บทที่ 305 คนที่ถูกตัดการเชื่อมต่อ (แถมฟรี)
บทที่ 305 คนที่ถูกตัดการเชื่อมต่อ (แถมฟรี)
.
โจวอันได้ยินดังนั้น เขาก็ถามว่า “แน่นอนว่าเราเชื่อในพี่ใหญ่ซู แต่ทำไมเราต้องไปที่ชานเมืองล่ะ? ดูเหมือนตรงนั้นจะมีดินแดนไม่มีมนุษย์ที่อันตรายมากอยู่”
เนื่องจากการมีอยู่ของฟอรัม ทุกคนที่ติดตามฟอรัมจึงมีความรู้ค่อนข้างดี และยังสามารถรับรู้ข้อมูลลับบางอย่างด้วย
ซูฉางซิงมองไปที่โจวอัน หลังจากคิดอยู่ชั่วครู่ เขาก็พูดว่า “ความจริง การบอกพวกคุณก็ไม่ได้เสียหายอะไร หากไม่มีความจำเป็นพิเศษ เราจะไม่ไปที่นั่นเช่นกัน บางทีการอยู่ที่นี่จนกว่าเกมจบอาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
“แต่เป็นเพราะในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงเป็นศพจะเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง จากนั้นก็จะเป็นเช่นเดียวกับผู้คนบนโลกนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรามีวิธีบรรเทาการเปลี่ยนแปลงเป็นศพได้ แม้ว่าอาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม แต่จะดีกว่าที่จะลองดู”
“ตามข้อมูลที่ได้รับในปัจจุบัน สำนักงานความมั่นคงได้ส่งคนหลายพันคนไปสำรวจพื้นที่นั้นตั้งแต่เช้า…”
ซูฉางซิงหยุดชั่วขณะ เมื่อนึกถึงข้อความที่จงจือชิงส่งมาให้ก่อนหน้านี้ และพูดต่อไปว่า:
“ผมได้ยินมาว่าคนส่วนใหญ่ที่ไปที่นั่นส่วนใหญ่เสียชีวิตหรือไม่ก็ขาดการติดต่อ”
หลายพันคน?
ทุกคนสูดอากาศเย็น พูดอีกอย่างก็คือ ผู้คนหลายพันคนของสำนักงานความมั่นคงที่เสียชีวิต ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีความสามารถในการสู้รบในระดับหนึ่ง
ดวงตาของเกิงหยงเป็นประกายขณะที่ก้าวออกมาข้างหน้า และพูดว่า “มันอาจไม่สมเหตุสมผลเลยที่เราจะไปที่นั่น จุดแข็งของสำนักงานความมั่นคงยิ่งใหญ่กว่าเรามาก”
จูเหวินหวู่ดูสงบ เขารู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว และพูดว่า:
“นั่นคือปัญหา แต่พวกเราเป็นคนพิเศษที่สามารถต้านทานอันตรายดังกล่าวได้ในระดับหนึ่ง”
ซูฉางซิงพยักหน้ามุมปากขดเป็นรอยยิ้ม และพูดว่า:
“ก็ประมาณนั้น คนพิเศษมีพลังมากกว่าคนธรรมดามาก และคนพิเศษส่วนใหญ่ในบริเวณนี้ก็เป็นของสถานที่ชุมนุมของเรา”
ตอนนี้พวกเขามีคนพิเศษมากกว่ายี่สิบคน และค่อนข้างจะพูดเกินจริงทีเดียว ถ้าจะบอกว่าพวกเขามีคนพิเศษมากกว่าพื้นที่อื่นๆของทั้งเมืองรวมกัน
และตอนนี้ซูฉางซิงคือคนพิเศษที่ทรงพลังที่สุด
เมื่อพูดถึงจุดนี้ พวกเขาก็มีความมั่นใจมากขึ้น ในขณะที่คนพิเศษอื่นๆ ที่อยู่ในระดับที่เก้า หรือเพิ่งเริ่มต้น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าก้าวต่อไปของคนพิเศษจะทำยังไง
ซูฉางซิงส่งสัญญาณให้จูเหวินหวู่
จูเหวินหวู่หยิบแผนที่ออกจากอกเสื้อ แล้ววางลงบนพื้นที่มีความสว่าง
“พื้นที่สีแดงเป็นพื้นที่อันตราย มันทับซ้อนกับดินแดนของมนุษย์ไม่มากนัก นี่เป็นแผนที่ล่าสุดของสำนักงานความมั่นคง ในพื้นที่อันตรายผู้คนจะได้รับรังสีในปริมาณที่มากขึ้น…และจะก่ออันตรายร้ายแรงต่อผู้คนโดยตรงจนถึงขั้นเสียชีวิตอย่างรวดเร็ว”
จูเหวินหวู่คุกเข่าลง ชี้ไปที่แผนที่และอธิบายอย่างเป็นระเบียบ:
“ขั้นต่อไปของเราก็คือ นำทีมชั้นยอดของสถานที่ชุมนุมไปยังขอบของพื้นที่อันตราย และตั้งฐานที่มั่นตรงนั้น แล้วเริ่มต้นการสำรวจขั้นต่อไป”
เสียงของจูเหวินหวู่ดังก้องอยู่ในห้องขนาดใหญ่ บรรยากาศมีความเงียบและน่าหดหู่เล็กน้อย ดูหนักอึ้งยิ่งกว่าเงามืดบนเพดาน
ใบหน้าของซูฉางซิงยังคงมีรอยยิ้ม และพูดอย่างใจเย็น:
“ลงไปเตรียมตัวเถอะ ทำความคุ้นเคยกับความสามารถของคุณ เตรียมตัวเสร็จ เราจะออกเดินทาง”
โจวอันลุกขึ้นยืน แล้วโบกมือและพูดว่า “คนที่เพิ่งกลายเป็นคนพิเศษมากับผม ผมจะบอกเรื่องพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับคนพิเศษให้ฟัง”
หลังจากโจวอันกับคนอื่นๆออกไปแล้ว จูเหวินหวู่ก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “พี่ใหญ่ซู คุณคิดว่าน้องสาวของผม มีโอกาสที่จะเป็นคนพิเศษในเวลาอันสั้นได้ไหม?”
จูซินเสวี่ยยังไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มคนพิเศษ นี่เป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด แต่ก็ไม่น่าแปลกใจมากนัก
ซูฉางซิงตกอยู่ในความเงียบชั่วครู่ ดูเหมือนคำถามนี้จะเตือนให้เขานึกถึงบางอย่าง จากนั้นเขาก็พูดขึ้นว่า:
“อืม ลองดูอีกครั้ง ยังมีพิธีครั้งต่อไป ตามทฤษฎีแล้ว ความน่าจะเป็นของน้องสาวคุณจะกลายเป็นคนพิเศษน่าจะค่อนข้างสูง… แต่ก็อาจไม่สำเร็จก็ได้”
จูเหวินหวู่ตระหนักได้ถึงความผิดปกติของซูฉางซิง และอึ้งไปชั่วครู่ แล้วถามว่า:
“พี่ใหญ่ซู มีปัญหาอะไรเหรอ?”
ซูฉางซิงหลับตาลง หายใจเข้าช้าๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีอะไรหรอก การดำเนินการครั้งนี้อาจอันตรายมาก คุณต้องระวังตัวไว้”
จูเหวินหวู่ยิ้มและพูดอย่างสบายๆว่า “คุณก็รู้ว่าสิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็คือความตาย หากท้ายที่สุดแล้วยังต้องตาย นั่นก็เป็นสิ่งที่ช่วยไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่”
ซูฉางซิงตบไหล่ของเขาอย่างสนิทสนม แล้วพูดว่า “คุณก็ไปเตรียมตัวเถอะ พาน้องสาวของคุณไปด้วย”
จูเหวินหวู่พยักหน้า และเดินออกจากห้องพิธี เขามองแสงตะวันสีแดงยามพลบค่ำ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าคำพูดของซูฉางซิงฟังดูแปลกๆเล็กน้อย…ทำไมพี่ใหญ่ซูถึงให้พาซินเสวี่ยไปด้วย?
“ดูเหมือนพี่ใหญ่ซูจะปฏิบัติต่อจูซินเสวี่ยในฐานะลูกศิษย์ของเขาจริงๆ”
จูเหวินหวู่พูดกับตัวเอง แต่ก็มักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
.
.
.
ใกล้ชายเมืองมองเห็นหมอกสีขาว บางสิ่งคล้ายหิมะสีขาวปลิวอยู่ในอากาศและหายไป มันทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว
หลินซิ่วหยูมองดูอาคารบางส่วนที่ถูกทำลายจนกลายเป็นซากปรักหักพังรอบๆตัวด้วยสีหน้าครุ่นคิด จากนั้นก็พูดขึ้นว่า:
“หัวหน้า ที่นี่เป็นพื้นที่อันตราย เราอย่าไปต่อเลยจะดีกว่า”
ก่อนหน้านี้พวกเขาส่งทีมของสำนักงานความมั่นคงมากกว่าสิบทีม มีจำนวนคนหลายพันคน มุ่งหน้าไปยังชานเมืองเพื่อสำรวจ ผลลัพธ์ก็คือรอดกลับมาไม่มาก ส่วนใหญ่ขาดการติดต่อ
จงจือชิงยืนอยู่บนพื้นที่สูงของซากปรักหักพัง มองเข้าไปในหมอกด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และพูดว่า “ตอนนี้ทีมคนพิเศษนั่นอยู่ที่ไหนแล้ว?”
ไฉ่จิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “พวกเขาควรมาถึงเร็วๆนี้ แต่จะไม่มีปัญหาจริงๆเหรอ?”
หลินซิ่วหยูปรายตามองเธอแล้วพูดอย่างใจเย็น:
“สถานการณ์ปัจจุบันได้พิสูจน์แล้วว่า คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่อันตรายนี้ได้ เมื่อเข้าสู่พื้นที่อันตรายแล้ว อวัยวะจะล้มเหลวอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่ความตาย ส่วนคนที่มีพลังเหนือธรรมชาติก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนธรรมดา มีเพียงคนพิเศษเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้”
จงจือชิงขมวดคิ้ว เขารู้สึกถึงความไม่ปกติรอบตัว และรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย จากนั้นก็พูดว่า:
“เราออกไปจากที่นี่กันก่อน ที่นี่ควรถือว่าเป็นพื้นที่กึ่งอันตราย การอยู่ที่นี่นานๆ อาจทำให้เกิดปัญหาได้”
พวกเขาค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากเขตชานเมืองกลับไปตามเส้นทางเดิม ตอนนี้ใกล้ค่ำแล้ว และซอมบี้จะเริ่มตื่นตัวในเวลาค่ำคืน
“พวกเขากำลังรออยู่ที่ฐานที่มั่นอันซาน และยังนำสมาชิกของทีมค้นหากลับมาด้วย… สมาชิกในทีมนั้นดูเหมือนกำลังจะตาย”
หลินซิ่วหยูกล่าวในขณะที่วิ่งตามหลังจงจือชิง
“กำลังจะตาย?”
จงจือชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แล้วนำใบมีดสามเล่มในอากาศกลับมาและใส่ลงไปในที่เก็บ จากนั้นก็หันกลับไปถามว่า “เจอกลางทางเหรอ?”
หลินซิ่วหยูพยักหน้าและกล่าวว่า “ครับ แต่คนๆนี้อยู่ในอาการโคม่า และ ID ในฟอรัมอยู่ในสถานะขาดการเชื่อมต่อ”
พวกเขาพบว่า แม้สมาชิกในทีมสำรวจบางคนจะเสียชีวิต แต่มันกลับไม่มีการแจ้งเตือนความตายในฟอรัม มีเพียงการแจ้งเตือนว่าขาดการเชื่อมต่อแทน
จงจือชิงคิดอยู่ชั่วครู่แล้วพูดว่า “พูดอีกอย่างก็คือ แม้คนผู้นี้จะยังไม่ตาย แต่เขาก็ถูกตัดการเชื่อมต่อเช่นกัน”