ตอนที่แล้วบทที่ 284 ความหึงหวง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 286 เสียงจากข้างห้อง

(ฟรี) บทที่ 285 พวกเธอสองคนกำลังทำอะไร?


เซียวโหยวหรานรู้สึกร้อนไปทั้งตัวและแขนขาอ่อนแรง

หลังจากเสร็จเรื่อง เธอไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับสวี่ชิวเหวินอย่างไร ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะนอนบนเตียงและแกล้งหลับ

เมื่อเห็นเซียวโหยวหรานที่นอนแน่นิ่ง สวี่ชิวเหวินไม่ได้ถูกหลอก

จากนิ้วเท้าที่งอเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอยังตื่นอยู่

และคนส่วนใหญ่คงนอนไม่หลับหลังจากเหตุการณ์เช่นนนั้น

สวี่ชิวเหวินเริ่มล้างเท้าของเซียวโหยวหราน

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยสังเกตอย่างระมัดระวัง แต่ตอนนี้เขามีเวลามองมันอย่างใกล้ชิด

เท้าของเซียวโหยวหรานสามารถอธิบายได้ว่าสวยงามมาก

ขนาดเท้าของเธออยู่ที่ประมาณ 35 หรือ 36 ซึ่งไม่บอบบางเท่าถังเว่ยเว่ย แต่เมื่อจับคู่กับความสูง 168 เซนของเธอแล้ว มันจึงถือว่ากำลังพอดีมาก

เธอสวมรองเท้าส้นสูงเป็นครั้งคราว แต่ไม่เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ นิ้วเท้าของเธอไม่ได้ผิดรูปจากการสวมใส่พวกมัน

ส่วนบนของเท้านั้นบางเล็กน้อย แต่ฝ่าเท้ากลับเต็มไปด้วยเนื้อหนัง มันดูใส กลมมน และกะทัดรัด พร้อมด้วยส่วนโค้งอันงดงามที่ไม่อาจต้านทานได้

เท้าของเซียวโหยวหรานนั้นสวยงามอย่างหาตัวจับได้ยาก

สวี่ชิวเหวินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อนึกถึงการกระทำก่อนหน้านี้ของเขา

เซียวโหยวหรานได้ยินเสียงหัวเราะจึงไม่สามารถแกล้งหลับได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงลืมตาขึ้นและมองมา

สวี่ชิวเหวินกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ฉันจะทำความสะอาดให้เธอเอง”

เซียวโหยวหรานตอบว่า “อือ” ด้วยเสียงแผ่วเบาอย่างประหม่า

สวี่ชิวเหวินเช็ดคราบสีขาวด้วยกระดาษทิชชู่ จากนั้นค่อยๆวางเท้าของเซียวโหยวหรานลงในน้ำอุ่น

แม้ว่าจะทดสอบอุณหภูมิของน้ำด้วยมือแล้ว แต่เขาก็ยังถามอย่างรอบคอบ “ร้อนเกินไปไหม?”

“กำลังพอดี” เซียวโหยวหรานตอบเสียงเบา

สวี่ชิวเหวินไม่พูดอะไรอีกและเริ่มล้างเท้าอย่างจริงจัง

การล้างเท้าใช้เวลาไม่นานนัก แต่เท้าที่นุ่มนวลและสวยงามของหญิงสาวยังคงอยู่ในมือของเขาเป็นเวลานาน

หลังจากเล่นกับพวกมันสักพัก ในที่สุดเขาก็เช็ดหยดน้ำบนเท้าของเธอด้วยผ้าสะอาด ช่วยเธอใส่ถุงเท้า แล้วเดินออกจากห้องพร้อมกะละมังในมือ

เซียวโหยวหรานหดขาของเธอกลับทันทีและซ่อนพวกมันไว้ใต้ร่างของเธอ

ใบหน้าของเธอร้อนผ่าว เมื่อคิดว่าเธอกล้าหาญเพียงใดที่ใช้เท้าช่วยเหลือเขา และวิธีที่เขาเล่นกับพวกมันภายใต้หน้ากากของการล้างเท้า

เธอหวังว่าตนเองจะกลายเป็นแมวได้ ด้วยวิธีนี้เธอจะทำได้เพียงร้องเหมียวโดยไม่ต้องทำอะไร ไม่ว่าสวี่ชิวเหวินจะพูดสิ่งใด เธอก็สามารถแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจได้

แต่ถึงแม้จะเขินอายเธอก็ไม่เสียใจเลย

การกระทำใกล้ชิดเช่นนี้ทำให้เธอรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับสวี่ชิวเหวินใกล้ชิดกันมากขึ้น

สิ่งนี้นำมาซึ่งความสุขลึกๆในใจเธอ

หลังจากจัดการกะละมังแล้ว สวี่ชิวเหวินก็กลับมาที่ห้องโดยไม่พูดอะไร และนั่งลงที่คอมพิวเตอร์โดยตรงก่อนจะเริ่มพิมพ์

ภายใต้ช่วงเวลาอันเงียบสงบ ประสิทธิภาพการพิมพ์ของเขาอยู่ในระดับสูง

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สวี่ชิวเหวินพิมพ์ได้ห้าพันคำโดยไม่ต้องหยุดพัก

ตอนนี้อารมณ์ของเซียวโหยวหรานค่อยๆสงบลงแล้ว เธอนอนตะแคงบนเตียง วางมือไว้ใต้แก้ม และจ้องมองสวี่ชิวเหวินอย่างตั้งใจ

จนกระทั่งหกโมงเย็น

สวี่ชิวเหวินหยุดพิมพ์และเห็นว่าเป็นเวลาอาหารเย็นแล้ว เขาจึงพาเซียวโหยวหรานไปที่ถนนคนเดินใกล้ๆเพื่อรับประทานมื้อค่ำ

จากนั้นก็เดินเล่นแถวนั้นกันจนถึงสามทุ่ม

สวี่ชิวเหวินพาเซียวโหยวหรานมาส่งที่บ้านและพูดกับเธอที่ชั้นล่าง “โหยวหราน ฉันอาจจะต้องไปจินหลิงเร็วๆนี้และไม่สามารถอยู่กับเธอตลอดได้ เธอรอฉันกลับมาก่อนนะ”

“ดูแลตัวเองด้วยและโทรหาฉันเมื่อมีเวลา ฉันจะคิดถึงนาย”

เมื่อได้ยินสิ่งนี้สวี่ชิวเหวินก็ก้าวไปข้างหน้าและกอดเซียวโหยวหราน

จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง

“นั่นเธอหรอ เสี่ยวสวี่?”

สวี่ชิวเหวินรู้ว่าเป็นเสียงของป้าจางโดยไม่จำเป็นต้องหันกลับไป

สวี่ชิวเหวินปล่อยเซียวโหยวหรานอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงหันไปและเห็นจางรั่วซูที่กำลังเดินมา

เซียวโหยวหรานใช้ประโยชน์จากร่างกายของเขาเพื่อปิดบังใบหน้าของเธอ จากนั้นเอียงศีรษะและยิ้มให้จางรั่วซู

จางรั่วซูเดินเข้ามาหาและถามอย่างสงสัย “พวกเธอสองคนกำลังทำอะไร”

“เมื่อกี้มีฝุ่นปลิวมาเข้าตาโหยวหราน ผมเลยช่วยเธอเป่ามัน” สวี่ชิวเหวินตอบสนองอย่างรวดเร็วพร้อมหาเหตุผลทันที จากนั้นก็บอกลาก่อนจะวิ่งหนีไป “ป้าจาง มันดึกแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”

หลังจากที่เขาหายไปจากสายตาของแม่และลูกสาว จางรั่วซูก็หันไปถามลูกสาวของเธอ “เมื่อกี้ลูกกำลังทำอะไร?”

ใบหน้าของเซียวโหยวหรานกลายเป็นสีแดง “เหมือนที่เขาบอกไง ฝุ่นเข้าตาหนู เสี่ยวสวี่ก็เลยช่วยเป่ามันออก”

“จริงหรอ?”

เซียวโหยวหรานพยักหน้า

เมื่อเห็นสิ่งนี้จางรั่วซูก็ไม่สงสัยอีกต่อไป

แม้จะกลับถึงบ้านแล้ว สวี่ชิวเหวินก็ยังคงรู้สึกหวาดกลัว

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับเซียวโหยวหรานจะก้าวไปอีกขั้นและพวกเขาได้ทำเรื่องส่วนตัวกันแล้ว แต่เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับลุงเซียวและป้าจาง

เช้าวันรุ่งขึ้น

หานเฟยส่งข้อความหาเขาโดยแจ้งว่ารถไฟขบวนเช้าจะไปถึงจินหลิงในตอนเย็น

สวี่ชิวเหวินตอบกลับว่า “คืนนี้ผมจะไปรับคุณที่สถานี”

ในช่วงบ่าย สวี่ชิวเหวินนั่งรถบัสทางไกลไปยังสถานีขนส่งจินหลิง

เมื่อออกจากสถานีแล้วก็นั่งแท็กซี่ตรงไปยังโชว์รูม BMW

เขาฝากรถไว้กับพนักงานขายเมื่อต้นปี และตอนนี้ป้ายทะเบียนควรจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว

สวี่ชิวเหวินเข้ามาในโชว์รูมและพบพนักงานขายอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายเห็นเขาจึงทักทายอย่างกระตือรือร้นด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น

สวี่ชิวเหวินรับกุญแจแล้วขับรถออกไปโดยไม่ได้พูดคุยกันมากนัก

เมื่อสวี่ชิวเหวินมาถึงสถานีรถไฟ ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมงก่อนที่รถไฟขบวนของหานเฟยจะมาถึง

เขาจอดรถไว้ด้านนอกสถานีแล้วนั่งรอในรถ

รถไฟเกิดความล่าช้าอย่างไม่คาดคิด จนกระทั่งเวลาหนึ่งทุ่มตรง ในที่สุดรถไฟก็มาถึงสถานีจินหลิง

สวี่ชิวเหวินพบหานเฟยที่ทางออกของสถานี

หานเฟยลากกระเป๋าเดินทางด้วยมือซ้ายและถือถุงสีดำใบใหญ่ในมือขวา

สวี่ชิวเหวินเดินเข้าไปหา และหานเฟยก็หัวเราะเมื่อเห็นสวี่ชิวเหวินสวมหมวกกับแว่นตาดำ “กลัวคนจำได้หรอ?”

สวี่ชิวเหวินพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่น

เพียงไม่กี่ก้าวหลังลงจากรถบัสก็มีคนเดินเข้ามาหาเขาและถามว่าเขาเป็นพระเอกในละครหรือเปล่า

ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนในจินหลิงจะดูละครโทรทัศน์ของเขา แต่การถูกจดจำบนถนนก็ยังทำให้สวี่ชิวเหวินค่อนข้างประหลาดใจ เขาเริ่มตระหนักแล้วว่าเขาอาจกลายเป็นคนมีชื่อเสียงจริงๆ

สวี่ชิวเหวินบอกหานเฟยถึงสิ่งที่เขาเพิ่งประสบพบเจอ

หลังจากฟังแล้วหานเฟยก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ชิวเหวิน นายยังไม่เข้าใจเรื่องเรตติ้งผู้ชมจริงๆ ปีที่แล้วละครที่มีเรตติ้งสูงสุดสามเรื่องใน CCTV คือ ‘Drawing Sword’, ‘Qinghua Smoke’ และ ‘The Great Song Dynasty’ โดยมีเรตติ้ง 10.3%, 8.51% และ 6.41% ตามลำดับ”

“เรตติ้งรอบปฐมทัศน์ของเราอยู่ที่ 5.035% ซึ่งเกือบจะเทียบเท่าอันดับสามของปีก่อน และโดยทั่วไปเรตติ้งจะเพิ่มขึ้นตามเนื้อเรื่องที่ดำเนินไป มันจึงเกือบจะการันตีแล้วว่าละครต้องฮิตแน่นอนและนายจะกลายเป็นมีชื่อเสียงด้วย”

หลังจากได้ฟังคำอธิบายของหานเฟย สวี่ชิวเหวินก็เข้าใจคร่าวๆแล้วว่าเรตติ้ง 5.035% หมายถึงอะไร

เมื่อเห็นความตื่นเต้นของหานเฟย เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “คุณเป็นผู้กำกับ ถ้าละครฮิตคุณก็จะเป็นที่ต้องการเช่นกัน หลายๆคนคงอยากถ่ายทำร่วมกับคุณ”

หานเฟยส่ายหัว “ก็เป็นไปได้ แต่ฉันเดาว่าหลายคนคงรอดูละครเรื่องนี้เพราะมันดัดแปลงมาจากนิยาย มันเกี่ยวกับความนิยมของนิยายมากกว่าฝีมือการถ่ายทำของฉัน”

เมื่อสังเกตเห็นว่าผู้คนรอบตัวพวกเขาเริ่มให้ความสนใจ สวี่ชิวเหวินจึงรีบพูดขึ้น “เอาล่ะ ไปคุยกันบนรถเถอะ”

/////