บทที่ 772: วิธีโน้มน้าว “คนกลัวเมีย” คำสารภาพอันน่าเศร้าของควีน
[แปลโดยแฟนเพจ ยักษาแปร มาติดตามในแฟนเพจเพื่อติดตามข่าวสารได้นะ]
[Thai-novel ลงไวกว่าที่อื่นทุกที่ 5 ตอน แต่จะราคาแพงที่สุด]
[หลังแปลจบจะมีการแก้ไขคำอ่านใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้ง ถ้าอ่านแบบเถื่อนหรือแชร์กันเป็นคณะ100คน ก็อ่านไปครับ เพราะผมจะแก้แบบแปลใหม่อีกรอบแค่ในThai-novel กับเว็บอื่น ๆ และแหล่งที่ผมแปลครับ ส่วนคนที่อ่านที่อื่นก็จะได้อ่านแบบไม่มีการแก้คำผิด และยิบย่อยมากมาย ไปนั่นแหละ]
บทที่ 772: วิธีโน้มน้าว “คนกลัวเมีย” คำสารภาพอันน่าเศร้าของควีน
“มนุษย์นี่ช่างแปลกจริง”
บันกิราสคว้าก้อนเมฆเกาะขึ้นมา ดูเหมือนกำลังคิดว่ามันกินได้หรือเปล่า ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก็ยัดมันเข้าปาก
การกินดินเป็นนิสัยของบันกิราส เมฆเกาะในทางทฤษฎีก็เป็นดินชนิดหนึ่ง แต่มันไม่เคยศึกษาว่ามันกินได้จริงหรือเปล่า?
เมื่อเมฆเกาะเข้าปาก มันก็ละลายในทันที ดวงตาของบันกิราสก็เปล่งประกายราวกับค้นพบโลกใหม่
แต่หลังจากกินไปสองคำ มันก็หยุด มันไม่อยากตกลงไป มันจะเจ็บมาก
“ใช่แล้ว มนุษย์นี่แปลก วิธีที่พวกเขาอยู่ด้วยกันทำให้โปเกมอนไม่เข้าใจ ฮาจิตัวน้อยต้องเสียคนเพราะพวกเขาแน่ๆ”
“บอกว่าอย่าเรียกฉันแบบนั้น ฉันคือมังกรปีศาจ!”
“หึ ชอบชื่อเล่นที่ศัตรูตั้งให้มากเลยเหรอ? ยังไงก็ต้องรีบจัดการน้องชายตั้งแต่ยังเล็กสินะ”
บันกิราส เอ็นบูโอ และมังกรแปดหัว พูดคุยกันด้วยภาษาที่มนุษย์ไม่เข้าใจ พร้อมทั้งวิจารณ์พฤติกรรมแปลกๆของไคโดและควีน และไม่เห็นด้วยกับรสนิยมของมังกรแปดหัว
แม้จะมีผู้สร้างคนเดียวกัน แต่มังกรแปดหัวมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับผลโอโรจิ การมีความแตกต่างจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ภายใต้ความมึนเมาของไคโด ควีนต้องเผชิญกับความยากลำบากอีกครั้ง ทำให้เขารู้ว่าเส้นทางของไคโดนั้นเป็นไปไม่ได้
ลูกน้องไม่กล้าทำอะไรเพราะขี้ขลาด นี่เป็นพฤติกรรมที่ไคโดเกลียดที่สุด ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง เขาอาจจะถูกไคโดซ้อมจนปางตายจริงๆ
“บ้าจริง ท่านอาร์เซอุสเพิ่งจากไปไม่นาน คุณหนูยามาโตะก็ไม่รู้จะเล่นไปถึงเมื่อไหร่...”
เขาไม่ใช่คนตายตัว ถ้าไม่สามารถหาสุดยอดนักสู้ได้ คนที่อ่อนกว่าก็ไม่เป็นไร เชย์น่าไปกับอาร์เซอุสแล้ว โอลกะก็ล่องลอยอยู่ในทะเล ตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเขาก็เหลือเพียงเซราโอร่าและคิง
หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาเลือกไปหาคิงก่อน
...
“ไสหัวไป”
“นี่ เจ้าโรคจิตทรมานคน ฉันมาขอร้องแก นี่คือท่าทีของแกเหรอ?!”
“แม้แต่ความอยากอาหารเพียงเล็กน้อยก็เอาชนะไม่ได้ ข้าไม่มีเวลามาสนใจเจ้า”
คิงดูไม่พอใจมาก ดาบยาวที่คาดเอวถูกชักออกมาแล้ว ควีนไม่รู้ว่าตอนที่เขามาที่นี่ คิงกำลังใช้ลิลลี่คาร์เนชั่นอยู่ เพียงแต่เขาขัดจังหวะกระบวนการนี้
ตอนนี้ที่ยังไม่โดนเตะตูดไป ก็ถือว่าอดทนมากแล้ว
ในตอนนี้ เซราโอร่ากลายเป็นตัวเลือกสุดท้าย กลับไปที่ห้องทดลอง ควีนประดิษฐ์ของเล็กๆน้อยๆ แล้วถือกล่องของขวัญไปที่บ้านของเซราโอร่า
ส่วนสาเหตุที่เขาต้องนำของขวัญไป ถ้ามีเพียงเซราโอร่าคนเดียว เขาคงไปมือเปล่าแล้ว แต่ปัญหาคือ เซราโอร่ามีภรรยาแล้ว และจากการวิเคราะห์ของควีน เซ็ตสึนะที่ดูใจกว้างนั้นจริงๆแล้วเป็นคนขี้งกคนนึงเลย
เขาแค่ไปรบกวนเธอตอนที่เธอกำลังมีความรักเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้เธอยังคงขุดเรื่องนี้ขึ้นมาพูดอยู่บ่อยๆ
ถ้าเขาไปหาเซราโอร่ามือเปล่าเพื่อทำเรื่องเสี่ยงๆ มีโอกาสสูงมากที่เขาจะถูกยิงจนเป็นเม่น
...
"ชีวิตหมอนี่มันจะสุขสบายเกินไปแล้วหรือเปล่านะ?"
ตอนที่มาถึงวาโนะคุนิใหม่ๆ ที่นี่ก็ยังเป็นแค่บ้านมุงจากธรรมดาๆ มีแค่สองหลังเล็กๆเท่านั้นเอง แต่หลังจากนั้นเซราโอร่าและเซ็ตสึนะก็มาสร้างบ้านใหม่ที่นี่ แล้วตอนที่แต่งงานกันก็เปลี่ยนที่นี่ให้กลายเป็นคฤหาสน์ไปเลย
มาถึงตอนนี้ หลังจากต่อเติมขยายไปหลายครั้ง คฤหาสน์ก็กลายเป็นกลุ่มคฤหาสน์ไปแล้ว รอบๆก็มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆเพิ่มขึ้นมาอีกมากมาย ทั้งโกดัง ห้องพัก แม้แต่สวนสนุกขนาดย่อมก็ยังมี เรียกได้ว่ามีทุกอย่างที่ต้องการ
พอเทียบกับตัวเองแล้ว รายได้ก็ไม่ได้น้อยไปกว่าอีกฝ่ายเลย แต่ทำไมชีวิตถึงดูน่าเวทนาขนาดนี้นะ
"ลุงควีน มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
เหมียวโผล่ออกมาจากพุ่มไม้ข้างประตู
"อ้อ ลุงมาหาพ่อเธอ เขาอยู่บ้านไหม?"
"ไม่อยู่นะคะ แต่...ทำไมหน้าลุงบวมอย่างนั้นล่ะคะ? แอบไปกินอะไรมาเยอะเกินไปหรือเปล่า?"
"..."
คำถามนี้ควีนตอบยากจริงๆ เพราะตอนนั้นไคโดจ้องจะต่อยแต่หน้าเขาอย่างเดียวเลย ไม่ได้พันผ้าพันแผลไว้ ก็ถือว่ายังโชคดีที่ไคโดไว้ชีวิตให้เขายังเดินเหินได้อยู่
"แล้วพ่อเธอไปไหนล่ะ?"
"ไปตกปลากับแม่อยู่ที่ชายทะเลค่ะ"
"...นี่ของเล่นสำหรับเธอกับวูล์ฟ เอาไปเล่นกันเองนะ"
ควีนเพิ่งจะยื่นของให้เหมียว ก็เห็นสองสามีภรรยาหิ้วถังปลาเดินกลับมาพอดี
"ควีน? นายมาทำอะไรอยู่หน้าบ้านฉัน?"
...
ในห้องรับแขก เซ็ตสึนะและเซราโอร่ากำลังฟังควีนอธิบายจุดประสงค์ที่มาในวันนี้
"สรุปนายจะมายืมตัวเซราโอร่าไปงั้นเหรอ?"
"นี่ๆๆ เขาเป็นคนนะ ไม่ใช่สิ่งของของเธอ พูดแบบนี้มันจะดีเหรอ?"
"ช่างเรื่องนั้นเถอะ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นคือ นายจะไปทำเรื่องอันตรายอะไรอีกแล้ว?"
"ไม่มีอะไรอันตรายหรอก พูดตรงๆเลยนะ ถ้าจะมีอันตรายก็มีแต่ฉันเท่านั้นแหละ เซราโอร่าอยากจะถอนตัวเมื่อไหร่ก็ได้"
เพื่อให้เซ็ตสึนะคล้อยตาม เขาจึงยกเหตุผลที่น่าสงสารมากๆขึ้นมา ทุกคนที่ได้ยินก็รู้สึกว่ามีเหตุผล
"ถ้างั้นทำไมต้องลากเขาไปด้วย?"
"ถ้าเราสองคนไปด้วยกัน ต่อให้เจอพลเรือเอกก็รับมือได้ แม้ว่าจะมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น เขาก็ขอความช่วยเหลือได้เร็วที่สุด เหตุผลนี้พอใจไหม?"
ควีนถอนหายใจ ยกกาชาหน้าตัวเองขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด
พลเรือเอกและจักรพรรดิทั้งสี่ มีพลังที่เหนือล้ำกว่าคนอื่นราวฟ้ากับเหว แม้กระทั่ง "กระทิงเขียว" ที่ดูเหมือนจะอ่อนแอที่สุด ก็ยังสามารถจัดการคิงและควีนได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าทั้งสองจะได้รับบาดเจ็บมาก่อนก็ตาม
เว้นแต่จะเป็นคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน ไม่เช่นนั้นเมื่อเผชิญหน้ากับพลเรือเอก ก็ทำได้เพียงถ่วงเวลาเท่านั้น
เขาและเซราโอร่าเพียงพอที่จะรับมือกับพลเรือเอกได้ นี่คือความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยของควีน หลังจากที่ได้รับการเสริมพลังและผ่านการฝึกฝนอย่างหนักจากไคโด
"ช่างเถอะ ตามใจพวกนายแล้วกัน เซราโอร่าอยากไปก็ไปเถอะ"
ตามหลักแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวเซ็ตสึนะ เพียงแต่เซราโอร่าและแมนเดรลล์เป็นคนประเภทเดียวกัน บางครั้งก็ต้องรวมเตโซโรด้วย คนทั้งสามนี้ให้ความสำคัญกับความคิดของอีกฝ่ายมาก
สำหรับภารกิจที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ เขาต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ
"วางใจเถอะ เขาจะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน ฉันเตรียมการอย่างรอบคอบแล้วสำหรับครั้งนี้"
ควีนพูดพลางหยิบผลปีศาจออกมาหนึ่งลูก แล้วแกว่งไปมาต่อหน้าทั้งสอง
"ผลปีศาจ? เอาสิ่งนี้มาทำอะไร? พวกเรามีพลังของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้หรอก"
เซ็ตสึนะมองผลปีศาจในมือเขาด้วยความสงสัย เธอและเซราโอร่ามีพลังของตัวเอง เหมียวและวูล์ฟก็มีพลังที่ได้รับจากอาร์เซอุส ไม่จำเป็นต้องเพิ่มจุดอ่อนให้ตัวเอง
"นี่ฉันจะใช้เอง"
"นายจะฆ่าตัวตายเหรอ? ไม่น่าจะคิดสั้นขนาดนั้นนะ?"
การกินผลปีศาจสองลูกจะทำให้ร่างกายระเบิด นี่คือความเชื่อที่มีอยู่ทั่วไปในท้องทะเล ดังนั้นเซ็ตสึนะจึงไม่เข้าใจคำพูดของควีน
"มันจะเป็นงั้นได้ไง? นี่เป็นท่าไม้ตายลับที่ฉันเตรียมไว้ ใครกล้ามาหาเรื่องฉัน ฉันจะให้มันรู้จักฤทธิ์เดชของฉัน"