13 - ศัตรูความรัก
13 - ศัตรูความรัก
หลี่เยว่เดินมาส่งฉินโม่ที่ด้านหน้าประตูวัง ในความเป็นจริงเขาอายุครบกำหนดไม่ควรอยู่ในวังหลวงอีกต่อไป
แต่เพราะกงซุนฮองเฮาชอบให้ครอบครัวอยู่รวมกัน ฮองเฮาจึงขออนุญาตฮ่องเต้ให้องค์ชายและองค์หญิงทุกคนพักอยู่ในวังจนกว่าจะสมรส
สิ่งนี้ทำให้เหล่าองค์ชายบางคนมีความคิดแปลกๆ ขึ้นมา แต่สำหรับเขาไม่มีความคิดเช่นนั้น เพราะอย่างไรตำแหน่งฮ่องเต้ก็ไม่มีทางตกถึงมือเขาซึ่งเป็นองค์ชายลำดับแปดซ้ำยังเป็นบุตรที่เกิดกับสนมชั้นเฟย
“ข้าไปแล้ว!”
ฉินโม่โบกมือ เดินออกไปโดยไม่สนใจสิ่งใด
วันนี้เขาเพิ่งผ่านด่านของฮองเฮามาได้ แม้จะถูกทุบตีอยู่บ้างแต่ก็นับว่าไม่ขาดทุนมากนัก
เพียงแต่องค์หญิงนั้นเกลียดชังเขาจนเข้ากระดูกดำ หากแต่งนางเข้าบ้านจริงๆ มันจะกลายเป็นหายนะของเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้น หลี่อวี้ซู่จึงเป็นคนที่เขาไม่อาจแต่งงานด้วยมากที่สุด
เขาไม่อยากให้ชีวิตของตนเองต้องแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลา
ขณะที่กำลังคิดอยู่ ก็มีคนกลุ่มหนึ่งขี่ม้าพุ่งเข้ามา
เสียงม้าคำรามลั่น!
ชายผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มสวมชุดบัณฑิตสีเขียว เขากระตุกบังเหียนให้ม้าหยุดอยู่ตรงหน้าฉินโม่ จากนั้นก็ลงจากหลังม้าและพุ่งเข้าหาฉินโม่อย่างดุร้าย
"เจ้าโง่ฉิน เจ้ากล้ารังแกเปียวเม่ย(บุตรพี่บุตรน้องที่เป็นหญิง) ข้าจะตีเจ้าให้ตาย!"
ฉินโม่ที่ถูกจู่โจมอย่างกระทันหันเขาจึงคำรามขึ้นด้วยความโกรธ
"วะ! เจ้าเป็นใครกัน!" ฉินโม่ผลักอีกฝ่ายออกไป "ข้าไปแรังแกเปียวเม่ยของเจ้าเมื่อไรกัน?"
กงซุนชงตะโกนด่า "เจ้าโง่ฉิน เจ้าเลิกแกล้งโง่ได้แล้ว! คิดจะทำเป็นจำข้าไม่ได้แล้วข้าจะปล่อยให้เจ้ารอดหรือ?"
ฉินโม่รู้หัวใจเต้นแรงไม่แน่ว่าอาจเป็นเพราะเจ้าของร่างเดิมทำอะไรบ้าๆ ไว้แล้วโดนคนมาตามล้างแค้น
ที่นี่คือประตูวังหลวง ถ้าพวกเขากล้าขี่ม้ามาแบบนี้ ชัดเจนว่าต้องเป็นเชื้อพระวงศ์หรือขุนนางชั้นสูง
"ไม่ว่าเจ้าจะเล่นลิ้นคารมอย่างไรข้าก็ต้องทุบตีเจ้าให้ได้!"
กงซุนชงโมโหมาก เจ้าฉินโง่นี่แย่งหลี่อวี้ซู่ เปียวเม่ยที่เขาหลงรักไปครอบครอง มิหนำซ้ำเมื่อวานเขายังได้ยินจากบิดาว่าฉินโม่กลั่นแกล้งหลี่อวี้ซู่ทำให้นางได้รับความอับอาย เรื่องนี้ทำให้เขาขาดสติโดยสมบูรณ์
"ข้าจะฆ่าเจ้า!"
กงซุนชงโบกมือ และคนที่มากับเขาก็พุ่งเข้าหาฉินโม่ทันที
เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามลงมือโดยไม่ถามไถ่อะไร ฉินโม่ก็เลือดขึ้นหน้า
แม้ว่าในอดีตเขาจะเป็นบัณฑิตสาขาประวัติศาสตร์ แต่ในความเป็นจริงเขาคืออันธพาลตัวยงคนหนึ่ง การต่อยตีกับผู้คนคือสิ่งที่เขาชำนาญมากที่สุด
มิหนำซ้ำร่างกายนี้ยังค่อนข้างแข็งแรง กล้ามเนื้อใหญ่โตบึกบึนดังนั้นเขาจึงไม่คิดจะหลบเลี่ยง แต่เลือกที่จะพุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้แทน
ปัง!
ชายคนแรกล้มลงบนพื้นและเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด
"เจ้าโง่ฉิน เจ้ากล้าทำร้ายผู้คน!" กงซุนชงโกรธจัด
แต่สิ่งที่เขาได้รับคือหมัดตรงที่ดุร้าย "เจ้าต่างหากที่โง่ บิดามารดาเจ้าจึงเป็นคนโง่!"
เสียง "ปัง!" ดังขึ้น กงซุนชงล้มลงไปกับพื้น ฉินโม่กระโจนขึ้นไปนั่งบนตัวของฝ่ายตรงข้ามก่อนจะระดมหมัดชุดซ้ายขวาออกไปไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง
กงซุนชงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
แน่นอนว่าคนอื่นๆ ก็ไม่ปล่อยให้ฉินโม่รอดไปได้ ทุกคนต่างระดมหมัดเท้าทุบตีเขาจากทุกทิศทาง
"ถ้าพวกเจ้ายังไม่ถอยไปอีกข้าจะบีบคอเจ้าสารเลวนี้ให้ตาย!"
ฉินโม่บีบคอของกงซุนชงไว้แน่น
กงซุนชงเริ่มชักกระตุก น้ำหูน้ำตาของเขาไหลทะลักออกมาโดยไม่อาจควบคุมตัวเองได้
คนที่เหลือทั้งสามตามถอยกลับด้วยความหวาดกลัว
"เจ้าโง่ฉิน ปล่อยมือเดี๋ยวนี้!"
"เจ้าโง่ฉิน กงซุนชงเป็นทายาทของจ้าวกว๋อกง เป็นหลานแท้ๆ ของฮองเฮา ถ้าเจ้ากล้าทำร้ายเขา เจ้าเจอปัญหาใหญ่แน่!"
ฉินโม่คิดในใจว่า อ้อ นี่เองที่ทำให้ไอ้สารเลวนี่กล้ายิงผยองต่อหน้าข้า
ฉินโม่คลายมือแต่ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น เขาลากกงซุนชงขึ้นมาจากพื้นก่อนจะตบหน้าฝ่ายตรงข้ามจนฟันโยกพร้อมกับกล่าวด้วยท่าทางดุร้าย
"ข้าก็เป็นเขยของฮองเฮา! มีคำโบราณกล่าวว่า ‘บุตรเขยก็เหมือนบุตรครึ่งหนึ่ง’ เจ้าจะใกล้ชิดกว่าข้าได้หรือ?"
"อ๊าก! เจ้าโง่ฉิน ข้าจะฆ่าเจ้า!"
"เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!"
ฉินโม่ตบกงซุนชงจนหูอื้อ "บอกไว้เลย องค์หญิงคือภรรยาที่ยังไม่ได้วิวาห์ของข้า ข้าจะกลั่นแกล้งภรรยาตัวเองก็เป็นเรื่องของข้า เจ้าเป็นใครจึงกล้ามายุ่งเรื่องของเรา ต่อให้กงซุนอู๋จี้บิดาของเจ้ามาเองก็ยุ่งเกี่ยวไม่ได้!"
กงซุนชงถูกทุบตีจนใบหน้าปูดบวมเต็มไปด้วยบาดแผล สติของเขาเลือนลาง พอเขารู้สึกตัวอีกทีฉินโม่ก็ส่ายอาดๆ ออกจากประตูวังหลวงไปแล้ว
ร่างกายของเขาสั่นสะท้านด้วยความโกรธแค้น
ตอนนั้นเองมีใครบางคนกระซิบขึ้นว่า "เจ้าโง่ฉินนี่มันโอหังเกินไปแล้ว พี่กงซุนเหตุใดเราไม่ไปฟ้องฮองเฮา?"
"หากอาหญิงเห็นข้าตอนนี้มีแต่นางจะดุด่าข้ามากกว่าเดิม มิหนำซ้ำนางอาจจะลงโทษเปียวเม่ยด้วย!"
กงซุนชงแม้จะโกรธแค้นแต่ก็ยังมีสติ "เจ้าโง่ฉิน ข้าจะต้องเอาคืนแน่!"
…
อย่างไรก็ตามในคืนนั้นกงซุนชงได้ถูกบิดาเรียกเข้ามาในห้องหนังสือ!
"ท่านพ่อเจ้าโง่ฉินหยามผู้คนเกินไปแล้ว เปียวเม่ยจะไม่มีทางมีความสุขหากได้แต่งกับเขา!" กงซุนชงคำรามด้วยความโกรธ "ข้าจะต้องปลดปล่อยเปียวเม่ยให้เป็นอิสระ!"
“เจ้ามีปัญญาหรือ?”
กงซุนอู๋จี้มองไปที่ใบหน้าบวมช้ำของบุตรชาย “เรื่องที่เจ้าถูกเจ้าโง่ฉินซ้อมที่หน้าประตูวังวันนี่กระจายไปทั่วเมืองหลวงแล้ว เจ้ารู้หรือไม่ว่าผู้คนหัวเราะเยาะเจ้าว่าอย่างไร?”
“พวกเขาบอกว่าพวกเจ้าไร้ความสามารถ ราชองครักษ์ห้าคนกลับไม่มีปัญญาเอาชนะคนโง่คนเดียว!”
“ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องนี้ฝ่าบาทได้ประกาศราชโองการไปแล้ว เจ้าคิดว่าฝ่าบาทจะกลับคำเพียงเพราะคำพูดของข้าหรือ?”
…………