กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 469 ชนกันในหนึ่งปี
กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 469 ชนกันในหนึ่งปี
เป็นไปได้อย่างไร?
นอกเขตแดนของโลกแสงนิล มีราชันเซียนท่านหนึ่งลงมืออย่างกะทันหัน นี่มันหมายความว่าอย่างไร ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขาอีกแล้ว ในอดีต ยมโลกถูกทำลายได้อย่างไร? มิใช่เพราะถูกหมื่นโลกา รุมทำร้ายจนต้องล่มสลายหรือ
ยิ่งไปกว่านั้น อายุขัยของราชันเซียนนั้นยาวนาน ยากที่จะตาย
บางทีราชันเซียนที่ลงมือผู้นี้อาจจะเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่เคยผ่านสงครามกับยมโลกมาแล้วก็เป็นได้ หรือว่าเขารู้สึกถึงการฟื้นคืนชีพของยมโลก จึงต้องการจะทำลายตั้งแต่ต้น
แม้ว่ายมโลกจะยึดครองโลกแสงนิลได้ แต่โลกแสงนิลในหมื่นโลกานั้น มิได้มีค่าอันใด การกล่าวว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้นก็ไม่เกินจริง
เพราะว่าหากเทียบกับยมโลกในอดีตที่เคยมีจักรพรรดิเซียนปกป้องแล้ว ยังคงห่างไกลกันมาก
“นายท่าน”
ภายในโถงใหญ่
ทุกคนต่างก็มีสีหน้าหวาดกลัว
พวกเขามีพลังอำนาจไม่ธรรมดาเช่นกัน พวกเขาเข้าใจในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
บุคคลระดับราชันเซียนผู้นี้ กำลังลงมือกับโลกแสงนิล หากพวกเขาไม่ทำอะไรสักอย่าง บางทีในวินาทีถัดมา พวกเขาอาจจะต้องเผชิญหน้ากับหายนะ
ราชันเซียนหนึ่งคน สามารถเดินทางข้ามห้วงปฐมโกลาหลอันไกลโพ้น เพียงแค่ฝ่ามือเดียวก็สามารถบดขยี้โลกแสงนิลให้กลายเป็นผุยผงได้ ไม่มีใครสามารถหนีรอด นี่คือความแตกต่างของระดับ!
“อย่าหวาดกลัว!”
เจ้าแห่งยมโลกกล่าวอย่างเย็นชา
ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเฉยชา ภายในมีสัญลักษณ์มากมายปรากฏขึ้น ปกคลุมทั่วห้วงมิติ หลังจากเพ่งสมาธิไปสักพัก เขากล่าวอย่างแผ่วเบาว่า “บุคคลผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้ดูเหมือนจะไม่มีเจตนาร้าย!”
“พวกเจ้าไม่ต้องกังวลใจ บางทีราชันเซียนผู้นี้อาจจะมีแผนการอื่นก็เป็นได้!”
แต่...
บุคคลผู้หนึ่งมีสีหน้าหวาดกลัว เอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบา “โลกแสงนิลของพวกเราถูกดึงเข้าไปในปฐมโกลาหล ใครจะรู้ว่าราชันเซียนท่านนั้นมีแผนการเช่นไร”
บางทีราชันเซียนท่านนั้นอาจจะต้องการเปลี่ยนสถานที่ เพื่อที่จะกำจัดพวกเขาก็เป็นได้”
พวกเขาคิดว่าตอนนี้ วิธีการที่ดีที่สุดคือหนีเข้าไปในปฐมโกลาหล เพราะในบรรดาพวกเขานั้นมีเซียนยืนยงอยู่มากมาย สามารถพาผู้คนข้ามห้วงปฐมโกลาหลได้
หากสามารถหาโลกใบใหม่ที่ไม่ด้อยไปกว่าโลกแสงนิล พวกเขาก็อาจจะสามารถตั้งรกรากได้อีกครั้ง
อย่างน้อยก็สามารถตามเส้นทางที่จักรพรรดิปฐมกาลโบราณหลบหนีไป
เพราะว่าพวกเขารู้ที่อยู่ของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ และยังรู้ว่าโลกที่จักรพรรดิปฐมกาลโบราณอยู่ มิได้ด้อยไปกว่าโลกแสงนิล หากพวกเขาตามไป
บางทีอาจจะมีโอกาสรอดชีวิต
ส่วนการอยู่ที่นี่ ไม่มีใครสามารถรับรองได้ว่า พวกเขาจะสามารถมีชีวิตรอด จนถึงวันพรุ่งนี้
“ตู้ม!”
โลกแสงนิลยังคงสั่นสะเทือน ราวกับว่าในวินาทีถัดมาจะแตกสลาย ที่ตั้งของยมโลกมีสัญลักษณ์นับไม่ถ้วนพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ปกคลุมทั่วห้วงมิติ เปล่งประกายเจิดจ้า สะกดห้วงมิติเอาไว้
ภายในโถงใหญ่ บุรุษผู้หนึ่งสวมชุดเกราะ เดินทางมาอย่างรวดเร็ว รอบกายมีปราณชั่วร้ายมากมาย เขากล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า “นายท่าน สถานการณ์ตอนนี้ ข้าน้อยคิดว่า ยมโลกควรจะละทิ้งโลกแสงนิล!”
“พวกเราไม่ควรฝากชีวิตของทุกคนไว้กับความเมตตาของราชันเซียน!”
คนที่สามารถบรรลุระดับราชันเซียนได้ ต้องผ่านการบำเพ็ญเพียรมานับไม่ถ้วน เมื่อมาถึงระดับนี้ พวกเขาจะไม่ตาย ไม่แตกดับ มองดูจักรวาลหมุนเวียน มองดูโลกเปลี่ยนแปลง
ทุกสิ่งทุกอย่างไม่มีความหมาย
แม้แต่ลูกหลานที่ตายไป พวกเขาก็ยังคงไม่รู้สึกอะไร
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงชีวิตของยมโลก บางทีราชันเซียนผู้นั้น อาจจะเปลี่ยนความคิด ส่งทุกคนไปเกิดใหม่!
“ใช่ นายท่าน!”
ตอนนี้มีคนกล่าวเสริมขึ้นมา “ในเมื่อพวกเรารู้ที่อยู่ของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณแล้ว ไม่สู้ยมโลกย้ายสำนักทั้งหมดไปอยู่ที่โลกของปฐมกาล เช่นนี้แล้ว พวกเราก็อาจจะรอดพ้นจากภัยพิบัติ”
“พวกเจ้าทุกคนคิดว่า การเดินทางไปยังโลกของปฐมกาลจะทำให้พวกเจ้ารอดพ้นจากภัยพิบัติหรือ”
เจ้าแห่งยมโลกยืนอยู่ที่เดิม ร่างกายอันยิ่งใหญ่ ราวกับภูผาบรรพกาล กดข่มทั่วฟ้าดิน ทำให้ทุกคนรู้สึกหายใจติดขัด
ดวงตาของเขาดุจสายฟ้า พุ่งทะยานออกไป มองไปยังห้วงมิติ
นี่…
ได้ยินคำพูดนี้
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างก็มองหน้ากัน แม้จะไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดออกมา แต่สีหน้าของพวกเขาก็แสดงความคิดในใจออกมาอย่างชัดเจน
ชัดเจนว่า ทุกคนคิดว่าการเดินทางไปยังโลกของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณคือการกระทำที่ปลอดภัย เพราะโลกใบนั้นมิได้อ่อนแอ บางทีอาจจะมีขุมอำนาจที่แข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่ายมโลก
แต่ไม่มีใครสงสัยว่าการอยู่ที่โลกแสงนิลจะต้องตาย!
ไม่มีใครอยากเผชิญหน้ากับราชันเซียน แม้ว่าราชันเซียนจะไม่ทำอะไร ไม่เอ่ยวาจาใด ๆ เพียงแค่คำว่า “ราชันเซียน” ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขารู้สึกกดดันจนหายใจติดขัด
“เหอะ!”
เจ้าแห่งยมโลกหัวเราะเบา ๆ เขาหันกลับมาอย่างช้า ๆ ดวงตาของเขาจ้องมองทุกคน เอ่ยว่า “หากข้าบอกพวกเจ้าว่า ทิศทางที่โลกแสงนิลกำลังเดินทางไป คือโลกของปฐมกาลเล่า”
“อันใดกัน!”
ได้ยินคำพูดนี้
ทุกคนต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
โลกแสงนิลพุ่งเข้าหาโลกของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ หรือว่าโลกของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณมีราชันเซียนปกป้อง หรือว่า…
จักรพรรดิปฐมกาลโบราณบรรลุระดับราชันเซียนแล้ว
นี่มันน่ากลัวยิ่งนัก
ไม่ว่าจะเป็นไปได้ใด ๆ ก็ตาม ทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับตกอยู่ในเหวน้ำแข็ง
“จบแล้ว!”
หลายคนในใจ คิดเช่นเดียวกัน
พวกเขาเพิ่งจะส่งคนไปยังโลกของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณ คนเหล่านั้นไปที่นั่นด้วยเจตนาร้าย หากล่วงเกินราชันเซียนท่านนั้น
ใครจะรู้ว่าโลกแสงนิลจะเป็นเช่นไร
บางทีอาจจะเป็นราชันเซียนผู้นั้น สัมผัสได้ว่ามีคนจากโลกแสงนิลเดินทางไปยังโลกของเขา จึงได้ลงมือกับโลกแสงนิล
ส่วนเรื่องที่ว่าจักรพรรดิปฐมกาลโบราณทะลวงระดับสำเร็จแล้ว ก็เป็นไปได้เช่นกัน
อย่างไรเสีย ทุกสถานการณ์ ล้วนเป็นผลเสียต่อยมโลก ราวกับว่ายมโลกกำลังจะล่มสลาย!
ยมโลก…
เจ้าแห่งยมโลกไม่สนใจความคิดของคนอื่น ๆ เขากล่าวอย่างแผ่วเบา “อีกไม่ถึงหนึ่งปี โลกแสงนิลจะชนเข้ากับโลกของปฐมกาล!”
“ชนกัน?”
หลายคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมาสงบนิ่ง
พลังของพวกเขามิได้อ่อนแอ หากโลกทั้งสองชนกัน โลกย่อมแตกสลาย แต่พวกเขาก็ยังคงสามารถหนีรอดได้
อย่างมากก็เพียงแค่ต้องลอยอยู่ในปฐมโกลาหล
“แต่ว่าหากเป็นราชันเซียนแห่งโลกของปฐมกาลที่ลงมือ นั่นหมายความว่าจักรพรรดิปฐมกาลโบราณมิได้มอบเพียงวาสนาให้กับข้า!” เจ้าแห่งยมโลกมองไปยังปฐมโกลาหล รอบกายปรากฏรังสีอำนาจอันน่ากลัว ปกคลุมทั่วฟ้าดิน ราวกับเทพมารจุติ
พลังของเขาแข็งแกร่งยิ่งนัก
ใกล้เคียงกับระดับราชันเซียนแล้ว เหลือเพียงก้าวเดียวก็สามารถทะลวงผ่าน มิใช่ว่าพรสวรรค์ของเขาไม่เพียงพอ แต่เป็นเพราะโลกใบนี้ จำกัดเขาเอาไว้
หากโลกของจักรพรรดิปฐมกาลโบราณสามารถรองรับราชันเซียนได้ สำหรับเขานี่คือโอกาสที่หายาก เขาอาจจะสามารถทะลวงผ่านข้อจำกัดของโลก บรรลุระดับราชันเซียน!
ตราบใดที่เขาก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวเดียว ยมโลกก็จะสามารถพิชิตหมื่นโลกาได้!