บทที่ 38: รางวัลการลงทุนที่เอื้อเฟื้อ, ผู้คนที่มาจากนิกายไท่ไป๋ซาน!
บทที่ 38: รางวัลการลงทุนที่เอื้อเฟื้อ, ผู้คนที่มาจากนิกายไท่ไป๋ซาน!
ทันทีที่ลู่ชิงซวนออกจากสระน้ำ เสียงของระบบก็ดังขึ้นในใจ
[ติ๊ง! การลงทุนสำเร็จ โฮสต์จะได้รับทักษะและทักษะการต่อสู้ระดับราชาอย่างละหนึ่งเล่ม สมบัติล้ำค่าระดับราชาสองชิ้น ยาจิตวิญญาณระดับปฐพี 5,000 ต้น ยาจิตวิญญาณระดับสวรรค์ 300 ต้น ของเหลวเร่งการเจริญเติบโตของยาจิตวิญญาณ 100 ชั่ง และบัตรเลื่อนขั้นทักษะและทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์อย่างละหนึ่งใบ บัตรทะลวงผ่านการฝึกฝนหนึ่งใบ แผนที่สายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดหนึ่งแผ่น และค่ายกลรวบรวมวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นสูงสุดหนึ่งชุด! ]
[ติ๊ง! ได้รับทักษะระดับราชา "ซวนเทียนจิง" และทักษะการต่อสู้ระดับราชา "มหาปราบปรามซวนหวง"]
[ติ๊ง! สุ่มสร้างสมบัติล้ำค่าระดับราชาสองชิ้น ได้รับดาบเมฆาสวรรค์สีม่วงฟ้า และพัดเทียนหยานเก้าสี!]
[ของเหลวเร่งการเจริญเติบโตของยาจิตวิญญาณ: การใช้ของเหลวทางจิตวิญญาณนี้ สามารถเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตของยาจิตวิญญาณที่ต่ำกว่าระดับสวรรค์เป็นสองเท่า และเพิ่มสรรพคุณทางยาได้ 30% โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ! ]
[บัตรเลื่อนขั้นทักษะและทักษะการต่อสู้: การใช้บัตรที่เกี่ยวข้อง ท่านสามารถอัพเกรดทักษะและทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ได้หนึ่งระดับ!]
[บัตรทะลวงผ่านการฝึกฝน การใช้บัตรนี้ ท่านสามารถอัพเกรดการฝึกฝนอาณาจักรวังวิญญาณได้สองระดับย่อย!]
[แผนที่สายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุด: ทำเครื่องหมายสายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดที่ยังไม่ได้สำรวจ ซึ่งสามารถขุดศิลาวิญญาณระดับสูงสุดได้!]
[ค่ายกลรวบรวมวิญญาณระดับสวรรค์ขั้นสูงสุด: สามารถรวบรวมพลังวิญญาณภายในรัศมีหมื่นลี้ ความเข้มข้นของพลังวิญญาณในค่ายกลเป็นสองเท่า ซึ่งสามารถปกปิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดได้!]
เมื่อเห็นรางวัลตอบแทนที่เอื้อเฟื้อเช่นนี้ ลู่ชิงซวนก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
หลังจากตรวจสอบสมบัติทั้งหมดที่ได้รับกลับมา ลู่ชิงซวนก็ใส่สมบัติที่เกี่ยวข้องลงในห้องใต้หลังคาต่างๆ
จากนั้นเขาก็ใช้บัตรเลื่อนขั้นทักษะและทักษะการต่อสู้ เพื่ออัพเกรดทักษะ "วิชาเมฆาทำลายล้างไร้เสียง" และทักษะการต่อสู้ "มหาผนึกทำลายล้าง" เป็นระดับราชา
หลังจากจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ลู่ชิงซวนก็กลับไปที่ตำหนักของเขา ทั้งยังเรียกผู้อาวุโสสามที่รับผิดชอบสายแร่ให้มา ส่งมอบแผนที่สายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดให้เขา และขอให้เขาส่งคนไปขุดศิลาวิญญาณระดับสูงสุด
เมื่อผู้อาวุโสสามเห็นแผนที่ที่ทำเครื่องหมายสายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดในมือ เขาก็ตกใจอย่างมาก
สำหรับเขาเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเหลือเชื่อมากเกินไป..ท่านอ๋องของพวกเขา สามารถตรวจจับสายแร่วิญญาณระดับสูงสุดได้ด้วยงั้นหรือ
เเละหลังจากนั้น ผู้อาวุโสสามก็ออกจากตำหนักของลู่ชิงซวนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
มันยากที่จะจินตนาการได้ว่าศิลาวิญญาณระดับสูงสุดกี่ก้อนที่สามารถขุดได้จากสายแร่ศิลาวิญญาณระดับสูงสุดใหญ่นับร้อยลี้
เป็นเช่นนี้แล้ว…เขาจะไม่เเสดงความสุขได้อย่างไร
……
เมื่อมองดูแผ่นหลังผู้อาวุโสสามจากไป ลู่ชิงซวนก็ยกมือขึ้น พร้อมบัตรทะลวงผ่านการฝึกฝนก็ปรากฏขึ้นในมือ
"ระดับการฝึกฝนของข้าได้มาถึงอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่เจ็ดแล้ว หลังจากการใช้บัตรนี้ ข้าย่อมสามารถทะลวงไปยังอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่เก้าได้ ซึ่งนั่นช่วยประหยัดเวลาได้อีกมากโข"
ลู่ชิงซวนไม่ลังเลที่จะใช้บัตรนี้เพื่อทะลวงระดับการฝึกฝนของเขาทันที
……
สามวันต่อมา
ระดับการฝึกฝนของลู่ชิงซวนก็ทะลวงไปยังอาณาจักรวังวิญญาณขั้นที่เก้าได้สำเร็จ
"ขั้นตอนต่อไปคือการทะลวงเข้าสู่อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณ!"
