จสิ้น ทหารร่างสูง 1.8 เมตรก็เดินเข้ามา เขาใส่อุปกรณ์ครบแล้วและสั่งการว่า “เตรียมปฏิบัติการ อย่าให้มีใครรอดชีวิต”

“เข้าใจ!”

“รับทราบ!”

แววตาของบางคนส่องประกายแห่งความคลั่งไคล้

พวกเขาบางคนไม่ได้ทำเพื่อเงิน แต่เพื่อความสนุกจากการต่อสู้ที่กระตุ้นอะดรีนาลีน นี่คืออาการที่เกิดจากผลกระทบของสงคราม

และกลุ่ม “คนบ้า” พวกนี้คือทหารที่เก่งที่สุดของหน่วยเดลตาฟอร์ซ

ไม่ใช่แค่หน่วยเดลตาฟอร์ซ หน่วยรบพิเศษ KSK หน่วยคอมมานโด Wild Boys และหน่วยรบพิเศษ Excalibur ต่างก็ได้รับคำสั่งที่คลุมเครือ รวมถึงข่าวค่าหัว 15 ล้านเหรียญ

มันชัดเจนมากแล้ว

พวกเขาต้องการให้หน่วยรบพิเศษลงมือเอง

แม้ว่าหลังจากนี้จะมีการสืบสวน พวกเขาก็สามารถอ้างได้ง่ายๆ ว่า “ทหารลงมือเองโดยพลการ” เพื่อปัดความรับผิดชอบออกไป

ไม่มีคำพูดเกินจริงแม้แต่น้อยที่จะบอกว่าตอนนี้อิสลามาบัดในปากีสถานกำลังจะกลายเป็นสนามฝึกซ้อมให้กับหน่วยรบพิเศษจากหลายฝ่าย

แม้แต่รัสเซียก็อยู่ไม่ติด ส่งหน่วยรบพิเศษสุดยอดอย่างทีมอัลฟ่ามาช่วยเหลือในปากีสถาน แต่คำสั่งของพวกเขาคือจัดการกับอาชญากรที่พยายามเข้าเมืองอิสลามาบัด ไม่ใช่การปกป้องตัวประกัน

หากทีมอัลฟ่าต้องมาปกป้องตัวประกัน มันคงเป็นเรื่องที่ยากจะจินตนาการ

ไม่มีใครคาดคิดเลยว่า ชีวิตของเฉินซิงจะกลายเป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้ระหว่างหลายฝ่าย

……

วันรุ่งขึ้น

ในอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร ที่สหรัฐอเมริกา

ที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ตอนนี้เต็มไปด้วยผู้คน ไม่ต่างจากเมื่อวาน แต่วันนี้นักลงทุนทุกคนกลับมาพร้อมกับความกังวล

ความกังวลว่าจะขายหุ้นออกไปงั้นหรือ? ไม่!

พวกเขากังวลว่าจะพลาดโอกาสลงทุนต่างหาก!

ตอนนี้ราคาหุ้นของ Qualcomm ได้ฟื้นตัวกลับมาที่ 27 เหรียญ และมีแนวโน้มที่จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีท่าทีที่จะหยุด

จาก 40 เหรียญลงไปถึง 9 เหรียญ แล้วเด้งกลับมาที่ 27 เหรียญ พร้อมกับการสนับสนุนจากบริษัทใหญ่อย่างกลุ่มบริษัทSamsung, Belai Group และVanguard นักลงทุนก็พากันเข้ามาแบบบ้าคลั่ง

และที่สำคัญที่สุด ในช่วงค่ำที่ผ่านมา แฮ็กเกอร์อัจฉริยะของอเมริกานามว่า Drak ได้แฮ็กและแก้ไขไวรัสม้าโทรจัน “ยมทูตไร้หน้า” ได้สำเร็จ พร้อมกับปล่อยซอร์สโค้ดไว้ในฟอรั่มออนไลน์

เมื่อไวรัสถูกแก้ไข ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ Dragonstar Technology ที่เคยปรากฏในอินเทอร์เน็ตก็ถูกลบออกทั้งหมด

ชาวอเมริกันที่พยายามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Dragonstar Technology ต้องเจอกับข้อความว่า

“ขออภัย!”

