บทที่ 38 ฟุ่เฉินอันกลับเมืองหลวงทั้งที่ยังบาดเจ็บ
บทที่ 38 ฟู่เฉินอันกลับเมืองหลวงทั้งที่ยังบาดเจ็บ
เสี่ยวอิงชุนเชิญให้เขากินข้าว
เมื่อเห็นริมฝีปากที่ซีดเสี่ยวและท่าทางการกินที่เชื่องช้าของเขา เสี่ยวอิงชุนก็ถอนหายใจ
“แผลของคุณยังต้องพักฟื้นอีกนานเลย คุณไม่ได้บอกว่าจะเข้าวังไปเข้าเฝ้าฝ่าบาทเหรอ? แล้วทำไมถึงบาดเจ็บขนาดนี้ได้?”
ฟู่เฉินอันก้มหน้าลงเล็กน้อย “น่าจะเป็นคนขององค์ชายสองที่ลงมือ”
“โอ้?” เสี่ยวอิงชุนมองเขาด้วยความประหลาดใจ “คุณรู้ได้ยังไง?”
ฟู่เฉินอันค่อยๆ กินไปพลางวิเคราะห์ไปพลาง
“ฝ่าบาทไม่มีทางอยากให้ข้าตาย เพราะถ้าข้าตาย พระองค์คงกลัวว่าบิดาของข้าจะก่อกบฏ”
“สำหรับฝ่าบาทแล้ว การที่ข้ามีชีวิตอยู่ย่อมมีประโยชน์มากกว่าการที่ข้าตาย”
“แม้แต่องค์รัชทายาทก็เช่นกัน เพราะในที่สุดแล้วแผ่นดินนี้จะถูกส่งต่อให้กับพระองค์ หากเกิดความวุ่นวายย่อมไม่เป็นผลดี”
“ส่วนองค์ชายสาม ตอนนี้ก็ขึ้นตรงต่อองค์รัชทายาท องค์ชายสี่ ห้า หก และเจ็ดก็ยังเด็กเกินไป...”
“มีเพียงองค์ชายสองเท่านั้น ที่น่าจะอยากให้บิดาของข้าก่อกบฏมากที่สุด”
“ครอบครัวฝ่ายมารดาของพระองค์นั้นเป็นแม่ทัพอยู่แล้ว ถ้าบิดาของข้าก่อกบฏขึ้นมาจริงๆ ฝ่าบาทจะต้องพึ่งพาครอบครัวฝ่ายมารดาขององค์ชายสองอย่างแน่นอน และในตอนนั้นพระองค์ก็จะมีโอกาส...”
จากคำอธิบายของฟู่เฉินอัน ทำให้เสี่ยวอิงชุนเข้าใจสถานการณ์ในราชวงศ์ต้าหลางมากขึ้น
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป?” เสี่ยวอิงชุนกินไปสองสามคำก็วางตะเกียบลง เธอไม่ได้รู้สึกหิว ส่วนที่เหลือฟู่เฉินอันก็กินลงท้องไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากกินอิ่ม ใบหน้าของฟู่เฉินอันก็ไม่ดูแย่เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว เขามองเสี่ยวอิงชุนลึกๆ “ข้าต้องกลับไป”
“ตอนนี้เลย?” เสี่ยวอิงชุนมองเขาด้วยความตกใจ
ฟู่เฉินอันพยักหน้า “อีกสักพัก ตอนเที่ยง”
ตอนนั้นเขาถูกล้อมโจมตี ไล่ล่า เขาฆ่าฝ่าวงล้อมออกมา ใจคิดถึงซุปเปอร์มาร์เก็ตข้ามกาลเวลาแล้ววิ่งไปทางทิศเหนือห้าสิบก้าว จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปในตรอกทางทิศตะวันออก วิ่งเข้าไปอีกยี่สิบก้าวจนหนีเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ต
ในตรอกนั้นไม่มีร้านค้า ช่วงเที่ยงจะเป็นเวลาที่อากาศร้อนที่สุด คนบนถนนจะมีน้อย แต่ร้านค้าต่างๆ ยังเปิดอยู่
ช่วงเวลานั้นเป็นเวลาที่เขาออกไปได้อย่างปลอดภัยที่สุด
“แต่คุณยังมีบาดแผลเต็มตัวอยู่ จะไหวเหรอ?”
ฟู่เฉินอันแค่นหัวเราะ “หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้น ฝ่าบาทคงต้องส่งคนมาปกป้องข้าแล้ว”
อีกอย่างเขาเองก็มีทหารติดตาม เพียงแต่การเดินทางกลับเมืองหลวงในครั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาจึงไม่ได้ให้ทหารติดตามมาด้วย คิดว่าคงจะใกล้ถึงเมืองหลวงแล้ว
เสี่ยวอิงชุนได้แต่พยักหน้า เพราะเธอไม่ใช่ฟู่เฉินอัน จึงไม่สามารถตัดสินใจแทนเขาได้
ฟู่เฉินอันดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาพูดขึ้นว่า “ฝ่าบาทพระราชทานหยกรูปมังกรคู่ให้ข้าหนึ่งคู่กับทองคำห้าร้อยตำลึง อีกไม่กี่วันข้าจะเอามาให้เจ้า”
“หา?” เสี่ยวอิงชุนอึ้งไปชั่วครู่
“เจ้าไม่บอกหรือว่า ต้องใช้เงินหรือของมาเป็นการขอบคุณ?” ฟู่เฉินอันพูดพร้อมรอยยิ้มที่หางตา
เสี่ยวอิงชุนรู้สึกเขินเล็กน้อย: ที่แท้เขาก็เข้าใจทุกอย่างตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว...
“ตกลง” เสี่ยวอิงชุนยิ้มแหะๆ แล้วตอบตกลงไป
ฟู่เฉินอันอารมณ์ดีขึ้นทันที
ตอนที่ฝ่าบาทพระราชทานหยกคู่นี้ พระองค์เคยบอกไว้ว่า: หากฟู่เฉินอันเจอหญิงสาวที่ถูกใจ หยกคู่นี้สามารถใช้เป็นของหมั้นหมายได้
เมื่อเจ้ายอมรับหยกของข้า เจ้าก็จะเป็นคนของข้า ห้ามไปดูร่างกายชายอื่นอีกแล้ว!
เสี่ยวอิงชุนไม่ได้รู้เรื่องนี้เลย เธอยังคงจมอยู่กับความสุขที่กำลังจะได้รับทองคำห้าร้อยตำลึงและหยกรูปมังกรคู่อีกชุด จนแม้กระทั่งตอนที่วัดอุณหภูมิและดูบาดแผลให้เขา เธอก็ยังมีอารมณ์ที่แจ่มใส
ต้องยอมรับว่าร่างกายของฟู่เฉินอันนั้นแข็งแรงมาก ทั้งๆ ที่เมื่อคืนยังบาดเจ็บสาหัสใกล้ตาย แต่ตอนนี้บาดแผลกลับสมานตัวอย่างรวดเร็ว
คิดว่าถ้าเปลี่ยนยาอีกครั้งแล้วใช้แผ่นปิดแผลแบบนั้นตรึงไว้สักระยะหนึ่ง ก็น่าจะหายดีได้
แต่หลังจากที่เสี่ยวอิงชุนเปลี่ยนยาให้เขาเรียบร้อย ฟู่เฉินอันก็ปฏิเสธที่จะใช้แผ่นปิดแผลอีก “สิ่งนี้จะให้คนอื่นเห็นไม่ได้”
“แต่แผลของคุณ...” เสี่ยวอิงชุนมองดูแผลที่ลึกจนเห็นกระดูกหลายแห่งของเขา
“ไม่เป็นไร ข้ากลับไปแล้ว จะมีคนคอยดูแลและพันแผลให้ข้าเอง”
ฟู่เฉินอันรู้จักนิสัยคนพวกนั้นดี
เสี่ยวอิงชุนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตกลง งั้นกินยาแก้อักเสบอีกครั้งแล้วกัน”
ยาพวกนี้ได้ผลเร็วกว่ายาจีนโบราณ
“ตกลง” ฟู่เฉินอันตอบรับอย่างเชื่อฟังอีกแล้ว
เสี่ยวอิงชุนมองเขาอย่างหงุดหงิด: ความเรียบร้อยว่าง่ายของหมอนี่ล้วนแกล้งทำทั้งนั้น
เขาจะยอมว่าง่ายก็ต่อเมื่อเขาเต็มใจเท่านั้น
ถ้าเขาไม่เต็มใจ เขาก็จะปฏิเสธทันที พร้อมกับคิดเหตุผลเต็มไปหมดเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองถูก…
สายตาของฟู่เฉินอันมองไปที่ชั้นวางของขบเคี้ยวและขนมต่างๆ
ตอนนี้เขาเคยชิมมาแล้ว รู้ว่าอันไหนอร่อยที่สุด นึกถึงรสชาติพวกนั้นก็ทำเอาน้ำลายสอ...
เสี่ยวอิงชุนเห็นทิศทางสายตาของเขาก็ปฏิเสธทันที “ช่วงนี้คุณกินของพวกนี้ไม่ได้ ห้ามแม้แต่จะคิดเลยนะ รอจนแผลหายแล้วค่อยมา อยากกินอะไรก็หยิบไปตามสบาย”
ฟู่เฉินอันถอนหายใจ “บาดแผลของข้า... ฝ่าบาทคงจะให้คนเฝ้าดูข้าอย่างใกล้ชิด ข้าอาจจะไม่ได้มาอีกหลายวัน”
เสี่ยวอิงชุนเหลือบมองรอยแผลเป็นบนตัวที่เปลือยเปล่าของเขาและพยักหน้าอย่างเงียบๆ: คงจะต้องมีคนคอยดูแลเขา ในเมื่อมีคนอยู่รอบตัวขนาดนั้น เขาคงไม่สะดวกจะมาที่นี่จริงๆ
“ไม่เป็นไร ยังไงฉันก็อยู่ที่นี่” เสี่ยวอิงชุนปลอบใจ “ฉันเปิดประตูนี้ไว้เสมอ คุณอยากมาเมื่อไรก็แวะมาได้เลย”
“ได้” ฟู่เฉินอันทำท่าเรียบร้อยขึ้นมาอีกแล้ว
เสี่ยวอิงชุนถึงกับหมดคำจะพูด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ฟู่เฉินอันชี้ไปที่ชุดเสื้อผ้าลายดอกไม้แนวฮาวายที่อยู่บนชั้นวางของ “เสื้อผ้าพวกนี้...ใส่กลับไปคงไม่เหมาะ...คุณมีชุดอื่นไหม?”
เสี่ยวอิงชุนมองดูเสื้อผ้าแนวชายหาดนั้น: ใช่ มันไม่เหมาะจริงๆ
เธอคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “คุณรอตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันออกไปซื้อให้”
เสื้อผ้าแนวคอสเพลย์น่าจะใช้ได้นะ? ต้องลองไปหาดูก่อนว่ามีหรือเปล่า
เสี่ยวอิงชุนค้นหาจากแผนที่
เธอเจอร้านขายเสื้อผ้าแนวคอสเพลย์ร้านหนึ่ง พอไปถึงก็พบว่ามีชุดสวยๆ เยอะแยะเลย แต่แพงมาก!
แต่ละชุดราคาเป็นพันเลยนะ!
บาดแผลของเขาจะต้องทำให้ชุดเปื้อนแน่นอน เสียดายแย่
สุดท้ายเสี่ยวอิงชุนเลือกชุดคนใช้สั้นๆ ราคาหนึ่งร้อยแปดสิบหยวน...
พอกลับถึงร้านก็เกือบเที่ยงแล้ว เสี่ยวอิงชุนให้ฟู่เฉินอันเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนตัวเองก็ไปทำอาหาร
มื้อเที่ยงเป็นมะเขือเทศผัดเนื้อวัวสับ ไม่ใส่กระเทียม ขิง หอม เพื่อให้ฟ฿เฉินอันใช้ช้อนคลุกกับข้าวกินได้ง่าย
หลังจากกินอิ่ม ฟู่เฉินอันก็กล่าวลาว่า “งั้นข้าขอตัวกลับก่อน...”
“อืม ไปเถอะ” เสี่ยวอิงชุนส่งเขาออกไป
ฟู่เฉินอันเดินช้าๆ ออกจากตรอก มองดูถนนใหญ่ที่เคยเป็นสมรภูมิเมื่อคืนนี้
ศพเมื่อคืนถูกเก็บกวาดไปหมดแล้ว รอยเลือดก็ถูกล้างจนหมด เหลือเพียงตามร่องหินที่ยังมีคราบเลือดดำอยู่ แต่ก็แห้งกรังไปแล้ว
ร้านค้าตามถนนสองข้างทางต่างมองผู้ชายที่ยืนอยู่กลางแดดอย่างประหลาดใจ: เขาไม่กลัวร้อนหรือไง?
แต่แล้วในวินาทีถัดมา ชายคนนั้นก็ล้มลงไปกับพื้น
เลือดค่อยๆ ซึมออกมา จนเสื้อผ้าเปียกโชกไปหมด
“รีบมาช่วยกันหน่อย! มีคนตายอีกแล้ว...”