ตอนที่แล้วบทที่ 16 การเตรียมตัวเข้าป่า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 18 แกะที่หนาวตายกินได้ไหม?

บทที่ 17 จุดประสงค์ที่แท้จริง


“หลงเกอ ผมว่าใต้หิมะตรงนั้นน่าจะมีต้นไม้ล้มอยู่ เรามาเริ่มตัดกันตรงนี้เถอะ!” เถาต้าเฉียงหอบหายใจ มองไปรอบ ๆ แล้วชี้ไปที่ต้นไม้ล้มอยู่บนเนินเขาใกล้ๆ

“ไม่ล่ะ เดินต่อไปอีกหน่อย” หลี่หลงชี้ไปยังเนินดินที่อยู่ข้าง ๆ ถ้ำฤดูหนาว “ตรงนั้นตำแหน่งดีที่สุด”

“แต่ข้างหน้ามันไม่มีทางแล้วนะ ถ้าเดินต่อไป เกวียนม้าของเราคงขึ้นไปไม่ได้” เถาต้าเฉียงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย

“ดันไปเถอะ” หลี่หลงมองควันไฟที่พวยพุ่งออกมาจากถ้ำฤดูหนาว แล้วหัวเราะพูดว่า “แค่นี้ไม่ยากเกินความสามารถเราหรอก”

จากนั้นเขาก็ลากเกวียนอยู่ข้างหน้า เถาต้าเฉียงดันอยู่ข้างหลัง พยายามดันเกวียนขึ้นไปบนเนินชันเล็ก ๆ ด้านหน้า

“โอเค เอาตรงนี้แหละ” หลี่หลงมองดูสภาพภูมิประเทศรอบ ๆ แล้วคิดว่าตรงนี้ดี จากนั้นก็ชี้ไปที่ถ้ำฤดูหนาวแล้วพูดว่า

“ไปเถอะ พวกเราไปหาข้าวกลางวันกินก่อน แล้วค่อยเริ่มทำงาน”

“ไปกินข้าวกลางวันที่นั่นเหรอ?” เถาต้าเฉียงรู้สึกแปลกใจ “เขาจะให้เรากินเหรอ?”

“ไม่ต้องห่วง คนพวกนี้ใจดี” หลี่หลงชี้ไปที่ใบชาและเกลือที่นำติดมาบนเกวียนแล้วพูดว่า “พวกเราไม่ใช่แขกที่มาโดยไม่ได้รับเชิญนะ เรามีของติดมือมาด้วย”

ถ้ำฤดูหนาวเป็นสถานที่ที่ชาวปศุสัตว์ในภูเขาใช้เลี้ยงสัตว์และอาศัยอยู่ในฤดูหนาว ช่วงฤดูร้อนพวกเขาจะไปเลี้ยงสัตว์บนทุ่งหญ้าบนภูเขาที่สูงกว่า ที่นั่นเรียกว่าทุ่งหญ้าฤดูร้อน พอถึงฤดูหนาวก็จะย้ายมาอยู่ที่นี่ซึ่งอยู่ที่ระดับความสูงต่ำกว่า และเลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้าฤดูหนาว การย้ายถิ่นระหว่างทุ่งหญ้าสองแห่งนี้เรียกว่า “การเปลี่ยนที่เลี้ยงสัตว์”

คนที่เลี้ยงสัตว์อยู่บนภูเขาส่วนใหญ่เป็นชาวคาซัค พอเข้าสู่ศตวรรษใหม่ ทางการก็ได้จัดระเบียบพวกเขาให้ย้ายลงมาที่ตีนเขา จัดสรรที่ดินให้ เพื่อให้พวกเขาเปลี่ยนจากการเลี้ยงสัตว์แบบเร่ร่อนเป็นการเลี้ยงสัตว์แบบประจำถิ่น

ในหมู่บ้านที่หลี่หลงอาศัยก็มีการจัดสรรครอบครัวชาวคาซัคมาอยู่หลายครอบครัว ดังนั้นเขาจึงรู้สถานการณ์ที่นี่ดี

ชาวคาซัคนั้นใจดีมาก ตามธรรมเนียมแล้ว ถ้ามีคนแปลกหน้าไปถึงกระโจมของพวกเขา พวกเขามักจะหยิบนมเปรี้ยว แผ่นขนมปังนาน และชานมออกมาต้อนรับเสมอ

ถ้ำฤดูหนาวจริงๆแล้วคือการขุดภูเขาเข้าไปเป็นรูปสามเหลี่ยม โดยใช้ผนังภูเขาเป็นกำแพงด้านหลังและเสาไม้ค้ำยัน จากนั้นก็สร้างบ้านเป็นแถว ด้านในมีคอกสัตว์ที่อบอุ่นและที่อยู่ของคน ด้านนอกมักจะมีมูลวัวมูลแกะกองอยู่มากมาย

