บทที่ 36: บรรลุร่างมังกรที่แท้จริงของกายาผู้เเข็งเเกร่งเเห่งสรวงสวรรค์!
บทที่ 36: บรรลุร่างมังกรที่แท้จริงของกายาผู้เเข็งเเกร่งเเห่งสรวงสวรรค์!
ครึ่งเดือนผ่านไปชั่วพริบตา
ภายในตำหนักของลู่ชิงซวน ปราณดาบส่องประกายระยิบระยับ และเสียงแห่งดาบดังก้องกังวาน
"ในที่สุด...ข้าก็เข้าใจเจตนาดาบขั้นที่สามเสียที!"
ลู่ชิงซวนลืมตาขึ้น พลางหัวเราะเบา ๆ พร้อมหายใจออก
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ปราณดาบจำนวนมากในตำหนักก็ค่อยๆ สลายไป
ด้วยการใช้บัตรรู้แจ้งเจตนาดาบ ในช่วงเวลานี้ ลู่ชิงซวนก็ได้รับเจตนาดาบขั้นที่สาม
แต่อย่าประมาทเจตนาดาบขั้นที่สามนี้ เพราะแม้แต่ผู้ฝึกตนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณบางคนก็อาจไม่สามารถเข้าใจเจตนาดาบในระดับแรกได้
เช่นเดียวกับผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายหลางหยาเทียนจง แม้ว่าอีกฝ่ายจะมีระดับการฝึกฝนในอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณ แต่เขาก็เพิ่งสัมผัสถึงรากฐานของเจตนาดาบเท่านั้น
การเข้าใจเจตนาเต๋าชนิดใดชนิดหนึ่ง ต้องอาศัยโอกาสและความเข้าใจที่เพียงพอ
ตอนนี้เขาเข้าใจเจตนาดาบขั้นที่สามแล้ว เขาจึงเหนือกว่าผู้ฝึกตนอาณาจักรหลอมรวมวิญญาณส่วนใหญ่
ด้วยพลังเจตนาดาบขั้นที่สามนี้ ความแข็งแกร่งของเขาได้รับการปรับปรุงให้ก้าวไปถึงระดับใหม่ที่สูงกว่าเดิม ด้วยการโจมตีที่ได้รับพรจากเจตนาดาบนั้นย่อมทรงพลังอย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่ชิงซวนวางแผนที่จะหาวิชาดาบเพื่อฝึกฝนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เพียงการฝึกฝนวิชาดาบเท่านั้น จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังทั้งหมดของเจตนาดาบได้
แม้ว่าเขาจะนั่งสมาธิเพื่อทำความเข้าใจเจตนาดาบในตำหนักมาครึ่งเดือนแล้ว แต่ก็มีบางอย่างเกิดขึ้นในคฤหาสน์ราชาลู่ ที่ทำให้สมาชิกตระกูลทั้งหมดตกใจ
นั่นคือตอนที่ลู่เทียนหมิงปลุกกายามังกรที่แท้จริง และในเวลานั้นก็มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดเกิดขึ้นในคฤหาสน์ราชาลู่
ทุกคนในตระกูลลู่ต่างก็เฝ้ามองปรากฏการณ์นี้ พวกเขาทั้งหมดต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน พวกเขายังแปลกใจเมื่อพบว่าลู่เจียนเฉินได้ปลุกกายาดาบนิรันดร์เมื่อไม่นานมานี้
แต่ตอนนี้ลู่เทียนหมิงกลับปลุกกายามังกรที่แท้จริงได้สำเร็จอีกครั้ง โชคชะตาของพวกเขาในคฤหาสน์ราชาลู่นั้นช่างดีนัก อัจฉริยะระดับท็อปต่างก็ปรากฏตัวขึ้นบ่อยครั้ง เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาได้รับความโปรดปรานจากสวรรค์?
ในส่วนปรากฏการณ์อันน่าตื่นตะลึงเช่นนี้ ลู่ชิงซวนกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการทำความเข้าใจเจตนาดาบ เขาจึงไม่ได้ปรากฏตัวออกมา
…..
ในขณะนี้ เวลาจำกัดของบัตรรู้แจ้งได้หมดลงไปแล้ว
เขาก็พร้อมที่จะออกจากการเก็บตัว..เพื่อดูว่าหลิงซีเยว่เป็นเช่นไรบ้าง
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ ลู่ชิงซวนก็ลุกขึ้นยืนทันที ก่อนที่จะเดินไปยังลานบ้านของหลิงซีเยว่
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงห้องของหลิงซีเยว่ เขาก็พบว่าเจียงซวนหยา มารดาของเขาก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน
เเละเหมือนว่าพวกนางกำลังหาลือเรื่องอะไรบางอย่าง
"เอาล่ะ ชิงซวน ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว!"
เมื่อเห็นลู่ชิงซวนมาถึง เจียงซวนหยาก็ค่อยๆฉีกยิ้มออกมา
เเละในขณะที่ธอก็ลุกขึ้นยืน เธอก็พูดติดตลกว่า
"งั้นพวกเจ้าสองคนคุยกันเถอะ แม่ขอตัวก่อน"
เธอรู้ว่าหากเธอยังอยู่ที่นี่ คู่สามีภรรยาย่อมรู้สึกอีดอัด ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะจากไปก่อน
แต่ก่อนจะจากไป เจียงซวนหยาก็ไม่ลืมที่กล่าวเตือนอีกครั้ง
"ชิงซวน เพื่อไม่ให้กระทบต่อเด็กในท้องของซีเยว่ วันนี้เจ้าห้ามค้างคืนที่นี่นะ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่ชิงซวนถึงกับพูดไม่ออก
นี่ท่านเเม่เห็นข้าเป็นคนแบบนั้นเหรอเนี่ย?
เมื่อหลิงซีเยว่ได้ยินเช่นนี้ แก้มของเธอก็ปรากฏสีแดงระเรื่อ
หลังจากมองดูมารดาจากไป ลู่ชิงซวนก็นั่งข้างหลิงซีเยว่ มองดูหลิงซีเยว่ที่ตั้งครรภ์เกือบห้าเดือนเเล้วตรวจเช็คด้วยความห่วงใย
หลังจากทราบว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว ลู่ชิงซวนก็ถามอย่างสงสัย "ซีเยว่ เมื่อครู่เจ้ากับท่านแม่คุยอะไรกันอยู่เหรอ"
"ท่านแม่กับข้ากำลังคุยกันเรื่องช่วยท่านเลือกอนุภรรยาสักคนสองคน"
ลู่ชิงซวนถึงกับตะลึงอยู่เล็กน้อย
เขาไม่เคยคาดคิดว่าคนทั้งสองกำลังคุยกันเรื่องให้เขารับอนุภรรยา
เมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของลู่ชิงซวน หลิงซีเยว่จึงอธิบาย: "ข้าเคยพูดกับท่านแม่มาก่อนแล้ว ขอให้ท่านแม่ช่วยเลือกสตรีที่ดีสักหนึ่งหรือสองคนมาเป็นอนุภรรยาของท่าน"
"ท่านแม่มาที่นี่เพื่อบอกข้าว่าที่บ้านของท่านลุงเจียงโหวมีสตรีที่มีพรสวรรค์มากชื่อว่าเจียงมู่เหยา แต่เธอนั้นได้เข้าร่วมนิกาย จึงมักจะไม่อยู่บ้าน"
"ดังนั้นท่านแม่กับข้าจึงกำลังหาลือกันว่าเราควรส่งจดหมายไปที่บ้านของท่านลุงหรือไม่ เมื่อเจียงมู่เหยากลับมาจะได้ให้นางมาเดินเล่นที่นี่ดูเสียหน่อย!"
หลังจากที่ลู่ชิงซวนได้ยินเช่นนี้ เขาก็รู้สึกทึ่งเล็กน้อย
เขาไม่ได้คาดคิดจริงๆว่าท่านแม่จะไปที่บ้านของท่านลุงเพื่อเลือกอนุภรรยาให้เขา
นี่มันไม่ต่างอะไรกับการไม่ให้ทรัพย์สมบัติรั่วไหลออกไปสู่คนภายนอก?
ช่างเป็นแม่ที่ดีอะไรเช่นนี้!
ในยามนี้ลู่ชิงซวนกำลังคิดว่าเขาควรยกนิ้วโป้งให้กับท่านแม่ที่เป็นห่วงเขาหรือไม่ดี
หัวใจของพ่อแม่ช่างยิ่งใหญ่เสียจริง!
แต่กระนั้นลู่ชิงซวนทำได้เพียงยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า "ซีเยว่ เรื่องนี้เป็นเรื่องของความสมัครใจ อย่าได้ฝืนบังคับใจนางเลย!"
หลิงซีเยว่พยักหน้า มองไปที่ลู่ชิงซวนด้วยสีหน้าจริงจัง และพูดพร้อมรอยยิ้ม: "สามีของข้าโดดเด่นเช่นนี้ สตรีใดเล่าจะไม่ชอบ? ข้าเชื่อว่าเมื่อเจียงมู่เหยาเห็นท่าน นางจะต้องหลงรักท่านอย่างแน่นอน"
"สำหรับสตรีที่ข้าเลือกให้กับสามี ท่านย่อมสามารถมั่นใจได้ว่ามากทั้งพรสวรรค์และรูปโฉมของนางล้วนอยู่ในระดับสูง และนางจะต้องสามารถเข้ากับคฤหาสน์ราชาลู่ของเราได้อย่างแน่นอน"
"สุดท้าย…บุตรที่พวกนางถือกำเนิดให้กับสามี ย่อมต้องมากไปด้วยพรสวรรค์ทั้งพรั่งพร้อมไปด้วยรูปโฉมเป็นแน่"
เมื่อเห็นหลิงซีเยว่พูดเช่นนี้ ลู่ชิงซวนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
หากเขาปฏิเสธอีก มันจะทำให้เขาดูเสแสร้งเกินไป
หลังจากยอมรับในสิ่งที่หลิงซีเยว่และท่านแม่ได้ทำ, ลู่ชิงซวนก็ได้สนทนากับหลิงซีเยว่อยู่พักหนึ่ง…จากนั้นก็จากไป
แต่ก่อนจะไป ลู่ชิงซวนก็ได้มอบทรัพยากรบางอย่างให้หลิงซีเยว่
ครั้งนี้ได้ยึดของดีจากนิกายหลางหยาเทียนจงมาหลายอย่าง รวมถึงยาเม็ดเเละทรัพยากรที่มีประโยชน์ในการเลี้ยงดูทารก
ดังนั้น ลู่ชิงซวนจึงหยิบออกมาบางส่วนโดยไม่ลังเล และมอบให้หลิงซีเยว่
หลังจากออกมาจากห้องของหลิงซีเยว่ ลู่ชิงซวนก็ไปดูทารกในครรภ์ปีศาจเทียนหยวนอีกครั้ง
เมื่อเห็นสถานการณ์, เขาก็รู้สึกโล่งใจว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในทารกในครรภ์ปีศาจเทียนหยวนกำลังค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งยังเร็วกว่าที่อยู่ในเส้นแร่วิญญาณมาก
อย่างไรก็ตาม ในเดือนนี้ทารกในครรภ์ปีศาจเทียนหยวนได้ใช้ศิลาวิญญาณจำนวนมากไปแล้ว ลู่ชิงซวนจึงหยิบศิลาวิญญาณออกมาอีกจำนวนมากเพื่อเติมเต็ม
แม้ว่าการบ่มเพาะสิ่งนี้จะต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล แต่ลู่ชิงซวนรู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ตามมานับว่าไม่เลว
เขากำลังตั้งตารอวันที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้ถือกำเนิดขึ้นมา
หลังจากที่ลู่ชิงซวนออกมาจากถ้ำของทารกในครรภ์ปีศาจเทียนหยวน เขาก็เข้าสู่สถานะการฝึกฝนอีกครั้ง
…….
ไม่กี่วันต่อมา ก็มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดปรากฏขึ้นในห้องของลู่ชิงซวน
เขามองเห็นเงาของมังกรที่แท้จริงโอบล้อมรอบตัวเขาทั้งยังส่งเสียงคำรามของมังกรดังก้องกังวาน
ทั่วร่างกายของลู่ชิงซวนเบ่งบานด้วยแสงสีม่วงสว่างไสวลุกโชนราวกับดวงอาทิตย์
หากตำหนักของลู่ชิงซวนไม่ได้ถูกปกคลุมด้วยค่ายกลขนาดใหญ่ ปรากฏการณ์นี้คงจะยิ่งใหญ่จนทำให้ทุกคนตกตะลึง
หลังจากผ่านไปหนึ่งเค่อเต็มๆ ปรากฏการณ์นี้ก็ค่อยๆ สลายไปในที่สุด
ลู่ชิงซวนลืมตาขึ้นมา คล้ายมีลำแสงสีม่วงที่พุ่งทะลุผ่านพร้อมความว่างเปล่าก็ส่งเสียงคำราม
"ข้าไม่ได้คาดคิดว่าการกลั่นแก่นแท้โลหิตมังกรเพียงหยดเดียวจะทำให้ข้าสามารถบรรลุร่างมังกรที่แท้จริงของกายาผู้เเข็งเเกร่งเเห่งสรวงสวรรค์ได้!"
ดวงตาของลู่ชิงซวนปรากฏร่องรอยของความยินดี
เดิมทีเขาต้องการที่จะกลั่นแก่นแท้โลหิตมังกรหนึ่งหยดเพื่อช่วยให้เขาฝึกฝนเทคนิคมังกรกักขังสวรรค์ได้ดียิ่งขึ้น แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะบรรลุร่างมังกรที่แท้จริง
ร่างมังกรที่แท้จริงเป็นหนึ่งในเก้าร่างเทพของกายาผู้เเข็งเเกร่งเเห่งสรวงสวรรค์
เมื่อปรากฏการณ์นี้ปรากฏขึ้น ย่อมไม่มีใครเทียบเคียงทั้งยังน่าสะพรึงกลัว…เเละมันสามารถถือเป็นไพ่ตายที่ทรงพลังสำหรับเขาในเวลานี้ได้อย่างไม่ต้องสงสัย
ลู่ชิงซวนระงับความรู้สึกประหลาดใจที่ผุดขึ้นอยู่ในใจของเขา และเริ่มฝึกฝนเทคนิคมังกรกักขังสวรรค์ในทันที
….
"ครืนนน!"
“หืมมม”
อย่างไรก็ตาม ในยามนี้ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนอกคฤหาสน์ราชาลู่ก็ดึงดูดความสนใจของเขา
หลังจากการตรวจสอบชั่วครู่ ใบหน้าของลู่ชิงซวนก็แสดงความประหลาดใจเล็กน้อย จากนั้นร่างของเขาก็หายวับไป
ในเวลาเดียวกันคฤหาสน์ราชาลู่
จู่ๆก็มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดปรากฏขึ้นเหนืออาคารหลังหนึ่ง
เขามองเห็นแสงสีเงินของท้องฟ้ากำลังส่องประกายระยิบระยับพร้อมทั้งแสงจันทร์สีม่วงกำลังสาดส่องลงมา
มันทั้งสว่างไสวและงดงาม,เหมือนกับแสงจันทร์ที่ตกลงมาจากท้องฟ้าสู่พื้นโลก
"เอ่อ เกิดอะไรขึ้น?"
"ข้าเพิ่งให้กำเนิดบุตร ทำไมถึงมีปรากฏการณ์เช่นนี้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน?"
นอกอาคารผู้อาวุโสหลายคนมองดูฉากดังกล่าวบนท้องฟ้าใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เมื่อชายวัยกลางคนคนหนึ่งเห็นปรากฏการณ์นี้ สีหน้าวิตกกังวลก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
เขาชื่อลู่ยี่ เป็นผู้อาวุโสสายรองในคฤหาสน์ราชาลู่
ส่วนในอาคาร เป็นภรรยาของเขาที่กำลังให้กำเนิดบุตร
เเละในขณะนี้ ร่างของลู่ชิงซวนก็บินผ่านท้องฟ้า
เมื่อทุกคนเห็นเช่นนั้น พวกเขาทั้งหมดก็ทำท่าเคร่งขรึมและคำนับด้วยความเคารพ"คารวะท่านผู้นำตระกูล"
ลู่ชิงซวนพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม: "ไม่ต้องกังวลไป ปรากฏการณ์นี้คงเป็นการกำเนิดของกายาจิตวิญญาณเป็นแน่"
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็แสดงความตกใจ
"กายาจิตวิญญาณกำลังถือกำเนิด?"
"จริงเหรอ? กายาจิตวิญญาณกำลังจะเกิดในตระกูลลู่ของเรา?"
"ช่างเป็นพรจากสวรรค์ของคฤหาสน์ราชาลู่!"
ผู้อาวุโสหลายคนจากสายรองต่างตื่นเต้นยินดี
ผู้ที่มีกายาจิตวิญญาณย่อมหมายความว่ามีคุณสมบัติและความเข้าใจของพวกเขานั้นสูงกว่าคนทั่วไป
ความเร็วในการฝึกฝนนั้นเทียบไม่ได้กับผู้ฝึกตนธรรมดา
หากไม่มีอะไรเกิดขึ้น, เขาก็จะกลายเป็นบุคคลที่มีพรสวรรค์ในอนาคต
ครึ่งเค่อต่อมา เสียงเด็กร้องไห้ก็ดังขึ้น
หญิงชราผู้ทำคลอดคนหนึ่งออกมาจากอาคารโดยอุ้มทารกไว้ในอ้อมแขน
"ยินดีกับผู้อาวุโสลู่ยี่ที่ให้กำเนิดบุตรสาว!"
ลู่ยี่รับทารกที่ถูกห่อตัวไว้ในมือ ใบหน้าของเขายิ้มแย้มด้วยความยินดี
"ท่านผู้นำตระกูล ท่านบอกได้ไหมว่าบุตรของข้ามีกายาแบบใด"
ลู่ยี่มองดูทารกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็มองไม่ออกว่าเป็นกายาแบบใด จึงรีบถามด้วยความเคารพ
ลู่ชิงซวนตรวจสอบชั่วครู่ก่อนยิ้มและพูดว่า: "กายาจิตวิญญาณแสงจันทร์!"
"เป็นกายาจิตวิญญาณที่หายากและอยู่ในระดับสูง!"
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็ดูตื่นเต้น
กายาจิตวิญญาณระดับสูง จะต้องกลายเป็นบุคคลที่น่าภาคภูมิใจในอนาคต!
บนใบหน้าของลู่ยี่นั้นเผยความสุขที่ไม่อาจบรรยายได้
เขาก็พูดออกมาในทันที "ท่านผู้นำตระกูล โปรดตั้งชื่อให้บุตรของข้าด้วย"
ลู่ชิงซวนคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า: "เนื่องจากทารกคนนี้เกิดมาพร้อมกับแสงจันทร์สีม่วงขอให้ชื่อว่าลู่จื่อเยว่ก็แล้วกัน!"
เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนี้พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า
"ขอบคุณท่านผู้นำตระกูลที่ตั้งชื่อให้" ลู่ยี่ก็ขอบคุณทันที
ลู่ชิงซวนพยักหน้าเล็กน้อย "เจ้าให้กำเนิดกายาจิตวิญญาณให้กับคฤหาสน์ราชาลู่ ควรได้รับรางวัล!"
ขณะที่เขาพูด เขาก็โบกแขนเสื้อของเขาพร้อมกับยาจิตวิญญาณ, ศิลาวิญญาณ, ยาเม็ด, สมบัติล้ำค่าและทรัพยากรอื่นๆ อีกมากมายก็ร่วงหล่นลงบนพื้น
เมื่อเห็นเช่นนี้ ทุกคนก็ตกตะลึง ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความอิจฉา
ลู่ยี่รีบขอบคุณ "ขอบคุณท่านผู้นำตระกูลที่ให้รางวัล!"
ลู่ชิงซวนยิ้ม จากนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นสายรุ้งเทพเจ้าและหายไป
……………….