ไม่มีโพสต์ใดหลงเหลืออยู่ ราวกับเป็นแค่ความฝันที่ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

แต่บางคนยังสามารถใช้ช่องทางอินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศเพื่อเข้าไปค้นหาข้อมูลของ Dragonstar Technology ในอินเทอร์เน็ตของจีนได้ และได้รับการยืนยันว่าข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการกุข่าวของสื่อในตะวันตก

เมื่อพวกเขาพยายามนำข้อมูลกลับมาที่แพลตฟอร์มในตะวันตก ก็พบข้อความเด้งขึ้นมาว่า “เนื้อหานี้ละเมิดกฎของแพลตฟอร์ม” และไม่สามารถเผยแพร่ได้

Dragonstar Technology?

เป็นแค่ฝันร้ายของชาวตะวันตกเท่านั้น!

ในขณะที่ข้อเท็จจริงถูกปกปิด สื่อที่ควบคุมโดยBelai Groupก็ผลักดันข่าวของ Qualcomm ให้ขึ้นไปอยู่ในอันดับสูงสุดของกระแส

[เราเพิ่งค้นพบว่าหุ้นของบริษัทถูกโจมตีโดยการขายชอร์ตอย่างผิดกฎหมาย มีคนพยายามขโมยความมั่งคั่งของเรา และทำลายชื่อเสียงของบริษัทเรา หลังจากที่คณะกรรมการผู้ถือหุ้นได้พิจารณา เราจึงต้องประกาศชิปตัวใหม่ก่อนกำหนด ชิปขนาด 10 นาโนเมตรและซีพียู 8 คอร์ รุ่น Snapdragon 835 พร้อมรายละเอียดโปรดไว้วางใจ Qualcomm เรายังคงเป็นผู้นำในวงการออกแบบชิปอยู่เสมอ]

ด้านล่างของประกาศยังมีรายละเอียดของชิปรุ่นใหม่อีกด้วย

ความเร็วของซีพียู: 2.45GHz + 1.9GHz

สถาปัตยกรรม GPU: Adreno 540

โมเด็ม: Snapdragon X16 LTE Cat.16

เมื่อชิปขนาด 10 นาโนเมตรถูกประกาศออกมา และสื่อของBelai Groupผลักดันเต็มที่ ชาวเน็ตตะวันตกก็กลับมามีความเชื่อมั่นใน Qualcomm อีกครั้ง

[มาซูด อาลี]: “ชิปขนาด 10 นาโนเมตร! Qualcomm ยังคงเป็น Qualcomm ในวงการออกแบบชิป บริษัทชิปอื่นๆ คงต้องหลีกทางให้”

[ลูซี่ ฮอลล์]: “โธ่! ฉันนี่มันโง่จริงๆ ฉันดันขายหุ้น Qualcomm ออกไปเมื่อวาน พระเจ้า! นี่คือการลงโทษที่พระองค์มอบให้ฉันใช่ไหม?”

[จอห์น อาร์เธอร์]: “การทำชอร์ตอย่างผิดกฎหมาย? แน่นอนว่าเป็นฝีมือของคนจีน ทุนจีนเจ้าเล่ห์กำลังพยายามขโมยความมั่งคั่งของเรา!”

[ดานเต เวนดีมา]: “ดังนั้น ข่าวเกี่ยวกับ Dragonstar Technology ทั้งหมดเป็นข่าวลวงอย่างนั้นหรือ? เป็นการกุข่าวแบบมุ่งร้าย?”

ภายใต้การช่วยเหลือของกองทัพสื่อมวลชนและกลุ่มคนที่สร้างกระแส ชื่อเสียงของ Qualcomm ค่อยๆ ฟื้นตัว

เมื่อถึงเที่ยงวัน ราคาหุ้นก็ทะลุ 34 เหรียญแล้ว

และเมื่อถึงกำหนดเวลาซื้อขาย ราคาหุ้น 34 เหรียญก็พุ่งทะยานจนถึง 40 เหรียญก่อนปิดตลาด

เมื่อข่าวดีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง วันรุ่งขึ้นตลาดหุ้นของอเมริกาเปิดทำการอีกครั้ง หุ้นของ Qualcomm, Apple, NVIDIA และบริษัทอื่นๆ ของสหรัฐฯ ต่างก็พุ่งสูงขึ้น จนดูเหมือนว่ากำลังจะเกิดการหยุดซื้อขายแบบอัตโนมัติ

ตามที่ทราบกันดีว่า ในตลาดหุ้นของอเมริกา การหยุดซื้อขายอัตโนมัติไม่เกิดขึ้นแค่ในกรณีที่หุ้นร่วงลงอย่างรุนแรง แต่หากราคาพุ่งขึ้นถึง 7% ก็จะทำให้เกิดการหยุดซื้อขายชั่วคราว 15 นาทีเช่นกัน

ในช่วงที่หุ้นขึ้นๆ ลงๆ สถาบันการเงินต่างๆ ก็ทำกำไรได้มหาศาล โดยเฉพาะสถาบันที่เล่นชอร์ตหุ้นและกลุ่มทุนเบื้องหลัง

ขายยืมหุ้นที่ 40 เหรียญแล้วซื้อคืนที่ 9 เหรียญ กำไรสุทธิ 31 เหรียญ จากนั้นก็ซื้อคืนที่ 9 เหรียญและถือจนราคาพุ่งถึง 40 เหรียญอีกครั้ง ก็ได้กำไรอีก 31 เหรียญ เมื่อนับรวมทั้งหมดก็เท่ากับได้กำไร 62 เหรียญ สถาบันการเงินจะไม่ทำกำไรได้เต็มกระเป๋าได้อย่างไร?

สถาบันการเงินได้กำไร แล้วใครขาดทุน?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นนักลงทุนรายย่อยที่หวาดกลัวและขายหุ้นออกไปตามกระแส

เมื่อกลุ่มทุนSamsung, Belai Group, Vanguard และกลุ่มทุนจากวอลล์สตรีทต่างก็ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่ เว่ยเยียนก็พลอยได้กำไรไปด้วย

จนกระทั่งปิดตลาดในวันที่สาม เขาทำเงินได้กว่าหลายล้านเหรียญสหรัฐ และถือว่าประสบความสำเร็จในการสะสมความมั่งคั่งขั้นต้น

ไม่ว่าธุรกิจไหน ช่วงเวลาจากศูนย์ไปถึงหนึ่งคือช่วงที่ยากที่สุด วอร์เรน บัฟเฟตต์มหาเศรษฐี 95% ของความมั่งคั่งของเขาถูกสร้างขึ้นหลังอายุ 60 ปี นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่ามีทุนกับไม่มีทุน ความเร็วในการทำเงินแตกต่างกันแค่ไหน

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม ผู้ประกอบการที่สร้างตัวเองจากศูนย์จึงได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนในอุตสาหกรรมมากกว่าผู้ประกอบการรุ่นสองที่สืบทอดธุรกิจครอบครัว

การสร้างตัวเองจากศูนย์ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ความสามารถนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน

“ต้องเพิ่มขึ้นอีกสิบเท่า”

เว่ยเยียนมองดูเงินในบัญชีของเขาและพึมพำกับตัวเอง เขาไม่มีทางจะอยู่เฉยๆ แน่ ตราบใดที่เขาสะสมทุนได้มากพอ ก็จะสามารถเริ่มธุรกิจของตัวเองได้ และเขาก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไป

……

ในขณะที่ตลาดหุ้นอเมริกากำลังเฉลิมฉลอง เฉินซิงที่อยู่ในอิสลามาบัด ปากีสถานก็เจรจาเรื่อง “รายละเอียดปลีกย่อย” เสร็จสิ้นเช่นกัน และจับมือกับอีกฝ่ายพลางพูดว่า:

“ตกลงตามนี้นะครับ ผมจะลงทุนในพวกคุณ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่พวกคุณต้องรับประกันประสิทธิภาพของบริการส่งของในอิสลามาบัด”

“ไม่ต้องกังวลครับ คุณเฉิน ถึงแม้ปากีสถานจะยังไม่เจริญด้านการช้อปปิ้งออนไลน์ แต่ธุรกิจขนส่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมาตลอด”

ประธานบริษัทขนส่ง Feipao ตอบ

หากต้องการมั่งคั่ง ต้องเริ่มจากการสร้างถนน คำกล่าวนี้คงไม่มีทางที่รัฐบาลระดับสูงของปากีสถานจะไม่รู้ พวกเขาจึงพยายามเปิดเส้นทางการค้าระหว่างภูมิภาคอยู่เสมอ

เพื่อสิ่งนี้ พวกเขาเคยไปศึกษาที่ประเทศจีนมาแล้ว และกลับมาก็พยายามพัฒนาธุรกิจขนส่งอย่างต่อเนื่อง แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ค่อยดีนัก

มันเป็นปัญหาง่ายๆ ถ้าไม่มีแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ธุรกิจขนส่งจะเติบโตได้อย่างไร?

ธุรกิจขนส่งในจีนเติบโตอย่างรวดเร็วก็เพราะได้อานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์

“ตกลงตามนี้ 20 ล้านเหรียญสหรัฐแลกกับหุ้น 20% ของบริษัทพวกคุณ หากมีปัญหาเรื่องเทคนิค ผมจะหาคนมาช่วยให้”

เฉินซิงเน้นย้ำอีกครั้ง

ประธานบริษัท Feipao ตอบว่า: “เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ คุณเฉิน”

“เรื่องเล็กน้อย”

เฉินซิงยิ้มเบาๆ

ทั้งสองคุยกันอีกสักพัก จากนั้นประธานบริษัท Feipao ก็ขอตัวกลับไปจัดการธุรกิจ

ตอนนี้ในปากีสถานนอกจากเฉินซิงแล้ว ก็มีบริษัทลงทุนเข้ามาเรื่อยๆ เช่น Alibaba, Tencent, OPPO-VIVO, และ Iron Hammer Technology ต่างก็กำลังหาช่องทางการลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองถนัด

เมื่อการเจรจา “รายละเอียดปลีกย่อย” เสร็จสิ้น เครื่องบินทหารจากประเทศจีนที่บินตรงมายังปากีสถานก็ค่อยๆ ลงจอดที่สนามบินนานาชาติอิสลามาบัด บนลำตัวเครื่องมีตัวอักษรเขียนว่า “เฟิ่งเทียน”

นอกจากเครื่องบินขนส่งทางทหารแล้ว ยังมีเครื่องบินรบสองลำรุ่น Dragon-20 ที่ลงจอดด้วย

เมื่อกองกำลังทหารจากจีนเริ่มเดินไปพบกับเจ้าหน้าที่ปากีสถาน นายทหารหัวเกรียนที่อยู่ด้านหน้าสุดก็ทำความเคารพและยื่นเอกสารประจำตัวของเขาพร้อมกล่าวว่า “กองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียน หลินลี่ มาปฏิบัติภารกิจส่งตัวเฉินซิงกลับประเทศ”

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานที่รับผิดชอบก็ทำความเคารพและรับเอกสารมาตรวจสอบ เมื่อตรวจสอบแล้วว่าไม่ผิดพลาด เขาก็ตอบกลับเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วว่า “ยินดีต้อนรับครับ ตอนนี้เฉินซิงพักอยู่ที่โรงแรมระดับห้าดาว เราได้ส่งกำลังทหารไปคุ้มกันแล้ว”

“เชิญนำทาง”

หลินลี่ตอบกลับอย่างกระชับ

เพราะเขาเพิ่งได้รับข้อมูลจากกองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียน ว่าภารกิจส่งตัวในครั้งนี้ถูกยกระดับความยากขึ้นเป็นระดับสูงสุด ไม่ใช่แค่มีทหารรับจ้างเท่านั้น แต่ยังมีหน่วยรบพิเศษด้วย

ตามข้อมูลจากรัสเซีย หน่วยรบพิเศษกลุ่มที่หกก็ได้เดินทางมาเพื่อเสี่ยงโชคเช่นกัน

สถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ ไม่มีเวลามาเสียมารยาทกัน และเนื่องจากปากีสถานมีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด จึงไม่จำเป็นต้องเคร่งครัดกันมากนัก

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานเข้าใจเรื่องนี้ดี ขณะที่เขาก้าวออกไปด้านข้าง เขาก็หันไปมองหน่วยรบพิเศษของตัวเองและพูดว่า “เจี้ยนหย่า นำพวกเขาไปที่โรงแรม”

“ครับ!”

