ตอนที่แล้วตอนที่ 225 มาถึงจุดหมาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 227 อัจฉริยะ

ตอนที่ 226 ความตกตะลึงของจักรพรรดิต้าเฉียน (ฟรี)


ตอนที่ 226 ความตกตะลึงของจักรพรรดิต้าเฉียน

ราชวังเฉียนเทียนคือ สถานที่ๆ จักรพรรดิต้าเฉียนมักจะอยู่เพื่อสะสางราชกิจ ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไป ยกเว้นขุนนางระดับสูงสองสามคนของจักรวรรดิต้าเฉียน และคนสนิทของเขา

“เจ้ากลับมาแล้วเหรอ?” จักรพรรดิต้าเฉียนไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น เขายังคงจ้องมองกีฏาในมือแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“หยุนเซียงคารวะฝ่าบาท” องค์หญิงหยุนเซียงถวายความเคารพต่อจักรพรรดิต้าเฉียน เธอกล่าวด้วยความเคารพอย่างยิ่ง

“พวกเราไม่ได้เจอกันนานมากแล้ว เจ้าไม่ต้องมากพิธีถึงขนาดนั้นก็ได้” จักรพรรดิต้าเฉียนวางกีฏาในมือลง แล้วจ้องมองไปที่องค์หญิงหยุนเซียง

เมื่อองค์หญิงหยุนเซียงเห็นสิ่งนี้ เธอก็ยิ้มเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ยืดตัวขึ้น และดูผ่อนคลายมากขึ้น

ดังที่คาดไว้ เสด็จพี่ของเธอไม่เปลี่ยนไป และเขายังคงเป็นคนที่รักเธอมากที่สุด

“ช่างเป็นเด็กสาวที่น่ารักจริงๆ” ดวงตาของจักรพรรดิต้าเฉียนถูกดึงดูดโดยลู่เซียวเซียว และเขาก็พูดด้วยความประหลาดใจ แฝงด้วยความชื่นชม

ผิวของลู่เซียวเซียวนั้นขาวบอบบาง และดูจะเป็นรอยได้ด้วยการแตะเบาๆ และใบหน้าเล็กๆ ของเธอก็กลม และน่ารัก

โดยเฉพาะดวงตากลมโตของเธอ มันทำให้ผู้คนรู้สึกเอ็นดู ไม่ว่าใครจะเห็นเธอ พวกเขาจะรู้สึกถึงความน่ารัก และความเสน่หาในหัวใจ

“เซียวเซียว ทำไมเจ้าไม่ไปคารวะลุงของเจ้าก่อนล่ะ” องค์หญิงหยุนเซียงหันไปหาลู่เซียวเซียวแล้วพูด

กลิ่นอายของจักรพรรดิต้าเฉียนนั้นยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในท้องพระโรง แต่เขาก็ยังทำให้ผู้คนรู้สึกความน่าเกรงขาม

นี่เป็นครั้งแรกที่ลู่เซียวเซียวเห็นคนเช่นนี้ เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างขี้อายสองก้าวแล้วพูดเบาๆ “ท่านลุง”

ปีศาจน้อยผู้ไม่เกรงกลัวใครก็ยังรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อยต่อออร่าของจักรพรรดิต้าเฉียน และรูปลักษณ์ที่ซุกซนตามปกติของเธอก็หายไปจนหมดสิ้น

“หยุนเซียง เราไม่ได้เจอกันมาสองสามปีเอง เจ้าจะมีลูกที่โตอย่างนี้ได้ยังไง? นี่กำลังล้อข้าเล่นอยู่เหรอ?” จักรพรรดิต้าเฉียนมองแล้วพยักหน้า จากนั้นเขาถามองค์หญิงหยุนเซียง

“เสร็จพี่ เซียวเซียวเป็นบุตรบุญธรรมที่ข้ารับเลี้ยงเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่แม้ว่าเธอจะเป็นบุตรบุญธรรม แต่จริงๆ แล้วเธอก็ไม่ต่างจากบุตรสาวแท้ๆ ของข้าเลย” องค์หญิงหยุนเซียงปิดปากแล้วหัวเราะเบาๆ แล้วอธิบายให้จักรพรรดิต้าเฉียนฟัง

“เจ้าโชคดีมากที่มีบุตรสาวที่น่ารัก และฉลาดเฉลียวเช่นนี้” จักรพรรดิต้าเฉียนพูดกับองค์หญิงหยุนเซียงด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยอารมณ์

จักรพรรดิต้าเฉียนมีบุตรชายมากมาย แต่เขามีบุตรสาวเพียงคนเดียว และเธอก็ซนมาก และไม่ค่อยมีวินัยในตัวเอง

เขาค่อนข้างรัก และเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก ไม่เต็มใจที่จะดุด่าหรือทุบตีเธอ สิ่งนี้ทำให้เธอเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ เกือบจะทำผิดกฎของจักรวรรดิ ทำให้เขาต้องปวดหัวไม่น้อย

“เดี๋ยวก่อน ระดับพลังยุทธ์ของเด็กคนนี้สูงเท่าใด” จักรพรรดิต้าเฉียนดูเหมือนจะค้นพบบางสิ่งบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง และพูดด้วยความหวาดกลัว

ลู่เซียวเซียวก็ตกใจกับการกระทำของเขา เธอถอยหลังไปสองก้าวอย่างขี้อาย ดูกังวลไม่น้อย

ออร่าของจักรพรรดิต้าเฉียนช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ โดยเฉพาะในนครหลวงซึ่งมีเส้นชีพจรมังกรตั้งอยู่ มันทำให้เขาดูสง่างามอย่างยิ่ง

“เด็กคนนี้อายุเท่าไหร่แล้ว?” จักรพรรดิต้าเฉียนสูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อรู้ว่าการกระทำของเขาทำให้เธอกลัว เขาจึงรีบปั้นหน้ายิ้มแล้วถามองค์หญิงหยุนเซียง

“เซียวเซียว ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่?” องค์หญิงหยุนเซียงไม่ทราบคำตอบสำหรับคำถามนี้ เธอจึงถามลู่เซียวเซียวออกมาดังๆ

“สิบ...สิบสองปี” ลู่เซียวเซียวกลืนน้ำลาย สูดจมูกสองครั้งแล้วพึมพำ

เธอเหลือบมองขนมอบบนโต๊ะของจักรพรรดิต้าเฉียนอย่างเงียบๆ ดวงตาของเธอไม่กะพริบขณะที่เธอถูกดึงดูดจากมันโดยสมบูรณ์

“ผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสวรรค์ลวงวัย 12 ขวบ?” มุมปากของจักรพรรดิต้าเฉียนกระตุกเบาๆ

แม้แต่บุตรชายของเขาซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะอันดับหนึ่งของจักรวรรดิต้าเฉียน ก็มีอายุมากกว่าหนึ่งพันปีแล้ว แต่เขาได้มาถึงขอบเขตสวรรค์ลวงครึ่งก้าวเท่านั้น

เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กสาวตรงหน้าแล้ว มันต่างราวกับสวรรค์ และโลก ไม่อาจเปรียบเทียบกันได้เลย

ภาพๆ หนึ่งผุดขึ้นมาในจิตใจของจักรพรรดิต้าเฉียน

เขาทำอะไรอยู่เมื่อเขาอายุสิบสองปี?

ดูเหมือนว่าเขาจะยังคงไล่ตามผีเสื้อในสวนหลังบ้านทุกวัน และบางครั้งก็ฉี่รด และเล่นโคลนด้วย

เมื่อไหร่กันที่เขาไปถึงขอบเขตสวรรค์ลวง? อาจต้องใช้เวลาหลายร้อยปี

นั่นเป็นเพราะเขาสืบทอดบัลลังก์ และได้รับพรแห่งโชคชะตาของจักรวรรดิเฉียน มิฉะนั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งพันปีกว่าเขาจะทะลวงผ่านเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ลวง!

ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นใหญ่โตมากจนแม้แต่เขาที่เป็นจักรวรรดิต้าเฉียน และผู้ปกครองจักรวรรดิก็รู้สึกได้ถึงด้อยกว่าของตัวเอง

“เสด็จพี่ ตอนที่ข้าเพิ่งฝึกฝน ตัวข้าเองก็ดูเหมือนจะมีพรสวรรค์มากกว่าท่านเสียอีก” หลังจากเห็นสิ่งนี้ องค์หญิงหยุนเซียงก็มีรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า แล้วเธอก็พูดอย่างภาคภูมิใจ

“แคะ แคะ หยุนเซียง ใครคืออาจารย์ของเด็กคนนี้? เขาต้องเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากแน่ๆ ไม่งั้น ไม่ว่าพรสวรรค์ของเธอจะทรงพลังแค่ไหน เธอก็จะไม่สามารถมาถึงระดับนี้ได้” จักรพรรดิต้าเฉียนพูดเปลี่ยนเรื่อง แล้วถามองค์หญิงหยุนเซียงด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างยิ่งที่สามารถฟูมฟักผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสวรรค์ลวงในวัย 12 ปีได้ แม้ว่าระดับพลังยุทธ์ของเธอจะยังไม่ทรงพลังมากนัก แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในยอดฝีมือ

“เซียวเซียว เจ้าฝึกฝนมาอย่างไร? ใครคืออาจารย์ของเจ้าเหรอ หรือจะเป็นผู้อาวุโสลู่?” ทันใดนั้น องค์หญิงหยุนเซียงก็รู้สึกเหมือนล้มเหลวในการแม่ เพราะเธอไม่รู้อะไรเลย

“ข้าฝึกกับท่านปู่มาตั้งแต่เด็ก ข้าเริ่มฝึกเมื่ออายุแปดขวบ และฝึกฝนมาได้หลายปีแล้ว” ลู่เซียวเซียวเงยคางขึ้นแล้วตอบองค์หญิงหยุนเซียง

“ปู่ของเจ้า? ข้าขอถามได้ไหมว่าเขาเป็นใคร? และเขาทรงพลังแค่ไหน? หรือเขาจะเป็นอมตะ?” หลังจากได้ยินคำพูดของลู่เซียวเซียว จักรพรรดิต้าเฉียนก็รีบถามต่อ

หากสามารถเชิญผู้อาวุโสคนนั้นมายังจักรวรรดิต้าเฉียนได้ อีกฝ่ายจะต้องเป็นคนที่เทียบได้กับกั๋วซือ เพียงพอที่จะรับประกันว่ามรดกแห่งจักรวรรดิต้าเฉียนจะไม่เสื่อมถอยไปเป็นเวลานับแสนปี!

“ปู่ของข้าชื่อลู่หยวน ข้าไม่รู้ระดับพลังยุทธ์ในปัจจุบันของเขา แต่เมื่อปีที่แล้ว ข้าได้ยินคนบอกว่าเขาดูเหมือนจะอยู่ในขอบเขตก่อตั้งรากฐานเท่านั้น หลังจากที่ลู่เซียวเซียวลังเลอยู่พักหนึ่ง เธอก็ตอบตามตรง

ลู่เซียวเซียวไม่ได้โกหก เพราะปีที่แล้ว ลู่หยวนเป็นเพียงผู้อ่อนแอในขอบเขตก่อตั้งรากฐานจริงๆ

“ก่อ... ก่อตั้งรากฐานเหรอ?” หลังจากได้ยินคำพูดของลู่เซียวเซียว จักรพรรดิต้าเฉียนก็เซ และแทบจะล้มลงกับพื้น

อาจารย์ของผู้ฝึกยุทธ์ขอบเขตสวรรค์ลวงเป็นเพียงมดในขอบเขตก่อตั้งรากฐานจริงหรือ? มีอะไรที่น่าตกใจไปกว่านี้อีกไหมบนโลกนี้?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด