ตอนที่ 398 ตระกูลจ้าว ล้มละลายแล้ว
เมื่อกล่าวจบ จ้าว เทียนหง หันไปมอง ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ ทั้งสองคนคิดสักครู่ แล้วก็เริ่มเกลี้ยกล่อม ท่านผู้เฒ่าหนิง และถัง เจิ้นซาน เพื่อผลประโยชน์ของตน
ตระกูลจ้าว และพวกเขาไม่ต้องการปล่อยให้ตระกูลซูซึ่งเป็นเหมือนเนื้อชิ้นโตหลุดมือไป!
แม้จะเป็นสามต่อสาม แต่ก็ยังพอสู้ได้!!!
ในขณะที่ ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ กำลังเกลี้ยกล่อม ท่านผู้เฒ่าหนิง คนรับใช้ของตระกูลซูก็เดินเข้ามารายงานว่า :
“ท่านหัวหน้าตระกูล ตระกูลเหยียนจากเมืองซูเฉิงมาขอพบครับ”
ตระกูลเหยียน จากเมืองซูเฉิง?
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ฉวี่ สือเจ๋อ ก็ตกใจเป็นคนแรก
ในฐานะตระกูลใหญ่จากเมืองซูเฉิง ฉวี่ สือเจ๋อ ย่อมรู้ดีถึงอำนาจของตระกูลเหยียน
ตระกูลเหยียนนั้นมีอำนาจเหนือกว่าตระกูลฉวี่ ..อย่างมาก
เมื่อหัวหน้าตระกูลเหยียนเดินเข้ามา ก็เหมือนกับที่ ถัง เจิ้นซาน ทำเมื่อครู่ คือเข้ามาทักทาย เย่เฉิน ก่อน และจากนั้นก็แนะนำตัวกับชายชราตระกูลซู
สำหรับคนที่ไม่รู้จักอย่าง จ้าว เทียนหง และพรรคพวกของเขา หัวหน้าตระกูลเหยียน ก็แค่เหลือบมอง ฉวี่ สือเจ๋อ เท่านั้น ไม่แม้แต่จะทักทายด้วยซ้ำ
นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างตระกูลใหญ่
ยิ่งไปกว่านั้น ตระกูลเหยียน กับตระกูลฉวี่ ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันนัก
ถัง เจิ้นซาน, ท่านผู้เฒ่าหนิง, หัวหน้าตระกูลเหยียน รวมไปถึง เย่เฉิน และชายชราตระกูลซู พวกเขาพูดคุยกันอย่างสบายใจ และบรรยากาศเองก็เริ่มผ่อนคลายลงอย่างมาก
ในขณะที่ จ้าว เทียนหง และพรรคพวกของเขากลับตกอยู่ในความกังวล
ตอนนี้สถานการณ์กลับตาลปัตรจากตอนที่ จ้าว เทียนหง เพิ่งมาถึงอย่างสิ้นเชิง
หากตระกูลเหยียนเข้าข้างตระกูลซู มันจะกลายเป็นสามต่อสี่
ตอนนี้ตระกูลซูอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบอย่างมาก ..แน่นอน
หากพวกเขายังดื้อดึงที่จะสู้ต่อ ผู้ที่ต้องพ่ายแพ้แน่นอนก็คือ ตระกูลจ้าว
“ตระกูลเหยียนของเราจะอยู่เคียงข้าง คุณเย่ และตระกูลซูเสมอ!”
หัวหน้าตระกูลเหยียน กล่าวอย่างหนักแน่นโดยไม่ต้องรอให้ จ้าว เทียนหง เอ่ยปากถาม เขาประกาศตัวอยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลซู
หัวหน้าตระกูลเหยียน ก็ติดหนี้บุญคุณ เย่เฉิน เช่นเดียวกับ ถัง เจิ้นซาน
ตามที่คาดไว้ เมื่อตระกูลเหยียนเข้าข้างตระกูลซู
สถานการณ์ก็พลิกกลับโดยสมบูรณ์
ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ ต่างหน้าซีด พวกเขาเสียใจอย่างยิ่งที่ร่วมมือกับตระกูลจ้าว
ความร่วมมือกันระหว่างสามตระกูลที่เกิดจากผลประโยชน์ร่วมกันเริ่มสั่นคลอน
“ดีๆๆ”
จ้าว เทียนหง ถอนหายใจ ราวกับแก่ขึ้นไปอีกหลายปีในทันที
“วันนี้ฉันยอมรับความพ่ายแพ้ เรื่องระหว่างตระกูลจ้าว กับตระกูลซู จบกันแค่นี้”
จ้าว เทียนหง ยอมแพ้
“ตระกูลจ้าวของเราจะไม่เรียกหาความรับผิดชอบต่อตระกูลซูอีกต่อไป”
“ตระกูลจ้าวของเราขอยอมรับความพ่ายแพ้นี้”
จ้าว เหวินหลิน ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของคุณปู่ก็ได้แต่ก้มหน้าลง ไม่กล้ามอง เย่เฉิน และซู หนิงซวง เลย
ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
ความอ่อนล้าของ จ้าว เหวินหลิน ในตอนนี้ ตรงข้ามกับความอวดดีของเขาเมื่อตอนมาถึงอย่างสิ้นเชิง
“เราไปกันเถอะ”
จ้าว เทียนหง พูดอะไรบางอย่างกับ ไช่อวี๋, ฉวี่ สือเจ๋อ และบรรดาคนในตระกูลจ้าว แล้วก็หันหลังเตรียมจะจากไป
ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ ก็ไม่อยากอยู่ที่ตระกูลซูต่อเช่นกัน จึงหันหลังเตรียมตัวจะออกไป
“ช้าก่อน!”
ในตอนนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน
จ้าว เทียนหง, ไช่อวี๋ และคนอื่นๆ หันกลับไปมองทันที
ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่อยู่ในปัจจุบัน เย่เฉิน ก็ก้าวออกมาอย่างช้าๆ
“พวกคุณ.. ตระกูลจ้าว อยากมาก็มา อยากไปก็ไป คุณไม่คิดว่ามันง่ายเกินไปหรือ?”
เย่เฉิน ยืนอยู่ข้างหน้า ถัง เจิ้นซาน และคนอื่นๆ เผชิญหน้ากับ จ้าว เทียนหง
“หมายความว่าไง?”
จ้าว เทียนหง ถามอย่างไม่เข้าใจ
“หมายความว่าไง?”
“คุณจำไม่ได้หรือ ผมบอกแล้วไงว่า ตระกูลจ้าว จะล้มละลายลงในวันนี้”
เย่เฉิน ตอบอย่างเยือกเย็นว่า :
“ผมเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ”
“คุณ...?”
“คุณกล้าลงมือกับตระกูลจ้าวของเรา ไม่กลัวหรือว่าตระกูลจ้าวจะไม่ยอมเลิกรากับตระกูลซูของคุณ?”
จ้าว เทียนหง ถาม เย่เฉิน กลับ
เขาแทบไม่เชื่อว่าคนหนุ่มอย่าง เย่เฉิน จะกล้าพูดกับเขาแบบนี้
แม้ว่าตอนนี้จะเป็นสามต่อสี่ และพวกเขาไม่ค่อยได้เปรียบ
แต่การจะทำให้ตระกูลจ้าวล้มละลายก็ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
“ไม่ยอมเลิกราอย่างนั้นหรือ? พวกคุณไม่คู่ควร!”
เย่เฉิน ส่ายศีรษะไปมาเบาๆ
ขณะที่ เย่เฉิน ส่ายศีรษะ เขาก็ได้กดใช้งาน [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] ที่เปิดไว้ตั้งนานแล้ว
และเมื่อครู่ เย่เฉิน ได้ใส่ชื่อของ ‘จ้าว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป’ ลงใน [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] โดยตรง
ทันใดนั้นเอง [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] ก็เริ่มทำงาน
[ติ๊ง]
[จ้าว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ได้ล้มละลายแล้ว]
ในชั่วพริบตา หน้าต่างป๊อปอัปจากเกมก็เด้งแจ้งเตือนขึ้นว่า อุตสาหกรรมหลักของตระกูลจ้าว จ้าว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ล้มละลายแล้ว!
ตระกูลจ้าว จบสิ้นแล้ว!
“ไอ้หนู แกคิดว่าตระกูลจ้าวจะถูกคนอย่างแกกลั่นแกล้งง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?!”
จ้าว เทียนหง โกรธจนแทบควบคุมตัวเองไม่อยู่
ตอนนี้แม้แต่พวกคนไร้ค่าอ่อนแอก็ยังกล้าออกมาอวดดี
ผู้เยาว์คนหนึ่งกล้ามาข่มขู่ว่าจะทำให้ตระกูลจ้าวของเขาล้มละลาย?
นี่มันเรื่องตลกชัดๆ
หลายปีที่ผ่านมาในเมืองหางโจว ยังไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้เลย
วันนี้เขาได้เห็นเต็มตาแล้วจริงๆ!
“เย่เฉิน แกบ้าแล้วหรือไง?”
จ้าว เหวินหลิน ก็หัวเราะเยาะอย่างไม่เชื่อเช่นกัน และเขาไม่ได้ใส่ใจในคำพูดของ เย่เฉิน เลย
เมื่อเห็นว่า เย่เฉิน พูดอย่างนั้น ถัง เจิ้นซาน ก็ยืนขึ้นเช่นกัน แสดงจุดยืนของเขา
“คุณเย่ ตราบใดที่คุณต้องการ พวกเรา ถัง กรุ๊ป ก็พร้อมที่จะลงมือกับตระกูลจ้าว!”
“ตระกูลเหยียนของเราก็พร้อมจะลงมือกับตระกูลจ้าว เช่นกัน!”
หัวหน้าตระกูลเหยียนตอบสนองทันที
“ตระกูลหนิงก็พร้อมเช่นกัน”
ท่านผู้เฒ่าหนิง ก็แสดงจุดยืนด้วยเช่นกัน
“เมื่อครู่คุณให้เวลาตระกูลซูสามวินาที..”
เย่เฉิน มองไปที่ จ้าว เทียนหง เตรียมจะตอบโต้กลับด้วยวิธีเดียวกัน
“ตอนนี้ ผมเองก็จะให้เวลาคุณสามวินาที เพื่อคุณจะได้ยอมรับความจริงที่ว่าตระกูลจ้าวของคุณจะล้มละลายลงในวันนี้!”
“สาม…”
“สอง…”
“หนึ่ง…”
“ฮ่าๆๆ เด็กอมมือ พูดเกินตัวจริงๆ ช่างไร้สาระสิ้นดี”
จ้าว เทียนหง ไม่ได้เชื่อคำพูดของ เย่เฉิน เลยแม้แต่น้อย
เมื่อครู่ที่ ถัง เจิ้นซาน และคนอื่นๆ ประกาศจุดยืน ทำให้ จ้าว เทียนหง กลัวอย่างมาก
แต่เขาไม่กังวลเรื่องคำขู่ของ เย่เฉิน เด็กหนุ่มคนนี้เลย
เด็กที่เขาไม่เคยสนใจกลับมาบอกว่าจะทำให้ตระกูลจ้าวล้มละลายในวันเดียว?
มันช่างน่าขันจริงๆ น่าขันเกินไปแล้ว!
เขาคิดว่าไอ้เด็กนี่คงคิดว่าตระกูลจ้าวเป็นกระดาษหรืออย่างไร?
“ไอ้หนู ทำไมแกไม่พูดเลยเดี๋ยวนี้ว่าจะให้ตระกูลจ้าว ของเร...”
ในขณะที่ จ้าว เทียนหง กำลังจะเปิดปากพูดประชดประชัน แต่เขาพูดไปได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้น โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโดยไม่คิดอะไร เป็นสายจากรองประธานบริษัท จ้าว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป
แม้จะเป็นช่วงปีใหม่ แต่ในฐานะที่เป็นอุตสาหกรรมหลักของตระกูลจ้าว จ้าว อินเวสเมนท์ กรุ๊ป ก็ยังต้องดำเนินงานต่อไป วันนี้จึงยังมีคนทำงานล่วงเวลาอยู่
จ้าว เทียนหง ไม่ได้คิดอะไรมาก เขาจึงกดรับสาย
ทันใดนั้นเอง เสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกก็ดังขึ้น
“ไม่ดีแล้วครับ ท่านหัวหน้าตระกูล...เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!!!”
