ตอนที่แล้วบทที่ 445 การโจมตีและการช่วยชีวิต 
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 447 ความปรารถนาพันปีของเต่าอสูรและการเปลี่ยนเลือด! 

บทที่ 446 ใช้เป็นเหยื่อ ฝึกทัพสัตว์อสูร 


"พวกปีศาจร้ายเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่"

ในอากาศ เฉินโม่ยืนอยู่บนหลังของเจ้าไก่หัวแข็ง มองลงไปยังทุกสิ่งเบื้องล่าง

ยอดเขาจื่อหยุนซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของปีศาจร้าย จึงเป็นที่รวมตัวของพวกมันเช่นกัน

ในเวลากลางวันคำพูดของีศาจงูแดงทำให้เขาตื่นตัวมากขึ้น แม้จะมีผู้คนจำนวนมากที่เคยเข้าไปในเขตลับเสินหนง แต่ปีศาจเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏขึ้นเองโดยไร้เหตุผล

พวกมันไม่ใช่ซากศพที่จะฟื้นคืนชีพด้วยพลังสายฟ้า

ดังนั้น ตราบใดที่เขายังคงฆ่าพวกมันไม่หยุด สักวันหนึ่งพวกมันก็จะหมดสิ้นไป

ดาบเมื่อครู่เป็นเพียงการฟันธรรมดาของเฉินโม่ แต่ก็สามารถทะลุผ่านปีศาจระดับฝึกปราณได้อย่างง่ายดาย โดยไม่มีการต่อต้านใด ๆ เลย

นับตั้งแต่การประลองครั้งใหญ่ของสามตระกูลเมื่อหลายปีก่อน เฉินโม่ไม่ได้ลงมือเองมานานแล้ว

ไม่ว่าจะมีปัญหาใด ไม่เป็นีศาจงูแดง ก็เป็นโอวหยางตงชิงที่คอยจัดการให้เขา มีโอกาสน้อยมากที่เขาจะต้องลงมือเอง

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมียันต์สายฟ้าบริสุทธิ์อยู่ในมือหลายพันใบ เวลาส่วนใหญ่เขาเพียงใช้แค่ใบเดียวก็จัดการได้แล้ว

ถ้าใบเดียวไม่พอก็ใช้สองใบสองใบไม่พอก็ใช้เป็นกำ

ตอนที่เขาต้องใช้พลังวิญญาณของตัวเอง นี่เป็นครั้งที่สองในรอบหลายปีนี้!

แต่การไม่ลงมือเองไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มีความสามารถ

วิชาสลายร่างเทพมาร เก้ากลายพลังโลหิต เพลงดาบลมสลายแม่น้ำ และอื่นๆ ล้วนถูกฝึกฝนจนถึงระดับสูงสุดในปัจจุบันแล้ว ความสามารถของเขาอาจจะเกินขั้นสร้างรากฐานสูงสุดไปแล้วก็เป็นได้

เฉินโม่รู้ดีว่าหากปีนี้ยังมีการประลองของสามตระกูลอยู่

เขาจะสามารถเอาชนะเกือบทุกคนที่อยู่ในระดับสร้างรากฐานสูงสุดได้ด้วยความสามารถที่เหนือกว่า

แม้แต่ถูเหรินหลงเมื่อห้าปีก่อนก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้!

แต่กระนั้น...

เฉินโม่ก็รู้ดีว่า

เขาเป็นเพียงชาวนาวิญญาณคนหนึ่ง การที่ต้องต่อสู้และฆ่าฟันไปทุกวันมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ

ที่ด้านล่าง เหอจือผิงและหมิงเฉินทำหน้าที่เป็นเหยื่อล่อด้วยตนเอง

พวกเขาเปรียบเสมือนแสงไฟในยามราตรี ดึงดูดปีศาจร้ายมากมายเข้ามาหาพวกเขา

ในพริบตา มีปีศาจร้ายอีกสิบกว่าตัวที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขา

ขณะที่ทั้งสองคนยืนหลังชนหลังด้วยความหวาดกลัว กระแสพลังดาบที่แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนก็ตกลงมาจากฟากฟ้า ทะลุผ่านปีศาจแต่ละตัวราวกับเป็นสายฝน

เพียงแค่สองลมหายใจ ปีศาจเหล่านี้ก็ตายหมดสิ้นต่อหน้าพวกเขา

ต้องรู้ว่าปีศาจตัวไหนก็สามารถฆ่าพวกเขาได้ แต่ต่อหน้าผู้สูงศักดิ์ลึกลับนี้กลับไม่ใช่คู่มือเลย!

“ขอบคุณท่านเซียนที่ช่วยชีวิต! ขอบคุณท่านเซียนที่ช่วยชีวิต!”

เหอจือผิงเป็นคนแรกที่ตอบสนองได้

เขาคุกเข่าลงทันที กราบไหว้ไม่หยุดต่อท้องฟ้าเบื้องบน

หมิงเฉินก็ทำเช่นเดียวกัน คุกเข่าและกล่าวว่า

"ขอบคุณท่านเซียนที่ช่วยชีวิต"

ในอากาศ เฉินโม่ได้แต่เงียบ

หลายปีที่ไม่ได้เจอ สองคนนี้ยังไม่เปลี่ยนไปเลย ยังคงเหมือนเดิม

แต่หากเขาอยู่ในสถานการณ์เดียวกันล่ะ?

เฉินโม่ไม่ได้ตอบสนอง แต่รอให้กลุ่มปีศาจกลุ่มที่สามปรากฏตัว ก่อนจะลงมือสังหารอีกครั้ง

“ฟังให้ดี คืนนี้ข้าจะลงมือเอง แต่จากพรุ่งนี้เป็นต้นไป เจ้าจะต้องพาน้อง ๆ ของเจ้ามาที่นี่ทุกคืน เจ้าต้องเป็นผู้คุมทัพ ปล่อยให้พวกมันไปสังหารศัตรู เข้าใจไหม?”

ระหว่างที่พูด ดาบสายฝนก็ร่วงลงมาอีกครั้ง

“ก๊อก ๆ! ก๊อก ๆ!”

“จำไว้ว่า คนสองคนนี้ต้องไม่ตาย ถ้าพวกเขาตายข้าจะถอนขนเจ้าและมัดเจ้าไว้กลางแจ้งเป็นเหยื่อล่อ”

“ก๊อก ๆ ๆ!”

เฉินโม่เองก็ไม่คิดว่าสองคนนี้จะโชคดีถึงขนาดยังไม่ตายจนถึงตอนนี้

เมื่อไม่ตายก็ต้องใช้ประโยชน์จากพวกเขาให้เต็มที่

เมื่อมีพวกสัตว์อสูรของเขามาก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีปีศาจมาอีก

แน่นอนว่า เฉินโม่เองก็คิดแล้วว่าจะปลูกผลเทียนหยวนบนแปลงวิญญาณแห่งนี้ ซึ่งก็จะดึงดูดปีศาจมาได้เช่นกัน

เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็สามารถกำจัดภัยจากปีศาจได้ และยังสามารถหาเป้าหมายฝึกซ้อมจริงให้กับเหล่าสัตว์อสูรที่อยู่ในสระวิญญาณฉางเกอที่ทำได้เพียงกินกับนอนทั้งวันได้อีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความลำบากของ "ผู้โชคร้าย" ทั้งสองคนนี้

เวลาค่อยๆ ผ่านไป เหอจือผิงและหมิงเฉิน จากที่แรกเริ่มรู้สึกซาบซึ้งและตื้นตัน จนกระทั่งภายหลังพวกเขาก็เริ่มชินชา และค่อยๆ ตระหนักได้

ใช่แล้ว!

ผู้สูงศักดิ์ที่ลงมือช่วยเหลือนั้น กำลังใช้พวกเขาเป็นเหยื่อล่อ

ดึงดูดปีศาจเข้ามาแล้วก็สังหารพวกมัน!

เมื่อปีศาจกลุ่มสุดท้ายตายลงตรงหน้าพวกเขา ฟ้าก็สว่างขึ้นในที่สุด

ขณะที่ทั้งสองคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก็มีวัตถุสองชิ้นร่วงลงมาจากฟ้าอย่างไม่ทราบสาเหตุ!

พวกเขาเงยหน้าขึ้นมอง แต่ไม่เห็นอะไรเลย

กลับได้ยินเสียงว่า

"คนละเม็ด ยาหยางฉีตันและยาคืนพลัง จากวันนี้เป็นต้นไป ห้ามออกจากที่นี่ หากพวกเจ้าหนีออกไป จะถูกสังหารไม่มีข้อยกเว้น!"

คำพูดนี้เหมือนฟ้าผ่ากลางวัน ทำให้ทั้งสองคนยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

เหอจือผิงมองดูขวดหยกในมือของเขา แล้วหันไปมองหมิงเฉินที่กลัวจนปากซีดเซียวเพราะตื่นกลัวตลอดทั้งคืน แล้วพูดว่า

“พวกเรา...ถูกใช้ประโยชน์หรือเปล่า?”

ผ่านไปครู่หนึ่ง หมิงเฉินพูดด้วยเสียงสั่นว่า

"แต่...แต่ยังไงก็ดีกว่าตายเหมือนเฉินโม่! ยิ่งไปกว่านั้น ผู้สูงศักดิ์ยังให้ยากับพวกเราด้วย..."

ยิ่งพูดยิ่งตื่นเต้น ยิ่งพูดยิ่งคล่อง

“ยาหยางฉีตันเลยนะ! เจ้าเคยได้ยินไหม? นั่นเป็นยาที่เหล่าศิษย์ผู้มีพรสวรรค์ของสำนักเซียนชั้นยอดถึงจะมีโอกาสได้กิน! เมื่อเรามียานี้ เราอาจจะทะลุผ่านขั้นฝึกปราณที่หกได้เลย! ถูกใช้ประโยชน์แล้วอย่างไรล่ะ? นั่นแปลว่าเรายังมีคุณค่า!”

หลังจากได้ฟังคำอธิบายของหมิงเฉิน อารมณ์ของเหอจือผิงก็รู้สึกดีขึ้นมาก

“ใช่แล้ว! ยังไงก็มีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลืออยู่ในเงามืด เราไม่ต้องกังวลเรื่องอันตรายเลย เจ้าดูสิ! พวกดาบแสงที่แข็งแกร่งเหล่านั้น อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานที่ลงมือ! นั่นคือผู้มีพลังอำนาจจริงๆ!”

“ใช่ๆ!” หมิงเฉินพยักหน้าแรงๆ จับขวดหยกในมือไว้แน่น

“นี่เป็นโอกาสครั้งใหญ่ของข้า!”

“ฮ่าๆ!”

ขณะเดียวกัน ที่ฝั่งนั้น ทั้งสองคนยังคงจมอยู่ในความตื่นเต้น ในขณะที่เฉินโม่ได้กลับมายังสระวิญญาณฉางเกอแล้ว

เขาติดต่อกับซ่งหยุนซี เพื่อให้เขาช่วยหาชาวนาวิญญาณที่มีชื่อเสียงดีจำนวนยี่สิบคน ในอีกประมาณห้าวันข้างหน้า เฉินโม่จะสามารถไปเลือกคนเหล่านั้นได้

นั่นหมายความว่าเขามีเวลาอยู่ห้าวัน

เวลานี้ก็เพียงพอสำหรับการกลั่นยาวิญญาณเซียนเสริมพลังอีกหนึ่งเม็ด

เฉินโม่ประมาณการณ์ว่าด้วยยาเม็ดนี้ เขาน่าจะสามารถบรรลุขั้นสร้างรากฐานจุดสูงสุดได้ จากนั้นก็จะก้าวสู่ขั้นทองำเป็นก้าวแรก!

ขั้นทองนั้นแตกต่างจากขั้นสร้างรากฐาน

ทุกขั้นตอนนั้นยากลำบากมาก

ไม่ต้องพูดถึงความยากลำบากในการบรรลุขั้นสร้างรากฐานสูงสุด เพียงแค่การเข้าใจความจริงแท้ ก็ทำให้ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ต้องหยุดอยู่ที่หน้าประตูแล้ว

บางคนในวัยสามสิบปีได้บรรลุถึงขั้นสร้างรากฐานจุดสูงสุด แต่เมื่ออายุสามร้อยปีตอนที่ตายไปก็ยังคงอยู่ที่ขั้นสร้างรากฐานสูงสุดเช่นเดิม

การเข้าใจความจริงแท้ สำหรับเฉินโม่แล้วก็เป็นเรื่องยากมากเช่นกัน

แต่การบรรลุขั้นสร้างรากฐานสูงสุดนั้นคือก้าวแรกสู่ขั้นทอง!

เฉินโม่พูดคุยกับปีศาจงูแดงสองสามประโยค จากนั้นก็เตรียมพร้อมสำหรับการปิดด่านฝึกตน

แต่ทันทีที่เขาปิดประตูค่าย บรรยากาศสงบพร้อมนั่งสมาธิ เสียงที่ทำให้เขาทั้งโกรธและขำก็ดังขึ้นมา

“นายท่าน! นายท่าน! ท่านจะลืมข้าไม่ได้หรอกนะ!”

เต่าอสูรที่มีน้ำมูกน้ำตาไหลพรั่งพรูวิ่งเข้ามาา หัวเต่าขนาดใหญ่ยังกระแทกแขนของเฉินโม่อยู่เป็นระยะ ทำให้เขาตกใจไม่น้อย

“นี่เจ้า! ข้าจะปิดด่านแล้ว ไปที่อื่นไป!”

“ไม่ได้! ข้าต้องการเป็นข้ารับใช้แท้จริงของนายท่าน ข้าจะไม่ไปไหนหรอก นายท่าน โปรดทำให้ความหวังสุดท้ายในชีวิตของข้าเป็นจริงด้วยเถิด!”

(จบบท)

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด