ตอนที่ 3 ไว้แกกลายเป็นผีแล้วค่อยมาหาฉัน
ตอนที่ 3 ไว้แกกลายเป็นผีแล้วค่อยมาหาฉัน
ทักษะพลังวิญญาณแปลงโลหิตช่วงชิงนั้น ถูกแบ่งออกทั้งหมดเป็น 9 ขั้น
เมื่อฝึกฝนเคล็ดลับวิชานี้ในขั้นแรก มันก็จะสอดคล้องกับขั้นแรกผู้บำเพ็ญช่วงกลั่นลมปราณ
ในทำนองเดียวกัน หากว่าได้ฝึกฝนเคล็ดลับวิชานี้ไปจนถึงขั้นที่เก้า ก็เท่ากับว่าอยู่ในชั้นที่ 9 ของช่วงกลั่นลมปราณ
ในจำนวนนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 ของช่วงกลั่นลมปราณ จะเรียกว่าช่วงเริ่มต้นของการกลั่นลมปราณ
ขั้นที่ 4 ที่ 5 และ 6 จะเรียกว่าช่วงกลางของการกลั่นลมปราณ
ขั้นที่ 7 ที่ 8 และ9 เรียกว่าช่วงปลายของการกลั่นลมปราณ
ขณะนี้ ฉู่เสวียนได้ฝึกฝนเทคนิคพลังวิญญาณแปลงโลหิตช่วงชิงมาถึงขั้นที่ 4 แล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการกลั่นลมปราณขั้นที่ 4
ตราบใดที่เขาสามารถฝึกฝนไปจนถึงขั้นที่ 5 เขาก็สามารถทะลวงขอบเขตไปได้ไกลกว่านั้น
และยังสามารถเรียนรู้เคล็ดลับวิชาใหม่ๆ ได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นซอมบี้ก็ไม่ใช่มนุษย์
การฆ่าซอมบี้ไม่ถือว่าทำผิดกฎของสวรรค์ ไม่สูญเสียบุญ และจะไม่ถูกลงทัณฑ์จากสวรรค์อีกด้วย
สวรรค์ของผู้บำเพ็ญมาร!
ยอดเยี่ยมจริงๆ!
จู่ๆ ฉู่เสวียนก็ตระหนักได้ว่าเขาได้มายังสวรรค์สำหรับผู้บำเพ็ญมารแห่งนี้เข้าโดยบังเอิญ!
ไม่ใช่แค่การตามหาแก่นโลหิตเพื่อฝึกฝนพลังมารเท่านั้น แต่จากนี้ไปหากเขาจะใช้เทคนิคพิษ แมลงกู่ การปลอมตัว หุ่นเชิดหรือการกลั่นศพ ก็ไม่จำเป็นจะต้องกังวลอีกต่อไป
เพราะซอมบี้จำนวนมากเหล่านี้ ก็ไม่ต่างจากทรัพยากรธรรมชาติ ที่ใช้อย่างไม่มีวันหมดไม่ใช่หรือ?
“ยิ่งกว่านั้น ด้วยการฝึกฝนในปัจจุบันของข้า แม้ว่าข้าจะกลับไปยังทวีปชางเสวียนในตอนนี้ มันก็ยังเป็นอันตรายอยู่ดี”
“แต่บนดาวเคราะห์โลกาวินาศแห่งนี้ ข้าคือผู้ที่แข็งแกร่ง และเป็นนิรันดร์!”
ฉู่เสวียนยิ้มออกมา
เขาสามารถหาแก่นโลหิตได้จากซอมบี้ และฝึกฝนเคล็ดลับวิชาอยู่ที่นี่ได้อย่างเปิดเผย
เมื่อเขามีความแข็งแกร่งขึ้นมาในระดับหนึ่งแล้ว ก็ไม่สายที่จะกลับไป
“ออกล่าซอมบี้ต่อไป”
ฉู่เสวียนเดินไปตามถนน และเลือกห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งเป็นฐานที่มั่นชั่วคราวของเขาในไม่ช้า
“ห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟา…”
เขามองขึ้นไปที่ป้ายโฆษณา แล้วเดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า
บนชั้นแรกของห้างสรรพสินค้า มีซอมบี้จำนวนมากกำลังคำรามและเดินเตร่ไปมาอย่างไร้จุดหมาย
การปรากฏตัวของฉู่เสวียนดึงดูดความสนใจของพวกมันทันที
วินาทีต่อมา พวกมันก็พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทาง
ฉู่เสวียนยิ้มอย่างมีความสุข “ไม่ต้องกังวล ทุกคนจะได้กลายมาเป็นทรัพยากรของข้าอย่างแน่นอน”
ครู่ต่อมา ที่ชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้า
ฉู่เสวียนจ้องมองถังเลือดทั้งหกถังตรงหน้าเขา ใบหน้าของเขาที่เดิมทีดูเหนื่อยล้าจากการปล่อยเส้นลวดโลหิตออกมา ก็แสดงรอยยิ้มอันน่าพอใจออกมาในเวลานี้
เลือดจำนวนมากเหล่านี้ เพียงพอให้เขาฝึกฝนไปได้เป็นเวลานาน
“อย่างไรก็ตาม การปล่อยเส้นลวดโลหิตออกมาจัดการอย่างเดียว ถือเป็นเรื่องยุ่งยากเกินไป ถึงเวลาที่ข้าจะต้องกลั่นศพหยินสักสองสามศพเพื่อใช้งานดูบ้างแล้ว”
ฉู่เสวียนมองไปทั่วห้างสรรพสินค้าแต่ก็ไม่พบซอมบี้ที่เหมาะสมเลย
การกลั่นศพ จำเป็นต้องใช้ศพที่มีร่ายกายแข็งแรง ทรงพลัง มีกล้ามเนื้อ และวัตถุดิบจะต้องมีความเคียดแค้นที่ลึกซึ้ง ถึงจะกลั่นศพหยินออกมาได้สำเร็จ
ด้วยวิธีนี้ หลังจากการกลั่นแล้ว ศพหยินจะมีพลังมหาศาลและเต็มไปด้วยความเคียดแค้น
เมื่อใช้พวกมันป้องกันศัตรู ก็จะยิ่งได้เปรียบมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่ว่าซอมบี้ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ก็ไม่มีตัวไหนที่ดูแข็งแกร่งเอาเสียเลย ตัวหนึ่งก็แก่ อีกตัวก็ผอมแห้ง แม้กระทั้งพิการ
พวกมันแต่ละตัวที่อยู่ตรงหน้านี้ ต่างก็เป็นไม้ผุที่แกะสลักไม่ได้
ขนาดเป็นถึงซอมบี้ ก็ยังแทบจะเอาตัวเองไม่รอดเลย ?
“ลืมมันไปซะ พักผ่อนก่อน แล้วค่อยมองหาในภายหลัง ข้าเชื่อว่าไม่นานคงจะพบเป้าหมายที่แข็งแกร่งได้เสมอ”
ฉู่เสวียนเลื่อนเก้าอี้ออกมาและเอนตัวนอนลงไป
เขาไม่กังวลว่าจะถูกซอมบี้โจมตีแม้แต่น้อย
เพราะเส้นลวดโลหิตจะออกมาปกป้องร่างกายของเขาตลอดเวลา
เมื่อซอมบี้แอบเข้ามา เส้นเลือดโลหิตจะตอบสนองเร็วกว่าซอมบี้อย่างแน่นอน
ตลอดปีมานี้ เขาต้องกังวลเรื่องการหลบหนีการจับกุมตลอดทั้งวันทั้งคืน
คนอื่นอาจจะมองว่าเขาสงบและเยือกเย็น แต่นั่นคือสิ่งที่เขากำลังแสร้งทำเป็น
ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยอันตรายมากมายเช่นนี้ เขาจำเป็นจะต้องมีสติและสงบนิ่งมากขึ้น เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้
และในที่สุดตอนนี้ก็มาถึงช่วงเวลาแห่งความสงบแล้ว ฉู่เสวียนไม่สามารถระงับความเหนื่อยล้าในใจของเขาได้อีกต่อไป
จึงได้เผลอหลับไป
ในอีกด้านหนึ่ง
ด้านนอกห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟา...
มีชายสองคน กำลังเดินตรงมาทางนี้ คนแรกเป็นชายร่างใหญ่ มีกล้ามเป็นมัด ส่วนอีกคนที่อยู่ข้างหลัง มีรูปร่างผอมแห้ง
ชายร่างผอมพูดด้วยเสียงเกรงกลัวออกมาว่า “พี่หู่ คุณสั่งมาเถอะ ตราบใดที่มันสามารถช่วยแม่และน้องสาวของผมได้ ผมยอมทำให้ทั้งหมด!”
