บทที่ 128 เคียวคลั่ง: ข้าเลิกเล่นดีกว่า
บทที่ 128 เคียวคลั่ง: ข้าเลิกเล่นดีกว่า
ในวินาทีนั้น ความเงียบสงัดปกคลุมทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่น
เงาของเคียวคลั่งดูเล็กจ้อยและไร้เรี่ยวแรง
มันไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองดาวสีดำที่ใหญ่กว่าตัวเองนับไม่ถ้วน ดวงตาของมันเผยให้เห็นถึงความสิ้นหวังและความเปราะบางที่ไม่เคยมีมาก่อน
เศร้า หงอย
มีคนโกงเกมส์ ช่วยด้วย ไปตามจ้าวแห่งห้วงลึกมาช่วย ไม่งั้นข้าขอเลิกเล่นดีกว่า
ไม่ใช่แค่ฝั่งเย่เหรินเท่านั้น
ความวุ่นวายทั้งหมดบนเกาะก็เงียบลงในทันที
ดาวสีดำบนท้องฟ้าราวกับดวงตาขนาดยักษ์ที่ลืมขึ้น จ้องมองทุกสิ่งเบื้องล่างอย่างเย็นชา สิ่งที่มันเห็นมีเพียงความมืดมิดและหมอกแห่งความฝัน
ไม่ว่าจะเป็นเมืองที่พลุกพล่านหรือหมู่บ้านที่เงียบสงบ ถนนทุกสายของเกาะญี่ปุ่น
ในวินาทีนี้ ชาวญี่ปุ่นทุกคนหยุดกิจกรรมทั้งหมด ราวกับถูกพันธนาการวิญญาณด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น บนใบหน้ามีเพียงความสับสนและความหวาดกลัวที่ไม่อาจควบคุมได้
บางคนที่สมองไม่ค่อยดีถึงกับพยายามเงยหน้ามองร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันโดยตรง!
แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับคืออะไร?
ในวินาทีที่สายตาของพวกเขาสัมผัสกับร่างเงา ร่างกายของพวกเขาก็แข็งทื่อ
ดวงตาของพวกเขาสูญเสียประกายแสง จากนั้นก็ล้มลงอย่างช้าๆ จมดิ่งสู่ความฝันที่ไม่มีวันตื่น
อย่างที่ทุกคนรู้กัน จ้าวแห่งห้วงลึกเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่อาจมองตรงๆได้!
ท่ามกลางความเงียบสงัดที่น่าขนลุก ชายชราและกองทัพข้างกายเขากลายเป็นภาพที่โดดเด่นที่สุด
ชายชรา "ไม่ไหว..ไม่ไหวแล้ว..."
ในตอนนี้ ชายชราดูเหมือนถูกดึงกระดูกสันหลังออกไป ใบหน้าซีดเผือด ดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ความสับสน และความสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง
ไม้เท้าของเขาหล่นลงอย่างอ่อนแรง ร่างกายของเขาโค้งงอและสั่นเทาด้วยความตกใจอย่างรุนแรง เพราะเขาได้เห็นความเชื่อของตัวเองพังทลายลงต่อหน้าต่อตา
ชายชราคนนี้ใช้ชีวิตทั้งชีวิตคิดจะปลดผนึกเคียวคลั่งเพื่อโจมตีประเทศมังกร
ตั้งแต่อายุ 21 ปี ทุกวันเขาฝันถึงการปลดผนึกเคียวคลั่ง แล้วเป็นทาสของเคียวคลั่ง ล้างผลาญคนทั้งโลกให้หนำใจ!
แต่ใครจะไปคิด...
เย่เหรินเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาจากโลกชั้นในต่อหน้าเคียวคลั่งตัวจริง!
ไม่ใช่แล้ว...
แกมาโกงเกมส์กันโต้งๆแบบนี้...
พวกเราคนธรรมดาจะเล่นอะไรได้อีก...
หลังจากร่างเงาของจ้าวแห่งความฝันปรากฏขึ้น ทหารทุกคนก็สูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้ในทันที
อาวุธหลุดจากมือของพวกเขา ตกลงบนพื้นเย็นเยียบ ส่งเสียงกระทบกันดังก้องกังวานไปทั่วอากาศที่เงียบสงัด
ทุกคนคุกเข่าลงกับพื้น กอดศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง ตัวสั่นเทา พวกเขาร้องไห้โดยไม่มีเสียง
นั่นคือจ้าวแห่งห้วงลึกนะ!
จะต่อต้านได้ยังไง?
เอาหัวไปต่อต้านเหรอ!
ชายชราลดศีรษะลง เสียงหัวเราะแห้งๆหลุดออกมาจากลำคอ ดวงตาของเขาว่างเปล่า
เสียงพึมพำดังขึ้นท่ามกลางความเงียบกดดันที่แผ่คลุมไปทั่ว
"ฮ่าฮ่าฮ่า...พวกประเทศมังกร... ประเทศมังกรสามารถเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาได้แล้ว... ฮ่าฮ่าฮ่า..."
เสียงหัวเราะดังขึ้น ร่างของเขาก็สั่นสะท้าน ราวกับจะแตกสลาย
เขาไม่แม้แต่จะพยายามลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพียงทรุดตัวลงกับพื้น มองดูโลกที่เขาเคยรู้จักพังทลายลงต่อหน้าต่อตา เพราะการปรากฏตัวของจ้าวแห่งความฝัน
ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขาถอดใจจากชีวิตจริงแล้วจริงๆ
และไอ้เจ้าเคียวคลั่ง ที่เมื่อครู่ยังบ้าคลั่งอยู่แท้ๆ
ตอนนี้ตัวหดเหลือเท่ากุ้งแห้ง ไม่กล้าขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย
ร่างกายสูงใหญ่หลายสิบเมตร กลับดูเล็กกระจิดริดและน่าขัน เมื่อเทียบกับดาวสีดำขนาดมหึมาที่ใหญ่กว่าเกาะทั้งเกาะ
เคียวคลั่งสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว เหมือนกิ่งไม้แห้งที่กำลังจะหักโค่นลงท่ามกลางลมพายุ
มันรู้สึกอยากร้องไห้... อึดอัด... และเจ็บปวด...
ต่อหน้าจ้าวแห่งห้วงลึก มันเป็นเพียงแค่ผงธุลี
เคียวคลั่ง "ข้ายอมรับว่าเมื่อครู่ข้าหัวเราะเสียงดังไปหน่อย..."
แต่ข้าถูกผนึกมากว่าร้อยปี!
ในที่สุดก็เป็นอิสระ ข้ายังหัวเราะไม่ได้หรือไง?
เคียวคลั่งครุ่นคิดอย่างสับสน จะทำอย่างไรถึงจะรอดชีวิตได้ ขอความเมตตาจากจ้าวแห่งความฝันงั้นหรือ?
หรือว่า...
ในขณะเดียวกัน เย่เหริน เผชิญหน้ากับร่างเงาของจ้าวแห่งความฝัน ที่ทรงพลังพอจะทำให้โลกสั่นสะเทือน
เขายิ้ม ยกมือขึ้นเล็กน้อย
"สหาย! ฉันรบกวนนายอีกแล้ว!"
ร่างมหึมาของจ้าวแห่งความฝันที่พันธนาการด้วยโซ่ตรวนแห่งห้วงลึกขยับเล็กน้อย ปล่อยคลื่นพลังจิตออกมาอย่างแผ่วเบา
"เอาจริงๆ... ข้าชินแล้วที่เจ้าเรียกข้าออกมาบ่อยๆ..."
ใครจะเข้าใจบ้าง?
เดิมทีเหมือนนักโทษที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต แต่ตอนนี้ เย่เหริน ก็คอยพาออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์เป็นครั้งคราว
โอ้~ มันรู้สึกดีจริงๆ~
ถ้ามีมือ จ้าวแห่งความฝันคงยกสองมือขึ้นเป็นสัญลักษณ์ "เยี่ยม" ให้เย่เหรินแล้ว
เคียวคลั่ง "(ΩДΩ)..."
เคียวคลั่งจ้องมองเย่เหรินที่กำลังทักทายเจ้าแห่งความฝันด้วยสายตาว่างเปล่า สมองแทบจะหยุดทำงาน
เล่นแบบนี้ก็ได้เหรอ?
เจ้าสามารถเรียกจ้าวแห่งห้วงลึกออกมาก็มากเกินพอแล้ว!
ยังคุยกับเขาได้อีก?
นั่นคือจ้าวแห่งห้วงลึกนะ!
จากนั้น จ้าวแห่งความฝันก็ลอยเคว้งอยู่ใต้รอยแยกบนท้องฟ้า ดาวสีดำมืดมิดส่องประกายระยิบระยับบนพื้นผิว เขาถามเย่เหรินว่า
"อืม... แล้วคราวนี้เจ้าต้องการให้ข้าช่วยอะไรอีกล่ะ?"
สำหรับจ้าวแห่งความฝัน การทำลายประเทศมนุษย์ก็เหมือนกับการยืนฉี่ใส่จอมปลวกข้างทาง
โดยเฉพาะประเทศเล็กๆ อย่างเกาะแห่งนี้ ไม่กี่นาทีก็สามารถทำให้เกาะทั้งเกาะจมลงได้
แต่พี่เย่ของเราน่ะ เป็นคนดีที่หาตัวจับยากในโลกใบนี้!
คนที่ทำให้ชีวิตคนอื่นเน่าเฟะก็คือสามตระกูลใหญ่กับรัฐบาลที่ถูกลัทธิคลั่งแฝงตัวเข้าไป มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประชาชนที่ถูกชี้นำ พวกเขาไม่รู้อะไรมากนักหรอก...
เย่เหรินจึงชี้นิ้วไปที่ร่างจริงของเคียวคลั่งที่กำลังตัวสั่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
"จัดการมันซะ"
เคียวคลั่ง "เวรเอ๊ย..."
คำพูดจบลง โลกทั้งใบก็เหมือนหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
จากนั้น เคียวคลั่งก็ออกจากเกมไป
ไม่มีแสงสีวิบวับ ไม่มีเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แม้แต่เย่เหรินก็ยังมองไม่ทันว่าเกิดอะไรขึ้น
เพียงแต่ร่างกายใหญ่โตของเคียวคลั่งได้แตกสลายเหมือนกระจกในพริบตา กลายเป็นละอองแสงสีม่วงพร่ามัว แล้วจางหายไป
เหลือเพียงร่องรอยสีม่วงจางๆ ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ สุดท้ายก็ถูกสายลมพัดหายไป
จ้าวแห่งความฝันเป็นคนลงมือเอง คงเรียกได้ว่าสะอาดหมดจด
จ้าวแห่งความฝัน "(p≧w≦q) เรียบร้อย~"
ในวินาทีนี้ โลกทั้งใบตกอยู่ในความเงียบสงัดอีกครั้ง ทุกคนเหมือนถูกฉากที่น่าตกตะลึงนี้พรากลมหายใจไป
ชายชรา ชิมาดะ โนบุทาดะ และคนญี่ปุ่นที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด "..."
พวกเขาต่างตกอยู่ในความเงียบ อารมณ์แข็งค้าง สมองสั่นระริก
เพราะในความคิดของพวกเขา ร่างจริงของเคียวคลั่งเคยเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัว เคยเกือบทำลายประเทศญี่ปุ่น ความแข็งแกร่งของมันเกินกว่าจะจินตนาการ เป็นความน่ากลัวที่ยากจะอธิบาย!
แต่ตอนนี้ สิ่งมีชีวิตเช่นนี้ กลับ...
ถูกลบหายไปอย่างง่ายดายด้วยคำพูดของเย่เหริน เหมือนปัดฝุ่นผงออกไป ความแตกต่างที่เกิดขึ้นนี้ทำให้จิตใจของคนญี่ปุ่นได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างมาก
ชิมาดะ โนบุทาดะรู้สึกซับซ้อนเป็นพิเศษ ดวงตาของเขาเปล่งประกายแห่งความโล่งใจและความไม่อยากจะเชื่อ
หลายร้อยปีมาแล้ว เขาแบกรับภาระหนักในการผนึกเคียวคลั่ง ภาระนี้แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขา
ตอนนี้ การหายไปของเคียวคลั่ง หมายความว่าในที่สุดเขาก็ปลดเปลื้องภาระนี้ได้
แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ตระหนักว่าพลังที่เขาเคยภาคภูมิใจนั้น ช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกินเมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง