บทที่ 132 ดวงเนตรแห่งโนทอส
บทที่ 132 ดวงเนตรแห่งโนทอส
(ไม่ต้องสงสัยว่าพลังมาจากไหนนะครับ ดูดกลืนไป ใช้ได้หมดทุกอย่างที่เหล่าจ้าวใช้ได้)
ดวงตาของเธอเย็นชาเฉกเช่นดวงดาวในค่ำคืนอันเหน็บหนาว จ้องเขม็งไปยังร่างอัปลักษณ์ของแตงโมหัวกุ้งที่อยู่เบื้องหน้า
ช้าๆ...
เย่เหรินชักดาบโลหิตออกมา บรรยากาศรอบข้างพลันถูกปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความหวาดกลัวอันบริสุทธิ์ ความกลัวที่รุนแรงจนกลายเป็นหมอกสีแดงฉานที่แผ่กระจายไปทั่ว
ทุกอณูในอากาศราวกับถูกย้อมด้วยสีแห่งลางร้าย หมอกสีแดงเลือดคืบคลานเข้าปกคลุมทั่วทั้งบริเวณอย่างเงียบงัน
มันบิดเบือนทุกสิ่งรอบข้าง ทำให้โลกแห่งความเป็นจริงพร่าเลือน
"..."
สีหน้าตื่นเต้นดีใจของแตงโมหัวกุ้งแข็งค้างในพริบตา ถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวและสับสนที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
ดวงตาของกุ้งที่ควรจะเต็มไปด้วยประกายแห่งสัญชาตญาณดิบ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
นี่มันไม่ใช่พวกเดียวกันงั้นเหรอ?
ทำไมถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนเชือดเลย!
ร่างกายของมันเริ่มสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ ขาหนักอึ้งราวกับถูกพันธนาการ แม้จะอยากหลบหนี แต่มันก็ขยับไม่ได้แม้แต่น้อย
ความหวาดกลัว ความรู้สึกดั้งเดิมและบริสุทธิ์นี้ กำลังก่อตัวขึ้นอย่างบ้าคลั่งในใจของแตงโมหัวกุ้ง ราวกับคลื่นที่ถาโถมเข้ามาจนจมดิ่ง
"อ๊า...อ๊าาา..."
เสียงแหบพร่าและแตกเป็นเสี่ยงๆ ดังออกมาจากลำคอของมัน นั่นคือเสียงแห่งความสิ้นหวังและการอ้อนวอนที่มาจากส่วนลึกของจิตวิญญาณ แต่ในหมอกสีแดงนี้ มีเพียงเสียงสะท้อนที่ดังก้องอยู่ในห้องโถงอันว่างเปล่า
ร่างของเย่เหรินปรากฏเลือนรางในหมอกสีแดงฉาน ดาบโลหิตสะท้อนแสงวูบวาบน่าขนลุก ทุกครั้งที่เขาหายใจดูเหมือนจะทำให้บรรยากาศโดยรอบสั่นสะเทือน
"พร้อมที่จะตายหรือยัง?"
น้ำเสียงของเขาเย็นชา ในดวงตาเบิกกว้างของแตงโมหัวกุ้งที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว สะท้อนแสงสีเลือด
ในที่สุดแตงโมหัวกุ้งก็กรีดร้องด้วยความหวาดผวา มันร้องตะโกนว่า
"พลังแบบนี้? แกเป็นจ้าวแห่งห้วงลึกงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้! แกเป็นตัวอะไรกันแน่!?"
สิ่งที่ตอบมันคือดาบโลหิตของเย่เหริน
ร่างของเขาพุ่งวาบไปข้างหน้า รวดเร็วจนอากาศรอบข้างราวกับถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ เกิดเสียงดังเปรี๊ยะเบาๆ
ดาบโลหิตในมือของเขาวาดเป็นเส้นบางๆ พุ่งตรงไปยังแตงโมหัวกุ้ง พร้อมกับความคมกริบและความหนาวเหน็บแห่งความตาย
แตงโมหัวกุ้งไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย มันถูกพันธนาการด้วยความกลัวจนไม่สามารถแม้แต่จะหลบเลี่ยง
ดาบโลหิตฟาดฟัน อากาศรอบข้างราวกับถูกผ่าออกเป็นช่อง จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาจากแตงโมหัวกุ้งราวกับน้ำพุ ย้อมพื้นโดยรอบให้กลายเป็นสีแดงฉาน รวมถึงทัศนวิสัยของมันด้วย
"อ๊าาาาา!"
