ตอนที่แล้วผมอยากซื้อศาลเจ้าของคุณ สนใจจะขายไหมครับ? (อ่านฟรี 16/12/2567)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปโชคดีที่รถมีประกัน (อ่านฟรี 24/12/2567)

เรียนขับรถ เกียร์อะไรดี? (อ่านฟรี 20/12/2567)


“ถ้าเปลี่ยนใจก็โทรมาหาลุงได้ทุกเมื่อนะพ่อหนุ่ม! รับรองว่าไอ้โรงเรียนเด็กน้อยแบบนี้สอนเธอแบบที่ลุงจะสอนไม่ได้หรอก!” คนขับแท็กซี่รับเงินมาก่อนจะกล่าวตื๊ออีกรอบ

ตลอดเส้นทางเขาก็ยังคงขับรถแบบ มหัศจรรย์ ไม่ยอมหยุด เย่เซวียนได้แต่ภาวนาให้โชคของตัวเองยังคงดีอยู่ ไม่อย่างนั้นวันนี้อาจจะเป็นวันสุดท้ายในชีวิตของเขาก็ได้

“ครับ ๆ ขอบคุณมากครับ” ชายหนุ่มพยายามตอบกลับไปแบบส่ง ๆ เขาจำใจต้องรับนามบัตรของอีกฝ่ายมาอย่างช่วยไม่ได้

หลังจากจ่ายเงินค่ารถเสร็จเย่เซวียนก็เดินเข้าไปในอาคารหนึ่งชั้นที่มีป้ายขนาดใหญ่เขียนเอาไว้ว่า‘โรงเรียนแอดวานซ์ไดร์ฟวิ่ง’

“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยรึเปล่าครับ?” ทันทีที่เดินเข้าไปด้านใน เย่เซวียนก็ถูกชายกลางคนผู้หนึ่งกล่าวทักทายทันที

ชายผู้นี้อยู่ในชุดพนักงานของสถานที่แห่งนี้ มันเป็นเสื้อเชิ้ตที่ถูกสวมทับเอาไว้ด้วยเสื้อกั๊กอีกทีหนึ่งดูเรียบร้อยและให้ความรู้สึกสมกับเป็นพนักงานเกี่ยวกับการขับรถมิใช่น้อย

“ผมมาเรียนขับรถน่ะครับ ไม่ทราบว่าต้องทำยังไงบ้าง” ชายหนุ่มบอกถึงสิ่งที่ตนต้องการในทันที

“ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง! ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวก็พอครับ เชิญมาพูดคุยที่ห้องรับรองก่อนนะครับ” เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายมาทำธุระเรื่องอะไรพนักงานชายก็กระตือรือร้นขึ้นมาทันที

หลังจากนั้นเย่เซวียนก็ถูกอีกฝ่ายพาไปยังห้องรับรองที่เป็นกำแพงกระจกทุกด้าน ชายหนุ่มทำการกรอกเอกสารรวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการเรียนขับรถ หลังจากชำระค่าเรียน  800 หยวนเรียบร้อยชายหนุ่มก็ถูกพาตัวไปยังสถานขับรถที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมไว้ในทันที

“อยากจะเรียบขับรถแบบเกียร์ออโต้หรือเกียร์ธรรมดาดีครับ?” พนักงานชายคนเดิมกล่าวถามออกมาขณะที่พาชายหนุ่มเดินไปเลือกดูรถที่จะใช้ในการเรียน

รถยนต์ของทางโรงเรียนสอนขับรถมีประมาณยี่สิบคัน ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ปกติ รถกระบะ รถตู้ รถบรรทุกก็มีทั้งหมด แน่นอนว่าทางโรงเรียนรับสอนขับรถบรรทุกด้วยเช่นกัน

ชายหนุ่มก็รู้สึกสนใจมิใช่น้อย แต่พอคิดไปคิดมา เขาก็คงไม่ได้ไปขับรถบรรทุก ดังนั้นเรียนแค่การขับรถยนต์ก็พอแล้ว

“มันต่างกันยังไงเหรอครับ?” เย่เซวียนกล่าวถามออกมาด้วยความไม่รู้

แค่นั่งรถยนต์เขายังแทบไม่มีโอกาสได้นั่งเลย ดังนั้นแล้วความรู้ในเรื่องรถยนต์ของชายหนุ่มแทบจะเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้

“ถ้าอธิบายง่าย ๆ รถยนต์เกียร์ออโต้จะขับได้ง่ายกว่า ส่วนรถยนต์เกียร์ธรรมดาจะขับได้ยากกว่าครับ” พนักงานตอบกลับไปด้วยความสุภาพ

“แค่นั้นเองเหรอครับ? ถ้าแบบนั้นคนทำไมไม่ใช้แต่เกียร์ออโต้แทนล่ะ มันมีส่วนที่แตกต่างกันอีกไหม?” ชายหนุ่มถามต่อในทันที

ครึ่งหลัง

“คุณอยากจะฟังจริง ๆ เหรอครับ อาจจะยาวนิดนึงนะ” พนักงานกล่าวถามกลับมาด้วยความสงสัย

เพราะตามปกติลูกค้าที่มาใช้บริการมักจะมีความรู้ในเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว หรืออีกประเภทก็คือไม่ได้สนใจในเรื่องพวกนี้สักนิด

ในยุคนี้มีให้เห็นบ่อยมากที่คนขับรถเป็นแต่ไม่มีความรู้เรื่องรถเลย ขนาดรถมีปัญหานิดหน่อยยังต้องเอาไปเข้าอู่ซ่อมรถเพื่อเสียเงิน ทั้ง ๆ ที่บางทีช่างในอู่แค่เพียงขยับชิ้นส่วนเล็กน้อยก็ทำให้ปัญหาที่ว่าคลี่คลายลงได้แล้ว

ละความรู้ที่ว่ามาเหล่านี้ก็มีให้ค้นหาเต็มไปหมดในโลกออนไลน์

“แน่นอนครับ ถึงยังไงก็ยังมีเวลาอีกเยอะใช่ไหมครับ?” เย่เซวียนยิ้มก่อนจะตอบกลับไป

หลังจากเรียนการขับรถรวมถึงทำใบขับขี่เสร็จ ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะไปซื้อรถยนต์สักคันเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นการให้อีกฝ่ายบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ก็นับว่าประหยัดเวลาไปได้เยอะเหมือนกัน

“มันก็ใช่แหละครับ ถ้าอย่างนั้นผมจะบอกข้อดีข้อเสียของแต่ละอย่างให้ฟังคร่าว ๆ ก็แล้วกันนะครับ” พนักงานกล่าวออกมา

ถึงแม้จะเป็นพนักงานขับรถของโรงเรียนสอนขับรถเขาก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับรถโดยละเอียดหรอก พอจะรู้แค่คร่าว ๆ เท่านั้นแหละ

“ขอรบกวนด้วยนะครับ” เย่เซวียนกล่าวออกมาพลางเดินตามพนักงานไปยังรถยนต์สี่ประตูคันหนึ่ง พนักงานเปิดประตูคนขับให้ชายหนุ่มขึ้นไปนั่งขับ ส่วนตัวของพนักงานก็ขึ้นไปนั่งด้านข้างคนขับแทน

“เริ่มที่ข้อดีของรถเกียร์ออโต้ก่อนเลยนะครับ ข้อ1.ก็คือมันขับง่ายมาก! ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์หรือเลี้ยงคลัทช์แบบรถเกียร์ธรรมดา แค่คอยบังคับรถให้ดีก็พอ” พนักงานกล่าวอธิบายออกมาพลางใช้นิ้วชี้ไปที่กุญแจรถซึ่งถูกเสียบไว้ข้างพวงมาลัย

“ลองกดแล้วบิดกุญแจไปตามเข็มนาฬิกาดูครับ จะเป็นการสตาร์ทรถคันนี้”

“แบบนี้เหรอครับ?” เย่เซวียนก็ทำตามที่อีกฝ่ายว่ามาอย่างรวดเร็ว

ทันใดนั้นรถยนต์ที่นิ่งสนิทก็เกิดเสียงดังของเครื่องยนต์ออกมา ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะทำได้ถูกขั้นตอนแล้วนั่นเอง

