บทที่ 110 ชีวิตอันบ้าคลั่ง!
บทที่ 110 ชีวิตอันบ้าคลั่ง!
ได้ยินคำพูดของเย่เหริน เธอค่อยๆยื่นแขนที่บิดเบี้ยวออกไปหาเขาอย่างเชื่องช้าและเก้ๆกังๆ
ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
เจียงซุ่ยยื่นมือขวาออกไปโดยสัญชาตญาณ แต่ก็หยุดชะงักกลางอากาศ
เพราะเธอเห็น...
แขนของสัตว์ประหลาดนั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่ลึกและตื้น ผิวหนังเหมือนเปลือกไม้แห้ง และข้อต่อก็บิดงอเป็นมุมที่ผิดธรรมชาติ
เดี๋ยวก่อน!
พวกเขากำลังจะสัมผัสกัน!
ทุกคนเห็นดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน โดยเฉพาะผู้ถือโคมที่เคยประสบกับการเปลี่ยนแปลง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะเตือนเย่เหรินเสียงดัง
"เธอจะดูดกลืน...พี่เย่หรือเปล่า?"
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาสำคัญนี้ เย่เหรินทำสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง
เขาไม่เพียงแต่ไม่ถอยกลับ แต่ยังก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง ดวงตาของเขาอ่อนโยน ราวกับว่าเขามองทะลุผ่านรูปลักษณ์ที่น่ากลัวนั้นไปสู่ความเหงาและความปรารถนาอันไร้ขอบเขต
เขากางแขนออกอย่างแผ่วเบาและโอบรอบร่างที่บิดเบี้ยวของเธอโดยไม่ลังเล
การเคลื่อนไหวของเขานุ่มนวลแต่ทรงพลัง และเขาก็โอบเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา
ทุกคนเบิกตากว้างเล็กน้อย กลัวว่าจะได้เห็นโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจแก้ไขได้ในวินาทีต่อมา
อย่างไรก็ตาม สิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
เย่เหรินไม่ได้ถูกเธอหลอมรวมเป็นสัตว์ประหลาด ซึ่งก็ปกติดี
อย่าลืมสิว่าเย่เหรินก็เหมือนมีสูตรโกงมาตลอด สถานะของมลทินแห่งความกลัวนั้นสูงกว่าอำนาจของมลทินแห่งห้วงลึกเสียอีก
ในดวงตาของสัตว์ประหลาดนั้น จุดแสงสลัวส่องประกายระยิบระยับ ราวกับมีน้ำตาซ่อนอยู่
ดวงตาสีขาวที่ว่างเปล่าของเธอสั่นเทาอย่างไม่น่าเชื่อในขณะนี้
แขนของเธอก็กอดกลับอย่างช้าๆ แม้ว่าการเคลื่อนไหวนั้นจะเป็นเรื่องยากสำหรับร่างกายที่ผิดรูปของเธอ
แต่ความปรารถนาที่จะตอบสนองเย่เหรินนั้นเหนือกว่าข้อจำกัดทางกายภาพทั้งหมด...
ทุกสิ่งรอบตัวดูเหมือนจะหยุดนิ่ง เหลือเพียงอ้อมกอดอันน่าอัศจรรย์ระหว่างคนทั้งสอง
ทุกคนแสดงสีหน้าไม่เชื่อ
ยังคงมีกลิ่นเหม็นและคาวเลือดอยู่ในอากาศ แต่ภายใต้อ้อมกอดของเย่เหรินและสัตว์ประหลาดนั้น ดูเหมือนว่ามันจะไม่ยากที่จะยอมรับอีกต่อไป
กำปั้นที่กำแน่นของเจียงซุ่ยค่อยๆคลายออก และความกังวลในดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นการไตร่ตรอง
"พี่เย่...แม้แต่สัตว์ประหลาดในห้วงลึกเขาก็กอดไม่ปล่อยเหรอ...?"
"ชู่! พูดไร้สาระอะไร พี่เย่เป็นคนแบบนั้นเหรอ?"
"หุบปากนะพวกนาย หัวหน้าเจียงจะโกรธเอา!"
อ้อมกอดของเย่เหรินเหมือนแสงอบอุ่นที่เปล่งออกมาจากโคมโบราณแห่งห้วงลึก ส่องทะลุความมืดมิดรอบๆ
สัตว์ประหลาดตัวสั่นเล็กน้อยในอ้อมแขนของเขา รอยแผลเป็นหยาบกร้านบนผิวหนังของเธอดูเหมือนจะบอกเล่าเรื่องราวของความเหงาและความเจ็บปวดที่ไม่มีใครรู้
ไหล่ของเธอเริ่มกระตุกเบาๆ
แต่จากการเคลื่อนไหวเล็กๆน้อยๆนั้น เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้งที่ถูกระงับ
"ฮือ...ฮือๆ..."
ราวกับว่าเป็นครั้งแรกในรอบนานที่เธอได้พบที่หลบภัยที่เธอพึ่งพาได้
น้ำตาที่กลั้นไว้ไม่อยู่ไหลรินอาบแก้ม เธอสะอื้นและร้องไห้อย่างไม่อาจควบคุม
เธอพยายามใช้แขนที่บิดเบี้ยวโอบกอดเย่เหรินให้แน่นขึ้น ปลายนิ้วจิกเข้าไปในเสื้อผ้าของเขา ราวกับกลัวว่าไออุ่นนี้จะหายไปเหมือนภาพลวงตา
ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่กล้าออกแรงมากเกินไป กลัวว่าการกระทำของเธอจะทำร้ายคนที่มอบความอบอุ่นให้เธอ
มือที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นในตอนนี้กลับดูอ่อนโยนอย่างประหลาด
เธอค่อยๆลูบแผ่นหลังของเย่เหรินอย่างระมัดระวัง ราวกับกำลังยืนยันว่าความอบอุ่นนี้เป็นของจริง
ลมรอบข้างดูเหมือนจะสงบลง มีเพียงเสียงสะอื้นเบาๆของสัตว์ประหลาดที่ดังก้องอยู่ในอากาศ พร้อมกับเสียงใบหญ้าเสียดสีพื้นเบาๆ
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่ว่าจะด้วยอารมณ์แบบไหน ก็อดไม่ได้ที่จะค่อยๆผ่อนลมหายใจ
จนกระทั่งเจียงซุ่ยเป็นคนทำลายบรรยากาศ
"พอได้แล้ว นี่ยังจะกอดกันอีกนานไหม?!"
เย่เหรินกระแอมเบาๆ แล้วค่อยๆคลายอ้อมกอด ร่างที่บิดเบี้ยวก็ค่อยๆถอยห่างออกไป
ทุกคนจ้องมองเธอ ไม่กล้าผ่อนคลายแม้แต่น้อย
"ใจเย็นๆ ไม่เป็นไรแล้ว" เย่เหรินหันไปบอกเพื่อนๆว่าอย่ามองเขาด้วยสายตาแบบนั้น
จากนั้นเย่เหรินก็อธิบายว่า
"ตอนนี้ทุกคนคงมีคำถามมากมาย ผมรู้ว่าพวกคุณใจร้อน แต่อย่าเพิ่งรีบ ฟังผมก่อนนะ"
"ผู้หญิงคนนี้ชื่อซากุไร มินาโตะ อย่างที่พวกคุณเห็น เธอไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาดห้วงลึกมาตั้งแต่แรก แต่เดิมเธอเป็นผู้มีพลังพิเศษจากญี่ปุ่น"
เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
คนญี่ปุ่นเหรอ?
"รัฐบาลญี่ปุ่ถูกนยุยงโดยลัทธิชั่วร้ายในประเทศ ได้เลือกเด็กสาวที่มีพลังพิเศษสิบคนอย่างโหดเหี้ยม พยายามใช้พลังของโคลนห้วงลึกเพื่อสร้างอาวุธสัตว์ประหลาดที่เหนือธรรมชาติ"
"สิ่งนั้นถูกเรียกว่า - แผนโอบกอดห้วงลึก"
"และซากุไร มินาโตะ เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวในสิบคนนี้ และยังเป็นผลลัพธ์สุดท้ายของการทดลอง"
เมื่อเย่เหรินพูดถึงตรงนี้ สายตาของเขาก็มองไปที่ซากุไร มินาโตะอย่างซับซ้อน
เธอคนนั้นก้มหน้าลง ร่างกายที่ถูกกัดกร่อนด้วยพลังห้วงลึกดูเหมือนจะสั่นเล็กน้อย เผยให้เห็นความเจ็บปวดอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
สมาชิกในทีมเงียบกันหมด ทุกคนขมวดคิ้ว
"พวกลัทธินี่มันเลวจริงๆ..."
"โห้ พวกมันบ้าคลั่งมานานแล้วไม่ใช่เหรอ!"
"เอาประชาชนมาทำการทดลอง แม่งเอ๊ย พวกสารเลวนี่มันน่าตายจริงๆ!"
เจียงซุ่ยเม้มริมฝีปากแน่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเห็นใจและความโกรธ
"ฉันเคยได้ยินพ่อพูดว่าลัทธิบางลัทธิในญี่ปุ่นมีปัญหาทางสมอง คนระดับสูงหลายคนก็โดนหลอกให้เข้าลัทธิ แต่ไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ!"
เย่เหรินถอนหายใจแล้วพูดต่อ
"ใช่ เธอเป็นแค่วัยรุ่นผู้บริสุทธิ์อายุสิบห้าปีเท่านั้นเอง..."
เมื่อได้ยินอายุของเธอ ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งรู้สึกโกรธและอึดอัดใจ
สิบห้าปี นั่นยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยไม่ใช่เหรอ?
ไอ้พวกลัทธิคลั่งในประเทศญี่ปุ่นนี่มันเลวจริงๆ แม้แต่เด็กก็ไม่เว้น!
หลังจากเย่เหรินถอนหายใจยาว ทุกคนก็ตกอยู่ในความเงียบสงัด พยายามทำความเข้าใจกับเรื่องราวอันน่าตกใจที่ได้ยิน
แสงจันทร์สาดส่องผ่านเมฆบางๆทอดเงาลงบนทุกคน
บ่อน้ำร้างนั้นดูลึกล้ำน่ากลัว
ทุกคนรู้สึกหนาวสะท้าน ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจพวกเขาอีกครั้ง
"พวกคุณคิดถูกแล้ว นี่คือสถานที่ที่เธอถูกทดลอง..."
เย่เหรินมองไปยังบ่อน้ำร้างด้วยแววตาเจ็บปวด พวกลัทธิใจโหดเหี้ยมเหล่านั้นไร้ซึ่งความเมตตาสงสาร
พวกมันเหมือนปีศาจในคราบมนุษย์
จับซากุไร มินาโตะที่บาดเจ็บสาหัสโยนลงไปในบ่อน้ำลึกที่เต็มไปด้วยโคลนตม
ถ้าซากุไร มินาโตะตาย พวกมันก็จะจากไปอย่างไร้เยื่อใย แต่ถ้าเธอรอด มันจะยิ่งทำให้พวกมันตื่นเต้นกับความสำเร็จของการทดลอง
พวกมันปล่อยให้ซากุไร มินาโตะ วัยเพียง 15 ปี ร้องไห้ขอความช่วยเหลืออยู่ในบ่อน้ำ
แต่ไม่มีใครมาช่วยเธอ
หลังจากทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส ปาฏิหาริย์จากห้วงลึกก็เกิดขึ้นกับเธอ
เธอตายแล้ว...
ซากุไร มินาโตะในฐานะมนุษย์ได้ตายไป แต่ซากุไร มินาโตะ ในฐานะสัตว์ประหลาดจากห้วงลึกได้ถือกำเนิดขึ้นมา!
ในตอนนี้ ซากุไรขดตัวอยู่ข้างๆเย่เหริน
เงาของเธอดูอ้างว้างยิ่งขึ้นท่ามกลางแสงเงา ดวงตาที่ไร้แววชีวิตนั้นว่างเปล่าและเลื่อนลอย
เย่เหรินถอนหายใจเพื่อทำลายบรรยากาศเศร้าโศก แล้วพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า
"หลังจากที่เธอเปลี่ยนไป เธอมีพลังพิเศษในการแพร่กระจายคำสาป สื่อใดๆที่บันทึกเรื่องราวของเธอจะกลายเป็นแหล่งกำเนิดคำสาป"
"เมื่อมีคนดูสื่อเหล่านั้น มันจะกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกแห่งความจริงและมิติอื่น ดึงผู้คนเข้าไปในพื้นที่คำสาปนี้"
เหตุการณ์ซาดาโกะที่เป็นข่าวใหญ่โตในญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้...
ทั้งหมดก็เป็นเพราะซากุไร มินาโตะ