ในเสี้ยววินาทีนั้น เสียงกรีดร้องของแตงโมหัวกุ้งดังกึกก้องไปทั่วทั้งห้องโถงอันเงียบสงัด
ยวิ้หลิงหลงยืนดูอยู่ข้างๆ ใบหน้าสวยงามของเธอปรากฏแววประหลาดใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงอย่างสุดซึ้ง
เธออดไม่ได้ที่จะพึมพำออกมาว่า
"จากวิดีโอที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้ ความเร็วของมันถึงระดับความเร็วหลุดพ้นที่สอง ไม่มีใคร หรือแม้แต่อาวุธใดๆที่จะไล่ตามมันทัน..."
สายตาของยวิ้หลิงหลงมองไปมาระหว่างเย่เหรินและแตงโมหัวกุ้ง
ในขณะเดียวกัน สีหน้าของแตงโมหัวกุ้งก็ค่อยๆเปลี่ยนจากความหวาดกลัวในตอนแรก กลายเป็นความตื่นตระหนกและสิ้นหวังอย่างที่สุด
ดวงตาอันคล้ายดวงตาของกุ้งเบิกกว้าง ร่างกายกระตุกอย่างไม่เป็นจังหวะเพราะความเจ็บปวดแสนสาหัส
สัตว์ประหลาดที่ครั้งหนึ่งเคยทำให้ทั้งประเทศจีนต้องหวาดหวั่น ตอนนี้กลับดูอ่อนแอและไร้ทางสู้
เย่เหรินฟาดดาบต่อไป แต่กลับคว้าได้เพียงภาพลวงตา
ภายใต้เงาแห่งความตาย แตงโมหัวกุ้งพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความหวาดกลัวสุดขีด มันหลบคมดาบของเย่เหรินได้ด้วยความเร็วเหนือแสง
เร็วเกินไป...
ความเร็วเหนือแสงนั้น มันเร็วเกินไป...
มันหนีไปยังมุมหนึ่งของพระราชวัง กุมบาดแผลที่หน้าอกซึ่งยังคงมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด จ้องมองเย่เหรินด้วยความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้ง
ยวิ้หลิงหลงขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้
"ด้วยความเร็วขนาดนี้ มันคงไม่มีวันแพ้"
นี่คือเหตุผลที่แม้แต่ผู้ถือโคมระดับสูงของจีน ก็ไม่สามารถต่อกรกับแตงโมหัวกุ้งได้
เทพเจ้าแห่งความชั่วร้ายเคยกล่าวไว้ว่า
"ในใต้หล้านี้ไม่มีวิทยายุทธ์ใดที่แข็งแกร่งที่สุด มีเพียงความเร็วเท่านั้นที่ไร้เทียมทาน"
เมื่อความเร็วไปถึงขีดจำกัด มันก็แทบจะไร้เทียมทาน
"ความเร็วอย่างนั้นเหรอ?"
เย่เหรินหรี่ตาลง ดวงตาของเขาฉาบไปด้วยแสงสีทองท่ามกลางหมอกสีเลือด ราวกับดวงดาวที่สุกสกาวที่สุดในท้องฟ้ายามค่ำคืน ร่างกายของเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังที่ไม่อาจบรรยายได้
ท่ามกลางหมอกสีแดงเลือดนับไม่ถ้วน ดวงตาสีทองเริ่มเปล่งประกาย พวกมันราวกับเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า จ้องมองไปที่แตงโมหัวกุ้ง
ดวงตาสีทองเหล่านี้ก่อตัวเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของดวงตาแห่งรุ่งอรุณ -
ความเข้าใจและแสงแห่งรุ่งอรุณ
ร่างของเย่เหรินพร่าเลือนไปในแสงเจิดจ้า การดำรงอยู่ของเขาดูเหมือนจะทะลุขีดจำกัดของสสาร กลายเป็นสิ่งมีชีวิตในมิติที่สูงขึ้น
เมื่อเย่เหรินเรียกใช้อำนาจแห่งดวงตาแห่งรุ่งอรุณอย่างไม่รู้ตัว ร่างกายของเขาไม่ถูกจำกัดด้วยกฎทางฟิสิกส์อีกต่อไป กลายเป็นแสงที่เจิดจ้า!
ในขณะนี้ จิตสำนึกของเย่เหรินราวกับท่องไปทั่วทุกแห่งที่ถูกจับจ้องโดยดวงตาสีทองเหล่านั้น เขาตระหนักถึงอดีต ปัจจุบัน และแม้กระทั่งอนาคต
พลังแห่งการรู้แจ้งนี้ทำให้เขามองทะลุแตงโมหัวกุ้งได้อย่างสมบูรณ์แบบ
"ยังจะวิ่งอีกเหรอ?" เย่เหรินพึมพำด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ดวงตาสีทองนับไม่ถ้วนในหมอกสีแดงจับจ้องไปที่หัวแตงโมรูปร่างคล้ายกุ้งอย่างไม่ลดละ
ทุกที่ที่ดวงตาสีทองมองเห็น เย่เหรินสามารถกลายเป็นแสงสีทองได้
ความเร็วของเขานั้นน่าสะพรึงกลัว ถึงกับเข้าใกล้ความเร็วแสง!
แตงโมหัวกุ้งสั่นสะท้านไปทั้งตัว เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งดังก้องไปทั่วหมอกสีเลือด เสียงของมันเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและสิ้นหวัง
"นี่... นี่คือพลังของดวงตาแห่งรุ่งอรุณงั้นเหรอ?! เป็นไปไม่ได้! เป็นไปไม่ได้!"
จากเสียงกรีดร้องอันน่าเวทนาที่เกือบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ แสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวอย่างสุดซึ้งที่มันมีต่อดวงตาแห่งรุ่งอรุณ
ในขณะเดียวกัน เย่เหรินก็แปลกใจเล็กน้อย มันจำลักษณะของดวงตาแห่งรุ่งอรุณได้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะรู้...
แสงสว่างในดวงตาของแตงโมหัวกุ้งหรี่ลงในพริบตา ร่างกายของมันสั่นเล็กน้อย ความคิดของมันราวกับถูกปกคลุมด้วยเมฆดำก่อนพายุ
ต้องตายแน่...
ต้องตายแน่...
ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป ต้องตายแน่!
ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง แตงโมหัวกุ้งตัดสินใจแล้ว
หนี!
แม้ความสิ้นหวังจะก่อตัวขึ้นในใจ แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลาลังเล ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องลองสักครั้ง!
"โครม!"
ราวกับกระสุนที่ถูกยิงออกไป แตงโมหัวกุ้งพุ่งทะยานขึ้นสู่ผิวโลกด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
กระแสลมที่ถูกแหวกออกทิ้งรอยเส้นทางเลือนรางไว้เบื้องหลัง พายุทรายถูกกวาดขึ้นเป็นมังกรทรายที่ไล่ตามติดๆ
ความเร็วของมันนั้น เกือบจะทำให้สายตามนุษย์เกิดภาพบิดเบี้ยว
แต่เย่เหรินที่เผชิญหน้ากับความเร็วดังกล่าว กลับเพียงแสยะยิ้ม
ภายใต้แสงสีทองระยิบระยับจากดวงตาสีทองนับไม่ถ้วนในหมอกโลหิต เส้นทางการเคลื่อนที่ของแตงโมหัวกุ้งถูกจับตามองอย่างชัดเจน
เย่เหริน ไม่ได้รีบร้อน เขาเพียงยืนนิ่งๆจนกระทั่งแผ่นหลังของแตงโมหัวกุ้งเกือบจะหายลับไปในทะเลทราย
ณ ผิวทะเลทรายในเวลานั้น
หวังผิงอัน และผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆยังคงรอคอยข่าวดีจากเย่เหรินและยวิ้หลิงหลง
"ไม่รู้ว่าเย่เหรินจะจัดการเจ้าตัวปัญหาได้หรือเปล่านะ..."
"ถ้าพูดถึงตัวเขาเอง ยากจะบอก แต่เขาสามารถอัญเชิญจ้าวแห่งความฝันได้ เพราะงั้นน่าจะไม่มีปัญหาแหละ"
"พวกนายรู้สึกว่าพื้นมันสั่นไหม?"
ทันใดนั้น พื้นดินก็ระเบิดออก แตงโมหัวกุ้งพุ่งผ่านพวกเขาไปราวกับภาพติดตา
เหล่าผู้ยิ่งใหญ่ตกตะลึง
"บ้าเอ๊ย เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"
"มัน... ดูเหมือนกำลังหนีตาย..."
"โอ้โห! หรือว่าจ้าวแห่งความฝันจะปรากฏตัวแล้ว?"