บทที่ 31 เลื่อนขั้นสู่ระดับบรอนซ์ การเรียกครั้งที่สอง!

การสอบคัดเลือกที่ทุกคนรอคอยจบลงแล้ว และตอนนี้งานรับสมัครนักศึกษาก็กำลังดำเนินไปอย่างเต็มที่

มหาวิทยาลัยต่างๆ ต่างทุ่มเทสุดกำลังเพื่อรับนักศึกษาใหม่

ในบรรดามหาวิทยาลัยทั้งหมด ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดก็คือมหาวิทยาลัยเซินอู่

มันเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ที่ได้ผลิตนักเรียกสัตว์อสูรที่ทรงพลังมากมาย และมีส่วนสำคัญในภารกิจปราบปีศาจ

อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขการรับสมัครของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เข้มงวดที่สุด

เฉพาะผู้ที่ติดอันดับ 300 คนแรกในการสอบคัดเลือกเท่านั้นที่จะได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยเซินอู่

นอกจากนี้ ยังมีผู้สมัครบางคนที่มีผลงานโดดเด่นแต่ไม่ได้ติดอันดับ 300 คนแรก รวมถึงผู้สมัครที่มีพลังเรียกพิเศษ ซึ่งจะได้รับจดหมายเชิญจากมหาวิทยาลัย

มีที่นั่งทั้งหมด 500 ที่ ไม่มากไปไม่น้อยไป

โควตานี้ถือว่าน้อยมาก เพราะมีผู้สมัครถึง 50,000 คน แต่อัตราการรับเข้าเรียนมีเพียง 1% เท่านั้น

ถ้าคุณไม่ใช่หนึ่งในคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุด คุณก็จะไม่สามารถเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเซินอู่ได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับลิน เต้าเทียนเลย

ในเมื่อเขาได้อันดับหนึ่งและเป็นคนที่อธิการเซีย ชิงเฟิงเลือก มันคงแปลกถ้าเขาไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยเซินอู่

ดังนั้น เขาจึงทุ่มเทเวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น

วันหนึ่ง เขาได้รับข่าวดีว่าน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมระยะที่สองได้รับการพัฒนาเสร็จแล้ว

ลิน เต้าเทียนดีใจมาก "จริงเหรอครับ? ศาสตราจารย์จาง คุณไม่ได้โกหกผมใช่ไหม?"

ทางโทรศัพท์ ศาสตราจารย์จาง เทียนเต๋อก็ตื่นเต้นเช่นกัน "แน่นอนว่าจริงครับ คุณลิน! เราจะกล้าโกหกคุณเรื่องนี้ได้ยังไง? เราไม่เพียงแต่พัฒนามันเสร็จแล้ว แต่เรายังใช้เซลล์ของคุณทำการทดลองหลายครั้ง และประสบความสำเร็จทุกครั้งด้วย!"

ลิน เต้าเทียนดีใจจนตัวลอย เขากระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้น "เยี่ยมมากเลย!"

การพัฒนาน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมระยะที่สองสำเร็จ หมายความว่าเขาสามารถทะลายขีดจำกัดได้อีกครั้งและจะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

"ศาสตราจารย์จาง ผมจะไปที่ห้องแล็บเดี๋ยวนี้เลย!"

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลิน เต้าเทียนมาถึงห้องปฏิบัติการ

นักวิจัยทุกคนอยู่ที่นั่น

จาง เทียนเต๋อชี้ไปที่หลอดสารสีฟ้าและพูดอย่างภาคภูมิใจ "คุณลิน นี่คือน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมระยะที่สองที่เราพัฒนาขึ้นมาสำหรับคุณ! ตามข้อมูลการทดลอง น้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมหลอดนี้มีประสิทธิภาพดีเท่ากับของคุณเลย"

"ระดับการหลอมรวมยีนสูงมาก ถึง 97% เลยนะครับ!"

ยิ่งระดับการหลอมรวมของน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมสูงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีการต่อต้านน้อยลงและให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเท่านั้น

น่าเสียดายที่ผลการพัฒนาน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมมักจะลดลงเรื่อยๆ

ระดับการหลอมรวมของน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมในระยะแรกสามารถสูงถึงกว่า 90% และระดับการหลอมรวมของน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมในระยะที่สองสามารถสูงถึงกว่า 80% ซึ่งถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ระดับการหลอมรวมของน้ำยาวิวัฒนาการในมือของศาสตราจารย์จาง เทียนเต๋อนั้นสูงถึง 97% ซึ่งต่ำกว่าน้ำยาในระยะแรกเพียง 1% เท่านั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่ง

ลิน เต้าเทียนมองดูน้ำยาวิวัฒนาการหลอดนี้และพูดอย่างใจร้อน "ศาสตราจารย์จาง ผมฉีดได้เลยไหมครับ?"

จาง เทียนเต๋อหัวเราะ "ได้ทุกเมื่อเลยครับ!"

"ผมอยากฉีดตอนนี้เลย!"

ดังนั้น จาง เทียนเต๋อและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จึงเริ่มยุ่งวุ่นวาย

ก่อนอื่น พวกเขาตรวจสอบสภาพร่างกายของลิน เต้าเทียน หลังจากพบว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็เตรียมรัดเขาไว้กับเตียง

"เดี๋ยวก่อน!"

ลิน เต้าเทียนหยุดทุกคนไว้ แล้วหยิบตุ๊กตาหมีแพนด้าขึ้นมาลูบแรงๆ

"ผมพร้อมแล้วครับ เริ่มได้เลย!"

หลังจากทุกอย่างพร้อม ศาสตราจารย์จาง เทียนเต๋อก็ค่อยๆ ฉีดน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมเข้าสู่ร่างกายของลิน เต้าเทียน

ตอนแรก ลิน เต้าเทียนรู้สึกเหมือนมีมดคลานไปทั่วร่างกาย และรู้สึกเหมือนถูกไฟฟ้าแรงต่ำกระตุ้น ราวกับมีสวิตช์บางอย่างเปิดขึ้น และทั้งร่างกายก็ชาไปหมด ความรู้สึกคุ้นเคยและสบายตัวกลับมาอีกครั้ง

ราวกับมีใครกำลังนวดทุกเซลล์ในร่างกายของเขา ลิน เต้าเทียนอยากจะครางออกมาด้วยความสุข

ทางด้านจาง เทียนเต๋อมองดูข้อมูลต่างๆ บนหน้าจอ สีหน้าของเขายิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ "ข้อมูลทั้งหมดปกติ! พระเจ้า มันเป็นการหลอมรวมที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง! เป็นการหลอมรวมที่สมบูรณ์แบบสองครั้งติด นี่มันปาฏิหาริย์ชัดๆ!"

"ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่แค่ปาฏิหาริย์ แต่เป็นมหัศจรรย์!!!"

"มันคือมหัศจรรย์ที่พวกเราสร้างขึ้นมา!!!"

เสียงโห่ร้องดังสนั่นหวั่นไหวในห้องปฏิบัติการ

หลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมง ความรู้สึกสบายตัวก็หายไป และลิน เต้าเทียนค่อยๆ ลืมตาขึ้น

"คุณลิน ตอนนี้คุณรู้สึกยังไงบ้างครับ?" จาง เทียนเต๋อถามอย่างตื่นเต้น

ลิน เต้าเทียนมองดูมือที่ถูกรัดไว้ของเขาและพูดพร้อมรอยยิ้ม "รู้สึกดีมากครับ! ทั้งร่างกายเต็มไปด้วยพลัง และผมรู้สึกมีพลังไม่หมดสิ้น ผมอยากจะต่อสู้เดี๋ยวนี้เลย!"

"สถานการณ์ดูดีมาก เรามาทดสอบกันเลยดีกว่า คุณลิน ตามผมมาครับ!"

สามนาทีต่อมา พวกเขามาถึงสถานที่ทดสอบ

อันดับแรกคือการยกน้ำหนัก

ลิน เต้าเทียนขอให้คนเพิ่มน้ำหนักเป็น 2,000 กิโลกรัมโดยตรง

ใช้แรงเพียงเล็กน้อยทั้งสองมือ เขาก็ดันมันขึ้นได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้สึกถึงแรงต้านมากนัก

ดังนั้น ผู้คนจึงเพิ่มแผ่นน้ำหนักต่อไปเรื่อยๆ

เมื่อน้ำหนักถึง 3300 กิโลกรัม เขาถึงรู้สึกเหนื่อย

"พอแล้ว! ยกน้ำหนัก 3300 กิโลกรัม บันทึกไว้เร็ว!" ศาสตราจารย์จางพูดอย่างตื่นเต้น

ต่อไปคือการย่อตัว

ลิน เต้าเทียนเริ่มทดลองที่ 3,000 กิโลกรัม เมื่อถึง 3,800 กิโลกรัม เขารู้สึกว่าถึงขีดจำกัดแล้ว

"ย่อตัว 3800 กิโลกรัม!" ศาสตราจารย์จางบันทึกข้อมูลอย่างตื่นเต้น

รายการที่สามคือการยกน้ำหนักจากพื้น ลิน เต้าเทียนทำได้ตามคาด โดยทำได้ถึง 3,600 กิโลกรัม

จากนั้นก็เป็นการวิ่ง 100 เมตร ลิน เต้าเทียนทำลายขีดจำกัดและวิ่ง 100 เมตรในเวลาเพียง 2.82 วินาทีเท่านั้น!

...

ยังมีการทดสอบอีกหลายอย่าง ยิ่งทดสอบก็ยิ่งได้รับความประหลาดใจมากขึ้น!

ศาสตราจารย์จางมองดูข้อมูลในมือและยิ้มกว้างจนแก้มปริ "คุณลิน ผลของน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมระยะที่สองนี้น่าทึ่งมาก! ตามข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาจนถึงตอนนี้ สมรรถภาพทางกายของคุณตอนนี้เทียบเท่ากับ... ปีศาจระดับบรอนซ์ขั้น 3!"

"จริงเหรอครับ?" ลิน เต้าเทียนก็หัวเราะอย่างมีความสุขเช่นกัน

ใช้เวลาเพียงชั่วโมงเดียว สมรรถภาพทางกายของเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว ซึ่งเทียบเท่ากับปีศาจระดับบรอนซ์ขั้น 3!

ถ้าเพิ่มวิชายุทธเต้าเทียนเข้าไปด้วย เขาจะไม่สามารถแข่งขันกับปีศาจระดับบรอนซ์ขั้น 6 ได้เลยหรือ?

แม้ว่าลิน เต้าเทียนจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขาก็ยังตกใจกับพละกำลังของตัวเองและความเร็วในการพัฒนาที่เหนือมนุษย์!

ผู้สมัครส่วนใหญ่ในช่วงเวลาเดียวกันยังไม่ได้ทะลายขีดจำกัดระดับธรรมดาขั้น 5 ด้วยซ้ำ!

และเขาก็มีพลังของระดับบรอนซ์ขั้น 6 แล้ว เขานำหน้าคนอื่นไปไกลมาก เขาจะเล่นอย่างไรต่อไปดีล่ะ?

แม้แต่เหลิง ชิงเยว่ ที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะ ก็คงจะตกใจเมื่อเห็นพลังปัจจุบันของเขา!

"นี่เป็นเพียงขั้นต้นเท่านั้น! เมื่อคุณฉีดน้ำยาวิวัฒนาการพันธุกรรมนี้ต่อไปเรื่อยๆ เรามั่นใจมากว่าพลังของคุณจะถูกผลักดันไปถึงจุดสูงสุดของระดับบรอนซ์! ไม่แน่ว่าอาจจะถึงระดับซิลเวอร์ก็ได้!" ศาสตราจารย์จางพูดอย่างตื่นเต้น

"ผมก็มั่นใจมากเช่นกันครับ!"

หลังจากนัดหมายกับศาสตราจารย์จางว่าจะมาทุกสามวัน ลิน เต้าเทียนก็รีบไปที่แท่นเรียกสัตว์อสูรอย่างตื่นเต้น

เพราะเขาต้องการเรียกสัตว์อสูรตัวที่สอง

นี่เป็นกฎที่บลูสตาร์กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นใคร ทุกครั้งที่พลังทะลายขีดจำกัดขึ้นไปอีกระดับ จะมีโอกาสในการเรียกสัตว์อสูรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งครั้ง

มีคนมากมายที่อาศัยโอกาสในการเรียกสัตว์อสูรครั้งที่สองเพื่อเปลี่ยนชะตาชีวิตของตัวเอง

"แม้ว่าหมีแพนด้าจะดีมาก นุ่มนิ่มและน่ารัก แต่มันไม่ได้ให้พลังอะไรเลย! ผมหวังว่าครั้งนี้ผมจะโชคดีกว่าเดิม และสามารถเรียกสัตว์อสูรที่ทรงพลังมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้ของผม!"

(จบบท)