บทที่ 43 เผชิญหน้า! ในห้องไต่สวน
เหล่าศิษย์ต่างถกเถียงกันอย่างเปิดเผยว่าจะจัดการกับเหอหลู่และพวกศิษย์นิกายหลัวเซี่ยอย่างไรดี
เมื่อได้ยินสิ่งที่ศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์กล่าว สีหน้าของเหอหลู่และพวกพ้องก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
"นี่คือศิษย์นิกายเต๋าอี้ นิกายผู้ทรงธรรมแห่งทิศตะวันออกจริงๆหรือ? ทำไมถึงมีความคิดแต่จะฆ่าคนกลบหลักฐานแบบนี้?"
เหอหลู่ถูกปิดปากไว้จนไม่สามารถพูดอะไรได้ ส่วนศิษย์ของนิกายหลัวเซี่ยที่เหลือต่างรีบกล่าวอย่างลนลาน
"เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรานะ!"
"ใช่แล้ว พวกเราแค่มาด้วยกัน ไม่ได้ทำอะไรเลย!"
จากสีหน้าของเหล่าศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้พูดเล่น ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยทุกคนเริ่มกลัวสุดขีด
แต่ในขณะนั้นเองอาจารย์ของเหอหลู่ อู๋หลี่ และผู้อาวุโสสามนิกายเต๋าอี้ ก็เดินทางมาถึงทันเวลาด้วยระดับพลังปราณของทั้งสอง พวกเขาได้ยินบทสนทนาของศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์จากระยะไกล
อู๋หลี่มีสีหน้าเคร่งเครียด ส่วนผู้อาวุโสสามก็กระตุกมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวด้วยเสียงเย็นชาว่า
"หยุดเดี๋ยวนี้!"
เสียงนั้นทำให้ทุกคนหยุดนิ่งทันที ทั้งสองร่างปรากฏตัวจากฟากฟ้า เมื่อเห็นเหอหลู่และพวกถูกมัดไว้แน่นหนา อู๋หลี่ก็แสดงท่าทางฮึดฮัด แล้วโบกมือ แก้มัดเหล่าศิษย์ทุกคนออกมาด้วยกระแสจิต
เมื่ออู๋หลี่มาถึงศิษย์นิกายหลัวเซี่ยก็เหมือนได้รับความปลอดภัย พวกเขารีบลุกขึ้นและไปยืนข้างหลังอู๋หลี่เหมือนหาแหล่งพึ่งพิงที่ปลอดภัย
"ท่านอาวุโส พวกเรา..."
"หุบปาก!"
อู๋หลี่รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้นิกายเสื่อมเสียชื่อเสียงเกินไป เธอไม่ต้องการฟังคำอธิบายจากศิษย์เหล่านี้และหันสายตาไปมองที่เหอหลู่
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาของอาจารย์ เหอหลู่กลับจ้องเย่ฉางชิงอย่างเกลียดชังและกล่าวว่า
"ท่านอาจารย์ ทุกอย่างเป็นเพราะเย่ฉางชิง เขาใช้เล่ห์เหลี่ยมสกปรกบางอย่าง ซื้อตัวศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์เพื่อมาทำร้ายพวกเรา"
เธอโยนความผิดทั้งหมดไปที่เย่ฉางชิง เมื่อได้ยินเช่นนั้นอู๋หลี่และผู้อาวุโสสามก็หันไปมองเย่ฉางชิง
เย่ฉางชิงรู้สึกหมดคำพูด เขาพูดออกมาอย่างไม่แยแสว่า
"ข้าว่า ถ้าจะกล่าวหาข้าก็ช่วยคิดสักนิดเถอะ ข้าเป็นแค่ศิษย์รับใช้จะเอาอะไรไปซื้อตัวศิษย์พี่ศิษย์น้องพวกนี้ได้กัน? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงศิษย์เอกอย่างศิษย์พี่ซูเจี้ยนและศิษย์พี่หญิงหลิวซวงเลย"
"มันเป็นสิ่งที่ศิษย์รับใช้ตัวเล็กๆอย่างข้าจะทำได้งั้นหรือ?"
เย่ฉางชิงรู้สึกหมดคำพูด เขาไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อู๋หลี่และผู้อาวุโสสามก็ไม่เชื่อว่าเย่ฉางชิงจะทำได้เช่นนั้นจริงๆ อู๋หลี่เหลือบมองเหอหลู่อย่างเย็นชา แต่เหอหลู่ยังคงไม่ยอมลดราวาศอก
"เย่ฉางชิง เรื่องออกมาแบบนี้แล้วเจ้าก็ยังคิดจะปฏิเสธอีกหรือ?"
ไม่ว่าอย่างไรเหอหลู่ก็ไม่ยอมเชื่อว่าเย่ฉางชิงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เย่ฉางชิงได้แต่ยิ้มอย่างเหนื่อยหน่ายและมองเหอหลู่ด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่
เมื่อทั้งสองฝ่ายยืนกรานความเห็นของตนเอง ในขณะที่ผู้อาวุโสจากหอผู้คุมกฏก็มาถึงพร้อมกับศิษย์หลายคน
เย่ฉางชิง,เหอหลู่,เหล่าศิษย์นิกายหลัวเซี่ยและศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์สิบกว่าคนถูกนำตัวไปไปยังหอผู้คุมกฏที่ยอดเขาหลัก
เรื่องนี้จะต้องให้หอผู้คุมกฏเป็นผู้ตัดสิน
ในหอผู้คุมกฏ รองอาวุโสใหญ่ที่ทำหน้าที่ผู้ตัดสินนั่งอยู่ในตำแหน่งสูงสุด ด้านล่างทั้งสองข้างคืออู๋หลี่และผู้อาวุโสสาม ส่วนกลางห้องโถงเป็นที่ของเย่ฉางชิง เหอหลู่ และศิษย์คนอื่นๆ
รองอาวุโสใหญ่รับฟังเหตุการณ์คร่าวๆจากคำพูดของเหอหลู่ พวกเขาพยายามโยนความผิดทั้งหมดให้กับศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์
ขณะนี้รองอาวุโสใหญ่หันไปมองซูเจี้ยนและหลิวซวงสองศิษย์จากยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ เขาพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
"ซูเจี้ยน หลิวซวง สิ่งที่ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยกล่าวมาเป็นความจริงหรือไม่? พวกเจ้ามีอะไรจะแก้ต่างไหม?"
"เฮอะ โกหกไร้สาระทั้งนั้นขอรับ"
ซูเจี้ยนหัวเราะเยาะ ส่วนหลิวซวงก็ไม่ได้สนใจจะตอบอะไร
ซูเจี้ยนมองไปที่เหอหลู่และพวกก่อนจะพูดต่ออย่างดังว่า
"เรื่องนี้ทั้งหมดเป็นผลจากการกระทำของศิษย์นิกายหลัวเซี่ยเอง!"
"ทุกคนรู้ดีว่านิกายเต๋าอี้ของเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนิกายหลัวเซี่ย พวกเราจึงมีเป็นมิตรต่อศิษย์นิกายหลัวเซี่ยเสมอ แต่ใครจะคาดคิดว่า ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยเหล่านี้จะซ่อนเจตนาร้าย คิดจะทำร้ายศิษย์ของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์"
"เจ้าพูดเหลวไหล! พวกข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย!"
"ใส่ความกันแบบนี้ มีอะไรให้ต้องตัดสินอีก?"
เมื่อได้ยินคำกล่าวของซูเจี้ยน ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยหลายคนรีบพูดแย้งดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความกล้าหาญขึ้นมาเมื่ออยู่ในหอผู้คุมกฏ
แต่ซูเจี้ยนเพียงแค่มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาก่อนจะพูดต่อกับรองอาวุโสใหญ่
"ความจริงเป็นอย่างไรพวกเจ้าก็รู้แก่ใจกันดี ความจริงย่อมอยู่ในใจของตน ข้าขอถามพวกเจ้าอีกครั้งว่า ทำไมศิษย์นิกายหลัวเซี่ยถึงมาที่นิกายเต๋าอี้ในครั้งนี้?"
"เพราะเรื่องสัญญาหมั้นหมายของศิษย์น้องหญิงเหอหลู่กับศิษย์น้องเย่ฉางชิง ข้าพูดมาจริงไหม?"
"พวกเจ้ามาที่นี่เพื่อถอนหมั้น ใช่หรือไม่?"
"ใช่"
"ในเมื่อเป็นเช่นนั้นยังมีอะไรที่ต้องอธิบายอีก? พวกเจ้ายอมรับสารภาพด้วยปากของตัวเองแล้ว"
เมื่อคำพูดนี้จบลง ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยต่างงุนงงทันที พวกเราพูดอะไรไป?
ซูเจี้ยนหัวเราะเย็นชาเมื่อเห็นศิษย์นิกายหลัวเซี่ยแสดงสีหน้างุนงง
"สัญญาหมั้นหมายระหว่างเหอหลู่และศิษย์น้องเย่ฉางชิงนั้นถูกกำหนดไว้ตั้งแต่เด็กโดยผู้ใหญ่ในตระกูล"
"การแต่งงานเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องฟังคำของบิดามารดาและแม้เหอหลู่จะอยากถอนหมั้นเอง ข้าไม่ขอพูดถึงว่ามันถูกหรือผิด แต่หากจะถอนหมั้นก็ควรจะไปที่บ้านของน้องฉางชิงไม่ใช่มาที่นิกายเต๋าอี้!"
"แต่พวกเจ้ากลับเลือกมาที่นี่ แถมยังมาหาศิษย์น้องฉางชิงด้วยตัวเอง"
"ข้าขอถามหน่อยเถิด มีชายคนไหนที่จะทนต่อความอัปยศจากการถูกสตรีถอนหมั้นได้? พวกเจ้าต้องการให้ศิษย์น้องเย่ฉางชิงไม่มีหน้ามีตาในนิกายเต๋าอี้อีกต่อไปหรือ?"
"นี่เป็นแค่ข้อกล้าวหาแรก มีเจตนาร้ายที่จงใจจะทำลายจิตใจของศิษย์น้องฉางชิง!"
"แล้วนี่ไม่ถือเป็นการทำร้ายศิษย์ยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ของเราหรอกหรือ?"
"และไม่เพียงเท่านั้นเจ้าหนุ่มคนนั้น! ข้าได้ยินอย่างชัดเจนว่าเจ้าและคนข้างๆ พูดว่าหากจิตใจของศิษย์น้องเย่ฉางชิงพังทลาย เจ้าจะหาโอกาสกำจัดเขาเสีย"
"การทำลายจิตใจของผู้อื่นยังไม่พอ เจ้ายังคิดจะฆ่าปิดปากอีกด้วย ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก! พวกข้าในฐานะศิษย์พี่ร่วมนิกายฦย่อมไม่อาจทนดูเฉยได้"
เด็กหนุ่มนิกายหลัวเซี่ยที่ถูกซูเจี้ยนชี้หน้ากล่าวหาถึงกับมีสีหน้าเหม่อลอย นี่เขาพูดออกมาตอนไหนกัน? เขาแค่มาร่วมดูเหตุการณ์และหวังประจบเหอหลู่ในฐานะศิษย์ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นศิษย์เอกเท่านั้นเอง
แต่ตอนนี้กลับเขาถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนพยายามคิดจะฆ่าศิษย์รับใช้นิกายเต๋าอี้?
"ข้า...ข้าไม่ได้..."
ศิษย์คนนั้นพยายามแก้ต่าง แต่ซูเจี้ยนไม่สนใจเขาหันไปคำนับผู้อาวุโสสองด้วยความเคร่งขรึมและกล่าวอย่างองอาจ
"ด้วยเหตุนี้ ข้าในฐานะศิษย์พี่สามของยอดเขาดาบศักดิ์สิทธิ์ การออกตัวปกป้องศิษย์น้องของข้ามีความผิดตรงไหน?"
"ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยเหล่านี้ต่างหาก บังอาจมีจิตใจชั่วร้ายต่อน้องฉางชิงแบบนี้ ข้าสงสัยว่าพวกเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับพวกอสูรด้วยซ้ำ เพราะการมาที่นี่ก็เพื่อลอบทำลายความสัมพันธ์ระหว่างนิกายเต๋าอี้และนิกายหลัวเซี่ยย่อมมีเป้าหมายที่ซ่อนเร้นอยู่แน่นอน!"
"ข้าขอร้องรองผู้อาวุโสใหญ่โปรดตรวจสอบเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนและควรส่งพวกเขาเข้าคุกมืดเพื่อเตรียมสอบสวนอย่างเข้มงวด"
"อย่านะ! พวกเราถูกใส่ร้าย!"
ยิ่งซูเจี้ยนพูดก็ยิ่งเลยเถิดไปไกล ศิษย์นิกายหลัวเซี่ยถึงกับร้องขอความยุติธรรม พวกเขาไม่ใช่สายลับเผ่าอสูรและก็ไม่เคยคิดจะฆ่าเย่ฉางชิงด้วย