บทที่ 788: "บรรพบุรุษ" ของควีน
[,แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ],
[,Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด,]
[,หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ,]
บทที่ 788: "บรรพบุรุษ" ของควีน
นับแต่วันนั้นเป็นต้นมา ควีนมี "บรรพบุรุษ" เพิ่มขึ้นมาสององค์ในหลายแง่มุม เขาแทบจะบูชาเชมิน เพื่อให้เชมินช่วยฟื้นฟูสวนกล้วยของเขาได้สำเร็จ
ส่วนบรรพบุรุษองค์ที่สองก็คือดอกกราซิเดีย ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายสำคัญที่สุดของเขาในขณะนี้ และเนื่องจากไม่ทราบสภาพการปลูกของดอกกราซิเดีย เขาจึงนำเมล็ดเหล่านั้นไปปลูกในพื้นที่ต่างๆของวาโนะคุนิ
ไม่ว่าจะเป็นในร่มหรือกลางแจ้ง ก็มีพื้นที่เพาะปลูกของเขา แม้แต่ริงโกะซึ่งมีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปีก็เช่นกัน เผื่อว่าดอกกราซิเดียจะเป็นพืชในเขตหนาว
เขายังเตรียมหอยทากเฝ้าระวังของวาโนะคุนิไว้โดยเฉพาะ คอยเฝ้าดูสถานการณ์ของพืชผลของเขาตลอด 24 ชั่วโมง
เขาไม่ใช่เวก้าพังค์ที่สร้างร่างโคลนให้ตัวเองได้มากมาย เขาจึงเลือกที่จะอยู่ในริงโกะซึ่งมีสภาพอากาศเลวร้ายที่สุด เพราะดอกไม้ที่นี่มีแนวโน้มที่จะมีปัญหาได้ง่ายที่สุด ส่วนที่อื่นๆก็ใช้หอยทากเฝ้าระวังแทน
เชมินเองก็ไม่ได้ยึดติดกับเรื่องนี้เหมือนควีน แม้ว่าเธอจะชอบกลิ่นของดอกกราซิเดียมาก แต่ก็เลือกที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อบอุ่นและสะดวกสบายกว่า
สำหรับควีน นี่เป็น "บททดสอบ" พิเศษ การปลูกดอกไม้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา เพียงแค่ต้องใช้ความอดทนเล็กน้อย
และเมื่อนักกินต่อสู้เพื่ออาหาร พวกเขามักจะมีความอดทนอย่างเต็มเปี่ยม
"เฮ้! พวกเธอสองคนไปเล่นไกลๆหน่อย ระวังอย่าไปโดนดอกไม้ของฉันล่ะ!"
"แต่ว่ามันยังไม่งอกเลยนะครับ"
"เหมือนกันนั่นแหละ ไปเล่นที่อื่นนู่น ไม่งั้นลุงจะไม่ทำของเล่นให้พวกเธออีกนะ"
ควีนโบกมือไล่เหมียวและวูล์ฟ เมื่อเทียบกับพ่อแม่ของพวกเขา เด็กสองคนนี้มีความรู้สึกที่ดีต่อควีนมากกว่า พวกเขาไม่เข้าใจอะไรมากมาย ในสายตาของพวกเขา ควีนเป็นแค่อาแปะอ้วนที่มักจะนำของอร่อยๆมาให้และทำของเล่นให้
พี่น้องทั้งสองอายุใกล้หกขวบแล้ว ขอบเขตการทำกิจกรรมก็ค่อยๆขยายออกไป นอกจากคุริแล้ว ก็ยังเห็นพวกเขาปรากฏตัวในพื้นที่อื่นๆบ่อยครั้ง
ที่พวกเขาอยู่ในริงโกะในครั้งนี้ ก็แค่เพราะอยากจะเล่นปาหิมะเท่านั้น
ตอนนี้ใกล้จะสิ้นเดือนธันวาคมแล้ว แม้ว่าอุณหภูมิในพื้นที่อื่นๆจะลดลง แต่มีเพียงริงโกะและยอดเขาฟูจิเท่านั้นที่มีหิมะตกหนักขนาดนี้ ถ้าอยากเล่นปาหิมะ ริงโกะจึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
เพื่อของเล่นสนุกๆ เหมียวและวูล์ฟจึงออกไปจากที่นี่ชั่วคราว
โดยปกติแล้ว การเล่นปาหิมะจะไม่ส่งผลกระทบต่อเมล็ดพันธุ์ที่ยังไม่แตกหน่อ ปัญหาคือคนที่เล่นปาหิมะไม่เหมือนกัน
สำหรับคนทั่วไป จุดสำคัญของการเล่นปาหิมะอยู่ที่หิมะ แต่สำหรับพี่น้องสองคนนี้ จุดสำคัญของการเล่นปาหิมะอยู่ที่การต่อสู้ พวกเขาจะเล่นกันจริงๆ
หลังจากเปลี่ยนสถานที่แล้ว พี่น้องทั้งสองก็กลิ้งไปมาบนพื้นหิมะอย่างรวดเร็ว และเริ่มเล่นสนุกกันเอง
"เอ่อ...ไม่ต้องห้ามพวกเขาจริงๆเหรอ?"
บนพื้นหิมะข้างๆ มิ้งกระต่ายได้ถามขึ้น
"ไม่ต้องหรอก พวกเขาเล่นแบบนี้ตลอด ท่านดยุกเองก็ไม่กังวล พวกเราก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก"
ปีโป้อธิบายกิจวัตรประจำวันของพี่น้องให้ชนเผ่ามิงค์ที่เพิ่งมาถึงวาโนะคุนิฟัง ในวาโนะคุนิ เซ็ตสึและเซราโอร่าไม่กังวลเรื่องความปลอดภัยของลูกๆ ปีโป้ไม่ได้ตามพวกเขาไปเพราะกลัวว่าพวกเขาจะเป็นอะไร แต่กลัวว่าพวกเขาจะเล่นเพลินจนหาตัวไม่เจอ
ส่วนมิ้งค์คนที่อยู่ข้างๆก็มีบทบาทคล้ายๆกับ "เพื่อนเล่นขององค์รัชทายาท" ที่จะเติบโตไปพร้อมกับลูกๆของพวกเขา
อายุต้องไม่น้อยเกินไป ไม่งั้นก็ไม่รู้ว่าใครดูแลใคร พรสวรรค์ต้องไม่ด้อยเกินไป ไม่งั้นพวกเขาอาจจะเล่นด้วยกันไม่ได้ ในสถานการณ์เช่นนี้ แครอทซึ่งมีอายุมากกว่าพวกเขาสามปีจึงปรากฏตัวขึ้นที่นี่
"เป็นงั้นเหรอ?" แครอทถามเสียงยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ถึงจะถูกท่านดยุคคนใหม่เลือกมาก็ไม่ใช่เรื่องร้ายอะไร อย่างน้อยก็ดีกว่าอยู่ที่โซว ที่นี่มีทุกอย่างอุดมสมบูรณ์กว่าโซวมาก
ถึงแม้เซ็ตสึนะจะพยายามช่วยโซวพัฒนาคุณภาพชีวิตมาตลอด แต่ด้วยข้อจำกัดทางสภาพแวดล้อม ที่นั่นก็ยังเทียบกับวาโนะคุนิไม่ได้อยู่ดี แม้แต่หิมะที่นี่ก็ยังเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับแครอท
"แน่นอน แถมนี่แค่เริ่มต้น เรื่องวุ่นวายยังมีอีกเยอะ" ปีโป้พูดพลางมองไปรอบๆเหมือนกำลังหาอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่เจอ เลยหันไปก่อกำแพงจากหิมะแทน
"อย่ามัวดูเฉยๆมาช่วยกันหน่อยสิ" ปีโป้พูด
เดิมทีปีโป้ถึงจะอยู่กับเซ็ตสึนะ แต่ก็มีสถานะต่ำสุดในบ้าน แถมยังเป็นคนขี้ขอโทษ พูดสามคำก็ขอโทษแล้วหนึ่งคำ แต่ตอนนี้มีรุ่นน้องแล้ว เขาก็ทำตัวเป็นรุ่นพี่ขึ้นมาหน่อย
"พวกเราก็ต้องเล่นด้วยเหรอ?" แครอทถาม
"ไม่ใช่ นี่สร้างไว้กันลูกบอลหิมะ ฉันไม่อยากให้ขนเปียกน่ะ" ปีโป้ตอบ
แครอทยังไม่ทันเข้าใจว่าหมายความว่ายังไง เหมียวกับวูล์ฟก็เปลี่ยนแผนการเล่นแล้ว พวกเขาไม่ได้วิ่งไล่กันแบบธรรมดา แต่เริ่ม "โจมตีระยะไกล" ใส่กัน