แววตาเยาะเย้ยปรากฏชัดขึ้นใต้ดวงตาของถังหู่ จากนั้นเขาก็กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม “อย่ากังวลไป ฉันจะไม่ปล่อยให้แม่ของแกตายหรอกน่า”
“ในห้างแห่งนี้ยังมีทรัพยากรเหลืออยู่บ้าง แกไปดึงดูดความสนใจของซอมบี้ซะ ฉันจะได้เข้าไปขนอาหารออกมา”
“หากว่าแกถูกซอมบี้ล้อมรอบ ก็อย่ากลัวไป ฉันจะออกมาช่วยอย่างแน่นอน”
ชายร่างผอมพยักหน้าอย่างหนักแน่น “เอาล่ะ ผมเชื่อคุณ”
หลังจากนั้นชายร่างผอมก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้าเสี่ยวหรันฟาอย่างระมัดระวัง
ครู่ต่อมา ซอมบี้จำนวนมากก็ถูกดึงดูดเข้ามาหาเขา
จากนั้นถังหู่ก็เดินเข้าไปในห้างสรรพสินค้า
ไม่รอช้า เขารีบกวาดเอาอาหารกระป๋อง ยา และของใช้จำเป็นอื่น ๆ ลงในกระเป๋าเป้ของเขาอย่างรวดเร็ว
สิ่งเหล่านี้มีอายุการใช้งานยาวนาน และสามารถใช้งานได้ตราบเท่าที่ไม่พัง
ขณะนั้นเอง ก็มีเสียงตกใจดังมาจากไม่ไกลนัก
“พี่หู่! ซอมบี้เยอะมาก! รีบมาช่วยผมเร็วเข้า!
ชายร่างผอมถูกร่ายล้อมไปด้วยฝูงซอมบี้จำนวนนับไม่ถ้วน เขาดูตกใจและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ถังหู่หัวเราะออกมาในขณะที่ยังคงโยนสิ่งของต่างๆ ลงไปในกระเป๋าเป้ของเขา
เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปช่วยตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
“พี่หู่ ช่วยผมด้วย!”
ชายร่างผอมพยายามปัดป้องฝูงซอมบี้เหล่านั้น
ถังหู่ยิ้ม “ใช่สิ ดูเหมือนว่าฉันลืมบอกแกไปงั้นสินะ”
“แม่ของแกตายไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ทำไมแก๊งหลิงฉวนของเราถึงต้องสิ้นเปลืองยาเพื่อช่วยเหลือหญิงชราวัย 60 ปีด้วยวะ!”
ดวงตาของชายร่างผอมเบิกกว้าง เขาดูตกใจเป็นอย่างมาก
ซอมบี้ใช้ประโยชน์จากตอนที่ชายร่างผอมเผลอ กระโจนเข้าไปกัดเข้าที่หน้าอกของเขา
“เหตุผลที่ฉันหลอกแกให้มาที่นี้ก็เพื่อจะให้แกได้ทำประโยชน์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตายยังไงล่ะ”
“ยังไงก็ตาม แกก็ถูกฉันหลอกใช้มาหลายครั้งแล้ว คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกแล้ว”
ถังหู่หัวเราะออกมาอย่างแรง “ขอบคุณที่ใช้ชีวิตของแกมาล่อซอมบี้ให้ฉัน”
“อ๋อ อีกอย่าง แกยังมีน้องสาวอยู่ใช่ไหม ฉันจะช่วยดูแลเธอให้ก็แล้วกัน”
ในขณะนี้ชายร่างผอมถูกกลุ่มซอมบี้ล้อมรอบอยู่นั้น
สัตว์ประหลาดกระหายเลือดพวกนี้ก็ได้ฉีกเนื้อของเขาออกเป็นชิ้นๆ
ด้วยกำลังสุดท้ายที่มี ชายร่างผอมก็ได้คำรามออกมาว่า “ถังหู่! ฉันจะไม่มีวันปล่อยแกไป แม้ว่าฉันจะกลายเป็นผีก็ตาม!”
ถังหู่ยิ้มออกมาอย่างโอหัง “โอเค ได้เลย มาหาฉันเมื่อแกกลายเป็นผีแล้วก็ได้”
จากนั้นเขาก็รีบใช้ประโยชน์จากความโกลาหลที่นี่ ซอมบี้จำนวนมากกำลังหันไปให้ความสนใจกับร่างที่พวกมันกำลังดึงรั้งอยู่ ได้รีบวิ่งไปที่ชั้นสองทันที
ผู้รอดชีวิตจำนวนมาก ส่วนใหญ่ได้บุกเข้ามาถึงแค่ชั้นหนึ่งของห้างสรรพสินค้าเท่านั้น
แต่บนชั้นสองหรือชั้นที่สูงกว่านั้นมีคนเพียงไม่กี่คนที่กล้าเข้าไป เนื่องจากจะต้องฝ่าด่านของฝูงซอมบี้จำนวนมาก
เขาจึงเชื่อว่าที่นั่นจะต้องมีทรัพยากรอีกมากมายแน่นอน
"สวรรค์!"
