ตอนที่แล้วบทที่ 33 ต้นตอแห่งความวุ่นวาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 35 ข้าคือใคร? ใครคือข้า?

บทที่ 34 เจ้าฝึกได้ แต่ข้ากลับฝึกไม่ได้!!


ซื่อเฟยเจ๋อเพิ่งทำการบ้านเสร็จและกำลังจะเข้านอน จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเคาะประตู

"ซื่อศิษย์น้อง หลับแล้วหรือยัง" หยินเทียเหยียนถาม

"ยังครับ"

"อาจารย์ผู้เฒ่าฮวาเพิ่งกลับมาจากข้างนอก ได้ยินว่าศิษย์น้องฝึก 'คัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา' สำเร็จแล้ว ท่านดีใจมากและอยากจะทดสอบศิษย์น้องสักหน่อย ไม่ทราบว่าตอนนี้ศิษย์น้องสะดวกไหม" หยินเทียเหยียนกล่าว

"สะดวกสิ! แน่นอนว่าสะดวก!" ซื่อเฟยเจ๋อตอบ "หลังจากทดสอบสำเร็จ จะได้เอาเงินรางวัลมาคืนพี่หยินด้วย!"

หยินเทียเหยียนที่อยู่หน้าประตูกระตุกมุมปาก ใครบอกว่าซื่อเฟยเจ๋อเจ้าเล่ห์และคิดไม่ซื่อต่อสำนัก เขาจะเป็นคนแรกที่ออกมาคัดค้าน จากการติดต่อในช่วงไม่กี่วันนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าซื่อเฟยเจ๋อนอกจากจะมีนิสัยร่าเริงแล้ว ยังพูดจาค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่

ในเวลาอื่นๆ เขาก็ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน จริงใจและกระตือรือร้น

เมื่อเห็นซื่อเฟยเจ๋อเปิดประตู เขาคิดว่าแบบนี้ก็ดี ไม่ต้องคิดหาวิธีอื่นมาหลอกล่อซื่อเฟยเจ๋อ

"ศิษย์น้อง เชิญ!" หยินเทียเหยียนหยิบโคมไฟในห้องของตัวเองแล้วพูด

ทั้งสองอาศัยความมืดของราตรีเดินไปยังศาลาถ่ายทอดวิชา

ภายในศาลาถ่ายทอดวิชา มีการจุดเทียนขาวราวหยกขนาดเท่าถ้วยชาหลายเล่ม ทำให้ศาลาสว่างไสวราวกับกลางวัน

"เราได้พบกันอีกแล้ว! ซื่อเฟยเจ๋อ!" ฮวาอู่ซวงยิ้มมองซื่อเฟยเจ๋อ พลางบอกให้เขาไม่ต้องมากพิธี และให้นั่งลง

ซื่อเฟยเจ๋อทำตามที่หยินเทียเหยียนสอนระหว่างทาง คำนับแล้วพูดว่า "พบอาจารย์ผู้เฒ่าฮวา"

หลังจากคำนับ เขาก็นั่งลงบนเก้าอี้แค่ครึ่งก้น

ก่อนหน้านี้ซื่อเฟยเจ๋อเป็นเพียงเครื่องมือ จึงไม่จำเป็นต้องมีใครสอนมารยาทให้ ตอนนี้ซื่อเฟยเจ๋ออยู่ระหว่างเครื่องมือกับพวกเดียวกัน หยินเทียเหยียนจึงสอนมารยาทให้เขา

"ไม่กี่วันก่อนข้ามีธุระบางอย่าง วันนี้ได้ยินจากหยินเทียเหยียนว่าเจ้าฝึก 'คัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา' ได้แล้ว ข้ารู้สึกดีใจมาก" ฮวาอู่ซวงพูดคำสุภาพก่อน แล้วจึงกล่าวต่อ "ข้าจะทดสอบความก้าวหน้าของ 'คัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา' ของเจ้าอย่างง่ายๆ ดูว่าเจ้าฝึกได้ดีแค่ไหน เพื่อจะได้กำหนดวันจุดธูปรับศิษย์!"

"เชิญอาจารย์ผู้เฒ่าฮวาทดสอบได้เลยขอรับ!" ซื่อเฟยเจ๋อกล่าว

"เจ้าลองท่องคัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา ให้ข้าฟังหน่อย!"

ซื่อเฟยเจ๋อท่องตามที่จำได้ ฮวาอู่ซวงพูดอย่างพอใจ "เจ้าลองเล่าความรู้สึกตอนที่เจ้าฝึกมาซิ!"

"หลังจากที่ผมเข้าสู่สมาธิ ผมจินตนาการถึงกระจกตะวันจันทรา..." ซื่อเฟยเจ๋อเล่าประสบการณ์การฝึกของเขา

"อืม~ ดีมาก ดีมาก!" ฮวาอู่ซวงชมเชย "เทพไร้ตัวตน ตัวตนไร้เทพ หมายความว่าอย่างไร"

ซื่อเฟยเจ๋อตอบ "เทพไม่ได้ไร้ตัวตน แต่ตัวตนอยู่ในร่างกาย เทพเหมือนเกิดขึ้นจากความว่างเปล่า กำเนิดตัวตน ดังนั้นตัวตนจึงไร้เทพ"

"การแยกจิตเริ่มต้น หมายความว่าอย่างไร"

"ส่องกระจกเห็นคน หมายความว่าอย่างไร"

"รับ..."

ฮวาอู่ซวงถามคำถามติดต่อกันเจ็ดแปดข้อ ซื่อเฟยเจ๋อตอบได้อย่างคล่องแคล่วทุกข้อ ฮวาอู่ซวงถามต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถามทุกอย่างที่อยากถาม ซื่อเฟยเจ๋อก็ตอบจนปากแห้งลิ้นแห้ง

การทดสอบนี้ช่างละเอียดเหลือเกิน!

สำนักแสงตะวันจันทราทำอะไรก็จริงจังขนาดนี้เลยหรือ? ยุ่งยากกว่าการสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานรัฐวิสาหกิจเสียอีก!

"ดีมาก ดีมาก ดีมาก!" ฮวาอู่ซวงยิ้มพูด "ซื่อเฟยเจ๋อ เจ้าตอบได้ดีมาก! ถ้าพิจารณาจากมุมมองของข้าในฐานะอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา เจ้าฝึกได้ดีมาก! แต่ข้ายังต้องขอคำแนะนำจากประมุขสำนักก่อน เพราะทุกเรื่องในสำนักต้องให้ประมุขเป็นผู้ตัดสินใจ!"

สำนักห่วยๆ ของพวกท่านมีคนแค่ร้อยกว่าคน ทำไมถึงมีระบบราชการที่ยุ่งยากขนาดนี้! ซื่อเฟยเจ๋อบ่นในใจ แต่ปากกลับพูดว่า "งั้นข้าน้อยจะกลับไปรอฟังข่าว!"

"เร็วสุดก็พรุ่งนี้ ช้าสุดก็สองสามวัน!" ฮวาอู่ซวงหันไปพูดกับหยินเทียเหยียน "ดึกมากแล้ว พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!"

"ขอรับ! ท่านอาจารย์อาฮวา!" หยินเทียเหยียนกับซื่อเฟยเจ๋อคำนับพร้อมกัน แล้วเดินออกจากศาลาถ่ายทอดวิชา

หลังจากที่พวกเขาทั้งสองเดินจากไป เหลิงชิงชิวก็เดินออกมาจากห้องข้างๆ และถามว่า "ท่านคิดอย่างไร"

ฮวาอู่ซวงครุ่นคิดแล้วตอบ "ตามที่ข้าสังเกต ซื่อเฟยเจ๋อไม่น่าจะโกหก"

"ใช่!" เหลิงชิงชิวนั่งลงบนเก้าอี้ที่ฮวาอู่ซวงเปิดทางให้ เล่นกับที่ทับกระดาษหยกเทียนหวง พลางพูดว่า "ข้าฟังอย่างละเอียดอยู่ข้างๆ ตอนที่ซื่อเฟยเจ๋อพูด การเต้นของหัวใจ ลมหายใจ และความเร็วในการพูดล้วนเป็นปกติ"

"ตอนที่ตอบคำถาม เขามีตรรกะที่รัดกุม หลายจุดที่พวกเราสงสัย เขาก็อธิบายได้อย่างชัดเจน"

"คนรุ่นหลังมีพรสวรรค์ถึงเพียงนี้ ช่างน่าอิจฉาจริงๆ" เหลิงชิงชิวกล่าว

"ถ้าอย่างนั้นก็ปล่อยไว้ไม่ได้! ต้อง..." ฮวาอู่ซวงพูด

"ยังไม่ต้องรีบร้อน ดูไปก่อน ถ้าเป็นศิษย์อัจฉริยะจริงๆ รับเข้ามาก็ไม่เป็นไร! สำนักต้องมีการสืบทอด มีศิษย์อัจฉริยะเข้ามาเยอะๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย!" เหลิงชิงชิวถอนหายใจพูด "เหลิงเชียนเย่คิดแต่เรื่องตำแหน่งประมุขสำนัก ที่ไหนจะเข้าใจความรับผิดชอบของประมุขสำนัก!"

"เหลิงเชียนเย่เป็นเช่นนี้ ประมุขสำนักจะแจ้งเจ้าเมืองหรือไม่"

"เจ้าเมืองค่อนข้างสนับสนุนข้า! เหลิงเชียนเย่ทำผิดข้อห้ามของเจ้าเมืองแล้ว! พวกเราที่เป็นสุนัขรับใช้ เว้นแต่จะใช้กำลังทำลายวิถี กลายเป็นยอดฝีมือขั้นบุคคลแท้ ถึงจะสามารถนั่งคุยกับเจ้าเมืองอย่างเท่าเทียมได้! ยุทธภพเป็นที่ที่ต้องพูดด้วยกำลัง!" เหลิงชิงชิวพูดอย่างเยาะเย้ย

"หลังจาก 'คัมภีร์พรากวิญญาณไร้สำนึก' ผ่านการฝึกแบบผิดๆ ถูกๆ ของซื่อเฟยเจ๋อ แล้วนำมาอธิบายใหม่ ข้ากลับมีความเข้าใจในใจ" เขาพูดต่อ

"ข้าจะเตรียมห้องสงบให้ประมุขสำนัก และจะคอยคุ้มกันให้ประมุขสำนัก!"

"ถ้าเช่นนั้นก็ต้องรบกวนเจ้าแล้ว!"

"ประมุขสำนักพูดมากไปแล้ว!"

เหลิงชิงชิวมาถึงห้องสงบที่ฮวาอู่ซวงเตรียมไว้ให้ นั่งขัดสมาธิ นึกถึงความดีใจเมื่อหลายปีก่อนที่ได้รับ 'คัมภีร์พรากวิญญาณไร้สำนึก' ความยากลำบากหลายปีในการไขความลับของคัมภีร์นี้…จนกระทั่งวันนี้ได้ฟังซื่อเฟยเจ๋ออธิบายถึงได้เกิดความรู้สึกในใจ

เขาหลับตาลง เข้าสู่สภาวะสมาธิในทันที ในห้วงจิตมีดวงอาทิตย์ดวงหนึ่งส่องแสงสว่างจ้า และดวงจันทร์ดวงหนึ่งส่องแสงเย็น

นี่คือตัวแทนของหยินหยางแห่งฟ้าดิน! เพียงแต่ตอนนี้ทั้งตะวันและจันทราต่างก็แตกร้าวไม่สมบูรณ์ ดูอ่อนแรง

นั่นเป็นผลจากการที่เขาบังคับฝ่าด่านสู่ขั้นวงจรสวรรค์เมื่อหลายปีก่อน ทำให้จิตวิญญาณบาดเจ็บ สูญเสียแก่นสาร จิตใจได้รับบาดเจ็บ ส่งผลให้พลังวิชาตกต่ำ ไม่สามารถบุกทะลวงสู่ขั้นบุคคลแท้ได้

หนทางข้างหน้าของเขาถูกตัดขาด ได้แต่รอความตาย! โชคดีที่ยังมี 'คัมภีร์พรากวิญญาณไร้สำนึก' เขาจินตนาการกระจกบานหนึ่ง มองเห็นตัวเองผ่านกระจก

ในกระจกค่อยๆ ปรากฏภาพของเขาที่อ่อนวัยกว่า นั่นคือลักษณะของเขาในวัยหนุ่ม และเป็นช่วงที่เขารุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิต

เขาทำตาม 'คัมภีร์พรากวิญญาณไร้สำนึก' และนึกถึงคำพูดของซื่อเฟยเจ๋อ เตรียมแยก "จิต" ออกเป็นสอง ส่วนหนึ่งจินตนาการถึงดวงอาทิตย์ อีกส่วนจินตนาการถึงดวงจันทร์ เพื่อค่อยๆ ซ่อมแซมความเสียหายที่เขาได้รับในอดีต

ผลลัพธ์คือ... เขากลับทำไม่ได้! ???

เขารู้สึกสงสัย ทุกอย่างราบรื่นมาจนถึงขั้นนี้ แต่กลับติดขัดตรงนี้

แยกจิตเป็นสอง ใช้จิตสองอย่างพร้อมกัน ทำไม่ได้เลย! นึกถึงคำพูดของซื่อเฟยเจ๋อ ดูเหมือนว่าขั้นตอนนี้ต้องเผชิญหน้ากับตัวเองในกระจก รู้จักตัวเอง จนกระทั่งทั้งในกระจกและนอกกระจกล้วนเป็นตัวเอง เป็น "จิต" ทั้งหมด ถึงจะนับว่าสำเร็จ

เหลิงชิงชิวจินตนาการจนถึงเที่ยงคืน ก็ยังไม่สามารถกลายเป็นตัวเองในกระจก และไม่สามารถแยกจิตได้!

ซื่อเฟยเจ๋อฝึกได้ แต่เขากลับฝึกไม่ได้?

ไม่น่าจะเป็นไปได้นะ!

อาจจะมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง! มาถึงขั้นนี้ เขายังมีโอกาสถอนตัว!

.

หนิงหนิง Talk 🍎

'คัมภีร์พรากวิญญาณไร้สำนึก'《无想神别诀》 และ 'คัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา' 《日月同心诀》 เป็นคัมภีร์เดียวกัน

คัมภีร์ดวงใจตะวันจันทรา เป็นชื่อที่ใช้เรียกในสำนักซึ่งเป็นการเรียกชื่อเพื่อปกปิดที่มาที่แท้จริงของคัมภีร์

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด