บทที่ 40 : ริเริ่มขอคําแนะนําจากลู่ชิงซวน!
บทที่ 40 : ริเริ่มขอคําแนะนําจากลู่ชิงซวน!
เมื่อเห็นว่าเขาไม่สามารถทำให้ลู่ซืออิ๋นประทับใจได้, เซินโม่ก็ทำได้เพียงหันสายตาไปมองลู่ชิงซวนที่เงียบมาโดยตลอด
ในเมื่อเขาไม่สามารถทำให้ลู่ซืออิ๋นประทับใจได้ เขาก็ทำได้เพียงเข้าผ่านลู่ชิงซวนเท่านั้น
ทันใดนั้น เขาก็หันสายตาไปมองลู่ชิงซวนที่กำลังดื่มชา
"ผู้นำตระกูลลู่ เมื่อข้ามาที่นี่ในวันนี้ ข้าก็ได้นำของขวัญมาให้ท่านด้วย"
ขณะที่พูด เซินโม่ก็หยิบสมบัติออกมาอีกสองชิ้นเเล้ววางไว้บนโต๊ะน้ำชา จากนั้นก็ค่อยๆ แนะนำให้ลู่ชิงซวนฟัง
"นี่คือคัมภีร์ระดับสวรรค์ขั้นสูงหนึ่งเล่ม และนี่คือสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงหนึ่งชิ้น!"
"ตราบใดที่ผู้นำตระกูลลู่อนุญาตให้อัจฉริยะในตระกูลของท่านเข้าสู่นิกายไท่ไป๋ซานของข้าเพื่อฝึกฝน สมบัติทั้งสองนี้จะเป็นของผู้นำตระกูลลู่ทันที!"
เพื่อนำลู่ซืออิ๋นเข้าสู่นิกายไท่ไป๋ซาน เขายังนำของขวัญนี้มาเป็นรางวัลให้กับคฤหาสน์ราชาลู่
เขาไม่เชื่อหรอกว่าผู้นำตระกูลจะไม่หวั่นไหวกับทักษะและสมบัติล้ำค่าที่ไปถึงระดับสวรรค์ขั้นสูงเช่นนี้
เขาคิดว่าไม่มีใครในคฤหาสน์ราชาลู่ในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้เคยเห็นทักษะและสมบัติล้ำค่าระดับสูงเช่นนี้อย่างเเน่นอน!
หลังจากพูดอย่างนั้น รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา และเขาก็จ้องมองไปที่ลู่ชิงซวน เพื่อรอให้อีกฝ่ายแสดงท่าที
….
เมื่อเห็นสมบัติทั้งสองนี้ สีหน้าของลู่ชิงซวนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง และเขายังอยากจะหัวเราะด้วยซ้ำ
เจ้าอยากจะติดสินบนข้าด้วยสมบัติระดับสวรรค์ขั้นสูงสองชิ้น เพื่อให้ข้าเกลี้ยกล่อมอัจฉริยะในตระกูลของข้าให้เข้าร่วมนิกายของเจ้า
ช่างเพ้อฝันเสียจริง!
ข้ามีสิ่งเหล่านี้มากมายในหอสมบัติของคฤหาสน์ราชาลู่
ดวงตาของลู่ซืออิ๋นก็มองไปที่เซินโม่ด้วยสายตาแปลกๆ
คนผู้นี้พยายามที่จะทำให้ผู้นำตระกูลประทับใจด้วยสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงเพียงสองชิ้น…นี่มันช่างน่าขันจริงๆ
ผู้นำตระกูลมอบสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดให้เธอสองชิ้นอย่างไม่สนใจ…แล้วเเบบนั้นเขาจะอยากได้สมบัติระดับสวรรค์ขั้นสูงของเจ้าหรือ?
เมื่อสัมผัสได้ถึงสีหน้าที่ไม่หวั่นไหวของลู่ชิงซวนและลู่ซืออิ๋น
เซินโม่ที่กำลังยิ้มอยู่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย
พวกเขาไม่ตื่นเต้นเมื่อเห็นทักษะและสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงเหล่านี้เลยเหรอ?
สถานการณ์ในตอนนี้ ทำไมมันถึงแตกต่างจากที่เขาจินตนาการโดยสิ้นเชิง!
เจ้ารู้ไหมว่าแม้แต่เขา เมื่อเผชิญหน้ากับทักษะและสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูง เขาก็ยังหวั่นไหวอย่างมาก…แต่หัวหน้าตระกูลเล็กๆ อย่างคฤหาสน์ราชาลู่กลับสามารถต้านทานการล่อลวงเช่นนี้ได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเห็นสีหน้าที่สับสนของเซินโม่ ลู่ชิงซวนก็พูดออกมาตรงๆ
"ข้าได้แสดงเจตนาของข้ามาก่อนแล้วว่าสมาชิกตระกูลลู่ของข้าจะเต็มใจเข้าร่วมนิกายเพื่อฝึกฝนหรือไม่ ล้วนแต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของพวกเขาเอง ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว!"
"ตอนนี้ซืออิ๋นไม่เต็มใจที่จะเข้าร่วมนิกายของท่านเพื่อฝึกฝน เหตุใดถึงต้องให้ข้าบังคับเธอด้วย?"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซินโม่ก็โกรธอย่างมากอยู่ในใจ
คฤหาสน์ราชาลู่เล็กๆ ถึงกับดูถูกทักษะและสมบัติล้ำค่าระดับสวรรค์ขั้นสูงงั้นเหรอ?
เขามาที่นี่ด้วยความคาดหวังสูง ชักแม่น้ำทั้งห้าเพื่อเจรจา เเละแม้กระทั่งหยิบสมบัติระดับสวรรค์ออกมาสี่ชิ้น…แต่เขาก็ยังไม่สามารถนำคนของคฤหาสน์ราชาลู่ไปได้
เเล้วสิ่งนี้จะไม่ทำให้เขาโกรธได้อย่างไร?
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซินโม่ก็กัดฟัน และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องใช้ไม้ตาย
ทันใดนั้น เขาก็ยิ้มอย่างฝืนๆ และพูดกับลู่ชิงซวน
"ข้าได้ยินมาว่าผู้นำตระกูลลู่มีชื่อเสียงโด่งดังเมื่อเร็วๆนี้ ข้าจึงรู้สึกคันไม้คันมือ อยากจะขอผู้นำตระกูลชี้แนะสักหน่อย"
"ไม่ทราบว่าผู้นำตระกูลจะให้เกียรติข้าหรือไม่"
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถล่อลวงหญิงสาวคนนี้เข้าสู่นิกายได้
งั้นเขาก็จะใช้พลังอันแข็งแกร่งของเขา เพื่อแสดงให้หญิงสาวคนนี้เห็นว่าคนที่มีพลังมากที่สุดในตระกูลลู่นั้นอ่อนแอเพียงใดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
เเละเมื่อถึงเวลานั้น เขาจะรอดูว่าหญิงสาวคนนี้จะยังคงมีความหยิ่งผยองและดูถูกเหยียดหยามนิกายของเขาเช่นนี้หรือไม่
"โอ้ ผู้อาวุโสเซินต้องการคำชี้แนะจากข้าหรือ?"
ลู่ชิงซวนไม่ได้คาดคิดว่าผู้อาวุโสผู้นี้จะต้องการใช้การแสดงพลังเพื่อคว้าโอกาสอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสเซินคนนี้จะไม่หันหลังกลับจนกว่าเขาจะชนกำแพง!
อย่างไรก็ตาม ลู่ชิงซวนไม่ได้ตกลงตามคำขอของเซินโม่ในทันที
เขาแสดงท่าทีปฏิเสธเล็กน้อย
"ชื่อเสียงของข้าเมื่อเร็วๆ นี้เป็นเพียงการพูดเกินจริงของใครบางคน ดังนั้นท่านไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากข้าหรอก!"
เมื่อได้ยินการปฏิเสธของลู่ชิงซวน…เซินโม่ก็ร้อนรนและพูดอย่างเร่งรีบ
"ผู้นำตระกูลลู่ ถ้าเช่นนั้น พวกเราก็แค่แสดงพลังอาณาจักรของตนเอง และแข่งขันกันเพียงนิดหน่อย ท่านเห็นว่าอย่างไร?"
เขากลัวจริงๆว่าลู่ชิงซวนจะไม่สู้กับเขา…ถ้าเป็นเช่นนั้น เขาก็จะไม่มีทางทำอะไรได้อีก
ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนวิธีการต่อสู้อย่างเร่งรีบ
เขาครอบครองระดับการฝึกฝนในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่สาม นอกจากนี้เขายังเข้าใจเจตนาดาบขั้นที่หนึ่ง
เขาเชื่อมั่นว่า ผู้นำตระกูลลู่จะไม่สามารถต้านทานพลังของเขาได้อย่างเเน่นอน
เเละเมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่ชิงซวนก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็ตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจ
"เอาล่ะ ในเมื่อผู้อาวุโสเซินกล่าวเช่นนี้…ข้าก็ตกลง"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซินโม่ก็รู้สึกดีใจ
ตราบใดที่ผู้นำตระกูลเห็นด้วย เขาก็มั่นใจมากว่าเขาสามารถชนะได้
ทันใดนั้น เขาก็หันสายตาไปมองลู่ซืออิ๋น และเยาะเย้ยในใจ
"เด็กน้อยรอก่อนเถอะ ข้าจะให้เจ้าเห็นกับตาว่าคนที่มีพลังมากที่สุดในคฤหาสน์ราชาลู่ของเจ้านั้นอ่อนแอเพียงใดเมื่อต้องเผชิญหน้ากับข้า!"
เมื่อลู่ชิงซวนตกลงที่จะแข่งขันระดับพลัง ลู่ซืออิ๋นและลั่วไป๋ยู่ต่างก็ถอยห่างออกไป
เมื่อเห็นเช่นนี้ เซินโม่ก็มองไปที่ลู่ชิงซวนที่มีสีหน้าไม่แยแสก่อน และอดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วเล็กน้อย
การที่อีกฝ่ายสงบนิ่งเช่นนี้ ทำให้เขาสับสนทันที…เป็นไปได้ไหมว่าอีกฝ่ายกำลังซ่อนระดับการฝึกฝนของเขาอยู่?
แต่เมื่อคิดดูแล้ว แม้ว่าอีกฝ่ายจะซ่อนระดับการฝึกฝนไว้ มันก็ไม่สำคัญ
ในท้ายที่สุด เขาก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนจากอาณาจักรวังวิญญาณ แม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้เจตนาดาบที่แท้จริง เขาก็ยังคงสามารถปราบอีกฝ่ายได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลืองแรง
เซินโม่ดึงสติกลับมา พยักหน้าให้ลู่ชิงซวนก่อน จากนั้นออร่าของเขาก็กวาดผ่านร่างกายและแผ่กระจายออกไปอย่างช้าๆ
พลังของอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นแรก แปรเปลี่ยนเป็นแรงกดดันเเล้วกดขี่ไปทางลู่ชิงซวน
เมื่อเห็นฉากนี้ ลู่ชิงซวนก็ไม่ปิดบังอะไรอีกต่อไป
ทันใดนั้น, ออร่าสีเขียวอมฟ้าก็โอบล้อมรอบตัวเขา
พลังของอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณเเปรเปลี่ยนเป็นคลื่นพายุ และพัดพาออกไป
"อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นแรก!"
เมื่อเห็นพลังที่ลู่ชิงซวนแสดงออกมา…เซินโม่ก็สัมผัสได้ถึงระดับการฝึกฝนของลู่ชิงซวนในทันที
เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเจ้าของตระกูลในสถานที่ห่างไกลเช่นนี้จะมีระดับการฝึกฝนถึงอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณ
ขณะที่ความคิดของเขากำลังหมุนเร็วจี๋ พลังของพวกเขาทั้งสองก็ปะทะกันอย่างรุนแรง
ตูมมมม!
พลังวิญญาณระเบิดออก และแผ่กระจายออกไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้เวลาเพียงชั่วครู่…พลังของเซินโม่ก็ถูกพลังของลู่ชิงซวนบดขยี้ จากนั้นก็กดขี่ไปทางเซินโม่โดยไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ
สีหน้าของเซินโม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เเละตอนนี้เขาไม่อาจออมมือได้อีกต่อไป
ระดับการฝึกฝนในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่สามถูกเปิดใช้งานในทันที
เเต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของลู่ชิงซวน…แม้แต่พลังของอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่สามก็ไม่สามารถทำอะไรได้
เวลาเพียงชั่วครู่ พลังอันทรงพลังของเซินโม่ก็ถูกบดขยี้อีกครั้ง
ในขณะนี้ ใบหน้าของเซินโม่สูญเสียความสงบทั้งหมด จิตใจของเขาหวาดกลัวและตกตะลึงอย่างมาก
ระดับการฝึกฝนในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นแรกจะน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร!
…..
จากระยะไกล ลู่ซืออิ๋นและลั่วไป๋ยู่ที่ได้เห็นฉากนี้ ต่างก็มีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันออกไป
สีหน้าของลู่ซืออิ๋นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ นี่คือผู้นำตระกูลของพวกเธอ เขานั้นทรงพลังจนไม่มีใครเทียบได้
ส่วนลั่วไป๋ยู่นั้นตกใจอย่างถึงที่สุด
เขาไม่เข้าใจจริงๆว่าผู้นำตระกูลที่อยู่ในที่ห่างไกลแห่งนี้จะมีพลังอันน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ได้อย่างไร
เขาปราบปราผู้อาวุโสเซินที่อยู่ในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่สามด้วยการเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว
ณ ขณะนี้…ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
………………