Chapter 44: เงื่อนงำ
โอกาสรับรางวัลมหาศาลไม่ได้ทำให้ฉินหรานสูญเสียความเยือกเย็น ตรงกันข้าม เขาสงบกว่าตอนแรกเสียอีก เขารู้ดีว่าการได้รับรางวัลใหญ่แปลว่าภารกิจจะไม่ง่าย ไม่ว่ากุนเธอร์สันจะเป็นมิตรหรือศัตรู ฉินหรานก็ยังจำเป็นต้องใช้ความสามารถทั้งหมดของตัวเองเพื่อให้ได้รางวัลมาก
ถ้ากุนเธอร์สันเป็นมิตร ฉินหรานก็จะต้องเพิ่มระดับความสัมพันธ์ผ่านภารกิจ หรือพูดอีกอย่างหนึ่ง ยิ่งระดับความเป็นมิตรสูง ฉินหรานก็จะมีโอกาสได้อุปกรณ์หรือสกิลจากกุนเธอร์สันมากขึ้น ถ้ากุนเธอร์สันเป็นศัตรู เรื่องก็จะเรียบง่ายขึ้นมาก ทั้งหมดที่ฉินหรานต้องทำก็คือรวบรวมพลังให้มากพอและหวังว่าจะพิชิตกุนเธอร์สันได้ หรืออีกอย่างก็คือ ฆ่าเขาเสีย ให้เขาดรอปอาวุธหรือสกิล
อย่างไรก็ตาม ฉินหรานยังอยู่ห่างไกลจากโอกาสในการฟาร์มอุปกรณ์อย่างที่เขาคิดอยากทำ เขาจำเป็นต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้านี่ก่อน
เพราะมีแรงลมส่ง หมัดของกุนเธอร์สันจึงเข้ามาถึงระยะไม่กี่เมตรจากตัวฉินหรานแล้ว ฉินหรานไม่ได้วางแผนจะยอมกระดูกหักจาก่หมัดเดียวนี้ ดังนั้นจึงไม่ได้รับหมัดนั้นโดยตรง
ด้วยสกิล [หลบหลีก] ระดับผู้มีฝีมือและค่าสถานะของสกิลในระดับ E- ทำให้เขาก้าวเท้าได้คล่องแคล่วและรวดเร็ว เขาหลบหมัดที่กำลังมาถึงได้อย่างง่ายดายเหมือนแมว
"หืม?" กุนเธอร์สันตกตะลึงเมื่อเห็นว่าฉินหรานสามารถหลบกำปั้นของเขาได้
แต่แม้ว่าจะรู้สึกตกใจอยู่เขาก็ยังปล่อยหมัดที่สองตามออกมาอย่างรวดเร็ว หมัดที่สองแข็งแกร่งและเร็วกว่าหมัดแรก มันแค่ไม่กี่ส่วนในหนึ่งวินาทีเท่านั้นหมัดก็ถึงตัวฉินหรานเพื่อไม่ให้ฉินหรานใช้ท่าเท้าคล่องแคล่วและปฏิกิริยาตอบสนองรวดเร็วหลบกำปั้นของเขาได้อีกครั้ง
ฉินหรานรู้ว่าถ้าโดนหมัดที่สองต่อยเข้าละก็ เรื่องจะไม่ง่ายแน่ ๆ กระดูกของเขาคงจะหักออกจากกันแน่ ๆ ไม่มีใครที่จะมีชีวิตรอดหากกระดูกหักเคลื่อนหลายจุดอย่างนั้น แม้ว่าจะเป็นเพียงร่างเสมือนก็ตาม ทั้งศีรษะ หัวใจ และอวัยวะภายในอื่น ๆ ก็ยังถูกนับเป็นจุดอ่อนอยู่ดี
ฉินหรานงอเอวทิ้งลำตัวไปด้านหลังโดยไม่คิดซ้ำสอง เท้าตรึงแน่นอยู่กับพื้น หมัดนั้นเฉียดใบหน้าของฉินหรานไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด แรงลมพัดเส้นผมยุ่งเหยิง ฉินหรานรู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ตามด้วยความรู้สึกยิบ ๆ เป็นความรู้สึกเจ็บแปลบแบบตอนที่โดนลมแรงมาก ๆ พัดใส่ใบหน้า แต่เขาก็ยังไม่ได้ให้ความสนใจเพราะว่าเห็นแล้วว่าการจู่โจมครั้งที่สามกำลังตามมา
หมัดที่เฉียดใบหน้าฉินหรานไปนั้นชักกลับมาเป็นศอกแทนราวกับค้อนตอกลงบนตะปู เป้าหมายคือช่วงท้องของฉินหราน
เขาไม่ได้ออมแรงไว้เลยในขณะที่อยู่ในท่าสะพานโค้ง เขาถูกบีบจนมุมแล้ว
ในระหว่างความเป็นความตาย ฉินหรานเลือกยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นและถีบไปด้านหน้า เท้าที่ถีบออกไปกดลงที่หน้าแข้งของกุนเธอร์สันก่อนที่กุนเธอร์สันจะได้ทิ่มศอกเข้าที่ท้องของฉินหราน เท้าอีกข้างที่ตรึงแน่นอยู่กับพื้นกดลงราวกับสปริง ฉินหรานปลิวไปด้านหลังจากแรงถีบขา
มันเป็นเทคนิคกาก ๆ
ตอนที่ฉินหรานยกขาขึ้นเขาก็สูญเสียการทรงตัว แม้ว่าเขาจะรวบรวมแรงได้เพียงพอที่จะถอยไปด้านหลังเขาก็คิดว่ามันยังดีกว่ากลิ้งถอยออกไป กล่องที่ใส่ [Viper-M1] ไว้หล่นไปด้านข้าง กุนเธอร์สันตามติดฉินหรานไป แต่ฉินหรานไม่ได้หยุดรอให้จุดจบของตัวเองมาถึง ระหว่างถอยหลังไป เขาจัดการคว้า [M1905] และกริชมาอยู่ในมือได้
"หยุดแค่นั้นนะ!" ซิสเตอร์โมนี่มองเห็นฉินหรานชัดเจนจากระยะไกล และพยายามหยุดการต่อสู้ระหว่างทั้งสองคน
ชายแก่คนนั้นยกขาขึ้นและฉินหรานถือปืนไว้พร้อมลั่นไก แต่ทั้งคู่ก็ชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงตะโกนของซิสเตอร์โมนี่ พวกเขามองหน้ากันยังคงอยู่ในสภาพตื่นตัว
"คุณนักสืบ ฉันต้องการคำอธิบาย!" ซิสเตอร์โมนี่มองฉินหราน คิ้วของเธอเลิกขึ้นสูงแต่น้ำเสียงและสีหน้ายังดูใจดี
เมื่อได้ยินคำถามจากเธอ ฉินหรานก็หัวเราะเฮอะ ฉินหรานรู้สึกว่าคำถามเรียบ ๆ จากเธอนั้นตอบได้ยากกว่าคำถามอย่างโมโหโกรธา
"ตอนที่ผมคุยกับคุณก่อนหน้านี้ ผมรู้สึกได้ว่าคุณปิดบังอะไรบางอย่างไว้ ดังนั้น ผมจึงทำเป็นจากไปและกลับเข้ามาใหม่อีกครั้งเพื่อดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ฉินหรานอธิบาย
"เป็นความผิดพลาดของฉันเอง คุณเป็นนักสืบที่เก่งที่สุดในเมือง คุณจะไม่สังเกตเห็นได้อย่างไรว่าฉันมีเรื่องปิดบังคุณอยู่? ฉันขอโทษ กุนเธอร์สันคิดว่าคุณเป็นพวกอื่นดังนั้นจึงลงมือรุนแรง" ซิสเตอร์โมนี่ถอนหายใจขณะเอ่ยขอโทษฉินหราน
"ซิสเตอร์โมนี่ มันเป็นความผิดของผมเองครับ" สีหน้าของฉินหรานบิดเบ้ยิ่งกว่าเดิม เขายินดีประมือกับกุนเธอร์สันต่อมากกว่าเผชิญหน้ากับสีหน้าเมตตาและเสียใจสุดแสนของซิสเตอร์โมนี่
มันไม่ใช่ความผิดของซิสเตอร์โมนี่
การที่เธอไม่บอกทุกอย่างกับฉินหรานก็ไม่ใช่ความผิด นอกจากพ่อและแม่ของเด็กหญิงคนนั้นแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนบนโลกจะต้องบอกทุกอย่างกับเขา ฉินหรานเข้าใจดี การแอบเข้ามาในครั้งนี้ให้อภัยได้ในแง่ของเหตุผล แต่ไม่ใช่ในทางศีลธรรม ดังนั้น จริง ๆ แล้วมันก็ควรเป็นความผิดของฉินหรานทั้งหมด เขาปฏิเสธความจริงนี้ไม่ได้ เขารู้สึกละอายมากพอแล้วกับสถานการณ์ตอนนี้
"คุณนักสืบฉินหราน คุณเป็นคนดี ทิลลี่เป็นศิษย์ของกุนเธอร์สัน ดังนั้นเขาอาจจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเธอ ฉันวางแผนไว้ว่าค่อยบอกคุณพรุ่งนี้ แต่คุณมาฟังจากเขาเองตอนนี้ก็ดี กุนเธอร์สัน บอกคุณนักสืบทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับทิลลี่ ฉันขอ" ซิสเตอร์โมนี่มองฉินหรานด้วยความเมตตา ก่อนที่จะเบนสายตาไปหากุนเธอร์สัน
"รับบัญชา ฝ่าบาท" นิ้วหัวแม่มือขวาของกุนเธอร์สันชี้เข้าที่ตำแหน่งหัวใจของเขา ขณะค้อมตัวลงเล็กน้อย
เป็นธรรมเนียมโบราณ วิธีที่กุนเธอร์สันเรียกขานซิสเตอร์โมนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียม
ฉินหรานเหลือบมองซิสเตอร์โมนี่และกุนเธอร์สัน เขาจำได้ว่าตอนที่ซิสเตอร์โมนี่ตำหนิกุนเธอร์สัน เธอเรียกเขาว่าอัศวินผู้พิทักษ์ แล้วตอนนี้ กุนเธอร์สันก็เรียกขานซิสเตอร์โมนี่อย่างเป็นทางการว่า "ฝ่าบาท" ฉินหรานไม่ได้โง่ จากวิธีที่ทั้งสองเรียกกันแล้ว เขาบอกได้เลยว่าทั้งสองคนนี้มีเบื้องหลังมากกว่าที่ตาเห็น
กุนเธอร์สันไม่ได้สนใจว่าฉินหรานจะคิดอะไร หลังจากทำความเคารพซิสเตอร์โมนี่ ชายชราผู้แข็งแกร่งก็เริ่มบอกเล่าเรื่องราวในส่วนของเขา เขาบอกฉินหรานทุกอย่างที่เขารู้เกี่ยวกับอัลทิลลี่ ฮันเตอร์
"ทิลลี่พบสถานที่ลับในโรงเรียนนี้โดยบังเอิญ เธออยากรู้อยากเห็นมากในวัยของเธอเป็นเหตุให้เธอเจอที่นี่ เธอพยายามค้นหาจนกระทั่งพบความลับของฉัน ในเวลาเดียวกันนั้น ฉันก็พบว่าทิลลี่มีศักยภาพ อืม พูดให้สั้น ๆ ได้ว่าฉันสัญญากับทิลลี่ว่าจะสอนเรื่องที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้จากโรงเรียนให้เธอ ตราบเท่าที่เธอเก็บความลับของฉันไว้"
มีรอยยิ้มบนใบหน้าของกุนเธอร์สัน รอยยิ้มของคุณตาที่ให้อภัยต่อความคึกคะนองของลูกหลาน
"บทเรียนของพวกเรายาวนานมาถึงสี่ปี ฉันสอนความรู้พื้นฐานทั้งหมดให้เธอ และความรู้ระดับสูงขึ้นบางอย่างด้วย เมื่อประมาณสัปดาห์ก่อนนี่เอง เธอพาชายบาดเจ็บคนหนึ่งมา ฉันคิดว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เธอบังเอิญช่วยไว้ ผู้ชายคนนั้นอยู่ที่นี่คืนหนึ่งแล้วก็จากไป ทิลลี่เป็นห่วงเขาและตัดสินใจตามเขาไป การหายตัวไปของทิลลี่น่าจะเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนนั้น แต่ไม่ต้องห่วง ทิลลี่ไม่มีทางตกอยู่ในอันตราย!" กุนเธอร์สันมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของอัลทิลลี่และการสอนของเขา
"อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา กุนเธอร์สัน บอกคุณนักสืบทุกอย่างที่คุณรู้เกี่ยวกับคนแปลกหน้านั่น สิ่งที่พวกเราต้องคิดถึงตอนนี้คือหาตัวทิลลี่ให้เจอโดยเร็วที่สุด!" ซิสเตอร์โมนี่ขึ้นเสียงเล็กน้อยปนถอนหายใจ
"ผู้ชายคนนั้นมีแผลเป็นบนหน้า ตรงระหว่างคิ้วถึงมุมปากข้างซ้าย มันชัดเจนมาก เขามีแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเป็นคนโครงร่างใหญ่ เขาน่าจะทักษะการต่อสู้ที่ดี เขาได้รับบาดเจ็บที่หลัง ถ้าเขาหลบไม่ทันก็คงจะถูกแทงเข้าที่บริเวณไต คนที่จู่โจมเขาต้องเป็นมืออาชีพ!" กุนเธอร์สันอธิบายรูปร่างหน้าตาของชายแปลกหน้าที่ได้รับบาดเจ็บคนนั้น
ดูเหมือนว่าเขาจะคิดเรื่องนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้ว เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ชายคนนั้นคงส่งผลกระทบต่อเขาพอสมควรเลย
"นั่นช่วยอะไรได้ไหม?" ซิสเตอร์โมนี่มองฉินหราน
"ช่วยได้มากครับ" ฉินหรานตอบพลางพยักหน้า
ที่จริงแล้ว เพียงแค่ระบุเรื่องแผลเป็นบนใบหน้าของผู้ชายคนนั้นก็เพียงพอแล้ว มันเป็นจุดที่ชัดเจนในความทรงจำของผู้คนทั่วไปที่สุดแล้ว ไม่ต้องพูดถึงส่วนอื่นเลย ทั้งหมดที่ฉินหรานต้องการก็คือความช่วยเหลือจากสารวัตรตำรวจ และเขามั่นใจว่าจะหาตัวอัลทิลลี่เจอได้ในเวลาอันสั้น
"กรุณาช่วยทิลลี่กลับมาด้วยนะคะ" ซิสเตอร์โมนี่โค้งตัวให้เขาอีกครั้ง แสดงความซาบซึ้งใจต่อฉินหราน
"ผมรับเงินมัดจำมาจากคุณฮันเตอร์เรียบร้อยแล้ว แล้วมันก็เป็นหน้าที่ของนักสืบอย่างผม" ฉินหรานตอบพร้อมรอยยิ้มขณะเบี่ยงตัวหลบการขอบคุณของซิสเตอร์โมนี่อย่างกระอักกระอ่วน
ฉินหรานได้สิ่งที่ต้องการแล้ว โดยทฤษฏี เขาควรจะกลับออกไปจากโรงเรียน แต่เขายังไม่ลืมเป้าหมายทำภารกิจย่อยและภารกิจสร้างชื่อ ตามข้อมูลของเขา ซิสเตอร์โมนี่น่าจะมีภารกิจย่อยให้เขา
ที่สำคัญที่สุด ถ้าฉินหรานสามารถทำตามคำขอร้องของซิสเตอร์โมนี่ได้สำเร็จ มันน่าจะเพิ่มระดับความสัมพันธ์กับกุนเธอร์สันได้ด้วย ความแข็งแกร่งของกุนเธอร์สันนั้นประทับใจฉินหรานมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หมัดต่อเนื่องที่ไวราวสายฟ้าฟาดนั่นน่าจะไม่ได้เกิดจากความแข็งแกร่งของกุนเธอร์สัน แต่เป็นสกิลลึกลับบางอย่าง
ถ้าเป็นไปได้ ฉินหรานก็อยากเรียนสกิลจากกุนเธอร์สัน
แน่นอนว่า เขาเองก็อยากจะยื่นมือเข้าช่วยซิสเตอร์โมนี่เมื่อคิดถึงสถานะสูงส่งของเธอ
ดังนั้น หลังจากชะงักไปครู่หนึ่ง ฉินหรานก็พูด "ซิสเตอร์โมนี่ ผมแอบได้ยินที่คุณคุยกับหัวหน้ารี้ดก่อนหน้านี้ และผมต้องขอโทษในเรื่องนั้นด้วย เหมือนว่าคุณจะมีปัญหาบางอย่าง ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมคิดว่าผมอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง คิดเสียว่าเป็นการชดเชยสำหรับพฤติกรรมไม่เหมาะสมของผม"