หลี่หลงยังวางแผนไว้ว่าพอถึงฤดูใบไม้ผลิจะมาที่นี่เพื่อขนมูลสัตว์ไป เพราะเขาจำได้ว่าตอนนั้นการจัดสรรที่ดินรอบแรกจะเริ่มขึ้น

ถึงแม้ว่าในตอนนั้นทุกคนจะได้แค่สองหมู่ต่อคน(ประมาณ 1.3 ไร่) แต่ก็เป็นที่ดินที่เป็นของตัวเองจริงๆ

เมื่อจัดเกวียนเรียบร้อย เขาก็นำม้าไปยังถ้ำฤดูหนาว ไม่นานนักก็มีสุนัขสองตัววิ่งกรูกันเข้ามาเห่าใส่หลี่หลง เถาต้าเฉียง และม้าไม่หยุด

ประตูถ้ำฤดูหนาวเปิดออก ชายวัยประมาณสามสิบปีคนหนึ่งเดินออกมา พอเห็นหลี่หลงกับพวกก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย

“สวัสดี พวกเรามาตัดฟืน เดินทางมาเหนื่อย ขอพักที่นี่สักหน่อยได้ไหม?” หลี่หลงพูดพลางยิ้ม

ชายคนนั้นมองสำรวจหลี่หลงและพวกอย่างระมัดระวัง ก่อนจะพยักหน้า ดุสุนัขทั้งสองตัวแล้วเดินออกมา ชี้ไปที่ตอไม้ที่ไม่ไกลจากถ้ำฤดูหนาว

หลี่หลงรู้ว่าเขาหมายความว่าให้ผูกม้าไว้ตรงนั้น จึงนำม้าไปผูกไว้ ชายคนนั้นดึงฟ่อนหญ้าจากกองฟางข้างถ้ำฤดูหนาวมาให้ ม้าที่หลี่หลงพามาก็ก้มหน้ากินทันที

หลี่หลงผูกม้าเสร็จก็เห็นว่าม้าของชาวบ้านสามตัวที่อยู่ไม่ไกลก็กำลังกินหญ้าเช่นกัน เขาจึงยิ้มออกมา

เป็นไปตามที่เขาเจอในชาติก่อน พวกเขาใจดีมากจริง ๆ

ชายคนนั้นพาหลี่หลงและพวกเข้าไปในถ้ำฤดูหนาว พอเข้าไปข้างในก็รู้สึกมืดลงทันที

พอปรับสายตาให้ชินกับแสงในนั้น หลี่หลงก็เห็นว่าถ้ำฤดูหนาวไม่ใหญ่มาก มีเตียงไม้ที่มีโต๊ะวางอยู่บนเตียงเล็ก ๆ เตาไฟขนาดเล็กถูกจุดไฟอยู่และมีน้ำชาเดือดอยู่บนเตา

ในห้องยังมีหญิงชรานั่งอยู่ข้างเตียงไม้ กำลังหมุนขนแกะเป็นเส้นด้าย หญิงวัยสามสิบกว่าคนหนึ่งซึ่งโพกผ้าคลุมศีรษะอยู่ก็กำลังมองพวกเขาด้วยท่าทางเขินอาย

บนเตียงไม้นั้นปูพรมไว้ เด็กสองคนกำลังเล่นก้อนหินรูปกระดูกแกะอยู่ พวกเขาก็จ้องมองพวกเขาเช่นกัน

หลี่หลงหยิบชาอิฐและเกลือในห่อออกมายื่นให้ชายกลางคนพลางพูดว่า

“นี่เป็นของฝากสำหรับพวกคุณครับ”

เถาต้าเฉียงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เพราะสองอย่างนี้รวมกันก็ตั้งหลายหยวน ข้าวกลางวันสามารถแก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ขนมตังกวยตั้งมากมาย นี่เป็นของที่มีโอกาสได้กินแค่ในช่วงปีใหม่เท่านั้น! อาหารกลางวันที่หรูหราแบบนี้ ทำไมต้องมาที่นี่ด้วย?

แต่ในเมื่อหลงเกอตัดสินใจไปแล้ว ก็คงมีเหตุผลของเขาแน่ ๆ

“...ขอบคุณ” ชายคนนั้นเห็นชาที่หลี่หลงยื่นให้ก็รู้สึกแปลกใจและตื่นเต้นเล็กน้อย

เขาหันไปมองผู้หญิง จากนั้นก็มองไปที่หญิงชรา ก่อนจะรับของมา

หญิงชรากับผู้หญิงต่างก็ยิ้มออกมา หลี่หลงมองออกว่าพวกเขาชอบของขวัญนี้จริง ๆ

ชายคนนั้นเชิญหลี่หลงและเถาต้าเฉียงขึ้นไปนั่งบนเตียงไม้ ให้พวกเขานั่งลึกเข้าไปข้างใน หญิงชรานำผ้าปูเตียงออกมาจากตู้แล้วเปิดออกบนโต๊ะเล็ก ที่ในนั้นมีแผ่นนานที่ถูกหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ หญิงสาวเริ่มเตรียมชานม ชายคนนั้นก็ออกไปข้างนอกสักพัก พอกลับมาก็ถือขาแกะแห้งตัวหนึ่งมาด้วย พร้อมกับส่งสัญญาณให้หลี่หลงกับพวกหั่นกิน แล้วเขาก็หยิบมีดเตรียมจะออกไป

“ไม่ ๆ ไม่ต้องลำบากขนาดนั้น พวกเราแค่แวะมากินอะไรนิดหน่อยเสร็จแล้วจะรีบไปตัดฟืนและรีบกลับ” หลี่หลงเห็นว่าครอบครัวนี้ดูเหมือนจะเตรียมการใหญ่ จึงรีบโบกมือ “ของแค่นี้ก็พอแล้วครับ”

ชายคนนั้นไม่ยอม แต่หลี่หลงรีบดึงตัวเขาไว้ เขาดูออกว่าถ้าไม่รั้งไว้ เขาคงจะออกไปฆ่าแกะตัวหนึ่งแน่ ๆ

นั่นมันมากเกินไปแล้ว

แม้ว่าตอนนี้แกะจะไม่ใช่ของมีค่ามากสำหรับชาวปศุสัตว์ แต่ปกติพวกเขาก็ไม่ค่อยกล้ากินเอง

หญิงชราเอ่ยอะไรบางอย่างเป็นภาษาคาซัคใส่ชายคนนั้น ชายคนนั้นพยายามจะดึงตัวหลุดออกจากมือของหลี่หลง หลี่หลงรีบมองไปรอบ ๆ ด้วยความตกใจ แล้วชี้ไปที่ของบางอย่างที่อยู่ข้างเตาไฟพลางพูดว่า

“ไม่ต้องฆ่าแกะ เอาอันนั้นให้ผมก็พอ!”

ชายคนนั้นมองของสิ่งนั้นด้วยความงุนงง

หลี่หลงเห็นท่าทางแบบนี้ก็รู้ว่ามีหวัง จึงยิ้มพลางพูดว่า

“ผมอยากได้อันนั้น...ของพวกนี้เอาไปขายได้เงินนะ”

เขาสังเกตเห็นว่านั่นคือเขากวาง

อีกหลายสิบปีต่อมา เขากวางแทบไม่มีค่าอะไรแล้ว เพราะในตอนนั้นมีการเพาะเลี้ยงกวางกันอย่างแพร่หลาย ราคากวางอ่อนก็ตกลงไปมาก ไม่ต้องพูดถึงเขากวางเลย

แต่ในตอนนี้ การเลี้ยงกวางยังเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก คนทั่วไปแทบไม่เคยเห็นมันเลย

เขากวางของกวางป่าในภูเขานั้นพอถึงจุดหนึ่งก็จะร่วงลงมา หากใครเก็บเขากวางได้ก็สามารถนำไปขายได้เงิน

“จริงเหรอ?” ชายคนนั้นถามอย่างสงสัย

“จริงสิ หนึ่งกิโลขายได้ตั้งหนึ่งหยวนเลยนะ” หลี่หลงพูดส่งเดช “ให้ผมแค่นั้นก็พอแล้ว”

เขากวางนั้นมีสามแฉก ดูท่าแล้วต้องหนักสองถึงสามกิโลกรัมแน่ ๆ ยังไงก็คงจะพอ

ชายคนนั้นถึงได้วางมีดลง แต่เขาก็คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เดินออกไปข้างนอกอีกครั้ง

ไม่นานนัก พอหญิงสาวคนหนึ่งเตรียมชานมเสร็จแล้วนำมาเสิร์ฟให้หลี่หลง ชายคนนั้นก็กลับเข้ามาอีกครั้ง ในมือของเขาถือเขากวางอีกหนึ่งอันมาด้วยและวางรวมกับอันเดิม

หลี่หลงเห็นว่ามันหักไปหนึ่งท่อน ดูแล้วไม่สวยเหมือนของเดิม และก็ไม่หนักเท่าอันเดิมด้วย

“นี่นาซันเก็บมาจากในป่า” ชายคนนั้นชี้ไปที่เด็กชายตัวเล็กบนเตียงแล้วพูดว่า

“เดิมทีเรากะจะใช้ทำฟืนเผาไฟแล้ว”

ใช้ทำฟืนเหรอ? เสียดายของจริงๆ!

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด