ตอนที่แล้วตอนที่ 61 โอกาสมาถึงแล้ว!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 63 ถ่ายทอดสดมีความเสี่ยง โปรดระวังเมื่อได้เชื่อมต่อ

ตอนที่ 62 ขั้นฝึกฝนพลังชี่สู่ขั้นเทพ ขับเคลื่อนโลกไปข้างหน้า


สามวันต่อมา

ฮวงซินกลับมาที่ห้องให้คำปรึกษาอีกครั้ง

"คุณหมอซู่ นี่คือสิ่งที่คุณต้องการครับ"

"เชิญดูเลยครับ"

ฮวงซินนำสิ่งของมาให้ซู่ซวนด้วยตัวเอง

"วางไว้ตรงนั้นล่ะ"

ซู่ซวนพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

จากนั้น เขาจึงมองไปที่ฮวงซิน

เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแฝง "ว่าไงล่ะ บอสฮวงคิดคำตอบสำหรับคำถามนั้นได้หรือยัง?"

ฮวงซินพยักหน้า "ผมคิดออกแล้ว"

ครั้งนี้ สีหน้าของเขาไม่ได้สับสนเหมือนครั้งที่แล้ว

ตรงกันข้าม บนใบหน้าของเขากลับเผยร่องรอยของการปล่อยวาง

"โอ้?"

ซู่ซวนยิ้มแล้วถาม "งั้นที่คุณเลือกคืออะไรล่ะ?"

ฮวงซินไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่กลับถามขึ้นมาแทนว่า "คุณหมอซู่ ผมอยากถามให้มั่นใจก่อนนะครับ"

"หากผมใช้เงินทั้งหมดที่มีไปในตอนนี้ มันก็น่าจะเรียกว่าฐานะร่ำรวยหมดสิ้นแล้วใช่ไหมครับ?"

"ไม่ว่าจะนำไปใช้อะไรก็ตามด้วย?"

ซู่ซวนขมวดคิ้วขึ้น แววตายิ้มแฝงเผยขึ้น

"คุณพูดถูกต้องแล้ว"

ดวงตาของฮวงซินเปล่งประกาย เขาเอ่ยต่อว่า "งั้นผมมีอีกคำถามครับ"

"ถ้าหากผมป่วยอยู่แล้ว เป็นโรคที่ไม่สามารถหายขาดได้"

"จะมีโอกาสติดโรคร้ายอื่นๆ เพราะการติดเชื้อได้ไหมครับ?"

"หรือว่า คุณหมอซู่ คุณสามารถช่วยผมได้ไหมครับ?"

รอยยิ้มในดวงตาของซู่ซวนลึกล้ำมากขึ้น เขาพยักหน้า "ผมช่วยคุณในเรื่องนี้ได้จริงๆ"

"ขอเพียงคุณป่วยอยู่แล้วและยังไม่ได้รับการรักษาให้หายขาด คุณจะไม่ได้รับผลกระทบอีกครั้ง"

ประกายแห่งความประหลาดใจเผยขึ้นในดวงตาของฮวงซิน

เขาคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นไปได้จริงๆ!

เขาลากลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดอย่างตั้งใจ "ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นผมเลือกแล้วครับ"

"คุณหมอซู่ ผมเลือกครอบครัวและมิตรภาพ"

"ส่วนฐานะร่ำรวยและสุขภาพ... งั้นผมจะยอมสละมัน"

แปะ แปะ

ซู่ซวนยิ้มพลางปรบมือเบาๆ "ไอเดียดีสุดๆ"

"แต่เรื่องแบบนี้ ไม่ใช่คุณจะมาตัดสินใจเองได้สินะ"

ฮวงซินยิ้มกระอักกระอ่วน

ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา นับตั้งแต่ที่เขากลับไป เขาก็คิดหนัก

ช่วงแรกๆ เขานึกไม่ออกว่าต้องทำยังไง

จนผมร่วงไปหมดกระจุกแล้ว

ในสามตัวเลือกที่ซู่ซวนให้มา เขาไม่อยากสละความมั่นคงแม้แต่ข้อเดียว

ต่อมา เขาค้นพบวิธีแก้ปัญหาของจริงได้!

