ตอนที่ 20 กลุ่มนักเรียน
ตอนที่ 20 กลุ่มนักเรียน
ฉู่เจียงเยว่คาดไม่ถึงว่าที่เสิ่นจื้อกุย และคนอื่นๆ กระตือรือร้นในการช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และพาพวกเขากลับมาที่โรงแรมเจียงหลินก็เพราะคำพูดของเธอ
“ตามทฤษฎีแล้วก็เป็นอย่างนั้น แต่ฉันไม่สามารถรับประกันอะไรได้”
ท้ายที่สุดแล้ว รางวัลหลังจากทำภารกิจสำเร็จเป็นแบบสุ่ม และเธอไม่รู้ว่าตนจะได้รับรางวัลอะไรก่อนที่จะทำภารกิจนั้นๆ ลุล่วง
“ไม่เป็นไร เราก็ทำเท่าที่ทำได้ ไม่คิดจะเอาตัวไปเสี่ยงเหมือนกัน”
ก่อนที่เสิ่นจื้อกุยจะช่วยเหลือผู้คน เขาจะวิเคราะห์ก่อนว่าเป็นอันตรายต่อชีวิตพวกเขาเองหรือไม่ ถ้าใช่ เขาก็จะไม่เสี่ยงเช่นกัน
“นี่คือโรงแรมที่พี่เสิ่นบอกว่าสามารถจัดหาที่พักให้เราได้ใช่ไหม”
ฉู่เจียงเยว่ และเสิ่นจื้อกุยพูดได้ไม่กี่คำก่อนที่จะมีคนขัดจังหวะ สิ่งที่ฉู่เจียงเยว่ต้องการพูดจึงถูกปิดกั้นอยู่ในลำคอ
เสิ่นจื้อกุยเหลือบมองคนที่พูดอย่างเฉยเมย รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อยกับการขัดจังหวะกะทันหันของเธอ แต่เมื่อเขาเห็นว่าฉู่เจียงเยว่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ในที่สุดเขาก็พยักหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบ
“เยี่ยมมาก ขอบคุณพี่เสิ่น! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ เราคงติดอยู่ที่นั่น และตายในโรงรถใต้ดินไปแล้ว”
ในโรงจอดรถใต้ดิน ไม่มีอะไรนอกจากรถยนต์ ไม่มีอาหารมากนัก
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงโชคดีที่ไม่โดนซอมบี้โจมตี
พวกเขาสามารถอยู่รอดได้นานมากเพราะทุบหน้าต่างรถบางคัน และพบบิสกิต และขนมในรถเหล่านั้นเป็นครั้งคราว
“ถ้าเธอต้องการพักที่โรงแรมก็ไปถามเถ้าแก่จะมาถามหากับพี่เสิ่นทำไม?”
เซี่ยซีหลินตระหนักว่าบรรยากาศไม่ค่อยดี จึงรีบพูดเพื่อสงบสติอารมณ์ของทุกคน
เมื่อได้ยิน หญิงสาวที่เพิ่งพูดก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน
แต่เมื่อคิดว่าเซี่ยซีหลินเป็นคนของเสิ่นจื้อกุย ในที่สุดเธอก็เม้มปาก และไม่พูดอะไรอีก
คนฉลาดบางคนเมื่อเห็นเซี่ยซีหลินเตือน เขาก็วิ่งไปที่เคาน์เตอร์เพื่อถามฉู่เจียงเยว่
“ที่เขาพูดจริงหรือเปล่า ที่นี่มีที่พักให้จริงๆ หรือแล้วต้องการให้เราลงทะเบียนเพื่ออะไรกัน?”
“มีห้องพักก็จริง แต่ขออธิบายก่อนว่าฉันเปิดโรงแรม และพวกเธอต้องจ่ายค่าห้องพัก”
ฉู่เจียงเยว่รู้สึกว่าคนเหล่านี้อาจต้องการใช้โรงแรมเจียงหลินเป็นเหมือนฐานผู้ลี้ภัย
“ที่นี่มีที่พัก และอาหารเหลือเฟือไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเราต้องจ่ายเงินด้วย”
แน่นอน ทันทีที่ฉู่เจียงเยว่พูดถึงเงิน ก็มีคนคัดค้าน
ซูจู้เฉิง หลินซวี่หยวน และเซี่ยซีหลินต่างจ้องมองไปที่คนที่พูดด้วยสายตาเบิกกว้าง นี่เป็นโรงแรม ไม่ใช่ฐานผู้ลี้ภัย แต่ให้ที่นั่นในวันสิ้นโลกแบบนี้ก็ไม่มีสิ่งใดฟรี
“เถ้าแก่ ผมสาบานได้ว่าเราไม่เคยบอกว่าที่พัก และอาหารฟรี”
ซูจู้เฉิงตีตัวออกห่าง ตัดความสัมพันธ์ของผู้รอดชีวิตกลุ่มนี้ในทันที
ฉู่เจียงเยว่เป็นคนควบคุมอาหารและที่พักของพวกเขาทุกคน ดังนั้นเขาจึงทำให้เธอขุ่นเคืองใจไม่ได้เป็นอันขาด
แน่นอนว่าฉู่เจียงเยว่รู้ว่านี่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา แต่บางคนกลับมองข้ามเรื่องต่างๆ มากเกินไป
"ฉันเปิดโรงแรมเพื่อทำธุรกิจ หากพวกเธอไม่ต้องจ่ายเงินก็ตรงออกไปแล้วเลี้ยวขวาเพื่อไปหาที่พักในชุมชนเซิงซื่อฮัวตู่เอาเองได้"
ฉู่เจียงเยว่ไม่ใช่คนที่จะกล้ำกลืนความโกรธเอาไว้
“พี่สาว พวกเรายังเป็นนักเรียนกันอยู่ และเรามีเงินไม่มากนัก คุณช่วยผ่อนปรนให้หน่อยได้ไหม ขอให้เราอยู่ที่นี่ด้วย แต่เราก็จะไม่อยู่อย่างเปล่าประโยชน์ เราสามารถทำงานให้คุณเป็นการแลกเปลี่ยน?”
ผู้พูดควรเป็นคนที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักเรียนเหล่านี้ แม้ว่าบางคนจะแสดงสีหน้าไม่เต็มใจ แต่อย่างน้อยก็ไม่มีใครพูดขึ้นเพื่อปฏิเสธ
พูดตามตรง ฉู่เจียงเยว่ ชื่นชมเขาที่คิดวิธีนี้ขึ้นมาได้ แต่...
จากนั้น ฉู่เจียงเยว่หยิบแก้วน้ำบนโต๊ะขึ้นแล้วเทลงบนพื้นหน้าเคาน์เตอร์
“ทำไมคุณทำแบบนี้ล่ะ ถ้าไม่อยากได้ก็เอามาให้เราก็ได้!”
หลังวันสิ้นโลกเริ่มขึ้น พวกเขาต้องลำบากแค่ไหนทุกคนต่างรู้ดี
เมื่อเห็นฉู่เจียงเยว่ใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง หลายคนก็แสดงท่าทีไม่พอใจ
“เห็นนั่นไหม?”
ฉู่เจียงเยว่ขอให้พวกเขาดูคราบน้ำบนพื้น
ทุกคนมองลงไป ใช้เวลาไม่นานคราบน้ำบนพื้นก็จางหายไป
ทุกคนมองที่ฉู่เจียงเยว่พร้อมกัน "นี่คือ ... "
“เห็นแบบนี้แล้วยังคิดว่าฉันต้องการคนช่วยงานอีกเหรอ?”
ฉู่เจียงเยว่มองไปที่ชายหนุ่มที่เพิ่งเสนอให้แลกเปลี่ยนแรงงานเป็นที่พัก
ในโรงแรมมีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ แม้ว่าวันนี้เธอจะเทชามซุปลงพื้น โรงแรมก็สามารถกู้คืนความสะอาดได้ในทันที
ชายหนุ่มจึงไม่พูดอะไรอีกต่อไป โรงแรมไม่ต้องการแรงงาน เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น
"สิ่งที่คุณคิดว่ามีค่าสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสกุลเงินเฉพาะของโรงแรมได้ จะเลือกยังไงก็แล้วแต่พวกเธอเลย”
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขายังเป็นนักเรียน ดังนั้นฉู่เจียงเยว่จึงค่อนข้างใจกว้างต่อคนเหล่านี้ และไม่สนใจเกี่ยวกับความหยาบคายก่อนหน้านี้ของพวกเขา
“ฉันคิดว่าคุณแค่อยากหลอกเราให้มอบของมีค่าทั้งหมดให้มากกว่า แล้วคุณก็จะได้ขายมันเพื่อทำกำไร!”
“ใช่ โซฟาตรงนั้นค่อนข้างดีเลยทีเดียว คืนนี้เราจะพักที่นี่”
ซูจู้เฉิงมองดูหญิงสาวที่เพิ่งพูดราวกับว่าเธอเป็นคนโง่ เธอไม่เคยฟังสิ่งที่พวกเขาพูดอย่างตั้งใจตลอดเวลาที่เดินทางมาที่นี่เลยเหรอ?
“ช่างเถอะ ไม่ต้องห่วงพวกเขา แค่พาพวกเขามาที่นี่ก็ถือว่าเกินพอแล้ว”
เมื่อกล่าวถึงโรงแรมเจียงหลินระหว่างการเดินทาง พวกเขาเน้นย้ำกฎของโรงแรมหลายต่อหลายครั้ง หากบางคนยังดื้อดึง ก็ต้องรับผลที่ตามมาเอาเอง
“ก็ตามใจ แต่ฉันขอเตือนก่อนว่าหากไม่ใช่แขกที่เข้าพักในโรงแรม สามารถอยู่ในโรงแรมได้เพียง 2 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น หากยังไม่ออกไปหลังครบเวลาที่กำหนด โรงแรมจะขับไล่ออกไปโดยอัตโนมัติ”
แม้ว่าฉู่เจียงเยว่จะไม่ชอบคนที่เกเรเช่นนี้ แต่เธอก็ยังเอ่ยปากเตือน
อย่างไรก็ตาม บางคนไม่สนใจคำพูดของเธอ แม้ว่าฉู่เจียงเยว่จะเตือนพวกเขาแล้ว แต่พวกเขาก็ยังยืนกรานที่จะเดินไปตามทางของตัวเอง
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉู่เจียงเยว่ก็ไม่สนใจอีก ท้ายที่สุดเธอไม่ได้เป็นที่ต้องถูกเตะออกมาจากโรงแรม
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีบางคนที่ทำเป็นหูทวนลม ก็ยังมีบางคนที่ฟังคำแนะนำ พวกเขาค้นหาไปทั่วร่างกาย และแลกเปลี่ยนสิ่งที่พวกเขามี
ชายหนุ่มที่พูดก่อนหน้านี้ก็ถอดจี้หยกที่คอของตนออก
[ ตรวจพบหยกแกะสลักเทียม สามารถแลกเปลี่ยนเป็น 10 เหรียญเงินได้ คุณต้องการแลกเปลี่ยนหรือไม่ ]
“10 เหรียญเงินนี่มันมากเท่าไหร่กัน?”
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นสกุลเงินนี้ และเขาไม่รู้ว่ากำลังซื้อมากน้อยเพียงใด
"โรงแรมมีสกุลเงินเฉพาะสามแบบ ได้แก่ เหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง อัตราแลกเปลี่ยนคือ 1 : 100 : 10,000"
“10 เหรียญเงินจึงเท่ากับ 1,000 เหรียญทองแดง มูลค่าของเหรียญทองแดงนั้นพอกับเงินหยวน”
“ผมสามารถอยู่ที่ห้องโถงรับแขกได้ไหม?”
“ได้ แต่นายสามารถอยู่ได้ไม่เกิน 5 วัน และควรซื้ออาหารไว้เป็นเสบียงสำหรับตัวเองด้วย”
ฉู่เจียงเยว่เตือนอย่างใจดี
ชายหนุ่มคิดอยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจอยู่ต่อ 3 วัน และใช้เหรียญทองแดงอีก 400 เหรียญเพื่อซื้ออาหาร
เมื่ออาหาร และที่พักได้รับการจัดการแล้ว เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ในที่สุดเขาก็ผ่านมันไปได้ และมีเวลาให้คิดว่าจะทำยังไงต่อดี!
จากนั้น ฉู่เจียงเยว่มองไปที่คนอื่น
เมื่อนักเรียนหลายคนเห็นว่าผู้นำของพวกเขานำจี้หยกที่ใส่มาตั้งแต่เด็กมาแลกเป็นสกุลเงินของโรงแรม พวกเขาก็เอาของมีค่าออกมา และเริ่มแลกเปลี่ยน
ฉู่เจียงเยว่ให้คำตอบกับทุกคนที่ถาม แต่ไม่คิดจะชายตามองกลุ่มคนที่ไม่คิดจะฟังอะไรเลย
“พี่เสิ่น คุณจะไปไหน?”
เมื่อเห็นว่าฉู่เจียงเยว่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว เสิ่นจื้อกุยก็รู้สึกโล่งใจ และเตรียมที่จะกลับไปที่ห้องของตน
แต่ก่อนที่เขาจะไปได้ไกล เขาก็ถูกหญิงสาวคนเดิมหยุดเอาไว้
“หยุด! เราได้ทำตามสัญญาโดยพาคุณมาที่โรงแรมแล้ว ส่วนคุณจะทำยังไงต่อไม่ได้เกี่ยวกับเราอีกต่อไป”
“นอกจากนี้คุณยังเด็ก อย่าคิดถึงบางสิ่งที่ไม่ควร พี่เสิ่นไม่สนใจเด็กตัวน้อยๆ อย่างคุณหรอก”