ทั้งสองยืนห่างกัน หิมะรอบตัวลอยขึ้นมาก่อนจะรวมตัวเป็นลูกบอลหิมะกลางอากาศ แล้วพุ่งเข้าใส่กันเหมือนฝนลูกปืน
มีลูกบอลหิมะบางลูกที่ควบคุมไม่อยู่ บินมาทางปีโป้ กำแพงที่เขาเพิ่งสร้างเสร็จก็ถูกทำลายลงทันที
"เก่ง...เก่งจัง พวกเขาทำได้ยังไงน่ะ?" แครอทถามอย่างตื่นเต้น
"นั่นคือพลังที่สืบทอดมาจากท่านดยุค เรียกว่าพลังคลื่น" ปีโป้อธิบาย
"หมายถึงพลังที่ท่านดยุคใช้สื่อสารกับสุนิชาได้น่ะเหรอ?" แครอทถามต่อ
"ใช่ ท่านอาร์เซอุส มอบพลังนั้นให้ท่านดยุค พวกเขาทั้งสองก็ได้รับสืบทอดมา ท่านดยุคก็เลยให้พวกเขาฝึกฝนตัวเองผ่านการเล่นแบบนี้" ปีโป้ตอบ
เหมียวและวูล์ฟถือเป็นเผ่ามิ้งค์ที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในรอบหลายร้อยปี นอกจากร่างกายที่แข็งแกร่ง พวกเขายังได้รับสืบทอดพลังคลื่นจากซัทสึนะและพลังสายฟ้าจากเซเรโอร่า
ถึงตอนนี้จะใช้พลังคลื่นได้แค่เล่นปาหิมะ แต่นี่ก็เป็นเครื่องยืนยันถึงอนาคตที่สดใสของพวกเขา
การเล่นสนุกแบบนี้ก็เป็นวิธีที่เผ่ามิ้งค์ใช้ฝึกฝนตัวเอง เพียงแต่พวกเขาเล่นกันรุนแรงกว่าเผ่ามิ้งค์ทั่วไป จนสุดท้ายเสื้อผ้าของทั้งสองก็เปียก ปีโป้และแครอทเลยพาพวกเขากลับคุริโดยขี่ทิลทาลิส
...
"พ่อ แม่ ท่านอาร์เซอุสให้เม่นที่น่ารักมากกับลุงควีนด้วย!"
"พวกเราก็อยากได้ เม่นตัวนั้นดูน่ารักจังค่ะ!"
เหมียวกับวูล์ฟกระโดดลงจากหลังทิลทาลิส พลางมองหาเซ็ตสึนะกับเซเรโอร่าแล้วพูดความต้องการของตัวเองออกมา แต่พวกเขากลับไม่เจอซเซ็ตสึนะกับเซเรโอร่าที่บ้านเหมือนปกติ
สุดท้ายก็เจอทั้งสองอยู่ที่ไร่นากะข้างบ้าน
"ช้าๆหน่อย ช้าๆหน่อย อย่าวิ่งเร็วกันนักสิ!" เหมียวกับวูล์ฟวิ่งนำหน้า ตามด้วยแครอท ส่วนปีโป้อยู่หลังสุด แบกของพะรุงพะรังวิ่งตามมาหอบแฮ่กๆ
"ปีโป้ นายนี่ออกกำลังกายน้อยไปหน่อยนะ" แครอทแซว
"ข..ขอโทษ ฉันไม่คิดว่าของพวกนี้จะหนักขนาดนี้ เอ๊ะ ท่านดยุค นี่กำลังจะทำอะไรพิเศษหรือเปล่าครับ?" ปีโป้ถาม
ตอนนี้ที่ไร่ เซ็ตสึนะกับเซเรโอร่ากำลังอุ้มต้นหอมใหญ่หลายมัดที่สูงกว่าคน ดูเหมือนกำลังจะปลูกลงดิน