ถังหู่เก็บทรัพยากรไปตลอดทาง และดวงตาของเขาก็ฉายแสงสีเขียวออกมา
ปู๊ฟ ปู๊ฟ!
ซอมบี้บางตัวถึงกับกระโดดลงมาจากชั้นที่สูง และพุ่งตรงไปยังจุดที่มีการดึงรั้งร่างของชายร่างผอมอยู่
เมื่อเห็นเช่นนี้ ถังหูก็ยิ่งโลภมากขึ้น และมุ่งตรงไปที่ชั้นที่ห้าทันที
แน่นอนว่าตลอดทางที่ขึ้นมา เขาแทบไม่ได้เจอกับซอมบี้เลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขามาถึงชั้นห้า เขาก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
เพราะมีศพซอมบี้จำนวนมาก นอนอยู่เกลื่อนกลาดบนพื้นเต็มไปหมด
เมื่อมองดูจากการแห้งเหือดของเลือดแล้ว ก็ดูเหมือนว่าพวกมันเพิ่งถูกกำจัดไป
หรือว่าก่อนหน้านี้ จะมีคนขึ้นมาถึงชั้น 5 ของห้างสรรพสินค้าก่อนหน้าของเขาแล้ว?
ถังหู่มองไปรอบๆ และพบทันทีว่าตรงหน้าของเขา มีคนนอนอยู่บนเก้าอี้เอนกายด้วยท่าทางสบายใจ
ชายคนนี้แต่งตัวดูประหลาด กำลังนอนพิงกายอยู่บนนั้น
รอบๆ ตัวของชายคนนั้น ยังมีอ่างน้ำใบใหญ่ ซึ่งเต็มไปด้วยเลือดอยู่ถึง 6 ถังเลยทีเดียว
เมื่อเห็นฉากประหลาดเช่นนี้ตรงหน้า ถังหู่ก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายของเขาลงคอ
“อึก...!”
ในตอนนั้นถังหู่ยังสังเกตเห็นอาหารกระป๋องหลายสิบกระป๋องตกอยู่ข้างๆ ของชายคนนี้ จึงทำให้ความโลภของเขาเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง
เขารีบเก็บอาหารกระป๋องลงในกระเป๋าเป้ของเขาอย่างรวดเร็ว
“เจ้ามีรูปร่างที่ดีมาก”
จู่ๆ ก็มีเสียงอันเยือกเย็นดังขึ้น
ถังหู่ตกใจเป็นอย่างมาก เขารีบชักมีดออกจากเอวแล้วฟันออกมาอย่างไม่รีรอทันที
รนหาที่ตาย!
เสียงมีดถูกปัดออกดังขึ้น
ถังหู่อ้าปากค้างอย่างไม่สามารถหุบลงได้ มีดในมือของเขาตกลงไปบนพื้น
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมา เขาก็เห็นว่าชายหนุ่มลุกขึ้นยืน และมองมาที่เขาด้วยความสนใจ
สายตาของเขาดูแปลกมาก
ราวกับว่าชายหนุ่มคนนี้ ไม่ได้มองเขาเป็นเหมือนมนุษย์ แต่เหมือนกับมองดูวัตถุมากกว่า
และสิ่งที่ทำให้ถังหู่หวาดกลัวมากขึ้นไปอีก ก็คือหนอนตัวยาวสีเลือดที่สั่นอยู่บนฝ่ามือของชายหนุ่มคนนั้น
เขากลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่
นับตั้งแต่ที่ซอมบี้ระบาดขึ้นมา มีปริศนาที่ไม่มีใครรู้อีกมากมายบนโลกใบนี้
คนๆนี้สามารถอยู่ร่วมกับหนอนได้ เขาต้องเป็นผู้วิเศษแน่ ฉันไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้อย่างแน่นอน!
ถังหู่วางเป้สะพายหลังของเขาลงด้วยสีหน้าข่มขื่น และยกมือขึ้นเหนือศีรษะ "พี่ใหญ่ ทุกอย่างในนี้เป็นของคุณ"
“พี่เขยของผมคือลูกพี่จ้าว แห่งแก๊งหลิงฉวน เพื่อเห็นแก่ลูกพี่จ้าว ได้โปรดปล่อยผมได้เถอะ ”