เมื่อเขาคิดอะไรไม่ออก เขาก็จะถามคนที่คิดได้สิ

ช่วงหลายปีมานี้ บอสฮวงอย่างเขาสะสมชื่อเสียงไว้เป็นอย่างมาก

ยังรู้จักเพื่อนชาวต่างชาติมากมาย

ถึงแม้ว่าในนั้นจะมีพวกไม่น่าเชื่อถือหรือพวกต้มตุ๋นอยู่ไม่น้อย

แต่ก็ยังมีบางคนที่ถือว่าค่อนข้างมีความสามารถเลยทีเดียว

ในสภาพแวดล้อมการบ่มเพาะในปัจจุบัน พวกเขาสามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์เลยล่ะ

ถึงแม้ว่า "ปรมาจารย์" พวกนี้จะไม่สามารถช่วยฮวงซินพลิกวิกฤตนี้ได้ แต่อย่างน้อยก็พอให้คำแนะนำบางอย่างได้

ในบรรดาพวกเขานั้น คนหนึ่งในนั้นได้ให้เคล็ดลับคล้ายๆ กับการอาศัยช่องโหว่กฎข้อหนึ่ง หลังจากที่ได้รับฟังเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นกับฮวงซิน

ฮวงซินจำได้แม่น

ปรมาจารย์ด้านศาสตร์เร้นลับที่มาจากรัฐบาล ผู้ที่เคยวางตัวกร่างไม่ไว้หน้าใคร

ตอนแรกที่ได้ฟังเรื่องราวของฮวงซินก็ตอบกลับมาด้วยความดูแคลน

แต่หลังจากฮวงซินกล่าวจบ ท่าทีของเขากับเปลี่ยนไปทันที

แถมยังขอข้อมูลการติดต่อของซู่ซวนจากฮวงซิน ด้วยอ้างว่าต้องการจะขอคำแนะนำจากปรมาจารย์รุ่นพี่ซู่

ในใจของฮวงซิน การประเมินที่มีต่อซู่ซวนได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง

ความเปลี่ยนแปลงของภาพลักษณ์ซู่ซวนในใจของเขานั้น...

เปลี่ยนจากผู้เชี่ยวชาญทางโลกที่มาหาประสบการณ์ในโลกมนุษย์ กลายเป็นปรมาจารย์ไร้สังกัดผู้หยั่งรู้ไม่ได้

ซู่ซวนไม่ได้ใส่ใจตอนที่เขาได้ยินฮวงซินพูดถึงปรมาจารย์ที่อยากมาเยี่ยม

จะมาก็มาสิ

เขาก็อยากจะทำความรู้จักกับผู้บำเพ็ญตนคนอื่นเหมือนกัน

ฮวงซินแสดงความคาดหวังออกมา "คุณหมอซู่ งั้นวันนี้ผมควรเริ่มทานยาเลยใช่ไหมครับ?"

"ได้!"

ซู่ซวนพูด "ไปหยิบรูปปั้นที่ชั้นสาม ช่องที่ห้าจากทางซ้าย"

ฮวงซินหยิบรูปปั้นแกะสลักหยกออกมาทันทีตามคำแนะนำ

รูปปั้นนี้แกะสลักเป็นรูปชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา

เขาเหลือแขนเพียงข้างเดียว และมีแผลเป็นสามแผลพาดผ่านตาซ้าย

นอกจากนี้ยังมีดาบติดตัวอยู่ด้วย

บริเวณฐานของรูปปั้น มีคำอธิบายสั้นๆ อยู่ไม่กี่คำ

รูปปั้นแกะสลักจากหยก: แชงคูส "ผมแดง"

คุณสมบัติ: ถึงแม้เขาจะเป็นแค่หัวหน้าโจรสลัด แต่เขามีคอนเนคชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ต้องไว้หน้าเขาบ้าง

หากได้เล่นรูปปั้นนี้ไปนานๆ คุณจะมีความเข้าใจในความซับซ้อนของความสัมพันธ์เชิงสังคมมากขึ้น

ราคา: 1.6 ล้าน

ฮวงซินดูงุนงง

นี่มันอะไรกัน?

