Chapter 46: การลอบสังหารบนถนน
มีบางคนตามเขามา ฉินหรานขมวดคิ้ว แต่เขาไม่ได้หยุดเท้า
เขาแน่ใจ
สถานะ [ความฉลาด] ระดับ E+ ของเขาทำให้เขามีการมองเห็นและการได้ยินที่เหนือกว่าคนทั่วไป เขาสามารถคาดเดาอันตรายทั้งหมดที่ใกล้เข้ามาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบางคนเผยจิตสังหารออกมาเขาก็อดจะขนลุกขึ้นมาไม่ได้ แล้วยังมีสกิล [อำพราง] ระดับผู้มีฝีมือของเขา ที่ทำให้เขาคุ้นเคยกับทุกวิธีการเข้าหาศัตรูโดยไม่ได้ถูกจับได้ มันไม่ใช่เรื่องยากที่ฉินหรานจะรู้ตัวเมื่อมีคนสะกดรอยตามเขา เขาสามารถบอกได้จากเส้นทางที่เดินผ่านและระบุตำแหน่งของคนที่สะกดรอยตามได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่าเขาจะถูกตาม เขาก็ไม่ต้องหันกลับไปสังเกตสถานการณ์ เขาไม่อยากสร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น กลับกัน เขาทำตามแผนการเดิมและมุ่งตรงไปที่ร้านอาหารไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่ตอนนี้นัก
สมองของเขาเริ่มทำงานขณะที่เขาเดินให้เร็วขึ้น
ใครตามเขามา? หนึ่งในคนที่ตามหาสมบัติของศาสนจักรแห่งอรุณรุ่งหรือเปล่า? หรือว่าเป็นศัตรูใหม่ที่สถานะของเขาชักนำมา?
แน่นอนว่า เพื่อที่จะได้มาซึ่งฉายานักสืบที่เก่งที่สุดในเมือง เขาจะต้องไขคดีมานับไม่ถ้วน จากความทรงจำแบบย่อที่ได้รับมา คนที่เข้าไปอยู่หลังลูกกรงเพราะเขานั้นก็มีอย่างน้อยที่สุดก็หลักสิบและคนที่อยากให้เขาตายก็ไม่ใช่คนส่วนน้อยในจำนวนนั้นด้วย
ส่วนพวกนักล่าสมบัติ? มีความเป็นไปได้สูงเหมือนกัน พวกมันอาจจะส่งคนมาจับตาดูอยู่รอบ ๆ โรงเรียนเซนต์เปาโล อย่างไรเสีย สมบัติที่ว่าก็เป็นขององค์กรเก่าแก่ที่อยู่มากว่าพันปี แค่นั้นก็สามารถล่อลวงใคร ๆ ได้แล้ว
ฉินหรานเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ตอนที่เขาได้ยินเรื่องสมบัติเขาก็รู้สึกหวั่นไหวเช่นกัน แต่สามัญสำนึกดึงเขากลับมา เขารู้ดีว่าสมบัตินั้นไม่มีทางได้มาโดยง่าย กุนเธอร์สัน อัศวินคนสุดท้าย คงไม่ปล่อยให้สมบัติไปตกอยู่ในมือคนชั่ว และยังมีกลุ่มอื่น ๆ ที่อาจจะยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในท้ายที่สุด
ไม่มีกำแพงใดในโลกที่ไร้ช่องโหว่
ในเมื่อมีคนกลุ่มหนึ่งรู้เรื่องสมบัตินี้แล้ว ย่อมมีกลุ่มที่สอง สาม ไปเรื่อย ๆ ใครจะรับรองได้ว่าคนที่ตามหาสมบัติอยู่จะเก็บความลับไว้กับตัวเท่านั้น?
เมื่อเวลาผ่านไป การเปลี่ยนแปลงของเซนต์เปาโลย่อมดึงดูดความสนใจมากขึ้น
ถ้าไม่สามารถไขคดีนี้ได้ในเวลาอันสั้น ฉินหรานคิดว่าคงจะมีอันตรายใหญ่หลวงเกิดขึ้นรอบ ๆ เซนต์เปาโล ลากผู้คนและฝ่ายอื่น ๆ เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ ดึงทุกคนเข้าสู่ความวุ่นวายใหญ่โต ซิสเตอร์โมนี่คงพอเดาได้ แต่เป็นกุนเธอร์สันที่ตระหนักได้ว่ามันจะน่ากลัวเพียงไร เป็นเหตุผลให้เขาโน้มน้าวซิสเตอร์โมนี่ให้ยอมรับความช่วยเหลือจากฉินหรานไขคดีนี้ก่อนที่หายนะที่สามารถทำลายโรงเรียนเซนต์เปาโลได้จะเกิดขึ้น
ถ้าไม่กังวล กุนเธอร์สันไม่มีทางพูดคุยเรื่องนี้กับฉินหรานอย่างเปิดเผย
แม้ว่าเขาจะมีตัวตนใหม่เป็นนักสืบ มีจดหมายรับรองจากจอห์น และมีความสามารถกับเสน่ห์
อย่างไรก็ตาม ฉินหรานคิดว่าเป็นเพราะความสามารถของเขาที่ชนะใจกุนเธอร์สัน ถ้าเขาไม่สามารถหลบการจู่โจมของกุนเธอร์สันและอยู่รอดจนกระทั่งซิสเตอร์โมนี่เข้ามาห้าม ภารกิจย่อยนี้ก็คงไม่ปลดล็อกให้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผู้เล่นคนอื่นคงไม่สามารถปลดล็อกภารกิจย่อยนี้ได้ วัดจากระดับความยากที่เกินระดับความยากของดันเจี้ยนแรก และจากระดับความก้าวหน้าและความสามารถตามปกติของผู้เล่น พวกเขาไม่น่าจะสามารถรอดจากการจู่โจมของกุนเธอร์สันแม้สักครั้ง
บางที พวกเขาอาจจะไม่ได้พบตัวกุนเธอร์สันเลยด้วยซ้ำ
กองกำลังรักษาความปลอดภัยดูอ่อนแอในสายตาฉินหรานเพราะว่าเขาบังเอิญมีจุดเริ่มต้นที่ดีกว่าคนอื่น ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้เล่นอื่น ๆ ที่เพิ่งผ่านดันเจี้ยนมือใหม่ได้จะคิดว่าพวกเขาอ่อนแอ
ดังนั้น ฉินหรานแน่ใจว่าพวกเขาไม่น่าทำได้
และเขาเองก็จะไม่บ่นเรื่องระดับความยากของภารกิจนี้เช่นกัน เขาเข้าใจดีว่าภารกิจยิ่งยาก รางวัลก็ยิ่งดีขึ้น รางวัลแบบนี้แหละที่เขาอยากได้
เขาไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือ ดังนั้นเขาทำได้แค่อาศัยความยากของแต่ละภารกิจมาชดเชย
แม้จะคำนวณเรื่องต่าง ๆ อยู่ในหัว ความสนใจของฉินหรานก็ยังคงอยู่ที่คนที่สะกดรอยตามเขามา
ทันใดนั้น เขารู้สึกสันหลังเย็นวาบ
เป็นจิตมุ่งร้ายจากที่ไหนสักแห่งข้างหน้า แม้ว่าจะแค่วูบเดียว แต่ความเย็นเยือกนั้นก็ทำให้ฉินหรานรู้สึกเหมือนถูกงูพิษกัด เขาไม่ใช่ไม่เคยรับรู้ความรู้สึกเช่นนี้
มันเป็นจิตสังหารแบบหนึ่ง ในดันเจี้ยนมือใหม่ ทั้งโจรติดอาวุธและกองกำลังกบฏต่างมีจิตมุ่งร้ายแบบเดียวกัน
ฉินหรานมองไปรอบ ๆ และสังเกตพบคนสามคนในทันที
หนึ่งในคนพวกนั้นกำลังเดินอยู่ไปทางเดียวกันกับเขา แน่นอนว่าไม่ใช่คนที่เผยจิตสังหารออกมา คนที่สองเป็นผู้ชายแต่งตัวดีสวมแว่นตาที่ดูคล้ายเสมียนเพิ่งเลิกงาน เขาเดินอย่างเร่งรีบ และคนสุดท้ายเป็นขี้เมาในชุดเสื้อผ้าเก่าขาดวิ่น เขาเดินเซไปมาและมีกลิ่นเหล้าโชย ขี้เมาพวกนี้พบเห็นได้ทั่วไปในเมืองโดยเฉพาะเวลากลางคืน พวกเขาสร้างปัญหาให้แก่พวกตำรวจมาก
พวกเขาไม่มีใครดูน่าสงสัยแต่ฉินหรานแน่ใจด้วยว่าหนึ่งในสามคนนี้เป็นมือสังหาร
แต่คนไหนล่ะ?
