บทที่ 776: ฉันก็เก่งนะโว้ย!
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 776: ฉันก็เก่งนะโว้ย!
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ควีนโกรธจนแทบคลั่ง อยากจะฆ่าไอ้สารเลวที่ทำลายสวนกล้วยของเขาให้ตาย แต่พอเริ่มต่อสู้ เขาก็ใจเย็นลง
อาจเป็นเพราะอยู่กับพวกบ้าพลังมานานเกินไป ทำให้ตัวเองก็กลายเป็นคนใจร้อนไปด้วย พฤติกรรมแบบนี้ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
โชคดีที่เขามีสติ พาเซราโอร่ามาด้วย พวกเขาสองคนต่อให้เจอพลเรือเอกก็ไม่ถึงกับต้องหนีหัวซุกหัวซุน เพียงแต่คำพูดของเซราโอร่านั้นทำให้เขาใจคอไม่ดี
เขาเคยบอกเองว่าถ้าเกิดเรื่อง เซราโอร่าสามารถถอนตัวไปก่อน แล้วค่อยไปตามคนมาช่วย ถ้าเซราโอร่าทำแบบนั้นจริงๆ...
"นี่ นายจะใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ..."
เหงื่อเย็นเริ่มผุดขึ้นบนหน้าผาก ถ้าเซราโอร่าทำแบบนั้นจริงๆ... เขาก็คงได้แต่ทำใจ
แม้ว่าจากข้อมูลที่ออมสตาร์ขโมยมา รัฐบาลโลกมีเจตนาจะฆ่าเขา แต่ก็ยังเน้นจับเป็นเสียมากกว่า ทว่าคนที่มารับภารกิจดันเป็นพวกคลั่ง ใครจะรู้ เขาอาจจะโดนเผาจนเหลือแต่เถ้ากระดูกก็ได้
พลเรือเอกทั้งสามคนในปัจจุบัน คนที่มีความสามารถในการไล่ล่าบนทะเลที่แข็งแกร่งที่สุดคือบอลซาลิโน่ คนที่มีพลังควบคุมที่แข็งแกร่งที่สุดคือคุซัน ส่วนซาคาสิกิ พลังของเขาอาจจะไม่เร็วเท่าแสง หรือควบคุมได้แข็งแกร่งเท่าพลังน้ำแข็ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำอะไรบนทะเลไม่ได้
เซราโอร่าอาจจะไล่ตามไม่ทัน แต่ก็สามารถรั้งควีนไว้ได้ไม่มีปัญหา
"แทนที่จะพูดพล่ามอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ช่วยต่อสู้หน่อยล่ะ"
จะหนีไปเลยก็ไม่ได้ เรือโจรสลัดอีกสองลำแม้ว่าจะอยู่นอกระยะการยิงปืนใหญ่แล้ว แต่ก็ยังไม่ปลอดภัย เซราโอร่าสามารถคุ้มกันควีนให้ถอยไปก่อนได้ ด้วยความสามารถในการบิน เพียงแค่รักษาระยะห่าง ควีนก็จะปลอดภัย
แต่คนบนเรืออีกสองลำก็จะซวย บนเรือยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรอีกหลายคน อาร์เซอุสบอกว่าพวกเขาเป็นบุคลากรที่มีค่า ต้องปกป้องพวกเขาให้ปลอดภัย
การต่อสู้ครั้งนี้คงหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขนของเซราโอร่ามีประกายไฟฟ้าแลบออกมา พลังสายฟ้าที่สะสมอยู่ในร่างกายถูกกระตุ้นให้เข้าสู่สถานะต่อสู้ ส่วนควีนก็เรียกความกล้ากลับคืนมา เขาไม่ได้อยู่คนเดียว นี่คือการต่อสู้แบบสองรุมหนึ่ง
ส่วนพวกทหารเรือธรรมดา ควีนไม่ใส่ใจพวกเขาเลย แม้ว่าบนเรือจะมีพลเรือโทอีกสองคนคอยดูแลเรื่องอื่นๆ แต่คู่ต่อสู้แบบนั้นจัดการได้ง่ายมาก เพียงแต่ลูกกระสุนที่ยิงมาโดนตัวเป็นครั้งคราวทำให้เขารู้สึกหงุดหงิด
นี่เป็นสิ่งที่ทหารเรือและโจรสลัดธรรมดามักจะทำ แม้ว่าจะรู้ว่าอาวุธในมือไม่ได้ผลมากนัก แต่ในระหว่างการต่อสู้ทางทะเลระยะไกล ก็ยังคงใช้วิธีนี้เพื่อทำให้คู่ต่อสู้เหนื่อยล้า
"คิดว่าฉันอ่อนแอนักหรือไง?! อย่าลืมว่าฉันคือ...ควีนแห่งโรคระบาด!"
แม้ว่าปากจะพูดเหมือนยอมแพ้ แต่การกระทำกลับไม่เป็นเช่นนั้น
แขนกลยื่นปืนใหญ่ออกมา ระเบิดโรคระบาดของควีนพร้อมแล้ว หลายปีมานี้เขาแสดงความสามารถออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ฉายาก็ไม่เคยเปลี่ยนไป
นี่เป็นเพราะนิสัยของทหารเรือ เว้นแต่ว่าจะมีคนแสดงพลังต่อสู้ที่แตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง และมีการบันทึกภาพการต่อสู้อย่างครบถ้วน พวกเขาถึงจะพิจารณาเปลี่ยนฉายา อาร์เซอุสเป็นตัวอย่าง แต่กรณีแบบนี้หาได้ยาก
ฉายาที่คนส่วนใหญ่ได้รับในการถูกตั้งค่าหัวครั้งแรกจะติดตัวพวกเขาไปตลอดชีวิต ส่วนควีนมีความพิเศษกว่านั้น แม้ว่าจะแสดงความสามารถออกมาหลากหลาย แต่สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อโลกภายนอกมากที่สุดก็ยังคงเป็นระเบิดโรคระบาด
ในการต่อสู้ขนาดใหญ่ ลูกระเบิดโรคระบาดเพียงลูกเดียวสามารถเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้ในพริบตา พิษชนิดใหม่ที่สกัดจากมูกและก๊าซพิษทำให้ลูกระเบิดโรคระบาดของควีนมีหลายรูปแบบ สามารถรับมือกับสถานการณ์พิเศษต่างๆได้
เพียงแต่ว่ากลุ่มโจรสลัดร้อยอสูรไม่ค่อยใช้อาวุธนี้ มันส่งผลกระทบต่อการยึดครองเกาะมากเกินไป ส่วนใหญ่จะพิจารณาใช้ลูกระเบิดโรคระบาดก็ต่อเมื่อทำการแก้แค้น
กระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกไป หัวกระสุนที่เคลื่อนที่ช้ากว่ากระสุนธรรมดามากพุ่งไปยังดาดฟ้า เพียงแค่ลูกระเบิดโรคระบาดนี้ระเบิด คนบนดาดฟ้าก็จะวุ่นวายกันเอง ทว่าซาคาสึกิกลับไม่ปล่อยให้เขาทำสำเร็จ
"ระเบิดภูเขาไฟ!"
แขนของเขาแปรสภาพเป็นกำปั้นลาวายักษ์ คว้าลูกระเบิดโรคระบาดของควีนไว้ในมือ ก่อนที่มันจะระเบิด แล้วเหวี่ยงขึ้นฟ้า
ตู้ม!
กำปั้นลาวาระเบิดกลางอากาศ สารที่ไม่รู้จักภายในลูกระเบิดโรคระบาดถูกจุดชนวน แล้วลุกไหม้ในอากาศ
ในฐานะพลเรือเอก ข้อมูลของลูกน้องระดับควีนอยู่ในหัวเขาหมดแล้ว ถ้าปล่อยให้สิ่งนั้นระเบิด ทหารทั้งลำคงไม่เหลือ
เศษลาวาขนาดเล็กที่ตกลงมาถูกอากาศเย็นลดอุณหภูมิ ค่อยๆแข็งตัวเป็นห่าฝนหิน ในขณะเดียวกัน ซาคาสึกิก็เคลื่อนไหว เขาอาศัยช่วงที่ควีนปล่อยลูกระเบิดโรคระบาด พุ่งเข้ามาประชิดตัวควีน
"เขี้ยวอัคคี!"
ลาวาจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากปลายแขน ลาวารูปร่างหมาล่าเนื้อนรกพุ่งเข้ากัดควีน แม้เซราโอร่าจะว่องไวกว่า แต่เขายังคงเลือกควีนเป็นเป้าหมายหลัก
ประการแรก ควีนเป็นเป้าหมายสำคัญที่ระบุไว้ในภารกิจ ประการที่สอง ลูกระเบิดโรคระบาดของเขาน่ารำคาญเกินไป
แม้ซาคาสึกิจะเพิ่งปกป้องทหารเรือ แต่เขาจะไม่ยอมปล่อยโอกาสในการปฏิบัติภารกิจเพื่อความปลอดภัยของทหาร เขาตระหนักดีว่า คนบนเรือไม่ใช่คู่มือของเซราโอร่า ถ้าเซราโอร่าลงมือกับทหารเหล่านั้นตอนนี้ คนบนเรือแทบไม่มีทางสู้
แต่เขาก็ยังมั่นใจว่า ควีนคนเดียวไม่ใช่คู่มือของเขา ถ้าเซราโอร่าทำแบบนั้น เขาจะใช้เวลาที่แลกมาด้วยชีวิตทหารจัดการควีนให้เร็วที่สุด นี่คือความตายที่เขายอมรับได้
ถ้าเซราโอร่ามาช่วยควีน ทหารบนเรือก็จะปลอดภัย พวกเขาก็จะไล่ตามเรือโจรสลัดที่หนีไปได้ เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปยุ่งในการต่อสู้ของพลเรือเอกได้
บนท้องฟ้าที่ไม่มีที่ให้ยืมแรง ควีนถูกแรงมหาศาลผลักให้ถอยร่นไม่หยุด ซาคาสึกิเป็นผู้มีพลังธรรมชาติ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสัตว์ประหลาดที่สามารถสู้กับหนวดขาวได้ แม้หนวดขาวจะป่วยและบาดเจ็บ แต่พลังทำลายล้างจากผลสั่นสะเทือนก็เพียงพอที่จะสังหารเผ่าพันธุ์ยักษ์ที่โตเต็มวัยได้ในพริบตา
ขนาดตัวของควีนยังไม่ใหญ่พอที่จะเอาชนะจุดนี้ได้ เซราโอร่าไม่ได้สนใจเรือรบเหล่านั้น อาคาอินุไม่อยู่ คนบนเรือนั้นก็เพียงพอที่จะรับมือพวกเขาได้ เขาหันไปบินไปทางควีนและซาคาสึกิ
......
"มุฮ่าฮ่าฮ่า พลเรือเอกก็งั้นๆ เทียบกับบอสไคโดแล้ว แรงมันต่างกันเยอะ!"
บนเกาะ รอยลึกสองรอยปรากฏใต้เท้าของควีน เขาถูกผลักจากฟากฟ้าลงสู่พื้นดิน เมื่อมีจุดยืนที่มั่นคงกว่าเดิม ในที่สุดเขาก็สามารถต้านทานการโจมตีของซาคาสึกิได้
แสงเพลิงบนเกาะสะท้อนเข้ามาในดวงตา ข้างเท้ายังมองเห็นต้นกล้วยที่ถูกเหยียบจนแหลก แม้คู่ต่อสู้จะเป็นถึงพลเรือเอก ความโกรธของคนตะกละก็ทำให้เขากลับมามีความกล้าอีกครั้ง
แม้บนแขนจะมีรอยไหม้เป็นรูหลายรู แต่นั่นก็เป็นแค่บาดแผลเล็กน้อยสำหรับเขา
พลังของเขี้ยวอัคคีรุนแรงกว่าหมาป่าดำนรกเล็กน้อย ถ้าเขาใช้แขนซ้ายรับ เขาจะบาดเจ็บน้อยกว่านี้มาก แต่เขาไม่ได้ทำ เพราะเขากำลังวางแผนจะเอาคืน