เขามองขึ้นไปที่ซู่ซวน "คุณหมอซู่ นี่มัน..."

"คุณทายถูกต้องแล้ว"

ซู่ซวนยิ้มและพูดว่า "นี่คือยาของคุณ"

ฮวงซินแสดงสีหน้าแปลกประหลาดออกมา นี่มันยาตรงไหนกัน?

ฟังดูมันช่างล้ำหลุดโลกเหลือเกิน?

เขาเอ่ยอย่างลังเล "งั้นยานี้ต้องใช้ยังไงครับ? แค่เอากลับบ้านแล้วเก็บเอาไว้เฉยๆ ก็ใช้ได้แล้วเหรอ?"

ซู่ซวนยิ้มพลางส่ายหัว "ไม่ต้องเป็นห่วง คุณต้องใช้เลือดเพื่อยอมรับเจ้านายก่อน"

"ใช้เลือดหยดเดียวเพื่อยอมรับเป็นเจ้านาย?"

แววตาฮวงซินเปล่งประกายขึ้นทันที

มันช่างเหมาะสมจริงๆ!

ในโลกอินเตอร์เน็ต ของที่สามารถใช้เลือดยอมรับเป็นเจ้านายได้นั้นมีระดับต่ำสุดในระดับของดีเลยนะ!

เขารีบหยิบเข็มเหล็กที่ซู่ซวนส่งให้ด้วยความอดรนทนไม่ไหว

เขาแทงนิ้วตัวเองด้วยเข็มเหล็ก บีบเลือดออกมาหนึ่งหยด แล้วหยดลงบนรูปปั้น "ผมแดง" แชงคูส

แสงสีทองเปล่งประกายขึ้น จากนั้นหยดเลือดเมื่อกี้ก็ถูกดูดซับและหายเข้าไปในรูปปั้นดังกล่าว

ฮวงซินรู้สึกได้ถึงความเชื่อมโยงอันอธิบายไม่ได้ระหว่างตัวเขากับรูปปั้นนี้

ชั่วพริบตาเดียว ลมหายใจของเขาก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาได้พบเจอปรมาจารย์นับไม่ถ้วน และเชิญ "ของวิเศษ" มามากมาย

ไม่มีสมบัติล้ำค่าเหล่านั้นที่ทำให้เขารู้สึกแบบนี้ได้เลย

ครั้งนี้ เขาได้เจอของแท้จริงๆแล้ว!

ฮวงซินเอ่ยขึ้น "คุณหมอซู่..."

"ไม่ต้องรีบ มันยังไม่จบแค่นี้"

ซู่ซวนหยิบพู่กันสีแดงและกระดาษออกมา แล้ววาดรูปชายชุดโบราณตัวใหญ่ขึ้น

ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนนี้ถือกระบี่ชิงหลงเอี้ยนเยว่ไว้ในมือ มีหนวดเครายาวถึงหน้าอก และขี่ม้าผู้สง่างาม

มันคือตัวแทนที่ชัดเจนของการเป็นชายไร้เทียมทานมาหลายพันปี ส่งนายกวนรุ่นที่สองมาเลย!

"นี่เป็นยาอีกตัวหนึ่ง ใช้ร่วมกันกับชิ้นก่อนหน้า คุณต้องพกมันไว้กับตัว"

"ยาตัวนี้อายุการใช้งานเพียงหนึ่งปีเท่านั้น ในอนาคตคุณต้องมาที่นี่เพื่อต่ออายุมันเป็นประจำทุกปี"

ในสถานการณ์ของฮวงซิน โชคลาภของเขาลดลงอย่างมหาศาล

การพึ่งพาของวิเศษเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถหยุดยั้งการสูญเสียโชคลาภได้

ของวิเศษต้องทำงานร่วมกับยันต์ถึงจะรับประกันผลลัพธ์ได้

"ขอบคุณคุณหมอซู่"

ตอนนี้ ฮวงซินเชื่อมั่นในซู่ซวนอย่างหมดใจแล้ว

"คุณหมอซู่ รวมๆ แล้วเป็นจำนวนเท่าไหร่ครับ รวมทั้งค่ายาในอนาคตด้วย ผมอยากจ่ายทั้งหมดทีเดียวเลย"

เขายิ้มอย่างหมดหนทาง: "ถ้าไม่จ่ายตอนนี้ ไม่อย่างนั้นผมอาจจะไม่มีปัญญาจ่ายในอนาคตก็ได้"

ซู่ซวนพูดอย่างสบายๆ: "ยาตัวแรกราคา 1.6 ล้าน ตัวที่สองปีละ 10,000 วันละรวมๆ 530,000

"รวมแล้วเป็น 2.13 ล้าน"

หลังจากคิดวิเคราะห์อยู่ครู่หนึ่ง ฮวงซินก็เข้าใจความหมายของซู่ซวน แววตาหดเกร็งลงอย่างมาก

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่มุมปากซู่ซวน ใบหน้ายังคงสงบนิ่ง เขาก็รู้สึกซับซ้อนจนอธิบายไม่ถูก

นี่หมายความว่า เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 53 ปีอย่างนั้นหรือ?

ไม่ถือว่าเลวเลยนะ

ซู่ซวนพูดว่า "คุณฮวง คุณคิดดีแล้วหรือยังครับว่าจะจัดการกับสิ่งต่างๆ ในอนาคตยังไง?"

ฮวงซินพยักหน้า: "ผมคิดไว้เรียบร้อยแล้ว"

"ทรัพย์สินทั้งหมดของผมรวมเป็นเงินประมาณ 16 พันล้าน"

"ผมกะว่าจะตั้งกองทุนสองกองทุน และโอนทรัพย์สินทั้งหมดที่อยู่ภายใต้ชื่อของผมไปที่นั่น"

"กองทุนแรกคือกองทุนครอบครัว จำนวนเงิน 8 พันล้าน"

"กองทุนนี้จะจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่ผมกำหนดไว้เป็นประจำ"

"รวมทั้งครอบครัวและลูกหลานของผม"

"แต่ไม่รวมตัวผมเอง"

ซู่ซวนพยักหน้า

บอสฮวงคนนี้ก็เข้าใจแก่นแท้ของบั๊กกฏดีเหมือนกัน

ในเมื่อไม่มีเงินเป็นของตัวเอง ก็ควรจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดไปให้กับครอบครัว

ด้วย "ยา" ของซู่ซวนเป็นหลักประกัน ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะยังคงแน่นแฟ้น ป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องนองเลือด

ส่วนตัวเขาเองก็สามารถใช้ชีวิตหลังจากนี้ได้อย่างสุขสบายไร้กังวล

ฮวงซินยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นว่าซู่ซวนเห็นด้วย

เขากล่าวต่อ "อีก 8 พันล้านที่เหลือ ผมจะก่อตั้งเป็นกองทุนมิตรภาพ"

"เพื่อนๆ ที่เคยช่วยเหลือผมสามารถมายื่นเรื่องขอความช่วยเหลือจากกองทุนได้ยามที่พวกเขาตกที่นั่งลำบาก"

"จำนวนเงินจะขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ อาจจะอยู่ระหว่าง 1 ล้านไปจนถึง 1 พันล้านหยวนเลยก็ได้"

เมื่อกล่าวมาถึงตรงนี้ ฮวงซินจ้องมองไปที่ซู่ซวนด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

"คุณหมอซู่ คุณคือผู้ที่มีระดับความสัมพันธ์สูงสุดครับ"

ซู่ซวนยิ้มบางๆ

เขาเองก็ต้องยอมรับเช่นกันว่าฐานะในปัจจุบันของบอสฮวง ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะโชคลาภของเขาเองเพียงอย่างเดียว

อีกครึ่งหนึ่งของเหตุผลนั้น ก็เป็นเพราะว่าตัวเขาเข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่า "ยอมเสีย" เป็นอย่างดี

การสามารถใช้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตัวเองไปผูกมิตรนั้น ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทำได้

ฮวงซินพูดอย่างกังวล "คุณหมอซู่ ผมจัดการแบบนี้ได้ไหมครับ? มันโอเคหรือเปล่า?"

