บทที่ 14 ปลดล็อกลานบ้าน
บทที่ 14 ปลดล็อกลานบ้าน
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมกินหม้อไฟที่ได้รับมาอย่างรวดเร็วจนหมดชาม ทว่าเขายังรู้สึกไม่จุใจ และยังคงมองไปที่กล่องหม้อไฟของกัวอวี่ฉือด้วยสายตาละโมบ
กลิ่นหอมยั่วน้ำลายทำให้เขาอยากจะคว้ากล่องหม้อไฟนั้นมาทานเองเสียเหลือเกิน
คนที่ยืนดูอยู่รอบ ๆ ยังไม่ได้ชิมเลยสักคำ พวกเขารู้สึกคันยิบ ๆ ในใจ และเริ่มเร่งเร้าให้เถ้าแก่โรงเตี๊ยมไปซื้อหม้อไฟสำเร็จรูปมาขายที่ร้าน
“เถ้าแก่ ท่านไม่ใช่เหรอที่บอกว่าจะไปซื้อมาขายบ้าง? งั้นรีบไปซะสิ”
“ใช่แล้ว ไปซื้อมาให้หน่อยได้ไหม? ตอนนี้ข้าไปเองไม่ได้ เพราะว่ากำลังต่อคิวกันอยู่”
“ข้าก็ไปไม่ได้เหมือนกัน จากที่นี่ไปตัวอำเภอค่อนข้างไกล เถ้าแก่ขอรับ ช่วยไปให้พวกเราหน่อยเถิด”
“เถ้าแก่จะไปด้วยตัวเองหรือ? หากเถ้าแก่ไป เช่นนั้นข้าจะได้ไม่ต้องส่งคนไปแล้ว”
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมกัดฟันกลืนน้ำลายลงคอ เขาวางชามและตะเกียบลง “ได้ ข้าจะไปซื้อเอง”
เขาเรียกพนักงานในโรงเตี๊ยมมาอีกหลายคน แล้วมุ่งหน้าไปยังอำเภอเมืองฉ่างหลิงทันที
กัวอวี่ฉือส่ายหน้าด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ แล้วถือหม้อไฟเดินไปกินไปด้วย โดยตั้งใจจะกลับไปที่หุบเขาการแพทย์เพื่อให้ครอบครัวได้ลองชิม
…
เฟิงหยวนหนิงกำลังนอนหลับสบาย จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบดังแว่วมาว่า “ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ทำภารกิจสำเร็จ ตอนนี้ได้ปลดล็อกพื้นที่โรงแรม: ลานบ้าน”
เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที กระโดดลุกขึ้นจากโซฟา
นี่กำลังฝันอยู่เหรอ?
เธอรีบเปิดหน้าจอแสดงผลเสมือนจริงของระบบขึ้นมา และเห็นข้อมูลส่วนตัวของเธอแสดงอยู่ดังนี้
ผู้เล่น: เฟิงหยวนหนิง
ระดับ: คนธรรมดาสามัญ
ยอดคงเหลือในบัญชี: 3 ทอง 51 เงิน และ 121 ทองแดง
ชื่อโรงแรม: โรงแรมเซียนหยวน (ระดับ 1)
เงื่อนไขการอัปเกรดโรงแรม: รับรองแขกทั้งหมด 22/50 คน และทำภารกิจให้สำเร็จ 3/3 ภารกิจ
เอฟเฟ็กต์พิเศษของโรงแรม: บาเรียอยู่ยงคงกระพัน ทำความสะอาดอัตโนมัติ
ภารกิจ: ไม่มี
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ในขณะที่เธอหลับไปนั้น มีลูกค้าสองรายเข้ามาใช้บริการที่โรงแรมของเธอ และลูกค้าทั้งสองรายนี้ซื้อของเป็นจำนวนมาก จนทำให้เธอสามารถทำภารกิจสำเร็จในทันที
นอกจากจะซื้อของจำนวนมากแล้ว ลูกค้าทั้งสองรายยังเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาแพงอีกด้วย ทำให้ยอดเงินในบัญชีของเธอเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่าลูกค้าทั้งสองรายเป็นคนร่ำรวยอย่างแท้จริง
เฟิงหยวนหนิงปิดหน้าจอระบบ แล้วหันไปมองออกนอกโรงแรม พบว่ากลุ่มคนที่กำลังซื้อของยังคงอยู่ และกำลังช่วยกันขนของขึ้นเกวียน
เธออดไม่ได้ที่จะหันไปมองหน้าจอระบบอีกครั้ง
เงื่อนไขการอัปเกรดโรงแรม: รับรองแขกทั้งหมด 22/50 คน และทำภารกิจให้สำเร็จ 3/3 ภารกิจ
ภารกิจ: ไม่มี
ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอขาดตอนนี้คือจำนวนแขกที่มาใช้บริการ แต่จำนวนสินค้าที่ขายไม่สำคัญอีกต่อไป
นอกจากนี้ หลังจากทำภารกิจก่อนหน้าเสร็จสิ้น ทำไมถึงไม่มีภารกิจใหม่ให้ทำ?
