ตอนที่ 6 ช่วยเป็นอาหารให้ต้าหวงที
ตอนที่ 6 ช่วยเป็นอาหารให้ต้าหวงที
สิบวันต่อมา เส้นลวดโลหิตก็สามารถหลุดออกจากรังไหมได้สำเร็จ
ฉู่เสวียนสังเกตดูอย่างระมัดระวัง
เขายังสังเกตเห็นว่าหลังจากที่เส้นลวดโลหิตออกมาจากรังไหมในครั้งนี้มันยังมีขนาดใหญ่ขึ้น และผิวหนังชั้นนอกของมันก็ยังแข็งขึ้นอีกด้วย
เขาจึงได้หยิบแท่งเหล็กออกมา แล้วฟาดเส้นเลือดโลหิตลงไปเพียงครั้งเดียว ทว่าเส้นเลือดโลหิตกลับตัดแท่งเหล็กจนขาดออกเป็นสองท่อนอย่างง่ายดาย
ฉู่เสวียนพยักหน้าด้วยความชื่นชมในสายตา
“ให้ข้าดูหน่อยสิว่าเจ้ามีวิชาอาคมพรสวรรค์อะไรบ้าง”
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็ปล่อยปล่อยเส้นลวดโลหิตออกไปเพื่อให้มันใช้วิชาออกมาให้เขาดู
เส้นลวดโลหิตจึงได้พุ่งออกไปราวกับเชือกที่แข็งที่สุดในโลก เข้ามัดตัวเสี่ยวหู่ไว้อย่างแน่นหนาในทันที
เสี่ยวหู่คำรามออกมาด้วยความตกใจและความโกรธ
มันได้ระเบิดพละกำลังมหาศาล และพยายามดิ้นรนเพื่อหลุดพ้น
ทว่ายิ่งดิ้นเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้
ไม่เพียงเท่านั้น เส้นลวดโลหิตที่พันทั้งมือและเท้าของมันก็ยังรัดแน่นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ความยินดีฉายแวบขึ้นมาภายใต้ดวงตาของฉู่เสวียน
“เทคนิคโลหิตผูกมัด!”
ดังที่ชื่อแสดงไว้เทคนิคโลหิตผูกมัดเป็นวิชาอาคมประเภทหนึ่งที่ใช้ในการผูกมันศัตรู
มันเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาอาคมสวรรค์ที่สามารถใช้ได้ทันทีที่เส้นลวดโลหิตออกมาจากรังไหม
เส้นลวดโลหิตที่เขามีตอนนี้ไม่ใช่แมลงกู่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแกร่งและการสังหารอีกต่อไป เพราะตอนนี้มันเก่งในการป้องกันมากกว่า
ฉู่เสวียนไม่คาดคิดว่ามันจะได้วิชานี้ติดตัวมาจริงๆ
ตอนนี้หลังจากที่มันสร้างรังไหมผ่านไปหนึ่งรอบ เขาก็เข้าใจเทคนิคโลหิตผูกมัดขึ้นมาแล้ว เห็นได้ชัดว่าทักษะนี้ไม่จำเป็นจะต้องสั่งการอะไรมันมาก
“เอาล่ะ กลับคืนมาได้แล้ว” ฉู่เสวียนยิ้ม
เส้นลวดโลหิตกระพริบและกลับคืนสู่ฝ่ามือของเขาอีกครั้ง
เสี่ยวหู่คร่ำครวญออกมาสองสามครั้งด้วยความอิจฉา และรีบหลบออกไปให้ไกล
เพราะมันกลัวจะถูกเส้นลวดโลหิตพุ่งเข้ามารัดตัวของมันอีกครั้ง
ฉู่เสวียนเอ่มือลูบหัวเล็กๆของเส้นลวดโลหิตด้วยความชื่นชม และรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ลองนับดูสิ นับตั้งแต่ที่ข้ามายังดาวเคราะห์โลกาวินาศดวงนี้ มันก็เกือบจะสองเดือนแล้ว”
“วัตถุดิบในการกลั่นศพที่นำติดตัวมาด้วยก็หมดไปแล้ว ดังนั้นข้าจึงต้องกลับไปที่ทวีปชางเสวียนอีกครั้งเพื่อเอามันมา”
ฉู่เสวียนคิดอย่างรอบคอบ
“คงจะดีที่ถ้าหากข้าได้กลั่นศพหยินเพิ่มอีกสักสองสามศพ และหลังจากที่ข้าออกจากที่นี่ ข้าก็จะได้ทิ้งศพหยินไว้สักสองสามศพเพื่อเฝ้าไว้ที่นี่ไว้”
“นอกจากนี้ หากว่าสามารถชื้อมหาค่ายกลแปลงโลหิตมาได้ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด”
ดวงตาของฉู่เสวียนประกายแสงออกมา
มหาค่ายกลแปลงโลหิต!
คือหนึ่งในวิชาค่ายกลที่เหมาะสำหรับผู้บำเพ็ญมารที่ต้องการสังเวยเลือดเป็นจำนวนมาก
มหาค่ายกลแปลงโลหิตระดับต่ำนั้นถือว่าใช้งานง่าย! แม้แต่ผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณก็สามารถควบคุมได้ ทว่าพลังในการสังหารหมู่นั้น กลับทรงพลังมาก!
สำหรับระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุด อาจจะต้องอยู่ในเขตแดนที่สูงกว่าช่วงกลั่นลมปราณ และจำเป็นต้องมีการจัดรูปแบบในระดับหนึ่ง
ฉู่เสวียนเคยได้ยินมาว่า ครั้งหนึ่งปรมาจารย์นิกายสายมารอย่างนิกายหุ่นเชิดศพได้ใช้มหาค่ายกลแปลงโลหิตครอบทั้งเมืองเพื่อช่วงชิงวิญญาณกว่า 300,000 ดวงในครั้งเดียว เพียงเพื่อกลั่นลูกปัดโลหิตหมื่นวิญญาณ
ประมุขนิกายหุ่นเชิดศพได้นำลูกปัดโลหิตหมื่นวิญญาณนั้นมาให้ลูกชายของเขาที่อายุ 3 ขวบ กลั่นลมปราณ ส่งผลให้ภายในหนึ่งวันเขากลั่นลมปราณได้สำเร็จ และสามารถข้ามเขตแดนไปอยู่ในช่วงสร้างรากฐานได้ภายในหนึ่งร้อยวัน
และภายใน 3 ปี เขาก็ได้เข้าสู่ช่วงสร้างรากฐานขั้นที่เก้า จนได้กลายมาเป็นจุดสนใจของผู้บำเพ็ญสายมารอยู่พักหนึ่ง
เด็กอายุ 6 ขวบคนนี้ทำให้ผู้คนต้องตกตะลึง เขาได้กลายมาเป็นอัจฉริยะในช่วงสร้างรากฐาน จนทำให้แต่ละนิกายแทบหายใจไม่ออก
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้มันก็อุกอาจและร้ายแรงเกินไป
ในไม่ช้า นิกายหุ่นเชิดศพก็ถูกฝ่ายธรรมะทั้งห้าเข้าปิดล้อมและทำลายลงไป ซึ่งนำไปสู่การแบ่งมรดกของนิกายออกไป
ฉะนั้นหากว่าเขาสามารถครอบครองมหาค่ายกลแปลงโลหิตมาได้และนำมาใช้งานในโลกซอมบี้นี้
ไม่เพียงแต่จะไม่ทำผิดกฎของสวรรค์ แต่ยังทำให้การฝึกฝนเคล็ดลับวิชาของเขาก้าวหน้าแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน!
