ตอนที่แล้วบทที่ 279 ความจริงในชาติก่อนถูกเปิดเผย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 281 ฉันชอบนายมากจริงๆ

(ฟรี) บทที่ 280 วันที่มีความสุขที่สุด


ในเวลานี้ เซียวโหยวหรานไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเข้าร่วมการแชทของกลุ่มเพื่อนนักอ่าน เธอจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่จิตใจของเธอไม่ได้อยู่กับมันเลย

เธอเศร้ามากเมื่อนึกถึงทัศนคติที่เย็นชาของสวี่ชิวเหวินในคืนนี้และการหลีกเลี่ยงเธอด้วยข้ออ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ

ทันใดนั้นจู่ๆคอมพิวเตอร์ก็ส่งเสียงแจ้งเตือน มีคนส่งข้อความถึงเธอในเพนกวิน

เซียวโหยวหรานถูกปลุกด้วยเสียงของมัน เธอกลับมามีสติอีกครั้ง ก่อนจะเหลือบมองอินเทอร์เฟซของเพนกวินและเห็นว่าเป็นโปรไฟล์ของเสี่ยวสวี่ที่กะพริบอยู่

เซียวโหยวหรานทั้งประหลาดใจและมีความสุข! เธอรีบคลิกรูปโปรไฟล์อย่างรวดเร็วและเห็นข้อความที่เขาส่งมา

“โหยวหราน เธอถึงบ้านหรือยัง? หลับอยู่หรือเปล่า?”

นี่เป็นครั้งแรกที่สวี่ชิวเหวินเริ่มพูดคุยกับเธอนับตั้งแต่วันนั้น

มุมปากของเซียวโหยวหรานอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

ด้วยกลัวว่าสวี่ชิวเหวินจะรอนานเกินไป เธอจึงรีบพิมพ์ตอบกลับ “ฉันถึงบ้านแล้ว ยังไม่นอนเลย”

หลังจากส่งข้อความก็ไม่มีการตอบกลับใดๆ

รอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวโหยวหรานหายไปอีกครั้ง

เสี่ยวสวี่ส่งข้อความถึงเธอ เธอคิดว่าเขาไม่โกรธอีกต่อไปและให้อภัยเธอแล้ว แต่เขากลับไม่ตอบอะไรเลย... หรือเขาเพียงแค่กังวลว่าเธอจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยไหม?

เธอเริ่มกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

เธอหยิบมันขึ้นมาและเห็นว่าเป็นข้อความจากเสี่ยวสวี่!

เนื้อหาทำให้เธอลุกขึ้นจากที่นั่งทันที

“ฉันอยู่ข้างล่างบ้านเธอ”

เธอตรวจสอบเวลาและพบว่าเธอส่งข้อความไปไม่ถึงสามนาทีด้วยซ้ำ แม้ว่าบ้านของเธอจะอยู่ไม่ไกลจากบ้านของเสี่ยวสวี่ แต่มันก็ยังต้องใช้เวลาประมาณ 7 หรือ 8 นาทีในการเดินเท้า

เสี่ยวสวี่มาถึงเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?

เขาวิ่งมาที่นี่?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ เซียวโหยวหรานก็มีความสุขมากจนแทบจะกระโดดขึ้นมา

ด้วยสงสัยว่ากำลังฝันอยู่หรือเปล่า เธอจึงรีบเดินไปที่เตียง เปิดหน้าต่าง แล้วมองลงไป

ใต้โคมไฟถนนมีชายหนุ่มร่างสูงยืนอยู่

จะเป็นใครได้อีกนอกจากสวี่ชิวเหวิน?

มันคือเสี่ยวสวี่จริงๆ!

ขณะนี้ สวี่ชิวเหวินก็เห็นเซียวโหยวหรานที่ชั้นบนเช่นกัน แม้ว่าจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนแต่เขาก็ยังโบกมือทันที

เซียวโหยวหรานหัวเราะคิกคักและตะโกนว่า “เสี่ยวสวี่ ฉันจะรีบลงไป!”

หลังจากตะโกนเธอก็หันหลังแล้ววิ่งออกจากห้องนอน

เธอรีบมากจนแม้แต่รองเท้าที่หลุดก็ยังไม่สนใจจะใส่กลับด้วยซ้ำ เธอวิ่งไปที่ทางเข้าด้วยเท้าข้างหนึ่งสวมรองเท้าแตะผ้าฝ้ายและอีกข้างหนึ่งเปลือยเปล่าบนพื้นเย็น

หลังจากมาถึงทางเข้า เซียวโหยวหรานรีบสวมรองเท้าสำหรับนอกบ้านอย่างรวดเร็ว ในเวลานี้หัวใจของเธอเต็มไปด้วยสวี่ชิวเหวิน

แต่เมื่อมาถึงหน้าประตู เธอก็ชะลอความเร็วลงทันที

เธอจัดทรงผมและเสื้อผ้าเล็กน้อย ก่อนจะเปิดประตูกันขโมยแล้วก้าวออกไปข้างนอก

ด้านนอกประตู ใต้โคมไฟถนนสลัว ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ เขาสวมเสื้อคลุมตัวยาวโดยมีเสื้อสเวตเตอร์คอเต่าสีดำอยู่ข้างใต้ ผมของเขาจัดทรงอย่างพิถีพิถันและมึความยาวปานกลาง แม้ว่าตอนนี้จะยุ่งนิดหน่อยก็ตาม

หนุ่มหล่อคนนี้คือเพื่อนสมัยเด็กของเธอ สวี่ชิวเหวิน

อารมณ์ของเซียวโหยวหรานตอนนี้เป็นเหมือนพายุทอร์นาโดในทะเลที่มีคลื่นลมรุนแรง แต่ภายนอกเธอยังคงสงบ

เธอยืนอยู่ที่ประตู เฝ้ามองสวี่ชิวเหวินจากระยะไกล ไม่กล้าเข้าไปใกล้

จู่ๆเธอก็กลัวว่ามันจะเป็นเพียงความฝัน…

ภายใต้แสงไฟสลัว รอยยิ้มจางๆปรากฏบนใบหน้าของสวี่ชิวเหวิน เขาโบกมือเบาๆ

เซียวโหยวหรานยังคงยืนอยู่กับที่โดยไม่ขยับ

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยืนนิ่ง สวี่ชิวเหวินจึงริเริ่มเดินไปหาเธอ

สวี่ชิวเหวินเดินไปที่ตำแหน่งหนึ่งเมตรตรงหน้าเซียวโหยวหรานก่อนจะหยุดลง

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นช่วงกลางฤดูหนาว แต่รอยยิ้มของเขากลับอบอุ่นราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ

สวี่ชิวเหวินมองไปยังใบหน้างดงามของเซียวโหยวหรานซึ่งเขาไม่เคยเบื่อที่จะมองเลย

สีหน้าเอาแต่ใจของเธอ สีหน้าขี้เล่น สีหน้าหวาดกลัว สีหน้าภาคภูมิใจ สีหน้าร้องไห้… ฉากต่างๆปรากฏขึ้นในใจของเขา

สวี่ชิวเหวินมองเข้าไปในดวงตาของหญิงสาวแล้วเอ่ยเบาๆ “ฉันขอโทษ โหยวหราน ฉันมาช้าเกินไป”

เสียงของเขาอ่อนโยนอย่างสุดจะพรรณนา

เซียวโหยวหรานไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเธอทันที

เสี่ยวสวี่ขอโทษเธอ มันเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดหวังมาก่อน

เธอเพียงรู้สึกว่าความโศกเศร้าและความคับข้องใจทั้งหมดในช่วงที่ผ่านมานี้ในที่สุดก็มีหนทางระบาย... เซียวโหยวหรานไม่อาจหักห้ามใจได้อีกต่อไปและโยนตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของสวี่ชิวเหวิน

เซียวโหยวหรานร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ราวกับจะหลั่งน้ำตาทั้งหมดในชีวิตของเธอ

ดวงตาของสวี่ชิวเหวินก็แดงก่ำเช่นกัน เขากอดเซียวโหยวหรานไว้แน่นแล้วพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “ฉันขอโทษ”

ในคืนวันที่แปดของปีใหม่ทางจันทรคติ ด้านนอกบ้านของเซียวโหยวหราน สวี่ชิวเหวินและเซียวโหยวหรานกอดกันแน่น... ทั้งสองกอดกันราวกับจะหลอมรวมตัวเองเข้าไปในร่างกายของอีกฝ่าย

“อย่าร้องไห้เลย โหยวหราน มันเป็นความผิดของฉันเอง” สวี่ชิวเหวินลูบหลังหญิงสาวเบาๆและปลอบโยนเธอ

เสี่ยวสวี่มาหาเธอและขอโทษเธอ เห็นได้ชัดว่าเธอมีความสุขมาก แต่น้ำตาของเธอกลับหลั่งไหลออกมาไม่หยุดอย่างควบคุมไม่ได้

เซียวโหยวหรานร้องไห้เป็นเวลานานก่อนที่เสียงสะอื้นของเธอจะค่อยๆเบาลง ดวงตาที่สวยงามคู่นั้นแดงและบวมจากการร้องไห้

สวี่ชิวเหวินรอจนกระทั่งเธอหยุดร้องก่อนจะถอยกลับเล็กน้อย

เขามองลงไปที่ดวงตาของหญิงสาว ค่อยๆเช็ดน้ำตาออกจากหางตาของเธอด้วยปลายนิ้วอย่างอ่อนโยน

เซียวโหยวหรานเงยหน้าขึ้น มองเข้ามาในดวงตาของสวี่ชิวเหวิน และปล่อยให้เขาทำทุกอย่างที่ต้องการ

หลังจากทำจนเสร็จ สวี่ชิวเหวินไม่ได้พูดอะไร เพียงมองเซียวโหยวหรานอย่างเงียบๆ

เซียวโหยวหรานเริ่มรู้สึกวิตกกังวลอีกครั้ง เธอพูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น “ฉันขอโทษ เสี่ยวสวี่ ฉันไม่ควรปฏิเสธนาย ฉันจะไม่ทำมันอีก ยกโทษให้ฉันได้ไหม? โปรดอย่าไปชอบคนอื่นเลย...”

สวี่ชิวเหวินผงะเล็กน้อยกับคำพูดของเธอ

เธอไม่รู้อะไรเลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงตีตัวออกห่างจากเธอ แต่เธอกลับคิดเหตุผลและขอโทษขึ้นมาก่อน?

เซียวโหยวหรานคนเก่าจะไม่ขอโทษถ้าเธอไม่ผิด แต่ตอนนี้ เพื่อรั้งเขาไว้และไม่ให้เขาโกรธ เธอจึงเปลี่ยนแปลงตัวเอง

สวี่ชิวเหวินนึกถึงชีวิตของเซียวโหยวหรานในชาติก่อน

หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยเธอก็ไปอังกฤษเพียงลำพัง

จนกระทั่งชีวิตแต่งงานครั้งแรกของสวี่ชิวเหวินสิ้นสุดลง เขาได้เรียนรู้จากหนิงว่านชิวว่าเซียวโหยวหรานยังไม่ได้แต่งงานเลย และผมของป้าจางก็กลายเป็นสีเทาด้วยเหตุนี้

สวี่ชิวเหวินคิดกับตัวเองว่าหากชีวิตก่อนเขาไม่ละเลยการเรียนในสมัยมัธยมปลายและฟังเซียวโหยวหราน พวกเขาคงจะเข้ามหาวิทยาลัยเจียวทงด้วยกันและมีความสัมพันธ์อันแสนหวานในรั้วมหาวิทยาลัย จากนั้นก็แต่งงานกันหลังจากเรียนจบ

เพียงเพราะเขาติดเล่นในสมัยมัธยมปลายและทำให้เกรดตกต่ำ พวกเขาจึงถูกแยกจากกันเป็นเวลาหนึ่งปี

หากพวกเขาไม่ต้องแยกจากกันในปีนั้น ไม่ว่าเฉาหยูจะพยายามแค่ไหน เขาก็คงไม่มีโอกาสได้ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสอง

สวี่ชิวเหวินถอนหายใจแล้วอธิบายทันที “เธอไม่ได้ทำอะไรผิด มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด ฉันไม่ได้ดูแลเธอให้ดี ฉันทำให้เธอผิดหวังและเสียใจ”

เซียวโหยวหรานไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร

เมื่อเห็นสีหน้าสับสนของเธอสวี่ชิวเหวินก็ยิ้มออกมา จากนั้นเอื้อมมือไปลูบหัวหญิงสาว “เด็กโง่”

