ตอนที่ 396 ใครจะกล้าต่อกร

ตระกูลจ้าว และพันธมิตรของตระกูลจ้าวจะลงมือโจมตีตระกูลซูแน่นอน ทุกคนในตระกูลซูคาดเดาไว้แล้วว่าคงเป็นเช่นนี้

แต่การปรากฏตัวของ ไช่อวี๋ กลับเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง รวมไปถึงชายชราตระกูลซูเองก็ด้วย

พลังของ ไช่อวี๋ ไม่สามารถดูถูกได้ แม้เขาจะไม่ได้เป็นตระกูลใหญ่อย่างเต็มตัว แต่ก็เกือบจะเทียบเคียงได้

แม้จะประหลาดใจ แต่ชายชราตระกูลซูกลับไม่ได้กังวลมากนัก

เนื่องจากมี เสี่ยวเฉิน อยู่ที่นี่ ต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับการร่วมมือกันของ ตระกูลจ้าว และไช่อวี๋ ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร

ท้ายที่สุดแล้ว เสี่ยวเฉิน ก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับ ตระกูลหนิง, ตระกูลเหยียน และถัง เจิ้นซาน

“หัวหน้าตระกูลซู ฉันคิดว่าท่านควรยอมรับข้อเสนอของ หัวหน้าตระกูลจ้าวเถอะ มันจะดีกับตระกูลซูมากกว่า”

ไช่อวี๋ แนะนำ

ถ้าสามารถได้ประโยชน์โดยไม่ต้องลงมือใดๆ นั่นย่อมดีที่สุด..

ท้ายที่สุดแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันโจมตีตระกูลซู พวกเขาก็คงต้องสูญเสียบางอย่างไปเช่นกัน

“ความอดทนของฉันมีขีดจำกัด”

จ้าว เทียนหง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

วันนี้เขาเตรียมแผนสำรองเอาไว้แล้ว

“พวกเราจะไม่มีวันยอมรับเงื่อนไขนั้นเด็ดขาด”

ชายชราตระกูลซู ตอบกลับทันที

เงื่อนไขที่ตระกูลจ้าวเสนอมา แม้ว่าจะไม่มี เสี่ยวเฉิน อยู่ พวกเขาก็ไม่มีทางยอมรับอยู่แล้ว

“เหล่าซู อย่าเพิ่งปฏิเสธไปเลย ฉันคิดว่าอีกสักพักคุณอาจจะเสียใจที่พูดคำนี้ออกมาก็ได้…”

จ้าว เทียนหง พูดด้วยน้ำเสียงปนหงุดหงิดแฝงความหมายโดยนัย ก่อนจะเหลือบมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือ

หลังจากนั้นไม่นานนัก คนรับใช้ของตระกูลซูก็รีบเข้ามารายงาน

“ท่านหัวหน้าตระกูล ฉวี่ สือเจ๋อ มาขอเข้าเยี่ยมครับ?”

ตระกูลฉวี่? ฉวี่ สือเจ๋อ อย่างนั้นหรือ?

เดี๋ยวนะ.. ตระกูลฉวี่ จากเมืองซูเฉิง งั้นเหรอ?!

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชายชราตระกูลซู ก็ถึงกับตกตะลึงทันที

พวกเขาแทบจะไม่เคยมีความสัมพันธ์กับตระกูลฉวี่เลย

แล้วทำไม ฉวี่ สือเจ๋อ ถึงมาที่นี่?

“เชิญเขาเข้ามา”

ชายชราตระกูลซู พยักหน้า

“ฉันมาช้าไปไหม?”

ฉวี่ สือเจ๋อ ชายวัยสี่สิบกว่าปี ร่างกายกำยำเอ่ยขึ้นเมื่อเข้ามา

“หัวหน้าตระกูลฉวี่ มาได้จังหวะพอดีเลย”

จ้าว เทียนหง พูดแทรกขึ้น ขณะที่ ชายชราตระกูลซู กำลังจะเอ่ยทักทายอีกฝ่าย

หืม?

ทันใดนั้นชายชราชะงักไปทันที และก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง

ฉวี่ สือเจ๋อ ผู้นี้ไม่ได้มาเพื่อพบเขา แต่มาเพื่อพบ จ้าว เทียนหง!

“ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือหัวหน้าตระกูลฉวี่ จากเมืองซูเฉิง ฉวี่ สือเจ๋อ”

“เพื่อนใหม่ของตระกูลจ้าวเรา..”

จ้าว เทียนหง แนะนำอย่างภาคภูมิใจ

เขาเพิ่งรู้จักกับ ฉวี่ สือเจ๋อ เมื่อเดือนที่แล้วในงานเลี้ยงสังสรรค์

ในครั้งนี้ จ้าว เทียนหง ตั้งใจเดินทางไปเมืองซูเฉิงเพื่อเจรจากับ ฉวี่ สือเจ๋อ โดยเฉพาะ เพื่อหาพันธมิตรในการจัดการกับตระกูลซู

ท้ายที่สุดเขาก็ยอมจ่ายต้นทุนบางอย่างเพื่อทำให้ ฉวี่ สือเจ๋อ ยอมร่วมมือกับพวกเขา

เมื่อได้ยินคำอธิบายของ จ้าว เทียนหง ทุกคนก็เข้าใจชัดเจน ฉวี่ สือเจ๋อ ผู้นี้เป็นคนที่ตระกูลจ้าวเชิญมาเพื่อช่วยเหลือพวกเขา

ตอนนี้ฝั่งตระกูลจ้าว นอกจากพันธมิตรเล็กๆ ที่มาด้วยแล้ว ยังมีอีกสองตระกูลใหญ่ที่เข้ามาร่วมด้วย!!!

กำลังรบครั้งนี้แข็งแกร่งยิ่งนัก!

และแค่นี้ก็เพียงพอที่จะกำราบตระกูลซูที่กำลังตกต่ำของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย..

ในขณะนี้ ชายชราตระกูลซู เริ่มรู้สึกวิตกกังวลเช่นกัน

จ้าว เทียนหง สามารถชักชวน ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ มาช่วยเหลือได้ แสดงว่าเบื้องหลังต้องมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันอย่างแน่นอน

หากตระกูลจ้าวลงมือ ตระกูลไช่ และตระกูลฉวี่ จะต้องเข้าร่วมโจมตีตระกูลซูเช่นกัน

แม้ว่า เสี่ยวเฉิน จะรู้จักคนจากตระกูลหนิง, ตระกูลเหยียน และถัง เจิ้นซาน

แต่ชายชราก็ไม่มั่นใจเลยว่าตระกูลเหล่านั้นจะยอมเผชิญหน้ากับตระกูลจ้าว และพันธมิตร เพื่อช่วยเหลือตระกูลซู เพราะ เสี่ยวเฉิน หรือไม่?

ในใจของชายชราตระกูซูเริ่มรู้สึกไม่แน่ใจอย่างมาก

การที่พวกเขาจะยอมสละความสัมพันธ์กับตระกูลจ้าว เพื่อช่วยเหลือตระกูลซูเพียงเพราะ เสี่ยวเฉิน นั้น มันเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้

ตระกูลจ้าว, ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ เมื่อรวมกัน พวกเขาย่อมมีพลังที่แข็งแกร่งเหมือนคลื่นยักษ์ที่พร้อมจะกวาดล้างทุกอย่าง

ไม่ใช่แค่ชายชราที่เป็นกังวล สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลซูก็รู้สึกกดดันเช่นกัน

แต่ท่ามกลางบรรยากาศที่กดดัน และเต็มไปด้วยความตึงเครียดเช่นนี้ เย่เฉิน กลับเป็นคนเดียวที่ยังดูสงบนิ่ง

การรวมตัวกันของกลุ่มพันธมิตรที่อิงกับผลประโยชน์นั้นไม่มั่นคงเลย..

หาก เย่เฉิน ไม่มี [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] การจัดการกับตระกูลจ้าวอาจจะยุ่งยากกว่านี้

แต่ตอนนี้เขามี [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] อยู่ในมือแล้ว

ถ้าเขาต้องการ เพียงแค่พริบตาเดียว เขาก็สามารถทำให้ตระกูลจ้าว และรากฐานของพวกเขาอย่าง ‘จ้าว อินเวสต์เมนต์ กรุ๊ป’ ล่มสลายลงได้..ทันที

เมื่อกลุ่มบริษัทนี้ที่เปรียบเสมือนเสาหลักพังทลายลง ธุรกิจในเครือทั้งหมดของเขา ..บวกกับแผนสำรองที่วางไว้ก็จะเริ่มเคลื่อนไหวทันที

ในตอนนั้น ตระกูลจ้าวจะไม่สามารถต่อกรได้อีกต่อไป

และเมื่อถึงเวลาที่ตระกูลจ้าวล่มสลายลงแล้ว ไช่อวี๋ และฉวี่ สือเจ๋อ จะยังคงเป็นพันธมิตรกับตระกูลจ้าวอีกหรือไม่?

“ท่านหัวหน้าตระกูลฉวี่”

“สวัสดีครับ ท่านหัวหน้าตระกูลฉวี่”

เมื่อ จ้าว เทียนหง เห็น ฉวี่ สือเจ๋อ ปรากฏตัว สมาชิกตระกูลจ้าวทุกคนก็ต่างแสดงความยินดีอย่างมาก

การมาถึงของ ฉวี่ สือเจ๋อ เป็นเหมือนการประกันความมั่นใจให้กับพวกเขา

แม้แต่ ไช่อวี๋ ที่เห็นก็ผ่อนคลายมากขึ้น เขาคิดว่าคราวนี้ตระกูลซูจะต้องถูกทำลายแน่นอน

เมื่อสามตระกูลใหญ่ร่วมมือกัน ใครเล่าจะกล้าต่อกร?

“หัวหน้าตระกูลฉวี่ ฉันขอแนะนำ นี่คือ ไช่อวี๋ น้องชายของฉัน”

จ้าว เทียนหง แนะนำ ไช่อวี๋ ให้ ฉวี่ สือเจ๋อ รู้จัก

“หัวหน้าตระกูลฉวี่...”

หลังจากนั้นพวกเขาก็พูดคุยกันอย่างสนิทสนม

ทั้งสามคนเริ่มพูดคุย และหัวเราะกันต่อหน้า เย่เฉิน และคนในตระกูลซู ราวกับว่าพวกเขาได้ตัดสินชะตากรรมของตระกูลซูไปแล้ว

พวกเขานั้นถึงขั้นเริ่มพูดถึงแผนการต่อไปว่าจะทำอะไรกันหลังจากจัดการกับตระกูลซูแล้ว

สำหรับพวกเขา เรื่องการจัดการตระกูลซูนั้นเสร็จสิ้นนานแล้ว และตระกูลซูก็เหมือนถูกเหยียบลงใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา

เมื่อคนในตระกูลซูเห็นเช่นนั้นก็โกรธมาก แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้

เมื่อเผชิญหน้ากับสามตระกูลใหญ่ที่ผนึกกำลังกัน ใครบ้างที่จะไม่หวาดหวั่น?

ทางด้านโรงแรมโฟร์ซีซั่น หางโจว แอท เวสท์เลค รถหรูหลายคันก็ค่อยๆ จอดลง

ถัง เจิ้นซาน และลูกชายของเขา ถัง หลงเหยี่ยน ลงจากรถ เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ไม่ไกลนัก ถัง เจิ้นซาน จึงมาถึงก่อนเป็นคนแรก

เขาจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินตรงเข้าไปในโรงแรม

แต่เมื่อมาถึง เพรสซิเด้นท์ วิลล่า เขาก็ได้รับแจ้งจากพนักงานว่า เย่เฉิน ไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ได้ไปที่คฤหาสน์ตระกูลซู

“ตระกูลซูหรือ ก็ดี งั้นถือโอกาสนี้ไปเยี่ยมหัวหน้าตระกูลซูด้วยเลย”

ถัง เจิ้นซาน พยักหน้าแล้วสั่งให้คนขับรถมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลซู พร้อมกับลูกชายของเขาทันที

หลังจากที่ ถัง เจิ้นซาน จากไปได้ไม่นาน ก็มีรถหรูอีกคันหนึ่งจอดลงเช่นกัน หัวหน้าตระกูลหนิงมาถึงแล้ว

ในท้ายที่สุด หัวหน้าตระกูลหนิงก็สั่งให้คนขับรถมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ตระกูลซูเช่นเดียวกับ ถัง เจิ้นซาน

วันนี้ คฤหาสน์ตระกูลซู คงจะคึกคักเป็นพิเศษ

“เอาล่ะ เหล่าซู ตอนนี้คุณยังยืนยันที่จะต่อต้านพวกเราตระกูลจ้าวอยู่อีกหรือไม่?”

จ้าว เทียนหง ไม่พูดพร่ำทำเพลงอีกต่อไป เขาหันไปจ้องมองชายชราตระกูลซู

“จะยอมรับข้อเสนอของพวกเรา หรือจะยังคงดื้อดึงต่อไป?”

“ถ้าหากคุณยังจะดื้อดึงล่ะก็ พวกเราสามตระกูลจะลงมือทันที และนั่นหมายความว่าตระกูลซูของคุณจะพินาศแน่นอน”

จ้าว เทียนหง พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

ทันใดนั้น บรรยากาศในคฤหาสน์ตระกูลซูตึงเครียดขึ้นถึงขีดสุด!

อีกทางด้านหนึ่ง นอกคฤหาสน์ตระกูล รถหรูหลายคันค่อยๆ จอดลง…

#ผู้แปลติดธุระด่วน ตจว. หากกลับมาทันจะรีบลงให้ครับ#