ฉินหรานสังเกตพวกเขาอย่างละเอียด แต่ไม่สามารถตัดสินใจแน่ชัดได้ นักฆ่านั้นย่อมมีความสามารถในการปิดซ่อนตัวตนได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่เพราะจิตสังหารแวบหนึ่งนั้น ฉินหรานคงไม่สามารถรู้ได้เลย
แล้วตอนนี้จะทำยังไง?
แม้ว่าฉินหรานจะไม่สามารถแยกแยะพวกเขาได้ ฉินหรานก็ยังรักษาสภาวะตื่นตัวเอาไว้ เขาเดินไปเรื่อย ๆ และคนพวกนี้ก็เช่นกัน ทั้งสามคนเข้ามาใกล้เขาขึ้นเรื่อย ๆ ตอนที่ฉินหรานอยู่ในระยะสามก้าวจากผู้ชายคนที่ดูเหมือนเสมียน ฉินหรานก็หยิบกล้องยาสูบออกมาจากกระเป๋าทำเหมือนจะเตรียมกล้องยาสูบแต่ก็บังเอิญทำเงินทอนที่เหลือจากการจ่ายค่ารถม้าก่อนหน้านี้หล่นพื้นด้วย
"แม่ง!" ฉินหรานสบถเสียงต่ำในขณะก้มตัวลงเก็บเหรียญ สายตาของเขายังจับจ้องอยู่ที่สองคนที่กำลังใกล้เข้ามา ขี้เมาคนนั้นมองมาและชะงักไปครู่หนึ่งก่อนที่จะเดินต่ออย่างไม่สนใจ ผู้ชายแต่งตัวดีทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเดินต่อด้วยความเร็วระดับเดิม
พอเขามาถึงตัว ฉินหรานก็เก็บเงินทอนที่ร่วงลงไปเสร็จพอดีและยืดตัวขึ้น
ตอนที่ฉินหรานเอาเหรียญใส่กลับลงในกระเป๋า เสมียนก็ผ่านด้านข้างของฉินหรานในมือขวามีมีดเล่มเล็ก ๆ อยู่ ชายคนนั้นหันมา ยกมีดขึ้นและแทงใส่ฉินหรานด้วยการเคลื่อนไหวต่อเนื่องครั้งเดียว มีดที่แทงลงมาเปล่งประกายเย็นเยือกมีเป้าหมายที่เอวของฉินหราน
ฉินหรานไวกว่าก้าวหนึ่ง
ขาข้างขวาของเขาราวกับติดสปริง เขาเตะเข้าที่มือของนักฆ่า เท้าของเขาจี้ไปที่ข้อมือของนักฆ่าและตวัดอย่างแรง ลูกเตะที่ตามมานั้นเล็งไปที่ใบหน้าของนักฆ่า
ได้ยินเสียงกระแทกดังชัดสองครั้ง มีดของนักฆ่าหล่นลงพื้น ฉินหรานเตะผู้ชายคนนั้นล้มลงไปปล่อยเขากลิ้งไปบนพื้น ฟันแถบหนึ่งของชายคนนั้นหลุดจากปาก ใบหน้าซีกหนึ่งบิดเบี้ยว ชายคนนั้นหยุดหายใจไปแล้วแต่ยังมองมาที่ฉินหรานด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ
ไม่ต้องสงสัยเลย มันประหลาดใจที่ฉินหรานรู้ทันมัน มันคิดว่าการปลอมตัวของมันนั้นสมบูรณ์แบบ
"ความตั้งใจของแกมันชัดเกินไป แกไม่แม้แต่จะแสดงความสงสัยพื้นฐาน อย่างน้อยขี้เมาตรงนั้นก็ยังอยากรู้ว่าฉันทำอะไรหล่น" ฉินหรานพูดเสียงเบา
แน่นอนว่าเขาไม่บอกเหตุผลที่แท้จริงกับมันหรอกต่อให้มันตายไปแล้วก็ตาม
[เตะ: ก่อความเสียหาย 30 แต้มแก่เป้าหมาย เป้าหมายกระดูกเคลื่อน...]
[เตะ: จู่โจมถึงตาย ก่อความเสียหาย 120 แต้มแก่เป้าหมาย (การต่อสู้มือเปล่า, เชี่ยวชาญการเตะ) เป้าหมายเสียชีวิต...]
บันทึกการต่อสู้บอกชัดเจนว่ามือสังหารตายแล้ว
จากบทเรียนที่ได้รับมาจากในดันเจี้ยนมือใหม่ ฉินหรานระวังระไวมากขึ้น เขาหมุนตัวแล้วมองไปรอบ ๆ คนที่เดินตามเขามานั้นจากไปนานแล้ว เขาอดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาไม่สามารถยืนยันได้ว่ามือสังหารกับคนที่สะกดรอยตามนั้นเป็นคู่หูกันหรือเปล่า
"HP สูงสุด 150 แต้ม! รูปร่างใหญ่ เร็ว แข็งแกร่ง แถมยังปลอมตัวเก่ง... มันต้องเป็นนักฆ่าหรือมือลอบสังหาร!" ฉินหรานคาดเดาสถานะที่แท้จริงของผู้ตายหวังว่ามันจะช่วยเขาไขปริศนาได้
ถ้าทำได้ เขาก็อยากจะเก็บมันไว้เป็น ๆ แต่การปรากฏตัวของมันนั้นเป็นไปอย่างไม่คาดคิดและความสามารถในการปลอมตัวของมันทำให้ฉินหรานกังวล เขาคิดว่าเขาไม่ควรปรานีต่อคนปลอมตัวเก่ง ต่อให้ความสามารถของนักฆ่าคนนี่จะเทียบเขาไม่ได้ แต่ถ้ามันหนีไปได้ ฉินหรานก็อาจจะไม่สามารถตามหาตัวนักฆ่าที่ปลอมตัวเก่งเจอ ดังนั้น เมื่อมีโอกาสเขาก็ควรฆ่ามันให้ได้ แม้ว่าการตายของมันจะดึงดูดความสนใจ แต่มันก็ไม่มีอะไรเทียบกับการปกป้องตัวเองจากมือสังหารที่ปลอมตัวเก่งได้อยู่ดี
"ฆาตกร! ฆาตกร!"
ถนนที่เงียบสงบค่อย ๆ เต็มไปด้วยเสียงโหวกเหวก นายตำรวจคู่หนึ่งเป่านกหวีดขณะค่อย ๆ เข้ามาล้อมฉินหรานไว้พร้อมกระบองในมือ ฉินหรานให้ความร่วมมือ ยกมือทั้งสองข้างขึ้น เขาถือจดหมายไว้ในมือขวา
เขาไม่เคยรู้สึกยินดีที่มีจดหมายฉบับนี้มากเท่าในเวลานี้เลย
"ผมเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสถานีตำรวจ ผมต้องการพบสารวัตรจอห์น!"