ใจของลู่ชิงซวนสั่นไหวไปมา พลางหยิบยาเม็ดวิญญาณปฐมภูมิออกมา
การทานยาเม็ดนี้สามารถช่วยทะลวงผ่านสภาวะหลอมรวมวิญญาณได้
ลู่ชิงซวนเทยาเม็ดออกมาใส่เข้าปาก จากนั้นก็เริ่มฝึกฝนทันที
จากนั้น กาลเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับสายน้ำ
ครึ่งเดือนผ่านไปเพียงชั่วพริบตา
ในที่สุด ระดับการฝึกฝนของลู่ชิงซวนได้เข้าสู่อาณาจักรหลอมรวมวิญญาณได้สำเร็จ
สภาวะนี้เป็นกระบวนการของจิตวิญญาณที่ตกตะกอนในวังวิญญาณ
เป็นการหลอมรวมของจิตวิญญาณและพลังงาน ทุกครั้งที่ก้าวผ่านจะสามารถปรับปรุงพลังทางจิตวิญญาณและพลังวิญญาณของตนเองได้
เเละในอนาคต เมื่อไปถึงอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่เก้า, เขาจะต้องค้นหาเปลวเพลิงจิตวิญญาณเพื่อนิพพานจิตวิญญาณให้แปรเปลี่ยนเป็นวิญญาณปฐมภูมิ…บรรลุการเปลี่ยนแปลงขั้นสุดท้ายของจิตวิญญาณเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเข้าสู่อาณาจักรทะยานสู่สวรรค์
แต่ในขณะนี้ เขาเพิ่งทะลวงผ่านอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นแรกเท่านั้น
กว่าจะถึงอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณขั้นที่เก้า ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ ดังนั้นเขาจึงไม่รีบร้อนที่จะหาเปลวเพลิงจิตวิญญาณ
เเละหลังจากสัมผัสถึงพลังที่พุ่งพล่านได้…ในขณะนี้ ลู่ชิงซวนก็เริ่มเข้าสู่สถานะการฝึกฝนอีกครั้ง
…..
เจ็ดวันต่อมา
ณ ประตูคฤหาสน์ราชาลู่
ชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีดำเข้มมีรูปร่างอ้วนเล็กน้อยมาที่นี่พร้อมกับชายหนุ่ม
คนทั้งสองนี้มาจากนิกายไท่ไป๋ซาน
ชายวัยกลางคนนามว่าเซินโม่ เป็นผู้อาวุโสจากนิกายไท่ไป๋ซาน, และชายหนุ่มที่อยู่ข้างๆเขาคือลั่วไป๋ยู่ ซึ่งลู่ซืออิ๋นเคยพบมาก่อน
"เซินโม่ ผู้อาวุโสแห่งนิกายไท่ไป๋ซานมาเยี่ยมเจ้าของคฤหาสน์ราชาลู่…โปรดแจ้งให้ทราบ"
เซินโม่พูดกับศิษย์ตระกูลลู่ที่เฝ้าอยู่นอกประตูภูเขา
แม้ว่าเขาจะมีสถานะเป็นผู้อาวุโสในนิกายไท่ไป๋ซาน แต่เขาก็ถือว่าตัวเองไม่ต่ำต้อยไปกว่าอ๋อง
แต่ท้ายที่สุดแล้ว ครั้งนี้เขามาที่คฤหาสน์ราชาลู่เพื่อรับสมัครศิษย์ที่มีพรสวรรค์ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ผ่อนคลายเล็กน้อย
เมื่อศิษย์ที่ประจำการอยู่นอกคฤหาสน์ราชาลู่ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่กล้าชักช้า รีบส่งคนไปรายงานทันที
สมาชิกตระกูลลู่เคยได้ยินเกี่ยวกับนิกายไท่ไป๋ซาน นี่เป็นกองกำลังที่ทรงพลัง ไม่ด้อยไปกว่าราชวงศ์เทียนหยุน
ในไม่ช้า ผู้อาวุโสอาณาจักรพระราชวังสีม่วงธรรมดาๆ คนหนึ่งก็เดินออกมาจากคฤหาสน์ราชาลู่ และต้อนรับทั้งสองเข้าสู่คฤหาสน์ราชาลู่
เพราะลู่ชิงซวนได้แจ้งตระกูลล่วงหน้าว่าหากมีคนจากนิกายไท่ไป๋ซานมาเยี่ยมเยียน สามารถพาเขาไปที่ห้องรับรองก่อน จากนั้นจึงรายงานให้เขาทราบ
ดังนั้น ผู้อาวุโสอาณาจักรพระราชวังสีม่วงจึงไม่ชักช้า ต้อนรับเซินโม่และลั่วไป๋ยู่เข้าสู่คฤหาสน์ราชาลู่ในทันที
"อืม!"
ทันทีที่เข้าไปในคฤหาสน์ราชาลู่ เซินโม่ก็รู้สึกประหลาดใจมาก
เพราะความเข้มข้นของพลังวิญญาณในคฤหาสน์ราชาลู่นั้นเกินความคาดหมายของเขาไปมากโข
สภาพแวดล้อมการฝึกฝนที่นี่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่านิกายไท่ไป๋ซานเลย
ลั่วไป๋ยู่ที่เดินตามเขามาก็มีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อไม่ต่างกัน
ในสายตาของนิกายของพวกเขา คฤหาสน์ราชาลู่แห่งนี้เป็นเพียงตระกูลเล็กๆภายใต้ราชวงศ์เทียนหยุนเท่านั้น
แม้ว่าพวกเขาจะได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่คฤหาสน์ราชาลู่ได้ทำเมื่อเร็วๆนี้ แต่ในสายตาของพวกเขามันเป็นเพียงเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาเข้ามาในคฤหาสน์ราชาลู่
ลั่วไป๋ยู่ก็รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมนั้นเกือบจะเหมือนกับที่อยู่ในนิกาย และออร่านั้นก็อุดมสมบูรณ์มาก
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนในตระกูลลู่ที่สามารถพบเห็นได้ทุกหนทุกแห่ง ก็ไม่ได้อ่อนแอในการฝึกฝน
ทั้งที่เป็นตระกูลเล็กๆหากแต่กลับไม่ธรรมดาโดยแท้!
….
ไม่นานนักเซินโม่และลั่วไป๋ยู่ก็ถูกพาไปที่ห้องรับรอง
"ท่านทั้งสองโปรดรอสักครู่ ท่านผู้นำตระกูลจะมาที่นี่ในไม่ช้า"
หลังจากที่ผู้อาวุโสอาณาจักรพระราชวังสีม่วงพูดจบ เขาก็เรียกคนรับใช้ให้มาเสิร์ฟชาจิตวิญญาณทันที ทั้งวยังกล่าวทักทายทั้งสอง
แต่เซินโม่ไม่ได้มีอารมณ์เพลิดเพลินกับชา เป้าหมายหลักของเขามาที่นี่คือการรับศิษย์อัจฉริยะของลู่ซืออิ๋นเข้านิกาย
อัจฉริยะด้านพิณ นี่คือผู้สืบทอดที่ผู้อาวุโสสูงสุดคนหนึ่งของนิกายของพวกเขากำลังมองหา
ครั้งนี้เซินโม่มาที่นี่ภายใต้คำสั่งของผู้อาวุโสสูงสุด
แม้ว่าจะดูมาตลอดทาง คฤหาสน์ราชาลู่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่เขาคิด ทั้งสภาพแวดล้อมโดยรวมของคฤหาสน์ราชาลู่ก็ถึงระดับสภาพแวดล้อมการฝึกฝนของนิกายของพวกเขาแล้ว
แต่ท้ายที่สุด ภูมิหลังต่างๆ ของคฤหาสน์ราชาลู่ก็ยังคงอ่อนแอยิ่งกว่า ทั้งยังแย่กว่านิกายไท่ไป๋ซานมาก
เมื่อถึงเวลาพบหัวหน้าตระกูลลู่ ตราบใดที่เขาสัญญาว่าจะให้ผลประโยชน์เพียงพอ มันคงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะนำหญิงสาวผู้มีพรสวรรค์แห่งพิณเต๋าเข้าสู่นิกายไท่ไป๋ซานอย่างแน่นอน
เมื่อเขาได้ทำภารกิจของผู้อาวุโสสูงสุดสำเร็จ ผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับจะน้อยได้อย่างไร?
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ รอยยิ้มน้อยๆก็ปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา
…………………