ตอนที่แล้วบทที่ 127 เคียวคลั่ง : ข้าขอสารภาพว่าหัวเราะดังไปหน่อยเมื่อครู่
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 129 อเมริกาตะลึง

บทที่ 128 เคียวคลั่ง: ข้าเลิกเล่นดีกว่า


บทที่ 128 เคียวคลั่ง: ข้าเลิกเล่นดีกว่า

ในวินาทีนั้น ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่น

เงาของเคียวคลั่งดูเล็กจ้อยและไร้เรี่ยวแรง

มันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองดาวสีดำที่ใหญ่กว่าตัวเองนับไม่ถ้วน ดวงตาของมันเผยให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความเปราะบางที่ไม่เคยมีมาก่อน

เศร้า หงอย

มีคนโกงเกมส์ ช่วยด้วย ไปตามจ้าวแห่งห้วงลึกมาช่วย ไม่งั้นข้าขอเลิกเล่นดีกว่า

ไม่ใช่แค่ฝั่งเย่เหรินเท่านั้น

ความวุ่นวายทั้งหมดบนเกาะก็เงียบลงในทันที

ดาวสีดำบนท้องฟ้าราวกับดวงตาขนาดยักษ์ที่ลืมขึ้น จ้องมองทุกสิ่งเบื้องล่างอย่างเย็นชา สิ่งที่มันเห็นมีเพียงความมืดมิดและหมอกแห่งความฝัน

ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่พลุกพล่านหรือหมู่บ้านที่เงียบสงบ ถนนทุกสายของเกาะญี่ปุ่น

ในวินาทีนี้ ชาวญี่ปุ่นทุกคนหยุดกิจกรรมทั้งหมด ราวกับถูกพันธนาการวิญญาณด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น บนใบหน้ามีเพียงความสับสนและความหวาดกลัวที่ไม่อาจควบคุมได้

บางคนที่สมองไม่ค่อยดีถึงกับพยายามเงยหน้ามองร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันโดยตรง!

แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคืออะไร?

ในวินาทีที่สายตาของพวกเขาสัมผัสกับร่างเงา ร่างกายของพวกเขาก็แข็งทื่อ

ดวงตาของพวกเขาสูญเสียประกายแสง จากนั้นก็ล้มลงอย่างช้าๆ จมดิ่งสู่ความฝันที่ไม่มีวันตื่น

อย่างที่ทุกคนรู้กัน จ้าวแห่งห้วงลึกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจมองตรงๆได้!

ท่ามกลางความเงียบสงัดที่น่าขนลุก ชายชราและกองทัพข้างกายเขากลายเป็นภาพที่โดดเด่นที่สุด

ชายชรา "ไม่ไหว..ไม่ไหวแล้ว..."

ในตอนนี้ ชายชราดูเหมือนถูกดึงกระดูกสันหลังออกไป ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ความสับสน และความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง

ไม้เท้าของเขาหล่นลงอย่างอ่อนแรง ร่างกายของเขาโค้งงอและสั่นเทาด้วยความตกใจอย่างรุนแรง เพราะเขาได้เห็นความเชื่อของตัวเองพังทลายลงต่อหน้าต่อตา

ชายชราคนนี้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตคิดจะปลดผนึกเคียวคลั่งเพื่อโจมตีประเทศมังกร

ตั้งแต่อายุ 21 ปี ทุกวันเขาฝันถึงการปลดผนึกเคียวคลั่ง แล้วเป็นทาสของเคียวคลั่ง ล้างผลาญคนทั้งโลกให้หนำใจ!

แต่ใครจะไปคิด...

เย่เหรินเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาจากโลกชั้นในต่อหน้าเคียวคลั่งตัวจริง!

ไม่ใช่แล้ว...

แกมาโกงเกมส์กันโต้งๆแบบนี้...

พวกเราคนธรรมดาจะเล่นอะไรได้อีก...

หลังจากร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันปรากฏขึ้น ทหารทุกคนก็สูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้ในทันที

อาวุธหลุดจากมือของพวกเขา ตกลงบนพื้นเย็นเยียบ ส่งเสียงกระทบกันดังก้องกังวานไปทั่วอากาศที่เงียบสงัด

ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น กอดศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง ตัวสั่นเทา พวกเขาร้องไห้โดยไม่มีเสียง

นั่นคือจ้าวแห่งห้วงลึกนะ!

จะต่อต้านได้ยังไง?

เอาหัวไปต่อต้านเหรอ!

ชายชราลดศีรษะลง เสียงหัวเราะแห้งๆหลุดออกมาจากลำคอ ดวงตาของเขาว่างเปล่า

เสียงพึมพำดังขึ้นท่ามกลางความเงียบกดดันที่แผ่คลุมไปทั่ว

"ฮ่าฮ่าฮ่า...พวกประเทศมังกร... ประเทศมังกรสามารถเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาได้แล้ว... ฮ่าฮ่าฮ่า..."

เสียงหัวเราะดังขึ้น ร่างของเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับจะแตกสลาย

เขาไม่แม้แต่จะพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพียงทรุดตัวลงกับพื้น มองดูโลกที่เขาเคยรู้จักพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เพราะการปรากฏตัวของจ้าวแห่งความฝัน

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขาถอดใจจากชีวิตจริงแล้วจริงๆ

และไอ้เจ้าเคียวคลั่ง ที่เมื่อครู่ยังบ้าคลั่งอยู่แท้ๆ

ตอนนี้ตัวหดเหลือเท่ากุ้งแห้ง ไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

ร่างกายสูงใหญ่หลายสิบเมตร กลับดูเล็กกระจิดริดและน่าขัน เมื่อเทียบกับดาวสีดำขนาดมหึมาที่ใหญ่กว่าเกาะทั้งเกาะ

เคียวคลั่งสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว เหมือนกิ่งไม้แห้งที่กำลังจะหักโค่นลงท่ามกลางลมพายุ

มันรู้สึกอยากร้องไห้... อึดอัด... และเจ็บปวด...

ต่อหน้าจ้าวแห่งห้วงลึก มันเป็นเพียงแค่ผงธุลี

เคียวคลั่ง "ข้ายอมรับว่าเมื่อครู่ข้าหัวเราะเสียงดังไปหน่อย..."

แต่ข้าถูกผนึกมากว่าร้อยปี!

ในที่สุดก็เป็นอิสระ ข้ายังหัวเราะไม่ได้หรือไง?

เคียวคลั่งครุ่นคิดอย่างสับสน จะทำอย่างไรถึงจะรอดชีวิตได้ ขอความเมตตาจากจ้าวแห่งความฝันงั้นหรือ?

หรือว่า...

ในขณะเดียวกัน เย่เหริน เผชิญหน้ากับร่างเงาของจ้าวแห่งความฝัน ที่ทรงพลังพอจะทำให้โลกสั่นสะเทือน

เขายิ้ม ยกมือขึ้นเล็กน้อย

"สหาย! ฉันรบกวนนายอีกแล้ว!"

ร่างมหึมาของจ้าวแห่งความฝันที่พันธนาการด้วยโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกขยับเล็กน้อย ปล่อยคลื่นพลังจิตออกมาอย่างแผ่วเบา

"เอาจริงๆ... ข้าชินแล้วที่เจ้าเรียกข้าออกมาบ่อยๆ..."

ใครจะเข้าใจบ้าง?

เดิมทีเหมือนนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ เย่เหริน ก็คอยพาออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์เป็นครั้งคราว

โอ้~ มันรู้สึกดีจริงๆ~

ถ้ามีมือ จ้าวแห่งความฝันคงยกสองมือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ "เยี่ยม" ให้เย่เหรินแล้ว

เคียวคลั่ง "(ΩДΩ)..."

เคียวคลั่งจ้องมองเย่เหรินที่กำลังทักทายเจ้าแห่งความฝันด้วยสายตาว่างเปล่า สมองแทบจะหยุดทำงาน

เล่นแบบนี้ก็ได้เหรอ?

เจ้าสามารถเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาก็มากเกินพอแล้ว!

ยังคุยกับเขาได้อีก?

นั่นคือจ้าวแห่งห้วงลึกนะ!

จากนั้น จ้าวแห่งความฝันก็ลอยเคว้งอยู่ใต้รอยแยกบนท้องฟ้า ดาวสีดำมืดมิดส่องประกายระยิบระยับบนพื้นผิว เขาถามเย่เหรินว่า

"อืม... แล้วคราวนี้เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรอีกล่ะ?"

สำหรับจ้าวแห่งความฝัน การทำลายประเทศมนุษย์ก็เหมือนกับการยืนฉี่ใส่จอมปลวกข้างทาง

โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ อย่างเกาะแห่งนี้ ไม่กี่นาทีก็สามารถทำให้เกาะทั้งเกาะจมลงได้

แต่พี่เย่ของเราน่ะ เป็นคนดีที่หาตัวจับยากในโลกใบนี้!

คนที่ทำให้ชีวิตคนอื่นเน่าเฟะก็คือสามตระกูลใหญ่กับรัฐบาลที่ถูกลัทธิคลั่งแฝงตัวเข้าไป มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประชาชนที่ถูกชี้นำ พวกเขาไม่รู้อะไรมากนักหรอก...

เย่เหรินจึงชี้นิ้วไปที่ร่างจริงของเคียวคลั่งที่กำลังตัวสั่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

"จัดการมันซะ"

เคียวคลั่ง "เวรเอ๊ย..."

คำพูดจบลง โลกทั้งใบก็เหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ

จากนั้น เคียวคลั่งก็ออกจากเกมไป

ไม่มีแสงสีวิบวับ ไม่มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่เย่เหรินก็ยังมองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น

เพียงแต่ร่างกายใหญ่โตของเคียวคลั่งได้แตกสลายเหมือนกระจกในพริบตา กลายเป็นละอองแสงสีม่วงพร่ามัว แล้วจางหายไป

เหลือเพียงร่องรอยสีม่วงจางๆ ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ สุดท้ายก็ถูกสายลมพัดหายไป

จ้าวแห่งความฝันเป็นคนลงมือเอง คงเรียกได้ว่าสะอาดหมดจด

จ้าวแห่งความฝัน "(p≧w≦q) เรียบร้อย~"

ในวินาทีนี้ โลกทั้งใบตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง ทุกคนเหมือนถูกฉากที่น่าตกตะลึงนี้พรากลมหายใจไป

ชายชรา ชิมาดะ โนบุทาดะ และคนญี่ปุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด "..."

พวกเขาต่างตกอยู่ในความเงียบ อารมณ์แข็งค้าง สมองสั่นระริก

เพราะในความคิดของพวกเขา ร่างจริงของเคียวคลั่งเคยเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัว เคยเกือบทำลายประเทศญี่ปุ่น ความแข็งแกร่งของมันเกินกว่าจะจินตนาการ เป็นความน่ากลัวที่ยากจะอธิบาย!

แต่ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตเช่นนี้ กลับ...

ถูกลบหายไปอย่างง่ายดายด้วยคำพูดของเย่เหริน เหมือนปัดฝุ่นผงออกไป ความแตกต่างที่เกิดขึ้นนี้ทำให้จิตใจของคนญี่ปุ่นได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างมาก

ชิมาดะ โนบุทาดะรู้สึกซับซ้อนเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความโล่งใจและความไม่อยากจะเชื่อ

หลายร้อยปีมาแล้ว เขาแบกรับภาระหนักในการผนึกเคียวคลั่ง ภาระนี้แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา

ตอนนี้ การหายไปของเคียวคลั่ง หมายความว่าในที่สุดเขาก็ปลดเปลื้องภาระนี้ได้

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ตระหนักว่าพลังที่เขาเคยภาคภูมิใจนั้น ช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกินเมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด