บทที่ 39 ซือฝูฉิง เธอเป็นคนที่หยิ่งทะนงมาตลอด

บทที่ 39 ซือฝูฉิง เธอเป็นคนที่หยิ่งทะนงมาตลอด

เซี่ยอวี้ที่ตามเข้ามาก็ไม่รีรอเช่นกัน เขาก้าวขาเดินไปหยิบเบสหนึ่งตัว

ซวี ซื่อหยูนและเด็กฝึกอีกสี่คนที่ตามมามีท่าทางลังเลเล็กน้อยในตอนแรก

ซือฝูฉิงมองพวกเขาเพียงแวบเดียว

พวกเขาทั้งห้าคนปรับสีหน้าให้จริงจังขึ้นทันทีและก้าวเข้าไปหยิบอุปกรณ์เครื่องเสียงทั้งหมด รวมทั้งถอดสายไฟออกด้วย

เสียงเพลงในห้องซ้อมเต้นหยุดลงทันที

เด็กฝึกหัดที่กำลังเต้นอยู่ต้องหยุดซ้อมอย่างเลี่ยงไม่ได้ สีหน้าของทุกคนไม่ค่อยดีนัก

"ซือฝูฉิง!" มู่เหย่ลุกขึ้น สีหน้าดูโกรธจัด "เธอทำเกินไปแล้ว!"

“ที่ห้องของครูหลินยังมีเด็กฝึก F อยู่หรือ?” ซือฝูฉิงกวาดสายตามองแล้วหัวเราะเบาๆ “ดูเหมือนครูหลินจะมีมาตรฐานสูง ข้าคงไม่เทียบเท่าได้”

คำพูดนี้เหมือนกำลังตำหนิทั้งสองคน

มู่เหย่กำหมัดแน่น “ซือฝูฉิง!”

เขาถูกลดชั้นไปอยู่ในระดับ F ก็เพราะซือฝูฉิงจงใจหาเรื่องเขาตอนนั้นไม่ใช่หรือ?

เซี่ยอวี้สะพายเบสและหัวเราะเบาๆ "จาก A ไป F นี่เจ้าคงต้องพยายามหนักแล้วล่ะ"

หน้าของมู่เหย่ซีดลงทันที

เขาไม่กล้าปะทะกับเซี่ยอวี้

แฟนคลับของเซี่ยอวี้นั้นปกติเป็นมิตร แต่ถ้าเป็นเรื่องผลประโยชน์ของเซี่ยอวี้ล่ะก็ พวกเธอพร้อมจะบ้าคลั่งได้

นี่เป็นเหตุผลที่ทีมงานไม่กล้ากดดันเซี่ยอวี้อย่างเปิดเผย

“คุณครูซือ แบบนี้มันไม่ดีนะคะ?” หลิน ชิงเอียนบีบฝ่ามือของตัวเองพร้อมกับยิ้ม “คุณไม่อยากให้พวกเราฝึกซ้อมหรือคะ?”

ซือฝูฉิงเลิกคิ้ว

เธอก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าว โน้มตัวลงเล็กน้อยจนสายตาอยู่ในระดับเดียวกับหลิน ชิงเอียน

แม้ว่าเธอจะไม่ได้สวมรองเท้าส้นสูง แต่ในสายตาหลิน ชิงเอียน กลับรู้สึกว่าซือฝูฉิงมีความกดดันมหาศาล

หลิน ชิงเอียนอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปหนึ่งก้าว

ซือฝูฉิงยิ้มเล็กน้อยและกระซิบเบาๆ ที่ได้ยินกันแค่สองคน “จะแกล้งอะไร? เชื่อไหมว่าข้าจะดึงซิลิโคนออกจากจมูกของเจ้า?”

สีหน้าของหลิน ชิงเอียนเปลี่ยนไปทันที

ดวงตาของเธอเริ่มแดง น้ำเสียงสั่นเครือ “คุณครูซือหมายความว่าอย่างไรคะ?”

“ไป” ซือฝูฉิงยืดตัวขึ้นและไม่สนใจเธออีก เธอโบกมือเรียก “กลับไปฝึกกันเถอะ”

เมื่อถึงหน้าประตู เธอหันกลับมาแล้วยิ้มเล็กน้อย “จำไว้นะ ถ้าใครขโมยของเราอีกครั้ง ยกกลับมา อย่าทำให้ตัวเองรู้สึกเสียเปรียบ”

เซี่ยอวี้และเด็กฝึกหัดทั้งหกคนเดินตามซือฝูฉิงออกไปอย่างไม่เกรงกลัว

ซวี ซื่อหยูนพูดเสียงเบา "พี่เซี่ย ทำไมเราถึงไปกินข้าวกันก่อนล่ะ?"

เซี่ยอวี้ตอบอย่างขำขัน "กินให้อิ่มก่อน จะได้มีแรงไปลุย"

ซวี ซื่อหยูน: "......?"

ในห้องซ้อมเต้น หลิน ชิงเอียนริมฝีปากสั่นเล็กน้อย สีหน้าของเธอก็ค่อยๆ ซีดลง

ซือฝูฉิงบ้าจริงๆ!

ในฐานฝึกซ้อมแทบทุกที่มีกล้องวงจรปิด แม้แต่ในห้องพัก ยกเว้นเวลานอนหลับพักผ่อน กล้องเหล่านี้ทำงานตลอดเวลา ดังนั้นเด็กฝึกหัดจึงต้องระมัดระวังคำพูดและการกระทำของตนเองตลอดเวลา

หลิน ชิงเอียนไม่เข้าใจการกระทำของซือฝูฉิงเลย

ในวงการบันเทิง ดาราทุกคนล้วนมีภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้น

การจะรักษาภาพลักษณ์ต่อหน้ากล้อง ต้องระวังคำพูดและการกระทำทุกอย่าง

หรือว่าซือฝูฉิงเลิกสนใจอะไรแล้ว?

"คุณครูหลิน อย่าไปใส่ใจกับซือฝูฉิงคนบ้าเลย" มู่เหย่พยายามปลอบเธอ "รอให้ตระกูลซั่วประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับเธอเมื่อไหร่ บริษัทของเราจะสั่งสอนเธอแน่นอน"

ชีวิตที่สุขสบายของซือฝูฉิง คงจะเหลืออีกไม่กี่วัน

มู่เหย่เริ่มรู้สึกกังวลเช่นกัน

งานศพของคุณปู่ซั่วก็ผ่านมาแล้วหลายวัน ทำไมตระกูลซั่วถึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลย?

หลิน ชิงเอียนได้สติกลับมาและยิ้มอีกครั้ง เธอพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "มู่เหย่ เริ่มฝึกซ้อมเถอะ"

เธอหลุบตาลงเล็กน้อย เงามืดตกลงมาบนใบหน้าของเธอ

** ในขณะเดียวกัน ที่บ้านตระกูลซั่ว

ซั่วเทียนเฟิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย "ทั้งสองท่านจะออกเดินทางแล้วหรือ?"

"ใช่ พวกเราพี่น้องอยู่ที่ตระกูลซั่วมาสองวันแล้ว ถึงเวลาที่ต้องกลับตงซัน" ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่ห่างเหิน "คุณซั่ว ขอลาก่อน"

ซั่วเทียนเฟิงพยายามรั้งไว้ แต่ก็ไม่สามารถห้ามได้

เขายอมก้มหัวพูดอย่างเอาใจ "หากสองท่านมีเรื่องใดที่ตระกูลซั่วสามารถช่วยได้ โปรดบอกมาเถิด ข้ายินดีช่วยเหลืออย่างเต็มที่!"

ถ้าหากเขาสามารถเชื่อมความสัมพันธ์กับพวกอิ้นหยางซือได้ ตระกูลซั่วก็จะรุ่งเรือง

"ก็คุยกันได้" ชายหนุ่มพยักหน้า "ไม่ทราบว่าท่านแม่ของคุณอยู่ที่ไหน?"

"เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกท่านแม่" ซั่วเทียนเฟิงถอนหายใจ "ท่านแม่ไม่สบาย กำลังรักษาตัวอยู่ที่สี่เก้าเมือง ส่วนท่านพ่อท่านแข็งแรงดีมาโดยตลอด ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้"

แววตาของเขาดูเย็นชาและคมกริบขึ้น

คุณปู่ซั่วมีสุขภาพแข็งแรงดี สามารถมีชีวิตต่อไปได้อีกสิบถึงยี่สิบปีโดยไม่มีปัญหา

แต่โรงพยาบาลตรวจแล้วก็ไม่พบอะไรผิดปกติ มันแปลกมาก

ซั่วเทียนเฟิงเคยได้ยินถึงความสามารถอันลี้ลับของอิ้นหยางซือ ว่าผู้ที่แข็งแกร่งสามารถลิขิตชะตาและควบคุมปีศาจและภูตผีได้

ตระกูลฟูจิยามะถือเป็นตระกูลอิ้นหยางซือที่แข็งแกร่งที่สุด

เมื่ออิ้นหยางซือจากตระกูลฟูจิยามะมาด้วยตัวเอง ซั่วเทียนเฟิงจึงสงสัยว่าการเสียชีวิตของคุณปู่ซั่วอาจมีฝีมือของอิ้นหยางซือเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เขาก็ไม่กล้าถาม

“อย่างนี้นี่เอง” ชายหนุ่มพยักหน้า “ขอแสดงความเสียใจด้วย”

แม้ซั่วเทียนเฟิงจะพยายามรั้งตัวไว้ แต่ทั้งสองก็จากไปอย่างรวดเร็ว

ระหว่างทาง

“ศิษย์พี่ หรือว่านางผู้หญิงที่ตระกูลซั่วรับเลี้ยงไว้ซึ่งเป็นธิดาแห่งโชคลาภ จะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” ชายหนุ่มอีกคนขมวดคิ้ว “ถึงแม้ว่าตอนนั้นโชคของเธอจะถูกแย่งไปจนเหลือไม่ถึงสิบส่วน แต่มันก็ยังเพียงพอที่จะปกป้องตระกูลให้รุ่งเรืองได้เป็นร้อยปี”

“ไม่หรอก ข้าดูหน้าตาของเธอแล้ว ยังอยู่ในสภาพที่ขาดโชคลาภอย่างหนัก ไม่แน่ว่าอาจตายโดยอุบัติเหตุสักวัน” ชายหนุ่มส่ายมือ “และเธอไม่ใช่อิ้นหยางซือแน่นอน ไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกับพวกอิ้นหยางซือได้”

“คาดว่ากระบวนการย้ายโชคลาภอาจเกิดความผิดพลาด ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย เราแค่กลับไปรายงานอาจารย์ก็พอ”

การตายของคุณปู่ซั่วไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขา

ไม่ต้องพูดถึงตระกูลซั่ว แม้แต่ตระกูลอวิ๋นที่เป็นตระกูลใหญ่สุดในสี่เก้าเมือง ตระกูลฟูจิยามะยังไม่ชายตามองเลย

พวกเขามาที่หลินเฉิงก็แค่เพื่อตรวจดูว่าเป็นเพราะวิชาของตระกูลฟูจิยามะมีปัญหาหรือไม่

นอกนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาเลย

“เข้าใจแล้ว” ชายหนุ่มอีกคนพยักหน้า “ตอนกลับเราคงต้องอ้อมไปทางตะวันออกเพื่อเลี่ยงเจอคนของตระกูลจี้”

ตระกูลฟูจิยามะไม่กลัวใคร ยกเว้นจะระวังเมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลจี้

เพราะในปี 704 แห่งราชวงศ์ต้าชา บรรพบุรุษของตระกูลฟูจิยามะได้เดินทางข้ามฟากไปต้าชา เพื่อขอเรียนวิชาอิ้นหยางและห้าธาตุจากตระกูลจี้ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของตระกูลฟูจิยามะในภายหลัง

“ตระกูลจี้ห่างหายไปนานแล้ว จะมายุ่งเรื่องเล็กๆ แบบนี้ทำไม อีกอย่างในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ถดถอยลงอย่างมาก ไม่อาจเทียบกับตระกูลฟูจิยามะได้” ชายหนุ่มส่ายมืออีกครั้ง “ไปเถอะ เรากลับไปตงซันกัน”

** ที่ฐานฝึกซ้อมรายการ "เยาวชนวัยใส"

ระหว่างช่วงพัก หลิน ชิงเอียนเดินออกมาจากห้องซ้อมเต้น เธอเดินไปยังห้องพักและพูดด้วยเสียงเย็นชา "กล้องวงจรปิดอยู่ไหน?"

ผู้ช่วยหยิบแฟลชไดรฟ์ขึ้นมา "อยู่ที่นี่ค่ะพี่ชิงเอียน ฉันก็อัดลงมือถือไว้แล้วด้วย"

หลิน ชิงเอียนรับมือถือมา และเห็นภาพจากกล้องที่บันทึกพฤติกรรมของซือฝูฉิงอย่างชัดเจน

เธอปัดผมที่หูแล้วยิ้ม "ดี หาจังหวะที่เหมาะ แล้วเอาไปปล่อยลงอินเทอร์เน็ตซะ"

เพื่อให้ซือฝูฉิงถูกขับออกจากวงการบันเทิง และทำลายเซี่ยอวี้ไปพร้อมกัน

ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

"พี่ชิงเอียนวางใจได้เลยค่ะ จะทำให้เรียบร้อย" ผู้ช่วยยิ้ม "พอดีวันนี้ทางรายการปล่อยรายชื่อกลุ่มอย่างเป็นทางการไปแล้ว แฟนๆ ต่างออกมาปกป้องพี่ชิงเอียนกันเต็มที่เลยค่ะ"

รายชื่อกลุ่มถูกปล่อยออกมาเวลาเก้าโมงเช้า และทำให้แฟนๆ ตื่นตัวทันที

【อ้วก พี่เซี่ยยังอยู่ในกลุ่มของซือฝูฉิงอีก รายการนี้คิดอะไรอยู่? เรียนเต้นไม่ควรไปอยู่ในกลุ่มของครูหลิน ชิงเอียนเหรอ?】

【จะบอกนะ ครูหลิน ชิงเอียน กับซือฝูฉิงนี่คนละระดับกันเลย เทียบกันไม่ได้หรอก】

【ซือฝูฉิงควรจะรู้ตัวเองบ้าง แล้วปล่อยพี่เซี่ยไปให้ครูหลิน ชิงเอียนจะดีกว่าไหม?】