ทัศนคติของสวี่ชิวเหวินเปลี่ยนไปหนึ่งร้อยแปดสิบองศา การเปลี่ยนแปลงนี้รุนแรงมากจนเซียวโหยวหรานรู้สึกเหมือนเธอกำลังฝัน

เซียวโหยวหรานไม่รู้ว่าทำไม และเธอไม่ต้องการที่จะคิดถึงเหตุผล... เธอรู้แค่ว่าตัวเองมีความสุขมาก

“โหยวหราน” จู่ๆสวี่ชิวเหวินก็เรียกเธออย่างเสน่หา

“อือ”

“ก่อนหน้านี้ฉันทำเกินไป แต่จากนี้ฉันจะดูแลเธออย่างดี”

“เสี่ยวสวี่~~”

เซียวโหยวหรานทั้งมีความสุขและหวั่นไหว

สวี่ชิวเหวินจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเธอ

ดวงตาของเซียวโหยวหรานนั้นสวยงามมาก แม้ว่าตอนนี้พวกมันจะแดงและบวม แต่ก็ชัดเจนราวกับคลื่นน้ำสีคราม

เธอก้มศีรษะลงแล้วถามเบาๆ “เสี่ยวสวี่ นายปล่อยฉันก่อนได้ไหม”

สวี่ชิวเหวินสังเกตเห็นความเขินอายของเธอ เขาพูดว่า “อืม” เป็นการยอมรับและกำลังจะปล่อยมือ แต่ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนใจ

สวี่ชิวเหวินไม่เพียงแค่ไม่ปล่อยมือเท่านั้น แต่เขายังกอดเซียวโหยวหรานไว้แน่นยิ่งขึ้นและพูดอย่างครอบงำ “ฉันจะไม่ปล่อยเธออีกต่อไป”

เซียวโหยวหรานหน้าแดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากโดยสัญชาตญาณ

สายตาของสวี่ชิวเหวินค่อยๆลดต่ำลง และเห็นหญิงสาวที่กำลังกัดริมฝีปาก

ความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากจะครอบครองเกิดขึ้นในใจของเขา

หากเป็นเมื่อก่อนเขาอาจจะลังเล แต่ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยเธอไป

สวี่ชิวเหวินวางมือบนแผ่นหลังของหญิงสาว ดึงเธอมาข้างหน้า บังคับให้เธอแนบชิดกับเขา

ทั้งสองตัวติดกันจนไม่มีช่องว่าง จากนั้นสวี่ชิวเหวินก็ก้มศีรษะลงและจูบเธออย่างแรง...

เซียวโหยวหรานที่ถูกจูบตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

เมื่อเธอรู้สึกตัว แม้ว่าจะรู้สึกเขินอายอย่างบอกไม่ได้ แต่เธอก็จะไม่ปฏิเสธเสี่ยวสวี่อีกต่อไป

เธอยืนเขย่งเท้าและปล่อยให้สวี่ชิวเหวินลิ้มรสริมฝีปากของเธออย่างอิสระ

เธอยังเปิดปากออกด้วยซ้ำ ปล่อยให้เขาบุกรุกเข้ามา ให้เขาปล้นลิ้นเล็กๆอันนุ่มนวลของเธอโดยไม่มีการต่อต้านใดๆ

เธอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขาอย่างสมบูรณ์

สวี่ชิวเหวินเป็นเหมือนสัตว์ป่าดุร้ายที่แทบจะกลืนกินเธอทั้งเป็น

นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตของเซียวโหยวหรานอย่างไม่ต้องสงสัย

ตอนที่เรียนมหาวิทยาลัยเธอมักจะได้ยินเรื่องคนนั้นจูบคนนู้นอยู่บ่อยๆ เธอมักจะเยาะเย้ยแนวคิดเรื่องการจูบอยู่เสมอ แต่หลังจากได้สัมผัสด้วยตัวเอง ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมเพื่อนร่วมชั้นหญิงเหล่านั้นถึงกระตือรือร้นกับการจูบมาก

ความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันทำให้จิตใจของเธอว่างเปล่า

เธอไม่รู้ว่าการหยุดคืออะไร เธอเพียงยอมรับทุกสิ่งภายใต้การนำของสวี่ชิวเหวินอย่างอดทน

ทั้งสองจูบกันเกือบสิบนาที

ในที่สุดสวี่ชิวเหวินก็ริเริ่มหยุด

เขาเป็นนักจูบที่เชี่ยวชาญและมีทักษะมากมาย แต่สำหรับเซียวโหยวหรานนี่เป็นครั้งแรก ไม่สิ ครั้งที่สอง เพียงครั้งก่อนหน้ามันสั้นเกินไป และเห็นได้ชัดว่าไม่น่าจดจำเท่าครั้งนี้

เซียวโหยวหรานหอบหายใจอย่างแรง

เมื่อเห็นท่าทางของเธอสวี่ชิวเหวินก็อดหัวเราะไม่ได้

ใบหน้าของเซียวโหยวหรานยิ่งแดงก่ำหลังได้ยินเสียงหัวเราะของเขา

เธอไม่กล้ามองสบตาสวี่ชิวเหวิน เพียงกอดเขาด้วยมือทั้งสองข้างและฝังศีรษะของเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา ราวกับการทำเช่นนี้สวี่ชิวเหวินจะไม่เห็นสีหน้าของเธอ

สวี่ชิวเหวินยิ่งหัวเราะอย่างมีความสุขมากขึ้นเมื่อเห็นเซียวโหยวหรานพยายามซ่อนความเขินอาย

ทั้งสองกอดกันอย่างเงียบๆในคืนฤดูหนาว

ไม่มีใครพูดและไม่มีใครปล่อยมือ

ผ่านไปประมาณสิบนาที ในที่สุดสวี่ชิวเหวินก็ถามขึ้น “เธอหนาวไหม?”

เซียวโหยวหรานรีบร้อนออกมาโดยลืมสวมแจ็กเก็ตและมีเพียงเสื้อสเวตเตอร์สีชมพูเท่านั้น

เสื้อสเวตเตอร์หนามากแต่ยังคงแสดงส่วนนูนเด่นด้านหน้าอันงดงามของเธอ

“ฉันไม่หนาว” เซียวโหยวหรานส่ายหัว เธอไม่เต็มใจที่จะปล่อยมือ ด้วยกลัวว่าสวี่ชิวเหวินจะหายไปหากทำเช่นนั้น

คืนนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ

สวี่ชิวเหวินรู้ว่าเซียวโหยวหรานกำลังอดทนกับมันอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกหนาวเมื่อสวมเสื้อผ้าเพียงเท่านี้

“โหยวหราน ปล่อยก่อน”

หลังจากเขาพูดจบก็ริเริ่มปล่อยมือทันที ภายใต้สายตาสับสนของเซียวโหยวหราน เขาปลดกระดุมเสื้อแจ็คเก็ตออกแล้วกอดเธอไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง

เสื้อแจ็คเก็ตของสวี่ชิวเหวินไม่เพียงพอที่จะคลุมทั้งสองคน แต่มันเพิ่มความอบอุ่นให้กับเธอได้

เมื่อเทียบกับความอบอุ่นทางกาย หัวใจของเซียวโหยวหรานในเวลานี้อบอุ่นกว่ามาก

หลังจากลังเลอยู่นาน เธอก็เรียกเขาด้วยเสียงแผ่วเบา “เสี่ยวสวี่”

“อืม?”

“ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน?”

สวี่ชิวเหวินหยุดชั่วคราวและถามกลับ “เธอคิดว่าไง?”

เซียวโหยวหรานเงียบไป

สวี่ชิวเหวินคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะมา... หลังจากเกิดใหม่ สวี่ชิวเหวินเคยคิดว่าเขาได้ให้อภัยกับการกระทำของเซียวโหยวหรานในชีวิตก่อนแล้วและถือว่าเธอเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น

แต่จริงๆแล้วมันเป็นแค่การหลอกตัวเอง สวี่ชิวเหวินไม่เคยละทิ้งความรู้สึกที่มีต่อเธอได้ เพียงแค่ว่า “การทรยศ” ของเธอในชีวิตก่อนนั้นยากเกินไปสำหรับเขาที่จะยอมรับ

ดังนั้นหลังจากได้รู้ความจริง เขาก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้และรีบมาที่บ้านของเซียวโหยวหราน

เขาเงียบไปสองสามวินาทีก่อนที่จะพูดว่า “เธอเป็นน้องสาวที่ดีของฉัน”

เซียวโหยวหรานหน้ามุ่ยหลังจากได้ยิน “ฉันเป็นแค่น้องสาวที่ดี?”

สวี่ชิวเหวินยิ้มและถาม “แล้วเธออยากเป็นอะไร?”

เซียวโหยวหรานตอบทันที “แน่นอน ฉันอยากเป็นแฟนของนาย!”

สวี่ชิวเหวินลดศีรษะลง วางคางไว้บนหัวของเธอแล้วถูมันเบาๆ

“เด็กโง่ แฟนอาจจะเลิกกันได้ แต่การเป็นน้องสาวจะไม่มีวันเปลี่ยน พี่ชายจะทำดีกับน้องสาวของเขาอย่างไม่มีเงื่อนไข ดังนั้นฉันจะดีกับเธอในอนาคต จะไม่รังแกเธออีก และจะไม่ปล่อยให้ใครมารังแกเธอด้วย”

เซียวโหยวหรานไม่ได้พูดอะไรเลยหลังจากฟังคำกล่าวของเขา

สวี่ชิวเหวินถามอีกครั้ง “เธอไม่อยากให้ฉันดีกับเธอหรอ?”

เซียวโหยวหรานส่ายหัวแล้วพยักหน้า

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็ถามด้วยเสียงแผ่วเบา “นายมีน้องสาวกี่คน?”

สวี่ชิวเหวินยิ้มด้วยความรักใคร่ “แน่นอนว่ามีแค่เธอเท่านั้น”

เซียวโหยวหรานมีความสุขมากหลังจากได้ยิน

แต่สวี่ชิวเหวินก็เปลี่ยนน้ำเสียงและพูดต่อ “ไม่สิ ฉันยังมีน้องสาวอีกสองคน”

หัวใจของเซียวโหยวหรานเต้นผิดจังหวะ

โชคดีที่สวี่ชิวเหวินอธิบายทันที “แต่สองคนนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องและมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับฉัน น้องสาวที่ดีเพียงคนเดียวที่ไม่เกี่ยวข้องทางสายเลือดคือเธอ”

เซียวโหยวหรานรู้สึกโล่งใจ

เธอถามเบาๆ “นายจะดีกับฉันตลอดไปใช่ไหม?”

“แน่นอน” สวี่ชิวเหวินตอบรับ “ไม่ต้องห่วง ตราบใดที่เธอต้องการฉันจะไปอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เมื่อเธอรู้สึกแย่ฉันจะคอยปลอบใจเธอ เมื่อเธอมีความสุขฉันจะแบ่งปันความสุขกับเธอ หากเธออยากกินอะไรฉันจะพาเธอไปกินทุกอย่าง ไม่ว่าเธอต้องการซื้ออะไรฉันก็จะพยายามหาเงินมาให้ ต่อให้เธอต้องการดวงดาวบนท้องฟ้า ฉันก็จะสร้างยานอวกาศออกไปนอกโลกเพื่อนำดวงดาวมาให้... ฉันจะปฏิบัติต่อเธออย่างดีไปตลอดชีวิต”

หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูดเซียวโหยวหรานก็พูดเบาๆว่า “อืม”

เธอสะเทือนใจมาก หากสวี่ชิวเหวินขอให้เธอตายเพื่อเขาตอนนี้ เธอก็จะทำโดยไม่ลังเล

เธอรู้สึกเพียงว่าความคับข้องใจทั้งหมดที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาจนถึงตอนนี้หายไปแล้ว

หัวใจของเธอเต็มไปด้วยความรักอันไม่รู้จบ

ในเวลานี้เท่านั้นที่สวี่ชิวเหวินตระหนักว่าจริงๆแล้วเขาใส่ใจเซียวโหยวหรานมากเพียงใด

เมื่อมองดูใบหน้างดงามของเซียวโหยวหราน เขาก็อยากจะหลอมรวมเธอเข้ามาในร่างกายของเขา

เขาก้มศีรษะลง ขยับหน้าเข้าไปใกล้ และลิ้มรสริมฝีปากสีแดงอันอ่อนนุ่มของหญิงสาว

หลังจากจูบกันเป็นเวลานาน สวี่ชิวเหวินก็ริเริ่มปล่อยอีกครั้ง

เซียวโหยวหรานสูดลมหายใจเข้า ดวงตาของทั้งสองสบกันอย่างรักใคร่ และทันใดนั้นเธอก็หัวเราะออกมา

/////