ซู่ซวนพยักหน้า: "ไม่มีปัญหา"

"งั้นมีอีกคำถามหนึ่ง"

"คุณอยากจะป่วยด้วยโรคอะไร?"

"ขอผมบอกคุณไว้ก่อนนะครับ หากคุณติดโรคนี้เข้าไปแล้ว คุณจะไม่มีวันหายขาดตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ คุณต้องคิดให้ดี"

ฮวงซินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกล่าวว่า "ผมวางแผนจะบริจาคไตข้างหนึ่งครับ"

"มีคนติดต่อมาหาผม พอดีมีเด็กชายอายุหกขวบที่เนื้อเยื่อเข้ากันได้พอดี"

"ฐานะทางบ้านของเขาลำบากมาก ผมจึงวางแผนจะช่วยเขาออกค่าผ่าตัดด้วย"

"น่าจะไม่มีปัญหากับการทำแบบนี้ใช่ไหมครับ?"

ซู่ซวนพยักหน้าเห็นด้วย

ไม่ได้แค่ไม่มีปัญหาเท่านั้น

แต่เรียกว่าบั๊กสุดขีดเลยต่างหาก!

มหาเศรษฐีคนหนึ่ง บริจาคไตข้างหนึ่งให้แก่เด็กยากจนอายุหกขวบ

ข่าวแบบนี้เมื่อเผยแพร่สู่สาธารณชน ย่อมก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมอย่างแน่นอน

เรื่องแบบนี้ต้องทำให้สวรรค์ชื่นชมอย่างแน่นอน

เมื่อฮวงซินทำเรื่องนี้แล้ว คุณความดีที่เขาสะสมมาก็มากพอจะทำให้เขาได้ไปเกิดใหม่ในชาติหน้าได้อย่างไร้กังวล

แม้แต่ตัวซู่ซวนเอง ก็อาจจะได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์ (กฏแห่งสวรรค์) เมื่อถึงเวลานั้นด้วย

คนที่อยู่เบื้องหลังบอสฮวงคนนี้ ไม่รู้ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังบอสฮวงจะมีพละกำลังมากมายขนาดไหน แต่สายตาของเขาดูน่าเชื่อถือทีเดียวเลย

ซู่ซวนพยักหน้าและบอก "โอเค"

"คุณมีเวลาหนึ่งเดือนในการจัดการเรื่องพวกนี้"

"เตรียมตัวให้พร้อม"

ฮวงซินพยักหน้าอย่างว่าง่าย

เขาเอ่ยลาซู่ซวนแล้วจากไปอย่างรวดเร็ว

ซู่ซวนลุกขึ้นและเปิดดูวัสดุที่ฮวงซินส่งมา

รอยยิ้มเผยขึ้นบนใบหน้าของเขา

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ซู่ซวนได้จัดระเบียบความรู้เรื่องกระบวนทัพที่อยู่ในหยกชิ้นนั้นเรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้ วัสดุสำหรับสร้างกระบวนทัพได้ครบหมดแล้ว

ท้ายที่สุด ก็สามารถเริ่มต้นลงมือสร้างกระบวนทัพได้สักที

ซู่ซวนปิดห้องให้คำปรึกษาและไม่รับแขก

จากนั้นจึงจัดเรียงวัสดุทั้งหมดตามรูปแบบของกระบวนทัพ

"ได้ที่แล้ว"

ผ่านไปนานพอสมควร ซู่ซวนได้ติดตั้งกระบวนทัพจนสำเร็จ

กระบวนทัพขนาดจิ๋วที่มีรัศมีเพียงไม่กี่เมตร ได้ปรากฏขึ้นกะทันหันภายในห้องให้คำปรึกษา

ซู่ซวนดีดนิ้วเบาๆ

ในทันที คลื่นลมที่มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าได้แผ่กระจายออกมาจากศูนย์กลางของกระบวนทัพ

จากนั้น คลื่นลมเหล่านั้นทะลุผ่านกำแพงไร้การสูญเสียพลังงานใดๆ และกระจายตัวออกไปรอบๆ ดุจดั่งระลอกน้ำ

"อืม?"

หัวใจของซู่ซวนเต้นระรัว

เขามีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ว่า กระบวนทัพที่ตัวเขาสร้างขึ้นนี้

มันดูเหมือนจะมีความหมายพิเศษบางอย่างต่อสวรรค์ (กฎแห่งสวรรค์) ในยุคปัจจุบัน...

"..." เขาไม่ได้แม้แต่จะครวนครางออกมาแล้ว ตอนนี้เขากำลังจะทะลวงด่านขั้นต่อๆไปแล้ว

ซู่ซวนสูดหายใจเข้าลึก ๆ นั่งลงตรงกลางกระบวนทัพ หลับตาลงแล้วเริ่มการทะลวง

และในตอนนั้นเอง

บนท้องฟ้า

เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องขึ้นกะทันหัน

เสียงฟ้าร้องนี้ก็เหมือนกับเสียงกระตุ้นนั่นละ

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เสียงฟ้าร้องจำนวนนับไม่ถ้วนได้ดังกึกก้องขึ้นมาติดๆ กัน

หลายคนในรัศมีหลายสิบกิโลเมตรได้เงยหน้าขึ้นอย่างตกตะลึง และมองขึ้นไปบนท้องฟ้า

ทำไมอยู่ๆฟ้าร้องก็ดังขึ้นมาได้ล่ะ?

ในเวลาเดียวกัน

ผู้บำเพ็ญตนนับไม่ถ้วนทั่วโลกต่างก็รู้สึกถึงความรู้สึกแปลกประหลาดในใจ

ราวกับว่า...

มีบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น

หลังจากได้สัมผัสความรู้สึกนี้อย่างถี่ถ้วน ในไม่ช้ามันก็หายไปอย่างหาสาเหตุไม่พบ

ราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน...

ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกงงงวย

ผ่านไปนาน

ในห้องให้คำปรึกษา ซู่ซวนลืมตาขึ้น

รอยยิ้มเผยขึ้นตรงมุมปากของเขา

การทะลวงเข้าสู่ขั้นฝึกฝนพลังชี่สู่ขั้นเทพสำเร็จลงแล้ว!

จากนี้ต่อไป เขาถือว่าเป็นบิ๊กบอสในโลกการบ่มเพาะเลยทีเดียว

เมื่อหลายพันปีก่อน การมีพลังระดับนี้เพียงพอต่อการเป็นผู้นำของสำนักผู้บำเพ็ญตนอันยิ่งใหญ่อีกด้วย

"น่าเสียดาย..…………"

ซู่ซวนรู้สึกเสียดายเล็กน้อย

อาจารย์ของเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เนิ่นๆ

ทำให้ซู่ซวนต้องฝึกฝนเพียงลำพังมาจนถึงตอนนี้

ไม่เคยแม้แต่จะได้รู้จักเพื่อนสักคน

ในที่สุดเขาก็ฝ่าด่านได้สำเร็จแล้ว แต่กลับไม่มีใครมาแสดงความยินดีกับเขาเลย

"ช่างมันเถอะ"

ซู่ซวนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ

ของพวกนี้เป็นเพียงเรื่องไร้สาระเล็กน้อย

เมื่อนึกถึงขั้นตอนการฝ่าด่านเมื่อครู่นี้ ซู่ซวนก็เริ่มครุ่นคิดอย่างลึกซึ้ง

เขาดันไปสังเกตเห็นข้อมูลทีละนิดทีละหน่อยที่สวรรค์หรือกฏแห่งสวรรค์ได้เผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

ดูเหมือนว่าโลกนี้กำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น

ที่น่าสนใจก็คือ

การทะลวงด่านของซู่ซวนเมื่อกี้นี้ เหมือนกับประกายไฟที่กระโดดไปบนกระทะทอด!

ดูเหมือนว่ามันได้บังเอิญก่อให้เกิดการเร่งให้การเปลี่ยนแปลงของโลกนี้เคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมาก!

