Chapter 294 : การเคลื่อนไหวของทุกฝ่าย – องค์กรผู้กู้โลกเคลื่อนพลเต็มอัตราศึก (3) (ฟรี)
“สถานการณ์ค่อนข้างแย่เลย...” หลินเซวียนถอนหายใจบางเบา
องค์กรผู้กู้โลกเห็นได้ชัดเลยว่าครานี้พวกเขาเคลื่อนพลมาเต็มอัตราศึก ยิ่งไปกว่านั้นยังยากจะการันตีด้วยว่าองค์กรอื่นๆจะไม่ลงมือ
ยกตัวอย่างเช่นทุ่งราบมหาสวรรค์กับอินเดียซึ่งมีความแค้นลึกล้ำกับกองพลก่อสร้างไม่ต่างกัน
ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของกองพลก่อสร้างในเวลานี้
กัวเฉี่ยนฉือยืนนิ่งอยู่ข้างหินเขตแดนอีกครา
หนนี้เบื้องหน้าของเขาหาใช่นักสู้ขอบเขตที่9เพียงคนเดียวหากแต่มาถึงสองคน
ยิ่งไปกว่านั้นคนทั้งสองนั้นยังมีชื่อเสียงโด่งดังมาช้านาน
พวกเขาไม่เหมือนกับสตรีผู้เลอโฉมขององค์กรผู้กู้โลกหรือหนิวเจียวของอินเดียที่พึ่งก้าวขึ้นมาเป็นนักสู้ขอบเขตที่9หมาดๆแต่อย่างใด
“ครั้งที่แล้วแกต้องหยุดฉันเพียงคนเดียวแล้วคราวนี้แกคิดว่าแกจะหยุดพวกเราได้ไหม?” หนึ่งในนักสู้ของอินเดียแค่นเสียงเยาะ
ครั้งล่าสุดนั้นเสือดำสัตว์เลี้ยงของเขาถูกกัวเฉี่ยนฉือทุบจนกลายเป็นเนื้อเสือดำบดไป
ความแค้นครานั้นเขาจดจำเอาไว้ไม่รู้ลืม!
สีหน้าของกัวเฉี่ยนฉือยังคงเรียบเฉย
“นักสู้ของพวกแกสองคนตกตายไปที่เมืองคุนหลุน มาตอนนี้นอกจากหัวหน้าองค์กรอินเดียที่คอยเฝ้าปกปักษ์เมืองหลวงอย่างโอลด์เดลีแล้วอินเดียก็เหลือแค่พวกแกสองคนนี่แหละ”
“ภารกิจของฉันคือหยุดพวกแกทั้งคู่”
“แม้จะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่เมืองบาดาลแต่กองพลก่อสร้างก็หาใช่เนื้ออวบๆที่ใครก็สามารถกัดแทะได้ หากใครคิดจะทำก็ต้องจ่ายราคาที่มันสมน้ำสมเนื้อหน่อยไม่สิบเท่าก็ต้องร้อยเท่า!”
ท้ายคำกล่าวของกัวเฉี่ยนฉือนั้นอัดแน่นไปด้วยจิตสังหารที่วูบผ่านแววตา
ใช้โอกาสจากการที่เมืองบาดาลเกิดปัญหาคราใหญ่และหมายจะชะโลมบาดแผลของพวกเขาด้วยเกลือสดด้วยการเข้ายึดเมือง
การกระทำเล็กๆน้อยๆหากแต่แสนระยำนี้ของพวกอินเดียทำให้กัวเฉี่ยนฉือรู้สึกขยะแขยงจับใจ
“ถ้างั้นก็มาเริ่มสงครามกันเถอะ!” นักสู้ชาวอินเดียทั้งสองคนแค่นเสียงและกระโจนเข้าใส่เขาพร้อมกัน
กัวเฉี่ยนฉือเองก็กระโจนเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมกับเงื้อหมัดขึ้นเช่นเดียวกัน
คนทั้งสามเข้าห้ำหั่นกันอย่างหนักหน่วงทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของป่าบรรพกาลโดยไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆ!
ณ ยุโรปตะวันตก
ภาคีอัศวินแห่งความจริง เมืองมังกร
ผู้ที่รับหน้าที่เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่กำลังวุ่นอยู่กับการสร้างภาคีอัศวินแห่งความจริงขึ้นมาอีกครา
พระสันตะปาปาองค์ก่อนนั้นสวรรคตเนื่องจากการต่อสู้และมีผู้คนเสียชีวิตไปเป็นจำนวนมากส่งผลให้ภาคีนั้นเสียหายอย่างรุนแรง
องค์กรขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางน้อยใหญ่มากมายที่ขึ้นตรงกับภาคีอัศวินและจำเป็นต้องจ่ายบรรณาการอยู่ตลอดหากแต่เนื่องจากการตายของพระสันตะปาปาและเรื่องสกปรกที่ภาคีอัศวินแห่งความจริงร่วมกันก่อกับองค์กรผู้กู้โลกทำให้องค์กรเหล่านั้นพากันันหัวเรือไปที่กองทัพขั้วโลกแทน
“ท่านผู้นำมีคนส่งข้อมูลมาว่าเมืองบาดาลเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง กองพลก่อสร้างจัดแจงกำลังพลจำนวนมากมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองบาดาลแล้ว”
“ข้อมูลอย่างที่สองส่งมาว่าองค์กรผู้กู้โลกเองก็จัดแจงกำลังพลเต็มอัตราศึกและมุ่งหน้าตรงไปยังเมืองบาดาลด้วยใจเปี่ยมด้วยไมตรีเช่นกัน พวกนั้นกระทั่งเชิญชวนให้พวกเราเข้าร่วมด้วยอีกแรง”
“ข่าวที่สามคือทางอินเดียได้ส่งนักสู้ขอบเขตที่9สองคนเข้าโจมตีทิศตะวันตกของกองพลก่อสร้างแต่ก็ถูกกัวเฉี่ยนฉือเพียงลำพังหยุดเอาไว้ คนทั้งสามสู้กันอย่างดุเดือดอยู่ภายในป่าใหญ่และยังหาผู้ชนะไม่ได้”
บรูโน่วิ่งตรงเข้ามาหาเขาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
จากนั้นเขาก็มองเข้าไปในตาของผู้บัญชาการสูงสุดที่กลายเป็นพระสันตะปาปาไปแล้วซึ่งตอนนี้กำลังหยุดและขมวดคิ้วมุ่น
บรูโน่คือคนที่ได้ประจักษ์กับความโสมมของภาคีอัศวินแห่งความจริงมาแล้วแต่กลับเลือกที่จะไม่จากไปและอยู่ต่ออย่างแม่นมั่น
เนื่องจากเขารู้นิสัยของผู้นำของผู้บัญชาการสูงสุดดี..ภายใต้สายตาเคร่งเครียดของบรูโน่ ผู้บัญชาการสูงสุดพลันส่ายหัว
“กองพลก่อสร้างช่วยพวกเราเอาไว้มากตอนที่อยู่ในเทิอกเขามังกร แม้ว่าหนนี้พวกเราจะไปช่วยพวกเขาที่เมืองบาดาลไม่ได้ก็ไม่ควรจะซ้ำเติมผู้คน ส่วนองค์กรผู้กู้โลกนั่นเห็นได้ชัดว่าพยายามจะจับปลาน้ำขุ่น คำเชิญของพวกเขาแฝงเอาไว้ด้วยเจตนาร้ายและเห็นได้ชัดเลยว่าคิดจะให้พวกเราแตกหักกับทางกองพลก่อสร้างอย่างสมบูรณ์”
“ดังนั้นพวกเราจะไม่ไป วุ่นกับเรื่องของตัวเองเถอะ การฟื้นฟูภาคีอัศวินแห่งความจริงขึ้นมาอีกครั้งมันต้องใช้เวลา”
ในที่สุดบรูโน่ก็ยิ้มออก “ครับ”