แน่นอนว่าการเลื่อนเขตแดนไปอยู่ในช่วงสร้างรากฐานภายใน 100 วันนั้น ย่อมเกินจริงไปเล็กน้อย
แต่ถ้าสามารถเลื่อนเขตแดนไปอยู่ในช่วงสร้างรากฐานภายในระยะเวลา 1 ปี ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม
ฉู่เสวียนขอให้เสี่ยวหู่ทำความสะอาดสถานที่แห่งนี้อีกครั้ง จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาที่ดาดฟ้าของห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟาและฉีดพลังวิญญาณเข้าไปกระตุ้นกระจกโลหิต
“หลังจากที่หายไปหลายเดือน ในที่สุดข้าก็ต้องกลับไปสินะ”
ฉู่เสวียนมองไปที่กระจกโลหิตด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย และมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
ครั้งสุดท้ายที่เขาจากไป เขากำลังอยู่ในช่วงกลั่นลมปราณขั้นที่สี่ และในตัวของเขามีเพียงแค่เส้นลวดโลหิตเท่านั้น
แต่ในเวลาไม่ถึงสองเดือน ระดับพลังกลยุทธ์ของเขาไม่เพียงแต่ทะลวงไปถึงช่วงกลั่นลมปราณขั้นที่หกเท่านั้น เส้นลวดโลหิตยังได้รับเลือดเนื้อหล่อเลี้ยงจนได้เรียนรู้วิชาอาคมพรสวรรค์ และยังมีพลทหารศพระดับที่ห้าเป็นไพ่ลับอยู่ข้างกายเขาอีกด้วย
พลังการต่อสู้ขนาดนี้เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณขั้นที่เจ็ดได้อย่างง่ายดาย
แม้จะเป็นผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณขั้นที่แปด ก็คาดว่ามีโอกาสที่จะชนะอยู่ที่เจ็ดถึงแปดส่วนเลยทีเดียว
ฉู่เสวียนสูดหายใจเข้าลึกๆ พรางเพ่งกระแสจิตของเขาไปที่กระจกโลหิตตรงหน้า
เพียงพริบตา เขาก็ถูกดูดเข้าไปในกระจกโลหิตอีกครั้ง
ในสายตาของคนอื่น เขาได้หายไปในทันที เหมือนกับระเหยไปจากโลกใบนี้
เมืองตงหู โรงแรมห่าวไท่
ที่นี่เป็นหนึ่งในโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองตงหู
หลายปีหลังจากการระบาดของซอมบี้ ที่นี่ได้กลายเป็นฐานที่มั่นของแก๊งหลิงฉวน
ชั้นบนสุดของโรงแรมห่าวไท่
ชายผิวคล้ำร่างผอมบางโดยที่ท่อนบนเปลือยเปล่ากำลังนอนอยู่บนเก้าอี้เอนกายบนดาดฟ้า กำลังอาบแดดอย่างสบายอารมณ์
ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคือจ้าวหง หัวหน้าแก๊งหลิงฉวน
ข้างกายของเขามีหญิงสาวในชุดบิกินีนอนอยู่ตรงนั้น จ้าวหงซึ่งกำลังลูบไลขาเรียวสวยของสาวงามข้างๆอย่างเบามือ
ในกรงไม่ไกลนักมีหมาป่าหลังดำตัวหนึ่งยืนล้อมรอบอยู่
แม้จะขุดหลุมนอนอยู่ในนั้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าลำตัวของมันยาวกว่าสามเมตร ดูท่าแล้วคงจะแข็งแรงยิ่งกว่ากระทิงเสียอีก
ดวงตาของมันดูดุร้าย และระแวดระวัง ทั้งยังมีน้ำลายไหลออกมาจากปากของมันตลอด
ราวกับนักล่าที่หิวโหย
ใต้เก้าอี้ปรับเอน มีชายร่างใหญ่คนหนึ่งนั่งคุกเข่าอยู่ ร่างกายของเขาสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจเสียงดังด้วยซ้ำ
จ้าวหงหันกลับมาและพูดอย่างใจเย็น “หลิงเถา แกสัญญากับฉันไม่ใช่เหรอว่าภายในครึ่งเดือน แกจะค้นหามาให้ได้ว่าถังหู่หายตัวไปได้อย่างไร”
“แต่ตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว”
หลิงเถาก็ได้พูดออกมาอย่างรวดเร็ว “ลูก...ลูกพี่ พี่หู่หายตัวไปในห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟา ซึ่งตอนนี้ที่นั่นอันตรายมาก และอาจมีซอมบี้ระดับสูงปรากฏตัวขึ้นทุกเมื่อ”
“คนที่ผมส่งไปสืบเรื่องนี้มาให้ก็ได้หายตัวไปสองคนแล้วครับ”
“เรื่องนี้ลูกพี่จะตำหนิผมไม่ได้นะครับ…เพราะว่ามันจะต้องมีซอมบี้ระดับสูงอยู่ที่นั่น…”
หลิงเถาคลานเข่าเข้าไปใกล้จ้าวหงพรางกอดต้นขาของเขาเอาไว้ และร้องไห้ออกมาอย่างขมขื่น
“เพราะถ้าเป็นซอมบี้ระดับสูง มีแต่ลูกพี่เท่านั้นที่จัดการมันได้!”
จ้าวหงได้ลุกขึ้นยืน เขาก้มตัวลงมายื่นมือออกไปสัมผัสใบหน้าของหลิงเถาอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็ยิ้ม "ฉันไม่โทษแกหรอก ยังไงซะแกก็ไม่ใช่ผู้วิเศษ"
หลิงเถาซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก “ขอบคุณครับลูกพี่ ! ขอบคุณครับ”
“เพียงแต่ช่วยเอาอาหารให้ต้าหวงหน่อย มันหิวมานานแล้ว” จ้าวหงพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ได้ครับ ได้ครับ !”
หลิงเถาเดินออกไปอย่างรีบร้อน หยิบถุงอาหารสุนัขถุงใหญ่มาเทลงไปในชามข้าวของหมาป่า
หมาป่าหลังดำยังคงนิ่งเฉย มันได้ปล่อยให้น้ำลายไหลออกมาอย่างตะกละตะกลาม
จ้าวหงดีดนิ้ว “ต้าหวง กินสิ”
ซวบ!
จู่ๆ หมาป่าก็พุ่งออกมาจากกรงเหล็กและกัดเข้าที่แขนของหลิงเถาในครั้งเดียว
แคร็บบ...
แขนของหลิงเถาบริเวณข้อศอกได้ขาดออกจากกันทันที จากนั้นเลือดก็พุ่งออกมาอย่างรุนแรง
“โอ้ยย! อย่านะ! ลูกพี่!”
หลิงเถา กรีดร้องออกมาอย่างรุนแรงด้วยความเจ็บปวดจากการสูญเสียแขน ทำให้เขาดูกระวนกระวายเป็นอย่างมาก
จ้าวหงขมวดคิ้ว “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าถ้าแกจะฆ่าใคร แกต้องกัดที่คอโดยตรง อย่าให้เลือดของมันต้องเลอะเทอะพื้นแบบนี้”
หมาป่าไม่แสดงท่าทีอะไรออกมา แต่มันได้พุ่งไปข้างหน้าและกัดเข้าที่ต้นคอของหลิงเถาโดยตรง จากนั้นมันก็เริ่มกัดกินอย่างรวดเร็วด้วยความหิวกระหาย
จ้าวหงดูพึงพอใจเป็นอย่างมาก
ผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ข้างๆเขาอกสั่นขวัญแขวนมากนานแล้ว พวกเธอแทบจะกลั่นปัสสาวะไม่อยู่
“อย่ากังวลไปเลย พวกเธอแขนขาเล็กจะตายไป ต้าหวงกินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่มหรอก” จ้าวหงหัวเราะชอบใจออกมา และพูดอย่างไม่ใส่ใจ
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หญิงสาวทั้งสองก็ได้หมดสติลงไปในทันที
จ้าวหงกดกระดิ่งข้างๆ เขาอย่างสบายๆ
แก๊ง แก๊ง แก๊ง
ในไม่ช้าก็มีชายร่างใหญ่คนหนึ่งเดินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เขาก้มหน้าลงด้วยท่าทางเคารพ ไม่กล้าที่จะเงยหน้าขึ้นมองไปที่หมาป่าหลังดำที่กำลังกินอาหารของมันอยู่อีกด้านหนึ่ง
“ลูกพี่ อยากให้ผมไปทำอะไรให้หรือเปล่าครับ ?”
จ้าวหงพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า "นายไปเอาต้าหวงและเอ๋อร์เฮ้ยขับรถไปดูที่ห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟากับฉันที่"
“ได้ครับ ลูกพี่” ชายร่างใหญ่โค้งคำนับอย่างเคารพ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ณ ทางออกของโรงแรมห่าวไท่ ชายร่างใหญ่ทั้งสองคนได้ผลักประตูเปิดออกอย่างยากลำบาก
ไม่นานรถหวูหลิงที่ติดอาวุธพิเศษคันหนึ่งก็ได้ถูกขับออกไป
รถหวูหลิงคันนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยลวดหนามแข็ง และติดอาวุธพิเศษรอบคัน
ด้านหน้าและบนหลังคารถมีเหล็กแหลมขนาดใหญ่ติดอยู่
ไม่ว่ามันจะผ่านไปที่ไหน ซอมบี้ธรรมดาๆ ก็จะถูกกระแทกออกไปทันที
ตราบใดที่ไม่เผชิญหน้ากับซอมบี้นับพันตัว มันก็ถือว่าทรงพลังที่สุดบนท้องถนนแล้ว!