อาจจะพูดได้ว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ

แต่ก็สามารถกล่าวได้ว่านี่ ไม่ใช่ เรื่องบังเอิญ

โลกใบนี้ได้รอคอยประกายไฟนี้มานานแสนนาน

นานนับหลายร้อยปีมาแล้ว

และซู่ซวนก็เป็นคนแรกในรอบหลายร้อยปี

"ก็น่าสนใจดีเหมือนกัน"

รอยยิ้มเผยขึ้นตรงมุมปากของซู่ซวน

โลกใบนี้ดูเหมือนจะน่าสนใจมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้

เส้นทางการบ่มเพาะของเขาต้องเร่งความเร็วแล้ว

...

วันถัดมา

ซู่ซวนเริ่มไลฟ์สดอีกครั้ง

คนดูหลายแสนคนพากันหลั่งไหลเข้าห้องไลฟ์สดอย่างรวดเร็ว

ในเวลาไม่ถึงกี่นาที จำนวนผู้เข้าชมก็เกินหนึ่งล้านเข้าไปแล้ว

เหล่าสตีมเมอร์หลักคนอื่นๆ ของโม่อิ้ง ต่างรับรู้ได้ถึงการสูญเสียผู้คนจำนวนมากออกไปจากห้องไลฟ์สดอย่างรวดเร็ว

ทำให้สตีมเมอร์หลายคนต่างอิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว

ซู่ซวนใช้เวลาขึ้นมาไม่นานก็จริง แต่ความเร็วในการพุ่งทะยานดันน่าตกตะลึงเป็นอย่างมาก

แน่นอนว่าเขาคือสตีมเมอร์ระดับปรากฏการณ์แห่งโม่อิ้งที่เติบโตได้รวดเร็วที่สุด

"คุณผู้ป่วยที่รักทั้งหลาย ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"

ซู่ซวนยิ้ม

เหล่าคนดูต่างส่งข้อความถล่มกันอย่างบ้าคลั่ง

"ผมป่วยแล้ว และผมต้องการคุณหมอสาวสวยวัย 16-18 ปี น้ำหนักประมาณ 70-85 ปอนด์ [ผิวขาวและรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น] มาช่วยรักษาผม!"

"ขายเครื่องดื่มเมล็ดทานตะวันแถวหน้าเลยจ้า"

"ผมเป็นเจ้าหน้าที่เทศกิจ ไม่อนุญาตให้ตั้งแผงลอยแถวนี้ครับ!"

"รู้สึกว่าวันนี้คุณหมอซู่ดูแตกต่างไปเล็กน้อย แต่บอกไม่ได้ว่าแตกต่างยังไง"

"หล่อขึ้นรึเปล่านะ!"

"ความคิดเห็นเม้นบน +1"

ซู่ซวนมองไปที่ข้อความบนหน้าจอด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า "โอเค หยุดพูดเถอะครับ"

"เริ่มจับฉลากกันเลย ค่าจับคนละหนึ่งหยวน จะจับสามคนนะครับ"

"ใครไม่ป่วยก็อย่าสุ่มจับฉลาก เพราะหากจับถูกรางวัล ก็จะไม่ได้รับของรางวัลใดๆ แถมยังต้องจ่ายค่าปรึกษาล่วงหน้าให้ผมอีก 2,000 หยวนด้วยนะครับ"

หลังจากซู่ซวนพูดจบ การจับฉลากก็เริ่มต้นขึ้นทันที

บนหน้าจอ เหล่าข้อความบ้าคลั่งยิ่งขึ้นไปอีก

"คำเตือน: อย่าจับ! อย่าจับ! อย่าจับ!"

"ฉันเพิ่งจับไปหยวนนึง! อยากลองสัมผัสความรู้สึกเดินเฉียดเส้นความอดสูทางสังคมซ้ำๆดูบ้าง! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!"

"มีอีกคนหนึ่งแล้วที่สติไม่ดี รีบๆ พาไปได้แล้ว!"

---

เพจ : Thebigcattrans แมวหยิบมาแปล

ตอนนี้ที่กลุ่มลับถึงกลุ่ม 11 แล้วครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด