บทที่ 312: ค่ำคืนมืดมิด (ตอนต้น)
[,แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ],
[,Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด,]
[,หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ,]
บทที่ 312: ค่ำคืนมืดมิด (ตอนต้น)
นิ้วมือที่กำรอบพวงมาลัยแน่นขึ้น ซุนเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากขับรถเข้าโรงรถอย่างมั่นคงแล้ว เขาก็ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบบุหรี่ออกมาอย่างเงียบ ๆ
เย่ฉีก็กอดหุ่นยนต์สุนัขลงจากรถเช่นกัน เมื่อเดินออกมาเห็นเขาหยิบบุหรี่ก็ขมวดคิ้วทันที
"สูบน้อยลงหน่อยก็ดีนะ สูบเยอะไม่ดีต่อสุขภาพ!"
"อืม!"
ซุนเฉิงตอบรับเบา ๆ เก็บบุหรี่ที่ยังไม่ได้แกะกลับเข้าไปในกระเป๋า แล้วหยิบหูฟังบลูทูธขึ้นมาสวม
เสี่ยวอู่ถือกำเนิดขึ้นจากการฉายรังสี 'ออลสปาร์ค' แม้ว่าซุนเฉิงจะลบความคิดของมันออกไปเพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้นในโลกความเป็นจริง แต่ด้วยวิวัฒนาการของโลกไซเบอร์ทรอนแล้ว มันก็มีความสามารถเหนือจินตนาการไปไกล
ถ้าจะใช้มันเป็นแค่โทรศัพท์มือถือ ก็คงเป็นการเสียของอย่างมหันต์
ซุนเฉิงรู้คุณค่าของมันดี ดังนั้นเขาจึงใช้เสี่ยวอู่เป็นผู้ช่วยส่วนตัวมาโดยตลอด และยังทำหน้าที่รับการติดต่อฉุกเฉินจาก 'เซฟการ์ด' และ 'รีเวนจ์' สองดีเซปติคอนอีกด้วย
ถ้าไม่มีอะไร เสี่ยวอู่คงไม่เตือนเขาด้วยวิธีที่ตกลงกันไว้ต่อหน้าคนอื่น
ดังนั้นคงเหลือเหตุผลเดียว คือมีการติดต่อฉุกเฉินจาก 'เซฟการ์ด' หรือ 'รีเวนจ์'
หลังจากที่ 'เซฟการ์ด' และ 'รีเวนจ์' ได้รับการปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อกลับไปยังจักรวาลทรานส์ฟอร์เมอร์ส ตอนนี้พวกมันก็มีทักษะการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา ดังนั้นหลังจากนำพวกมันกลับมายังโลกแห่งความจริงอีกครั้ง เซฟการ์ดก็ประจำการอยู่ที่ฐานที่หนึ่งแถวเทือกเขา ส่วนรีเวนจ์ก็คอยปกป้องบ้านของซุนเฉิง ซึ่งก็คืออพาร์ตเมนต์ที่เขาเคยเช่าไว้นั่นเอง
ไม่ว่าใครจะติดต่อเขามาตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังเจอปัญหาใหม่อีกแล้ว
ซุนเฉิงลงจากรถและล็อคประตู นิ้วของเขาแตะที่ด้านหลังของหูฟังบลูทูธที่เพิ่งสวม
ทันใดนั้น เสียงของเสี่ยวอู่ก็ดังขึ้นในหูของเขา
"นายท่าน ได้รับการติดต่อฉุกเฉินจาก 'รีเวนจ์' มีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้านของคุณ ต้องการให้มันกำจัดผู้บุกรุกหรือไม่?"
"ผู้บุกรุก?!"
ใบหน้าของซุนเฉิงกระตุกอย่างกะทันหัน เขาหันกลับไปอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เย่ฉีที่ยืนรออยู่ข้าง ๆ เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา
ตอนนี้เพิ่งบ่ายสามโมงเท่านั้น กลับมีคนกล้าบุกเข้าไปในบ้านของเขา มันเป็นขโมยหรือมีจุดประสงค์อื่นกันแน่?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซุนเฉิงก็ยังไม่รีบตอบ
อพาร์ตเมนต์ที่เช่าไว้แทบไม่เหลืออะไรแล้ว นอกจากเสื้อผ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านบางส่วน เขาเก็บของสำคัญหรือของที่ไม่ควรเปิดเผยทั้งหมดไว้ในมิติทรงกลม เพื่อที่จะหยิบใช้ได้ทุกเมื่อ
ดังนั้น แม้ว่าบ้านจะถูกขโมยจริง ๆ เขาก็แค่สูญเสียทรัพย์สินบางอย่างเท่านั้น
สิ่งที่เขาสนใจมากกว่าคือ คนที่กล้าบุกเข้าไปในบ้านของเขาตอนกลางวันแสก ๆ แบบนี้เป็นขโมยหรือมีจุดประสงค์อื่น
ซุนเฉิงไม่ลืมว่า สิบวันก่อน นอกจากเย่ฉีที่เดินทางมาหนานตูจากเซินเจิ้นพร้อมกับเขา ยังมีผู้หญิงที่ชื่อว่า 'เอด้า หว่อง' อีกด้วย
ผู้หญิงลึกลับคนนั้น หายตัวไปนานกว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว นับตั้งแต่คืนนั้นที่เขาจับการเคลื่อนไหวของเธอได้
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้เขาจะสั่งให้รีเวนจ์เจาะระบบควบคุมการจราจรของหนานตูและเมืองใกล้เคียง แต่ก็ไม่สามารถระบุตำแหน่งของเธอได้อีกจากกล้องวงจรปิดนับหมื่นตัว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซุนเฉิงก็ตัดสินใจได้ทันที
สีหน้าของเขากลับคืนสู่ความสงบอย่างรวดเร็ว เขาพาเย่ฉีออกจากโรงรถ ล็อคประตูโรงรถอีกครั้ง แล้วเดินไปที่ประตูใหญ่ของวิลล่า
"นี่... อาเฉิง วิลล่าใหญ่ขนาดนี้ มีคนให้เธอยืมจริง ๆ เหรอ?"
ซุนเฉิงไขกุญแจเปิดประตูวิลล่าแล้วเดินนำเข้าไป เย่ฉีกอดหุ่นยนต์สุนัขเดินตามเขาเข้าไปในวิลล่าด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความคาดหวังเล็กน้อย เธอมองไปที่ห้องโถงใหญ่ชั้นล่างและดวงตาก็เป็นประกาย
"อืม!"
ซุนเฉิงตอบรับ ปิดประตู แล้วเดินไปนั่งบนโซฟาหนังแท้ในห้องนั่งเล่นหลักที่ตกแต่งอย่างหรูหรา
"... ที่นี่นักลงทุนของผมให้ยืมผมชั่วคราว เพื่อความสะดวกในการบริหารบริษัท ผมมาที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว จริง ๆ ผมก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะจัดวิลล่าให้ผม คงเป็นเพราะสถานการณ์ของบริษัทช่วงนี้ทำให้นักลงทุนพอใจมั้ง!"
แม้ว่าเขตซีเซี่ยจะค่อนข้างห่างไกลจากตัวเมืองหนานตู แต่มันก็ยังอยู่ในเขตเมืองหลวงของประเทศ ราคาบ้านจึงไม่ต่ำแน่นอน
แต่บ้านที่ซุนเฉิงเลือกและซื้อได้ ก็ต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว
นี่คือวิลล่า 3 ชั้น พื้นที่กว่า 370 ตารางเมตร มีโรงรถสำหรับจอดรถสองคัน และยังมีห้องใต้หลังคาอิสระอีกสองห้อง ราคาเกือบ 45 ล้านหยวน สร้างโดยบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ
วิลล่าตั้งอยู่ในหมู่บ้านหรู มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดี และการคมนาคมก็สะดวกมาก
แน่นอนว่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ซุนเฉิงตัดสินใจซื้อ นอกจากวิลล่าที่ได้รับการตกแต่งอย่างพิถีพิถันจากผู้พัฒนา สามารถเข้าอยู่ได้ทันทีหลังจากชำระเงินแล้ว ยังมีเหตุผลอีกประการหนึ่งคือ ฝ่ายบริหารทรัพย์สินมักจะมองข้ามการปรับเปลี่ยนวิลล่าของผู้อยู่อาศัยเอง ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยว
นี่เป็นการอำนวยความสะดวกให้ซุนเฉิงอย่างมาก ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เขาใช้ความพยายามอย่างมากในการขนส่งหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมากกว่าสิบตัวจากฐานที่หนึ่งผ่านมิติทรงกลม และทำการปรับเปลี่ยนบางส่วนของวิลล่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิลล่าจะเป็นของเขาที่ซื้อมา แต่เขากับเย่ฉีก็พูดอีกอย่างหนึ่ง
ซุนเฉิงหลอกเด็กสาวคนนี้ว่า วิลล่านี้เป็นของนักลงทุนเบื้องหลังบริษัทของเขาให้เขายืมอยู่ เพื่อความสะดวกในการที่เขาซึ่งกำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัย จะได้บริหารบริษัทที่หนานตูได้อย่างสบายใจ
เห็นได้ชัดว่าคำอธิบายแบบนี้สมเหตุสมผลกว่าการบอกเธอตรง ๆ ว่าเขาซื้อมันมาเอง และยังช่วยประหยัดคำอธิบายอีกมากมาย
เมื่อเย่ฉีได้ยิน เธอก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจแทนเขา
เธอวางหุ่นยนต์สุนัขไว้บนพื้นห้องนั่งเล่น แล้วนั่งลงบนโซฟาหนังข้าง ๆ เขา แต่เพราะเป็นผู้หญิง เธอจึงสงบเสงี่ยมและรักษาท่าทางต่างจากเขาที่ดูผ่อนคลายกว่ามาก
"บริษัทของนายช่วงนี้เป็นที่จับตามองมากเลยนะ ฉันเห็นข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของนายเยอะแยะไปหมดเลยในอินเทอร์เน็ต วิลล่านี่เนื่องจากเป็นของที่คนอื่นให้นายยืม นายก็ต้องระวังอย่าให้มันสกปรกหรือรกนะ แล้วก็อย่าเพิ่งพอใจหรืออวดดีมากนักล่ะ ต้องบริหารบริษัทให้ดีก่อน..."
"รู้แล้วน่า!"
ซุนเฉิงโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ หยิบรีโมทบนโต๊ะกาแฟขึ้นมาเปิดเครื่องปรับอากาศส่วนกลางชั้นล่าง ทันใดนั้น ลมเย็น ๆ ที่มีความชื้นเล็กน้อยก็พัดมาจากทุกทิศทุกทาง
เขาโยนรีโมทไปบนโซฟาข้าง ๆ อย่างไม่ตั้งใจ แล้วพูดขึ้น
"พี่ วิลล่านี้มันใหญ่มาก ผมอยู่คนเดียวก็เปลืองเปล่า ๆ พี่มายกเลิกสัญญาเช่าที่เซินเจิ้นแล้วมาตั้งหลักที่หนานตูด้วยกันมั้ย!"