ตอนที่ 392 บิกินี่ตัวนี้เป็น เย่เฉิน ที่ซื้อให้
ซู หนิงซวง รู้สึกประหลาดใจอย่างมากในใจ
เธอหยิบชุดบิกินี่สีดำขึ้นมาแล้วดูรอบๆ อย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าเป็นชุดที่เธอหมายตาไว้หรือไม่
“ใช่แล้ว เป็นชุดนั้นแน่นอน”
ซู หนิงซวง มั่นใจอย่างมาก
หลังจากนั้นเธอก็หาชุดบิกินี่ที่ตัวเองซื้อมาทั้งหมดออกมาดูอีกครั้ง
เมื่อหักลบกับบิกินี่สองชุดที่เธอจำได้ว่าซื้อมาเองแล้ว ก็มีชุดนี้เพิ่มขึ้นมาแน่นอน
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”
ซู หนิงซวง ครุ่นคิดอย่างหนัก
เธอซื้อมันมาเองเหรอ?
เป็นไปไม่ได้ เว้นเสียแต่ความทรงจำระยะสั้นของเธอจะหายไป
ถ้าไม่ใช่เธอซื้อ แล้วมันมาอยู่ในถุงช้อปปิ้งของเธอได้อย่างไร?
ซู หนิงซวง พยายามนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ในร้านขายบิกินี่
ทันใดนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ ดูเหมือนว่า ซูซวน จะเดาได้ว่าเธอชอบบิกินี่ตัวนี้
หรือว่าเธอแอบซื้อแล้วมาใส่ไว้ในถุงของเธอหรือเปล่า?
ใช่.. มันก็มีความเป็นไปได้นี้อยู่
แต่.. มันก็ยังมีอีกความเป็นไปได้หนึ่งอยู่
ในตอนนั้นเอง เย่เฉิน ก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกติของเธอ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
หรือว่า เย่เฉิน เดาได้ว่าเธอชอบบิกินี่ตัวนี้ และเพราะไม่อยากให้เธออึดอัด..
เย่เฉิน เลยแอบซื้อบิกินี่ตัวนี้ให้เธอ?
เป็นไปได้ไหมว่า เย่เฉิน ชอบบิกินี่ตัวนี้ และอยากให้เธอ.. ใส่?
นี่......
พอคิดถึงความเป็นไปได้นี้ ใบหน้าของ ซู หนิงซวง ก็เริ่มแดงก่ำทันที
ถ้าจริงๆ แล้วเป็น เย่เฉิน ที่ซื้อให้ และอยากให้เธอใส่ เธอจะทำอย่างไรดี?
ซู หนิงซวง คิดไปคิดมาอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้ ต้องไปถามให้แน่ใจก่อน”
ซู หนิงซวง พึมพำเบาๆ แล้วก็หันหลังเดินไปที่ห้องของ จ้าว ซูซวน
“ซูซวน บิกินี่สีดำตัวนั้นเธอซื้อใช่ไหม?”
ซู หนิงซวง ถามออกมาตรงๆ
“บิกินี่สีดำ? บิกินี่สีดำอะไรเหรอ ฉันไม่รู้นะ?”
ตอนนั้น จ้าว ซูซวน กำลังเล่นเกม ‘Honor of Kings’ บนโทรศัพท์มือถืออย่างตื่นเต้น และเธอไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของเธอโดยตรง
พอเห็นท่าทางของ ซูซวน ที่ไม่มีอะไรผิดปกติ ใบหน้าของ ซู หนิงซวง ก็ยิ่งแดงขึ้นเรื่อยๆ กว่าเดิมอีก
เธอเกือบจะแน่ใจแล้ว
บิกินี่สีดำตัวนี้เกือบจะเป็นไปได้ว่า เย่เฉิน แอบซื้อให้เธอแน่นอน
ในเมื่อ เย่เฉิน เป็นคนซื้อให้ เธอปฏิเสธก็คงจะไม่ได้ คงต้องใส่สักหน่อย ต่อให้ใส่แค่เพียงนาทีเดียวก็ยังดี
แต่จะใส่เมื่อไหร่นั้น ซู หนิงซวง จำต้องคิดให้รอบคอบ
อย่างน้อยก็ไม่ควรใส่ต่อหน้า หลิงเอ๋อร์ หรือซูซวน ต้องเป็นตอนที่เธออยู่กับ เย่เฉิน แค่สองคนเท่านั้น....
ซู หนิงซวง เดินกลับห้องอย่างเขินอาย แล้วก็ยังคงคิดเรื่อยเปื่อยต่อไปเกี่ยวกับเรื่องนี้
“เฮ้อ.....”
อีกด้านหนึ่ง พอเห็นว่า หนิงซวง ออกไปแล้ว จ้าว ซูซวน ก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
แม้ว่าเธอจะเตรียมใจไว้ตั้งแต่ซื้อบิกินี่ตัวนั้นแล้ว แต่ถ้าต้องเผชิญหน้ากับคำถามของ ซู หนิงซวง โดยตรง เธอก็ยังคงรู้สึกเป็นกังวล
โชคดีที่ หนิงซวง ถามเธอตอนที่กำลังเล่นเกม ‘Honor of Kings’ อยู่
เนื่องจากความสนใจทั้งหมดของเธอจดจ่ออยู่กับเกม ทำให้เมื่อได้ยินคำถามของ หนิงซวง ในตอนแรก
สมองของเธอก็ว่างเปล่า และตอบออกไปโดยไม่รู้ตัวว่า “ไม่รู้” นั่นทำให้ดูเป็นธรรมชาติมาก
ถ้าเธอตกใจขึ้นมา ด้วยความสามารถในการสังเกตของ หนิงซวง เธอคงโดนจับได้แน่ๆ นี่คงต้องเป็นชะตาฟ้าลิขิตอย่างแน่นอน
คืนนั้นทุกคนพักผ่อนกันที่คฤหาสน์
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่เฉินก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อแม่ของเขา
พ่อกับแม่บอก เย่เฉิน ว่า ธุระของพวกเขาใกล้จะเสร็จแล้ว พรุ่งนี้เที่ยงจะไปถึงหางโจว
“โอเคครับพ่อแม่ ถึงเวลานั้นเดี๋ยวผมจะไปรับ”
เย่เฉิน ตอบกลับ
“ได้ยินว่าพ่อแม่ของ หนิงซวง ก็อยู่ที่หางโจวด้วยเหมือนกัน?”
แม่ของเขาถามขึ้นมา
“ใช่ครับ”
เย่เฉิน พยักหน้า
“ถ้ามีเวลา ลองจัดเวลานัดเจอกับพ่อแม่ของ หนิงซวง หน่อยนะ ให้พวกเราได้ทำความรู้จักกันไว้ ถ้ามีอะไรในอนาคตจะได้พูดคุยกันง่ายขึ้น”
แม่ของ เย่เฉิน เสนอ
ครั้งที่แล้ว แม่ของ เย่เฉิน ได้พบกับแม่ของ ซู หนิงซวง แค่แป๊บเดียว และพูดคุยกันได้แค่ไม่กี่คำ(?)
“หา?”
เย่เฉิน อึ้งไปชั่วขณะ
พ่อแม่ของเขาอยากเจอกับพ่อแม่ของ หนิงซวง?
เย่เฉิน เพียงแค่นึกถึงสถานการณ์นั้นก็รู้สึกประหม่าแล้ว
“ก็ได้ครับ”
เย่เฉิน พยักหน้าตอบรับ
หลังจากวางสาย เย่เฉิน ก็คิดว่า.. ถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปหางโจว
ภารกิจท้าทายเสร็จสิ้นแล้ว และเขาก็ได้รับ [การ์ดล้มละลายขั้นต้น] มา พ่อแม่ของเขาเองก็กำลังจะมาถึงหางโจวเช่นกัน
หลังปีใหม่ พอจัดการเรื่องที่หางโจวเรียบร้อย แล้วค่อยกลับมาที่นี่ก็ยังได้
หลังจากตื่นนอน เย่เฉิน เดินออกมาจากห้อง ในตอนนั้น ซู หนิงซวง กับคนอื่นๆ ก็ตื่น และออกมาจากห้องแล้วเช่นกัน
เย่เฉิน บอกข่าวเกี่ยวกับเรื่องจะกลับไปที่หางโจว
“คุณลุงคุณป้ากำลังจะมาแล้ว เราควรกลับไปเตรียมตัวกันบ้าง”
ซู หนิงซวง เห็นด้วยกับ เย่เฉิน
จ้าว ซูซวน และซู หลิงเอ๋อร์ ก็ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ
ทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับไปเก็บข้าวของในห้องของตัวเอง
เมื่อ ซู หนิงซวง กลับไปที่ห้อง แล้วเห็นบิกินี่สีดำตัวนั้น
พอคิดว่ามันอาจจะเป็นของที่ เย่เฉิน ซื้อให้ เธอก็ลังเลอยู่สักครู่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจหยิบมันไปด้วย
หลังจากกลับไปที่โรงแรมแอตแลนติสแล้ว ทุกคนก็เก็บสัมภาระที่เหลือ และหาอะไรทานก่อนที่ เย่เฉิน จะขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบิน
เย่เฉิน กับซู หนิงซวง เดินทางกลับหางโจว แต่ ซู หลิงเอ๋อร์ ไม่อยากไปหางโจว ดังนั้นเธอเลยกลับเจียงโจวเพื่อไปฉลองปีใหม่แทน
จ้าว ซูซวน ก็จะกลับบ้านไปฉลองปีใหม่เช่นกัน แต่เนื่องจากเธอมีธุระที่หางโจวก่อน เลยจะไปหางโจวแล้วค่อยกลับไปบ้านทีหลัง
หลังจากมาถึงสนามบิน ทุกคนก็แยกย้ายกัน
เย่เฉิน, ซู หนิงซวง และจ้าว ซูซวน ก็เดินทางไปยังเครื่องบินส่วนตัวของ เย่เฉิน ภายใต้การดูแลของพนักงานที่สนามบิน
ที่หางโจว ในคฤหาสน์ตระกูลจ้าว
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว”
จ้าว เหวินหลิน วางสายโทรศัพท์
“พี่หลิน มีอะไรเหรอครับ?”
ลูกน้องคนหนึ่งของ จ้าว เหวินหลิน ถามขึ้นมา
“คนที่ฉันส่งไปที่ลู่เฉิง พอออกจากสนามบินก็เจอไอ้เจ้า เย่เฉิน นั่นเดินเข้าไปในสนามบินแล้ว”
“ดูเหมือนว่าพวกนั้นกำลังจะกลับมาที่หางโจว”
จ้าว เหวินหลิน ลุกขึ้นยืนพร้อมกับหัวเราะอย่างเย้ยหยันว่า :
“ไป พวกเราไปสนามบินหางโจวกัน ..เราจะไป ‘ต้อนรับ’ พวกเขาสักหน่อย”