ตอนที่แล้วบทที่ 42 : จี๋หงอิ๋ง, ผู้อาวุโสสูงสุดในนิกายไท่ไป๋ซาน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 44 : กายาวิญญาณต้นกำเนิดแห่งเต๋า!

บทที่ 43 : การพัฒนา​อย่าง​รวดเร็ว​ของคฤหาสน์ราชาลู่!


บทที่ 43 : การพัฒนา​อย่าง​รวดเร็ว​ของคฤหาสน์ราชาลู่!

ในยามค่ำคืนที่ท้องฟ้าพร่าวพราวไปด้วยหมู่ดาวน้อยใหญ่

ณ ลานบ้านแห่งหนึ่งในคฤหาสน์ราชาลู่

ลู่หยูนั่งขัดสมาธิกลางแจ้งและกำลังทำการฝึกฝน

ณ ขณะนี้​มีแสงสีเงินขาวส่องประกายระยิบระยับโอบล้อมรอบตัว

เมื่อมองแวบแรก ร่างกายทั้งหมดของลู่หยูเปล่งแสงสีเงินออกมาราวกับดวงดาวที่ส่องประกาย

ทันใดนั้น, ลู่หยูก็ลืมตา​ขึ้น​มา​พร้อมมีแววแห่งความยินดีอยู่ในดวงตา

เพราะหลังจากฝึกฝน "วิชาดวงดาวจักรวาล" มานานกว่าหนึ่งเดือน…ในที่สุดเขาก็เปิดจุดลมปราณดวงดาวที่สี่ของอาณาจักรเทียนชู และเข้าสู่ช่วงกลางของอาณาจักรเทียนชูได้เเล้ว

อย่างไรก็ตาม เขามั่นใจว่าหากเป็นคนทั่วไปที่ต้องการจะสามารถทำเช่นนี้ได้…พวกเขา​จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามเดือน หรืออาจนานกว่านั้น

แต่ด้วยความช่วยเหลือจากผลึกลึกลับ เขาสามารถเร่งความเร็วการฝึกได้โดยไม่ต้องกังวลว่าร่างกายจะเสียหาย

แน่นอนว่าในเดือนนี้ เขาฝึกฝน "วิชาดวงดาวจักรวาล" ในเวลากลางคืนเท่านั้น

เเน่นอนว่าเขาเคยฝึกฝน "วิชาดวงดาวจักรวาล" ในตอนกลางวันด้วย…แต่เขารู้สึกว่าผลลัพธ์ไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงมักฝึกฝนวิธีนี้ในเวลากลางคืน

แต่ในระหว่างช่วงกลางวัน เขาก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ

ช่วงกลางวัน เขาฝึกฝนทักษะการฝึกร่างกายระดับสวรรค์ขั้นสูง "กายาสวรรค์เก้าการปฏิวัติ"

หลังจากฝึกฝนสลับกันเช่นนี้ มันทำให้เขาพัฒ​นาไปได้มาก

อย่างไรก็ตาม สำหรับวิชาดวงดาวจักรวาลอันทรงพลังเช่นนี้ เขากลับสามารถฝึกฝนได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น…ซึ่งลู่หยูรู้สึกว่ามันไม่เพียงพอ

เขาวางแผนที่จะไปที่หอสมบัติของตระกูลในวันพรุ่งนี้ และแลกเปลี่ยนคะแนนการมีส่วนร่วมของตระกูลที่เหลืออยู่ เป็นวัสดุบางอย่างที่มีพลังของดวงดาว…เเละดูว่ามันจะสามารถช่วยให้เขาฝึกฝนวิชานี้ในช่วงกลางวันได้หรือไม่

หากใช้ได้ผล เขาจะทำงานของตระกูลให้มากขึ้น รับคะแนนการมีส่วนร่วมของตระกูล​​ให้​มากขึ้น​…เเล้วนำมาแลกเปลี่ยนเป็นวัสดุดวงดาว

หลังจากตัดสินใจแล้ว เขาก็เริ่มฝึกฝนวิชาดวงดาวจักรวาลอีกครั้ง

ในเวลาเดียวกัน ณ ลานบ้านของลู่เทียนหมิง

ลู่เทียนหมิงกำลังนั่งขัดสมาธิเพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชาลับเจ็ดการเปลี่ยนแปลงวิญญาณแห่งซวนโหย่ว

ทันใดนั้น, เขาเห็นเงามังกรพันรอบตัวเขา พร้อมภาพลวงตาของเล่ยเผิงก็วาบขึ้นมา

พลังอันน่าสะพรึงกลัว พลังงานและโลหิตเดือดพล่านจนส่งเสียงคำรามดังก้องกังวาน

หมิงเหลา ผู้ซึ่งกำลังฝึกฝนอยู่ด้านข้าง ก็ตื่นขึ้นมาเช่นกัน

เมื่อหมิงเหลาเห็นฉากนี้ เขาถึงกับพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง

เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าเด็กคนนี้จะปลุกกายามังกรที่แท้จริงได้ เพียงแค่การกลั่นแก่นแท้โลหิตมังกรหนึ่งหยด

นับจากนี้ไป เด็กหนุ่มคนนี้ก็จะสามารถ​ฝึกฝนทักษะและเคล็ดวิชาลับต่างๆได้อย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ, เเละมันทำให้​เขาอดไม่ได้ที่จะแสดงความอิจฉาออกมา

เขาไม่รู้ว่าเด็กคนนี้มีโชคแบบไหน ถึงได้ปลุกพรสวรรค์กายาชั้นยอดเช่นนี้ได้

อย่างไร​ก็ตาม, เขาเดาว่าการที่ลู่เทียนหมิงปลุกพลังขึ้นมาอย่างกะทันหันนั้น น่าจะ​เกี่ยวข้องกับการกลับชาติมาเกิดของเจ้าของคฤหาสน์ราชาลู่เป็นแน่

เพราะแก่นแท้โลหิตมังกรหยดนั้น เจ้าของคฤหาสน์ราชาลู่เป็นคนมอบให้เด็กคนนี้ด้วยตนเอง

หากเพียงแค่แก่นแท้โลหิตหนึ่งหยดก็สามารถปลุกกายามังกรที่แท้จริงได้…เขาคงไม่มีทางเชื่อเป็นแน่

มีเพียงผู้ที่กลับชาติมาเกิดเหล่านั้นเท่านั้น ที่มีวิธีการที่คาดเดาไม่ได้เช่นนี้

แม้ว่าเขาจะคาดเดาแบบนี้ แต่เขาก็ยังไม่แน่ใจทั้งหมด…เขาทำได้เพียงสังเกตการณ์​ต่อไปในภายหลัง

อย่างไรก็ตาม, ยิ่งลู่เทียนหมิงแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเขา

เพราะนี่มันหมายความว่าเขามีโอกาสที่จะหลอร่างกาย​ที่แท้จริงได้รวดเร็วขึ้น

หลังจากคิดวนไปวนมา เขาก็ค่อยๆ ถอนสายตาออก, แล้วเริ่มฝึกฝนอีกครั้ง

ในขณะที่​ ลู่หยูและลู่เทียนหมิงที่กำลังฝึกฝนอย่างหนัก

อัจฉริยะทั้งสองอย่างลู่เจียนเฉินและลู่ซืออิ๋นก็กำลังฝึกฝนอย่างหนักเช่นกัน

นับตั้งแต่พวกเขาตื่นขึ้นมาพร้อมพรสวรรค์กายาเเละภายใต้สภาพแวดล้อมการบ่มเพาะที่ดีภายในตระกูล…ความเร็วในการบ่มเพาะของพวกเขาในปัจจุบันนั้นเร็วขึ้​นอย่างมาก

ในหนึ่งวันของการฝึกฝน…มันสามารถเทียบเท่ากับการฝึกฝน​ร้อยวันในช่วงก่อนหน้านี้

พวกเขาทั้งหมดจดจำความโปรดปรานที่ท่านอ๋องเคยมอบให้พวกเขาได้ และยิ่งกว่านั้นคือความคาดหวังที่ท่านอ๋องมีต่อพวกเขา

ในเรื่องนี้ พวกเขาจะไม่พัฒนาการบ่มเพาะและพยายาม​รับใช้ตระกูลได้อย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทั้งสี่คนยังได้รับการเลื่อนขั้นเป็นสมาชิก​หลักของตระกูลภายใต้การประเมินของเหล่าผู้อาวุโส

พวกเขาทั้งสี่คนได้รับการยอมรับจากตระกูลลู่ว่าเป็นอัจฉริยะระดับสูง​และพวกเขายังมีทรัพยากรมากที่สุด

แม้ว่าลู่หยูจะไม่มีพรสวรรค์ขั้นยอดเยี่ยม แต่ด้วยความช่วยเหลือจากผลึกลึกลับ ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า, ตอนนี้​พลังการต่อสู้ของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าลู่เจียนเฉินและคนอื่นๆ…ดังนั้นเขาจึงสามารถจัดอยู่ในกลุ่สมาชิก​หลักได้เช่นกัน

สำหรับพวกเขาทั้งสี่คน โดยพื้นฐานแล้ว ศิลปะการต่อสู้และทักษะการฝึกฝนทั้งหมดในตระกูลล้วนเปิดกว้างสำหรับพวกเขา

ท้ายที่สุดแล้ว, จะให้เหตุผลอะไรได้ หากไม่บ่มเพาะพวกเขาอย่างเหมาะสม

….

หลังจาก​นั้น​ เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เกือบครึ่งปีผ่านไปในพริบตา​

ในช่วงครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา ทุกอย่างในตระกูลพัฒนาไปอย่างรวดเร็วมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ค่าโชคลาภของตระกูลเพิ่มขึ้น สมาชิกตระกูลหลายคนได้รับโชคหล่นทับที่ไม่คาดคิดเมื่อออกไปข้างนอก

เช่น เมื่อซื้อต้นกล้าสมุนไพร​จิตวิญญาณสองสามต้นจากพ่อค้าแม่ค้าข้างทาง…จากนั้น​พวกเขา​ก็พลันพบว่ามันเป็นสมุนไพร​จิตวิญญาณระดับสูงที่กลายพันธุ์ และประสิทธิภาพของสมุนไพร​ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าโดยตรง

หรือจะเป็น ในขณะที่​พวกเขากำลังจะถูกสัตว์อสูรสังหาร…จู่ๆมันก็มี​สายฟ้าก็ตกลงมาจากสวรรค์​และสังหารสัตว์อสูรตนนั้น

โชคที่ไม่คาดฝันมากมายล้วนเกิดขึ้นภายในครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมานี้

เห็นได้ว่าค่าโชคลาภของตระกูลมีความสำคัญต่อตระกูลทั้งตระกูลมากเพียงใด

นอกจากโชคไม่คาดฝันเหล่านี้แล้ว… สิ่งที่น่ายินดีที่สุดก็คือความแข็งแกร่งโดยรวมของตระกูลได้รับการปรับปรุงอย่างมหาศาล

อันดับแรก ในบรรดาผู้อาวุโสหลักทั้งเก้าคน ผู้อาวุโสใหญ่ที่มีกายาสมบัติ​ทองคำ​โบราณได้พัฒนาเร็วที่สุด…ตอนนี้เขาได้เข้าสู่อาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่หกแล้ว

เเละถึงแม้ว่าผู้อาวุโสหลักอีกแปดคนจะไม่มีพรจากกายาจิตวิญญาณ แต่พวกเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากสภาพแวดล้อมอันร่ำรวยของคฤหาสน์ราชาลู่ และได้รับทรัพยากรมากมาย

พวกเขาทั้งหมดเข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำขั้นที่ห้าขึ้นไป และสองคนในนั้นยังทะลวงผ่านจุดสูงสุดของอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำ และอยู่ห่างจากอาณาจักรวังวิญญาณเพียงก้าวเดียว

นอกจากผู้อาวุโสหลักเหล่านี้แล้ว ผู้อาวุโสอีกสิบสองคนจากสายรองก็เข้าสู่อาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำเช่นกัน

และเจียงซวนหยา ผู้ซึ่งมีกายาวิญญาณซวนปิงก็ได้ทะลวงผ่านอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่สี่จนเทียบเท่ากับผู้อาวุโสใหญ่

จนถึงตอนนี้ ในบรรดาผู้อาวุโส​ของคฤหาสน์ราชาลู่ มีผู้เชี่ยวชาญในอาณาจักรวังวิญญาณสองคน และอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำยี่สิบคนแล้ว

นอกจากสมาชิกตระกูลรุ่นใหญ่​เหล่านี้ที่มีความก้าวหน้าอย่างมากแล้ว…สมาชิกตระกูลรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์มากมายที่ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด

สมาชิก​หลักอย่างลู่เทียนหมิง ลู่เจียนเฉิน และลู่ซืออิ๋น แม้ว่าระดับการบ่มเพาะเริ่มต้นของพวกเขาจะค่อนข้างต่ำ แต่หลังจากทำงานหนักมาครึ่งปี ผนวกด้วยพรสวรรค์ของพวกเขาเอง…พวกเขาก็ไล่ตามผู้อาวุโสหลักและเข้าสู่ช่วงปลายของอาณาจักรแก่นแท้ลึกล้ำ

ส่วนการบ่มเพาะของศิษย์รุ่นเยาว์คนอื่นๆ ก็ได้รับการปรับปรุงในระดับต่างๆเช่นกัน

อาทิเช่น มีเยาวชนเกือบร้อยคนที่เข้าสู่อาณาจักรพระราชวังสีม่วง

สิ่งเหล่านี้คือกลุ่มคนที่มีศักยภาพของคฤหาสน์ราชาลู่

แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับลู่เทียนหมิง ลู่เจียนเฉิน และคนอื่นๆ แต่ด้วยการสะสมทรัพยากรมากมายของคฤหาสน์ราชาลู่ ความสำเร็จในอนาคตก็จะไม่ต่ำเกินไป

นอกจากนี้ในช่วงครึ่ง​ปี​ที่ผ่านมา ลู่หยูยังประสบความสำเร็จในการฝึกฝนทักษะการฝึกร่างกายสองอย่าง ได้แก่ "กายาสวรรค์เก้าการปฏิวัติ" และ "วิชาดวงดาวจักรวาล"

วิชาดวงดาวจักรวาลได้รับการฝึกฝนโดยลู่หยูจนถึงขั้นที่​สาม ทะลวงผ่านช่วงกลางของอาณาจักรเทียนจี และเปิดจุดลมปราณดวงดาวสามสิบจุดอย่างสมบูรณ์

เเต่แน่นอนว่าผู้ที่มีความก้าวหน้ามากที่สุดในคฤหาสน์ราชาลู่ คือลู่ชิงซวนและหลิงซีเยว่

จนถึงตอนนี้ ลู่ชิงซวนได้เข้าสู่อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่แปดแล้ว

เเละนอกจากการปรับปรุงด้านการบ่มเพาะแล้ว เขายังประสบความสำเร็จในด้านอื่นๆอีกด้วย

เจตนาดาบของเขาไปถึงขั้นที่หก และกำลังจะเข้าสู่ขั้นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

โดยทั่วไปแล้ว ระดับความเข้าใจของศิลปะการต่อสู้และเจตนาจะแบ่งออกเป็น

ระดับเริ่มต้นของขั้นที่​หนึ่ง

ระดับพื้นฐานของขั้นที่​ห้า

ระดับความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของขั้นที่​เจ็ด

ระดับสูงสุดของขั้นที่​เก้า

และระดับสมบูรณ์แบบของขั้นที่​สิบ

เเถมนอกจากเจตนาดาบแล้ว ลู่ชิงซวนยังบ่มเพาะพลังวิญญาณของเขาจรเทียบเท่ากับผู้ฝึกตนที่จุดสูงสุดของอาณาจักรนิพพานผ่านการฝึกฝนวิชา​โรงสีศักดิ์สิทธิ์เก้ารอบได้เเล้ว

และคัมภีร์ทรราชศักดิ์สิทธิ์ก็ได้รับการบ่มเพาะจนถึงขั้นที่​สี่, มันทำให้พลังทางกายภาพของเขาน่าสะพรึงกลัวมากยิ่งขึ้น…ตอนนี้เขาแข็งแกร่งพอที่จะบดขยี้สมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงได้ด้วยมือเปล่า

ส่วนศิลปะการต่อสู้และเคล็ดวิชาลับอื่นๆ…ลู่ชิงซวนก็ได้ฝึกฝนจนถึงระดับพื้นฐานแล้ว

แม้แต่ลู่ชิงซวนเองก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เขาแข็งแกร่งถึงเพียงใด

ในทำนองเดียวกัน หลิงซีเยว่ผู้ซึ่งมีพรสวรรค์ไม่แพ้กันก็จะทะลวงเข้าสู่อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่สี่เรียบร้อย​แล้ว​

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอกำลังจะคลอดบุตร เธอจึงไม่ได้ฝึกฝน​เเละพักผ่อนอย่างเต็มที่ในช่วงเวลานี้

อีกเพียงไม่กี่วัน บุตรคนแรกของลู่ชิงซวนและหลิงซีเยว่ก็จะลืมตาดูโลกเเล้ว

………………

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด