บทที่ 4 เกลฮัลดีราห์ โอคสไตน์

บทที่ 4: เกลฮัลดีราห์ โอคสไตน์

เหล่าผู้มีพลังพิเศษจะเริ่มมีอายุมากขึ้นช้าลงเมื่อพวกเขาเปลี่ยนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีมานา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีรูปลักษณ์ที่ดูหนุ่มแม้สายตาผู้มีประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม เกลฮัลไม่ได้ภูมิใจในตัวเอง หรือพอใจกับสิ่งที่เขาบรรลุในปัจจุบัน ถ้าเขาพอใจแล้ว เขาคงไม่ไปหอคอยสวรรค์เพื่อเข้าร่วมการทดสอบที่จัดขึ้นทุกๆ รอบของวัฏจักรต้นกำเนิด

การเป็น "จักรพรรดิแห่งกฎ" นั้นไม่ใช่สิ่งที่ได้มาง่ายๆ ในบางดินแดนอาจไม่มีการผลิตจักรพรรดิแม้จะผ่านไปถึง 20 วัฏจักรต้นกำเนิด แต่ว่าจำนวนของจักรพรรดิในโลกกลับเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพราะจักรพรรดิแต่ละคนมีชีวิตนิรันดร์ และเมล็ดพลังที่พวกเขากลั่นขึ้นมานั้นไม่สามารถถูกทำลายได้

แม้ว่าจะมีจักรพรรดิเพิ่มขึ้นในสวรรค์สูง แต่การจะเป็นจักรพรรดิที่แท้จริงยังคงยากลำบากและแทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับบางคนที่จะทำสำเร็จในช่วงชีวิตเดียว ดังนั้น การกลายเป็นจักรพรรดิที่อายุเพียง 5 วัฏจักรต้นกำเนิดถือว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

ผู้ที่ไม่รู้จักเกลฮัลอาจจะเรียกเขาว่าเป็นคนมีพรสวรรค์หรือขยัน หรือทั้งสองอย่าง แต่เพื่อนร่วมวัยของเขาจากดินแดนเดียวกันจะบอกคุณว่าเขาเคยมีความสามารถธรรมดามาก (สำหรับเอลฟ์ชั้นสูง) และยังขี้เกียจด้วย เขาไม่ได้ถูกมองว่าเป็นคนมีพรสวรรค์แต่อย่างใด สิ่งต่างๆ เปลี่ยนไปหลังจากการโจมตีของปีศาจครั้งล่าสุดในดินแดนของเขา เขากลายเป็นคนกระตือรือร้นในการฝึกฝน บางทีอาจเป็นเพราะเขากลัวจากการต่อสู้และการนองเลือด

เหล่าเอลฟ์ชั้นสูงจากดินแดน "ชีวิตชั้นสูง" ไม่ค่อยสู้รบหนักหน่วงนัก เพราะพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่รักความสงบและธรรมชาติ อีกทั้งมีสมาชิกที่ทรงพลังคอยปกป้องพวกเขาจากอันตราย คนมากมายต่างอยากได้ "ต้นไม้แห่งชีวิต" ซึ่งเป็นทรัพยากรพิเศษของดินแดนชีวิตชั้นสูง ต้นไม้แห่งชีวิตเหล่านี้หายากมากในจักรวาลแห่งความว่างเปล่า ทำให้เหล่าผู้ทรงพลังต่างตั้งเป้าไปที่พวกเขา

ในอดีต เอลฟ์ชั้นสูงจำเป็นต้องยอมประนีประนอมบ้าง เนื่องจากแม้จะมีสมาชิกที่ทรงพลัง พวกเขาก็ไม่สามารถหลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนของตนได้ตลอดเวลา พวกเขาถูกกดดันจากหลายฝ่ายเพื่อแย่งชิงทรัพย์สมบัติที่มี ในจักรวาลแห่งความว่างเปล่า คุณจะไม่สามารถรักษาสิ่งที่คุณไม่สามารถปกป้องได้

การมาถึงของ "จ้าวแห่งดินแดน" เปลี่ยนสถานะของพวกเขาและของสวรรค์สูงในโลกเบื้องบน จ้าวแห่งดินแดนเป็นผู้นำความคุ้มครองมาสู่เอลฟ์สูง เนื่องจากไม่มีใครอยากต่อสู้กับผู้นำที่มีพรสวรรค์สูงซึ่งลือกันว่าเป็นจักรพรรดิภายในเวลาไม่ถึงวัฏจักรต้นกำเนิดเดียว

ดังนั้น ด้วยการข่มขวัญของจ้าวแห่งดินแดนและสมาชิกทรงพลังที่เป็นที่รู้จัก ไม่มีใครโง่พอที่จะโจมตีดินแดนของพวกเขาเลย ยกเว้นปีศาจ ปีศาจไม่สนใจเรื่องความสงบเรียบร้อย พวกเขาต้องการเพียง "แก่นชีวิต" ซึ่งต้นไม้ชีวิตในดินแดนชีวิตสูงมีอยู่ ดังนั้นพวกปีศาจจึงโจมตีเพื่อแย่งชิงโดยไม่สนใจผลลัพธ์

กองทัพปีศาจที่นำโดยลอร์ดปีศาจจำนวนมากซึ่งหวังจะกลายเป็นราชาปีศาจ ได้รวมตัวกันและสร้างประตูมิติตรงจากนรกเพื่อโจมตี พวกเอลฟ์ต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่อปกป้องต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา และใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะสามารถขับไล่พวกปีศาจกลับไปได้

จักรพรรดิไม่ได้มีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีราชาปีศาจในกองทัพปีศาจ พวกเขาสามารถทำลายล้างพวกปีศาจได้ง่ายๆ แต่ตัดสินใจไม่ทำ เพื่อให้สมาชิกของเผ่าพันธุ์ได้เรียนรู้การต่อสู้

เอลฟ์ชั้นสูงไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ เพราะนอกจากการปะทะกันเล็กน้อยระหว่างเผ่าแล้ว พวกเขาแทบไม่เคยถูกโจมตีจากใครเลย อีกทั้งไม่มีความสนใจในดินแดนอื่นๆ พวกเขาอยู่กับธรรมชาติและมีศัตรูน้อย การตัดสินใจให้เยาวชนได้ฝึกฝนในการต่อสู้ครั้งนี้เปลี่ยนโชคชะตาของเกลฮัลไป

ก่อนสงครามกับปีศาจ เกลฮัลเป็นเพียงผู้มีพลังระดับราชาในเผ่าพันธุ์ของเขา เขาเป็นราชากฎแห่งชีวิต ซึ่งมีมากมายเพราะเป็นกฎที่เอลฟ์ชั้นสูงสามารถบรรลุได้ง่าย แต่หลังจากนั้น การฝึกฝนต่อไปเป็นงานที่ยากลำบากและเหนื่อยยากยิ่งขึ้น

การที่เกลฮัลตัดสินใจหยุดความสนุกทั้งหมดในชีวิต (เต้นรำ ร้องเพลง กิน ดนตรี ความสุขส่วนตัว) และเข้าร่วมการต่อสู้ทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล

การต่อสู้กับปีศาจไม่ใช่เรื่องสนุกอย่างที่เกลฮัลดคิด เขาตื่นเต้นที่จะได้เผชิญหน้ากับปีศาจ แต่ความเป็นจริงแตกต่างไปจากที่คาดไว้มาก เขาไป ต่อสู้ และได้รับประสบการณ์ที่เปลี่ยนแปลงชีวิต แน่นอนว่าเขาเกือบจะตายหลายครั้ง แต่เรื่องนั้นเกิดขึ้นกับทุกคน อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถพูดได้ว่าพวกเขาเกือบถูกครอบงำโดยปีศาจ

เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อปีศาจพยายามยึดครองร่างกายและจิตใจของเกลฮัล ผ่านพลังแห่งการครอบงำของพวกมัน การครอบงำนี้ทำให้เกิดการต่อสู้ภายในระหว่างเกลฮัลและวิญญาณของปีศาจที่พยายามจะเข้าควบคุมจิตใจของเขา เขารู้สึกได้ถึงความหนาวเหน็บของความมืดที่พยายามจะเข้าครอบงำเขา มันเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายที่สุดในชีวิตของเขา แต่ในที่สุด เขาก็สามารถขับไล่ปีศาจออกไปได้ด้วยพลังใจที่เขาไม่เคยรู้ว่ามีอยู่

เหตุการณ์นี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเขา หลังจากที่เขารอดชีวิตจากการถูกครอบงำ ความรู้สึกกลัวและไร้กำลังกลับเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นและความปรารถนาที่จะฝึกฝนต่อไป เขาไม่อยากจะอ่อนแอหรือเป็นภาระในครั้งต่อไปที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู เขาตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น

การฝึกฝนอย่างไม่ลดละตามมาหลังจากนั้น เกลฮัลเริ่มทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการฝึกฝนกฎแห่งชีวิต และไม่นานเขาก็พัฒนาจากระดับราชาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น สถานะของเขาในเผ่าพันธุ์เริ่มเปลี่ยนไปจาก "เอลฟ์ธรรมดา" เป็น "อัจฉริยะผู้เกิดใหม่" ที่ไม่มีใครในเผ่าพันธุ์ของเขาไม่รู้จัก

นับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งนั้น เกลฮัลกลายเป็นที่ยอมรับอย่างแพร่หลายจากผู้มีพลังคนอื่นๆ ในเผ่าพันธุ์ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสที่จะเป็น "จักรพรรดิแห่งกฎ" ได้ในอนาคต