ที่สนามบินมีรถจี๊ปเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว

เหล่าทหารจากหน่วยเจี้ยนหย่าก็ส่งสัญญาณเรียก หลินลี่จึงส่งสัญญาณให้กองทหารทั้งสิบที่เขานำมาด้วย “ตามไป”

อย่าดูถูกคนกลุ่มนี้เป็นอันขาด พวกเขาคือหน่วยปฏิบัติการพิเศษไร้คนขับที่ถูกฝึกโดยกองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียน นอกจากอาวุธมาตรฐานแล้ว ทุกคนยังถือกล่องเหล็กเล็กๆ สีดำ ซึ่งภายในบรรจุโดรนฆ่าตัวตายรุ่น Hive ที่พัฒนาร่วมกันโดยกองทัพเฟิ่งเทียนและบริษัท Jiangyu Technology

……

ที่โรงแรมระดับห้าดาวในอิสลามาบัด

จ้าวเสี่ยวชิวยืนเฝ้าหน้าต่างตลอดเวลา เมื่อเห็นรถจี๊ปทหารแล่นเข้ามา เธอก็รีบเพิ่มความระมัดระวังขึ้นทันที

“มีอะไรผิดปกติ”

“เป็นศัตรูหรือพวกเดียวกัน?”

เธอไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย เธอปลดล็อกปืนพกประจำตัวรุ่น Type 92 และเตือนเฉินซิงว่า “ระวังหน่อย มีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ยังไม่แน่ใจว่าเป็นมิตรหรือศัตรู”

“อาจจะเป็นกองทัพจีนมาก็ได้หรือเปล่า?”

เฉินซิงคำนวณเวลาคร่าวๆ แล้ว ระยะเวลาจากที่จ้าวเสี่ยวชิวบอกว่าประเทศจีนจะส่งเครื่องบินมารับพวกเขาก็ผ่านมาแล้วสองวัน แม้ว่าจะช้าสักหน่อย แต่ก็น่าจะถึงแล้ว

“เป็นไปได้”

จ้าวเสี่ยวชิวพยักหน้า

แต่ด้วยความที่ยังไม่มั่นใจในตัวตนของอีกฝ่าย เธอจึงไม่กล้าเสี่ยง

ทั้งคู่ระมัดระวังตัวอยู่ราวห้านาที จนกระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับเสียงตะโกนเป็นภาษาจีนที่ถูกต้องชัดเจนว่า “กองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียน หน่วยรบพิเศษสายฟ้า หลินลี่ มาปฏิบัติภารกิจส่งตัวเฉินซิงกลับประเทศ รหัสภารกิจ: 0010101”

“เป็นพวกเดียวกัน” จ้าวเสี่ยวชิวถอนหายใจด้วยความโล่งใจหลังจากยืนยันรหัสภารกิจและชื่อหน่วยงานรวมถึงชื่อผู้รับผิดชอบได้แล้ว

เมื่อประตูห้องสวีทถูกเปิดออก ทั้งสองฝ่ายก็ทำความเคารพกัน หลินลี่เผยรอยยิ้มเล็กๆ พร้อมกับมองจ้าวเสี่ยวชิวจากหัวจรดเท้าและกล่าวติดตลกว่า “ลูกสาวของท่านจ้าว เหมือนที่เขาพูดกันเลยว่า เสือย่อมไม่คลอดลูกเป็นแมว ได้ยินชื่อเสียงมานานแต่เพิ่งได้พบวันนี้”

“กองทัพภาคพิเศษเฟิ่งเทียนก็ขึ้นชื่อในทางที่ดีเหมือนกันค่ะ การที่พวกคุณมาปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ทำให้ฉันสบายใจได้เลย”

จ้าวเสี่ยวชิวตอบกลับอย่างสุภาพ

หลังจากทั้งคู่กล่าวชมเชยกันพอสมควร หลินลี่ก็เดินตรงเข้าไปในห้องสวีท มองไปที่ใบหน้าคุ้นเคยที่นั่งอยู่บนโซฟาและพูดติดตลกว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ คุณเฉิน คุณยังจำผมได้ไหม?”