หรือว่าจะต้องรออัปเกรดโรงแรมเป็นระดับ 2 ก่อนถึงจะมีภารกิจใหม่?
ช่างเจ้าเล่ห์จริง ๆ!
เนื่องจากเธอสามารถรับได้แค่สามภารกิจในช่วงเริ่มต้น หากเธอล้มเหลวในการทำภารกิจใด ๆ การอัปเกรดก็จะล้มเหลวด้วยใช่ไหม?
ถ้าเป็นอย่างนั้น ระบบโรงแรมจะทอดทิ้งเธอไปเลยหรือเปล่า?
แต่ที่น่าเสียดายคือ รางวัลภารกิจที่แล้วเป็นลานบ้าน ไม่ใช่เครื่องปรับอากาศอย่างที่เธออยากได้ และลานบ้านก็ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ในโลกแบบนี้ แค่ออกไปเดินเล่นข้างนอกก็ได้เห็นวิวธรรมชาติสวย ๆ มากมายแล้ว จะไปดูวิวในลานบ้านทำไม?
เฟิงหยวนหนิงปิดหน้าจอระบบลงด้วยความเสียดาย และไม่มีความตั้งใจจะเข้าไปจัดการติดตั้งลานบ้านที่เพิ่งปลดล็อก
เธอลุกขึ้นยืน และเดินออกจากโรงแรมไปยังบริเวณประตูทางเข้า
เห็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูงกำลังคุมคนงานขนของอยู่ เขาไว้หนวดยาว ดวงตาเรียวเล็ก ดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกหรี่ตามอง
เฟิงหยวนหนิงดูสิ่งของที่พวกเขาขนขึ้นเกวียน ตามที่คาดไว้ ส่วนใหญ่เป็นหม้อไฟสำเร็จรูปหลากหลายรสชาติ ตามมาด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่มบรรจุขวด และสุดท้ายก็สินค้าอื่น ๆ อีกจำนวนเล็กน้อย
ในขณะนี้ ชายวัยกลางคนร่างผอมกำลังควบคุมงาน และเพลิดเพลินกับเยลลี่รวมมิตรในมือ
เนื้อเยลลี่สีใส มีเนื้อผลไม้หลายชนิดผสมอยู่ ทั้งส้ม มะพร้าว ลูกพีชสีเหลือง สับปะรด และเชอร์รี่
ชายวัยกลางคนกินอย่างมีความสุข รู้สึกว่าเยลลี่นุ่มลื่น ผลไม้หวานอร่อย ซึ่งผลไม้รสหวานเช่นนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่งในท้องตลาด
ไม่ต้องพูดถึงผลไม้ตามข้างทางที่ส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยวและฝาด แม้กระทั่งผลไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ก็ยังไม่มีรสหวานเท่านี้เลย
หวานอร่อยจนเขาเทให้ทั้งใจ
เขากำลังใช้ช้อนตักเนื้อผลไม้ใส่ปากคำโต ๆ
ทันใดนั้น เขาก็สังเกตเห็นลูกน้องที่กำลังขนของต่างเหลือบมองไปยังทิศทางหนึ่งเป็นตาเดียว ด้วยความสงสัย เขาจึงหันไปมองตาม ก่อนจะเห็นเฟิงหยวนหนิงกำลังยืนมองพวกเขาอยู่ที่ประตูทางเข้า
ชายวัยกลางคนร่างผอมถึงกับตะลึงงัน แม้เฟิงหยวนหนิงจะดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ทว่าการแต่งตัวกลับไม่เหมือนคนธรรมดา และยังดูพิเศษอย่างน่าประหลาด
ในฐานะที่เป็นลูกหลานตระกูลหมิง เขามีประสบการณ์ในโลกภายนอกมากพอสมควร และสัญชาตญาณของเขาบอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา
เธอสวมกระโปรงสีฟ้าไล่ระดับ ผมสั้นถูกรวบเป็นหางม้า และที่น่าแปลกคือดวงตาดูเหมือนจะมีแผ่นบาง ๆ สีใสติดอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไร
เมื่อนึกถึงความลึกลับของโรงแรมแห่งนี้ เขาอดไม่ได้จะเกิดความสงสัย
เขาถามขึ้นด้วยความลังเลว่า “ไม่ทราบว่าท่านเป็นเถ้าแก่ของโรงแรมแห่งนี้ใช่หรือไม่ขอรับ?”
เฟิงหยวนหนิงพยักหน้าตอบรับ “ใช่แล้ว”
ชายวัยกลางคนร่างผอมรีบก้มตัวลงกล่าวขอโทษ “ขออภัยที่เสียมารยาทขอรับ ข้าเป็นเถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิง พอดีได้มีโอกาสลิ้มลองอาหารที่ร้านท่านแล้วรู้สึกประทับใจยิ่ง จึงรีบรุดมาซื้อของด้วยตัวเอง หากเป็นการรบกวน ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ขอรับ”
สายตาของเฟิงหยวนหนิงไม่ได้มองเขา แต่กำลังมองไปทางคนงานทั้งห้าที่กำลังขนของ
ตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการคือเพิ่มจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ไม่ใช่จำนวนสินค้าที่ขายออกไป
อย่างไรก็ตาม ลูกค้าของเธอเกือบทั้งหมดซื้อสินค้าไปในปริมาณที่มาก ส่งผลให้ยอดการขายน่าประทับใจ ทว่าจำนวนคนที่มาใช้บริการกลับน้อยนิดจนน่าเวทนา
เฟิงหยวนหนิงหันไปทางเถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิงแล้วถามว่า “ที่ท่านซื้อจำนวนมากในคราวเดียว เพื่อนำไปขายต่อในโรงเตี๊ยมของท่านหรือ?”
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นใบหน้าของเขาก็ซีดลงเล็กน้อย
นี่เถ้าแก่กำลังถามเขาอยู่เหรอ? หรือว่านางกำลังไม่พอใจที่เขาทำธุรกิจเก็งกำไรแบบนี้?
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิงรีบอธิบายว่า “เรียนเถ้าแก่ โรงเตี๊ยมของข้าน้อยอยู่ใกล้กับหุบเขาการแพทย์ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไข้และญาติที่มารอพบหมอ ซึ่งจะไม่มีทางรบกวนท่านเลย เมื่อกลับไปแล้ว ข้าน้อยจะบอกลูกค้าให้ชัดเจนว่า ของเหล่านี้มาจากไหนและราคาเท่าไหร่ แล้วจะพยายามชักชวนให้ลูกค้ามาอุดหนุนที่ร้านของท่านด้วย”
เฟิงหยวนหนิงพยักหน้าตอบ “อืม เมื่อท่านซื้อเสร็จแล้ว ร้านของข้าจะเริ่มจำกัดการซื้อทันที โดยแต่ละคนจะซื้อสินค้าชนิดเดียวกันได้ไม่เกิน 3 ชิ้นต่อวัน การจำกัดการซื้อจะทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ท่านสามารถใช้โอกาสนี้กักตุนของเพิ่มได้”
เนื่องจากเถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิงช่วยให้เธอทำภารกิจสำเร็จ เธอจึงตัดสินใจบอกใบ้และให้โอกาสเขา
เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตระกูลหมิงถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนกล่าวด้วยความดีใจว่า “ขอบคุณเถ้าแก่ที่เมตตาขอรับ ข้าน้อยขอขอบคุณท่านมาก!”
ดูเหมือนว่าเถ้าแก่โรงแรมจะไม่พอใจในพฤติกรรมของเขาจริง ๆ
ทว่าพฤติกรรมของเขาเมื่อครู่ก็ทำให้อีกฝ่ายถึงพอใจ จนนางเมตตาและให้โอกาสเขา
เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขอบคุณสำหรับการวางตัวของตนเอง
เฟิงหยวนหนิงไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอเดินกลับไปที่ล็อบบี้ของโรงแรม แล้วนั่งลงหลังเคาน์เตอร์
เธอเปิดหน้าจอแสดงผลเสมือนจริงของระบบ แล้วเข้าไปยังส่วนจัดการโรงแรม
เมื่อเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคือแบบจำลองโรงแรมสามมิติ
แบบจำลองโรงแรมนี้คล้ายกับโมเดลสามมิติ ซึ่งสามารถหมุนซ้ายขวา และซูมเข้าซูมออกได้
เธอสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งของสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมได้ตามต้องการ เช่น ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ เคาน์เตอร์ โซฟา โต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟระย้า โคมไฟตั้งพื้น หน้าต่าง บันได และห้องพัก เป็นต้น
เธอวางลานบ้านที่เพิ่งได้รับไว้บริเวณด้านหลังของโรงแรม เพื่อใช้เป็นสวนหย่อมให้ลูกค้าได้พักผ่อนหย่อนใจ
จากแบบจำลองสามมิติของโรงแรม เธอเห็นว่าสวนนั้นประกอบด้วยพื้นคอนกรีตและสนามหญ้า มีน้ำพุขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงกลาง ล้อมรอบด้วยต้นไม้และดอกไม้ที่ตัดแต่งอย่างเรียบร้อย
ต้นไม้และดอกไม้เหล่านั้นแบ่งสวนออกเป็นโซน ๆ แต่ละโซนจะมีอุปกรณ์ออกกำลังกาย เช่น เสาไม้ไผ่ที่ใช้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ถุงทราย ลู่วิ่ง ดัมเบลล์ และบาร์เบลล์
เฟิงหยวนหนิงรู้สึกว่าสวนแห่งนี้ดูเหมือนสวนสาธารณะทั่วไป เมื่อเทียบกับธรรมชาติในโลกปัจจุบันที่เธอจากมา เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันมากจริง ๆ
บางที เครื่องออกกำลังกายในสวนอาจมีประโยชน์ก็ได้ แต่เครื่องออกกำลังกายเหล่านี้ส่วนใหญ่เหมาะสำหรับคนทั่วไป สำหรับผู้ฝึกยุทธแล้ว มันอาจจะไม่ได้ผลที่ดีนัก
เฮ้อ ทุกอย่างไม่เป็นไปอย่างที่คิดเลย ลานบ้านก็เหมือนจะไม่มีประโยชน์ ไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่จะทิ้งก็น่าเสียดาย
เธอเงยหน้าขึ้นไปดูที่ด้านบนของหน้าจอเสมือนจริง พบว่ามีรายการจัดการต่าง ๆ เช่น ตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ และห้องพัก
เธอตั้งใจจะปรับตั้งตู้ขายสินค้าอัตโนมัติใหม่ ให้เป็นรูปแบบจำกัดการซื้อ
แต่พอเงยหน้าขึ้นไปดูอีกครั้ง เธอก็พบว่า นอกจากการจัดการห้องพักและตู้ขายสินค้าอัตโนมัติแล้ว ยังมีตัวเลือกการจัดการลานบ้านเพิ่มขึ้นมาอีก
แต่ลานบ้านจะมีอะไรให้ต้องจัดการเป็นพิเศษ?
เฟิงหยวนหนิงรู้สึกสงสัย จึงเข้าไปดูในส่วนจัดการลานบ้าน ก่อนจะพบว่าแท้จริงแล้ว ลานบ้านที่ได้รับมาไม่ได้มีแค่แบบเดียว
เมื่อเงื่อนไขครบถ้วน ลานบ้านจะสามารถเปลี่ยนธีมได้เรื่อย ๆ เช่น น้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน หมู่บ้านเทพนิยาย เกมเอาชีวิตรอด 100 คน ชายหาด สวนสนุกผีสิง เมืองซอมบี้ สวนสนุกสุดหวาดเสียว เป็นต้น
เฟิงหยวนหนิงเห็นดังนั้นก็ตกใจ
จะเป็นไปได้ยังไง? โรงแรมแห่งหนึ่งสามารถพัฒนาฟังก์ชันแบบนี้ได้ด้วยหรือ?
หากพิจารณาจากชื่อ ดูเหมือนว่าน้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อน รวมถึงชายหาดจะเป็นธีมปกติทั่วไป แต่ว่าเกมเอาชีวิตรอด 100 คน? สวนสนุกผีสิง? เมืองซอมบี้?
มันดูเหมือนดันเจี้ยนในเกมเลยไม่ใช่หรือไง?
เธอคิดว่า โรงแรมแค่ต้องให้บริการที่พัก อาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่มาพร้อมกับโรงแรม เช่น โรงภาพยนตร์ สระว่ายน้ำ ห้องคาราโอเกะ และอินเทอร์เน็ตคาเฟ่
ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเปิดโรงแรมที่ดัดแปลงมาแล้ว แต่เธอก็คิดว่า อย่างมากคงจะเพิ่มฟังก์ชันสำหรับช่วยเหลือในการฝึกฝนเข้าไปเท่านั้นเอง
ตัวอย่างเช่น การพักในโรงแรมจะช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกฝน หรือการรับประทานอาหารในโรงแรมจะช่วยเพิ่มกำลังภายใน
แต่เธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จินตนาการของเธอจะยังไม่กว้างไกลพอ
เธอเป็นฝ่ายแพ้แล้ว
เธอเลือกธีมลานบ้านแบบสุ่ม โดยเลื่อนดูคำอธิบายสั้น ๆ ซึ่งยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้น
ไม่ต้องคิดอะไรมาก เธอเลือกธีมน้ำพุน้ำแข็งและน้ำพุร้อนทันที
น้ำพุร้อน: เมื่อเข้าไปแช่ในน้ำพุร้อนครั้งแรก จะสามารถล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูก เมื่อแช่น้ำพุร้อนครั้งต่อไป หากแช่ต่อเนื่องจะช่วยบรรเทาอาการบาดเจ็บจากพิษและบาดแผลภายใน
น้ำพุน้ำแข็ง: ช่วยให้จิตใจสงบและมีสมาธิ เมื่อฝึกตนภายในน้ำพุน้ำแข็ง ความเร็วในการฝึกฝนจะเพิ่มขึ้น 5 เท่า ซึ่งสามารถอยู่ในน้ำพุน้ำแข็งได้นานสุด 30 นาที
เฟิงหยวนหนิงนึกอยากจะลองล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูกดูบ้าง
ในนิยายกำลังภายใน การล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูกถูกบรรยายว่ามหัศจรรย์มาก แล้วเธอจะไม่ลองทำดูได้ยังไง?
บางที ปัญหาสุขภาพและสายตาของเธอ อาจจะหายได้ด้วยการล้างเส้นลมปราณชำระไขกระดูกก็เป็นได้?
เธอเลื่อนไปอ่านเงื่อนไขการปลดล็อก แล้วพบว่าถ้าอยากจะปลดล็อกธีมลานบ้านอันที่สอง เงื่อนไขแรกคือต้องมีแขก 50 คนเข้าใช้บริการลานบ้านธีมเริ่มต้น และเงื่อนไขที่สองคือระดับของโรงแรมต้องถึงระดับ 2
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องรออีกสักระยะกว่าจะได้ลองแช่น้ำพุร้อนดังกล่าว
เฟิงหยวนหนิงออกจากหน้าจอจัดการลานบ้าน แล้วเข้าไปที่หน้าจอจัดการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ เพื่อปรับเป็นโหมดจำกัดการซื้อ
ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ลูกค้าที่มาใช้บริการตู้ขายสินค้าอัตโนมัติจะไม่สามารถซื้อสินค้าจำนวนมากได้อีกแล้ว