“ใช่แล้วครับ ทีนี้ก็บิดกลับมาทางเดิมเพื่อเป็นการดับรถได้เลย” พนักงานกล่าวออกมาพลางทำมือเป็นท่าทางประกอบไปด้วย

“เลี้ยงคลัทช์คืออะไรเหรอครับ?” เย่เซวียนกล่าวถามออกมาเมื่อเห็นว่าพนักงานไม่ได้บอกให้ทำอะไรต่อ

“อ๋อ! ถ้าเป็นรถยนต์เกียร์ธรรมดานอกจากเบรกกับคันเร่งแล้ว มันจะมีคลัทช์อยู่ด้วยอีกอันครับ จะต้องทำการเหยียบเลี้ยงคลัทช์เอาไว้ตลอดเวลา ไม่อย่างนั้นเครื่องยนต์จะดับทันที” พนักงานที่ได้ยินอีกฝ่ายถามจึงอธิบายออกมา

จะเห็นได้ว่าการขับรถยนต์เกียร์ธรรมดาค่อนข้างจะยุ่งยากกว่าเกียร์ออโต้มิใช้น้อย เพราะเหตุนั้นคนส่วนใหญ่จะชอบที่จะขับเกียร์ออโต้มากกว่า

“มาต่อที่ข้อดีของเกียร์ออโต้นะครับ ข้อที่2.ไม่ต้องเลี้ยงคลัทช์แบบรถยนต์เกียร์ธรรมดา ข้อที่3.ไม่ต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ตามความเร็วที่ขับ แค่เหยียบและผ่อนคันเร่งก็พอแล้ว ข้อที่4.ประหยัดน้ำมันได้มากกว่าตอนที่รถติด เพราะไม่ต้องเลี้ยงคลัทช์ แต่ก็แน่นอนว่าเฉพาะตอนรถติดนะครับที่ประหยัดกว่า” พนักงานอธิบายออกมายาวเหยียดก่อนจะเงียบไปเล็กน้อย

“ดูเหมือนว่าจะมีข้อดีไม่น้อยเลยนะครับ ถึงยังไงก็ต้องมีข้อเสียใช่ไหม?” ชายหนุ่มกล่าวถามออกมาด้วยความสงสัย

“มีสิครับ ข้อ1.ก็คือมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่มากกว่า ส่วนข้อ2.ก็คืออายุการใช้งานอาจจะสั้นกว่าเกียร์ธรรมดา คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้แหละครับ” พนักงานตอบกลับไป

“ก็ไม่ค่อยมากเท่าไรนะครับ” เย่เซวียนทำหน้าครุ่นคิดพลางกล่าวออกมา

“คุณเย่เซวียนลองสตาร์ทเครื่องแล้วขยับเกียร์ไปที่ตัว D ดูครับ อย่าลืมเหยียบเบรกไว้ด้วยนะครับ หลังจากนั้นก็ปล่อยเบรกแล้วเหยียบคันเร่งดู เหยียบไม่ต้องเยอะนะครับ” พนักงานชี้ไปยังตัวอักษร D แล้วกล่าวออกมา

“ได้ครับ ผมจะลองดู” ชายหนุ่มกล่าวจบก็ทำตามที่อีกฝ่ายว่ามาในทันที แต่ด้วยความตื่นเต้นและเป็นการได้ขับรถเองครั้งแรก ทำให้เขาเผลอเหยียบคันเร่งเยอะไปหน่อยส่งผลให้ตัวรถเคลื่อนไปด้านหน้าเร็วกว่าที่คิด

บรืนนน ปึ้ง!

“ผมทำได้ถูกต้องไหมครับ?” ชายหนุ่มกล่าวถามด้วยใบหน้าที่ซีดลงเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขาจะขับไปชนเข้ากับล้อยางที่กันทางเอาไว้เสียแล้ว

โชคดีที่ความเร็วของรถมันแค่ประมาณ 30-40 km/h เท่านั้น ตัวรถเลยไม่ได้เป็นอะไรสักเท่าไร มีเพียงรอบยุบเล็ก ๆ ก็เท่านั้น

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด