บทที่ 104 ประหาร! แนวคิดถูกทำลายล้าง!
บทที่ 104 ประหาร! อำนาจแห่งกรรมถูกทำลายล้าง!
เย่เหรินพูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
"พี่สาวครับ หยุดเล่นได้แล้ว ผมไม่มีทางยอมทำเรื่องแบบนั้นแน่นอน"
ไม่มีทางเด็ดขาด
ยวี้หลิงหลง ไม่รู้ว่าเธอซาบซึ้งจริงๆหรือตั้งใจจะแหย่เย่เหริน เธอแสร้งทำเป็นอ่อนแอและคร่ำครวญว่า
"น้องเย่เป็นห่วงพี่สาวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย? พี่สาวจะร้องไห้แล้ว~"
เย่เหรินรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขาเอื้อมมือไปคว้าข้อมือของยวี้หลิงหลง
"อย่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของผม แล้วแอบทำอะไรเสียสละเองนะครับ ผมเกลียดพล็อตเรื่องแบบนี้ที่สุด"
มันควรจะเป็นเรื่องราวที่ผ่อนคลายไม่ใช่เหรอ
ทำไมต้องมีคนตายเพื่อสร้างโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้า
เลิกทำอะไรน้ำเน่าได้ไหม?
ยวี้หลิงหลงกระพริบตา
"อ๊ะ โดนจับได้แล้วสิ..."
เธอเพิ่งจะเริ่มเปลี่ยนแปลงมลทินความคิดของผู้โดยสาร แต่เย่เหรินก็ขัดจังหวะเสียก่อน
เย่เหรินเงยหน้าขึ้นทันที
"หรือให้ผมทำเองดีกว่า ไม่ว่ายังไงผมก็เป็นผู้ผิดปกติระดับจินตภาพคนเดียว มลทินความคิดไม่น่าจะสู้มลทินความกลัวของผมได้"
ข้อเสนอที่เย้ายวนนี้
ได้รับการคัดค้านจากทุกคนในทันที ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเลย
เจียงซุ่ยเป็นคนแรกที่พูดว่า "ไม่ได้!"
ยวี้หลิงหลง หวังผิงอัน และผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆก็ปฏิเสธเช่นกัน
"อย่าแม้แต่จะคิด!"
"ทุกคนในที่นี้สามารถเสียสละได้ ยกเว้นนาย" หวังผิงอันพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
ยวี้หลิงหลงถอนหายใจเบาๆ
"งั้นก็ให้พี่สาวทำเองดีกว่า ยังไงก็ตาม พี่ก็ไม่จำเป็นต้องตายสักหน่อย แค่มีโอกาสเท่านั้นเอง ถ้าพี่สาวมีอะไรงอกออกมาจริงๆ ความปรารถนาสุดท้ายของพี่สาวคือให้น้องเย่กินมันนะ"
เย่เหรินทำหน้าเรียบเฉย "...อย่าเล่นแบบนี้สิครับ เชื่อฟังผมหน่อย"
สถานการณ์ดูเหมือนจะถึงทางตัน ไม่มีทางแก้ไขที่ดีกว่านี้แล้วหรือ
เจียงซุ่ยยกมือขึ้นในเวลานี้
"งั้น...ฉันลองเรียกราชินีบัวแดงออกมาดูไหมคะ?"
ยวี้หลิงหลง "?"
หวังผิงอัน "?"
ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่นๆ "?"
พวกเขาเพิ่งได้ยินอะไร เป็นชื่อของจ้าวแห่งห้วงลึกอีกองค์หนึ่งงั้นเหรอ!?
เย่เหรินเบ้ปาก
"เรียกสหายรักออกมายังจะดีกว่า พี่ไม่ชอบราชินีบัวแดง สมัยนี้รู้ไหมว่าตัวละครซึนเดเระเขาไม่ฮิตแล้ว ทุกคนชอบคนตรงๆเป็นมิตรแบบเพื่อนรักพี่มากกว่า"
ทุกคน "(ΩДΩ)?"
ทุกคนตกใจ "พวกเธอสองคนคุยอะไรกันน่ะ?"
"เมื่อกี้เรายังคุยกันเรื่องจะกำจัดมลทินความคิดยังไงอยู่เลย"
"อยู่ดีๆทำไมเปลี่ยนไปคุยเรื่องจ้าวแห่งห้วงลึก แล้วก็เปลี่ยนจากจ้าวห้วงลึกไปเป็นเรื่องซึนเดเระกับตรงไปตรงมาอะไรนั่นอีกแล้ว"
ทันใดนั้น เย่เหรินก็เหมือนนึกอะไรออก เขาตบมือดังป๊าบ พร้อมกับมีหลอดไฟสว่างวาบขึ้นเหนือหัว
"อ๊ะ! ผมว่าพอจะมีวิธีแล้วล่ะ!"
เย่เหรินหันไปถามยวี้หลิงหลง "ถ้าทั้งหมดนี้เกิดจากมลทินความคิด งั้นทำไมเราไม่จัดการที่ต้นตอมันเลยล่ะ?"
ยวี้หลิงหลงทำหน้างง "ห๊ะ?"
เย่เหรินอธิบายให้เธอฟัง "พี่สาวสามารถใช้พลังพิเศษส่งคำสั่งจิตใต้สำนึกให้คนอื่นเข้าใจ 'พายยักษ์' ผิดเพี้ยนไป เช่น เราสามารถทำให้พวกเขาเชื่อว่า..."
" 'พายยักษ์' ที่จริงแล้วอ่อนแอมาก แค่เปลี่ยนความคิดของพวกเขา ที่เหลือก็ให้ผมจัดการเอง"
ยวี้หลิงหลงฟังจบ ตากลมโตเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ ก่อนจะค่อยๆอ้าปากค้าง
"ว้าว น้องเย่ น้องนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!"
ยวี้หลิงหลงได้สติ เธอโผเข้ากอดเย่เหรินอย่างตื่นเต้น ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ เธอกดหัวเขาลงบนหน้าอกอันใหญ่โตของเธอ
อย่างที่รู้กันว่ามันคือรางวัลที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชาย
เจียงซุ่ย "..."
ซึ่งการกระทำของยวี้หลิงหลง ก็ทำให้สีหน้าของเจียงซุ่ยดูหม่นหมองลงเล็กน้อย
จากนั้นยวี้หลิงหลงก็หลับตาลง ยกมือขึ้นเล็กน้อย ร่างกายของเธอค่อยๆปล่อยแสงเรืองรองออกมา แสงนั้นส่องไปทั่วทั้งรถ บรรจุผู้โดยสารทุกคนเอาไว้
[คำสั่งจิตใต้สำนึกหมู่]
"มันไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่เราคิด เพราะมันบาดเจ็บสาหัส มันกำลังจะตาย"
เสียงของยวี้หลิงหลงดังขึ้นในหูของทุกคน ซึมลึกเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
ภายใต้คำสั่งของยวี้หลิงหลง โลกภายในจิตใจของผู้โดยสารก็เหมือนได้รับการชำระล้าง ความกลัวและความคิดเกี่ยวกับ "พายยักษ์" ของพวกเขาค่อยๆบิดเบี้ยวไป
สัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัว ตอนนี้ในความคิดของพวกเขามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว
"พร้อมหรือยัง?" ยวี้หลิงหลงถามเย่เหริน
เธอทำการส่งคำสั่งจิตใต้สำนึกเสร็จแล้ว ต่อไปก็แค่เปิดเส้นทางจิ้งจอกสวรรค์ ให้ทุกคนสร้างภาพตัวร้ายในจินตนาการของพวกเขาออกมา
เย่เหรินเอื้อมมือไปด้านหลัง "พร้อมเสมอ!"
บรรยากาศในรถตึงเครียดขึ้นทันทีที่ยวี้หลิงหลงเปิดเส้นทางจิ้งจอกสวรรค์
สีหน้าของผู้โดยสารเปลี่ยนไปในพริบตา!
แต่เนื่องจากความคิดของพวกเขาผิดเพี้ยนไป ภาพที่พวกเขาเห็นก็เปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด
พายยักษ์ที่น่าขนลุก ตอนนี้ในสายตาของทุกคน มันกลับเต็มไปด้วยรอยแตก น้ำเชื่อมเหนียวๆไหลออกมาจากรอยแตกเหมือนเลือด
มันเคลื่อนไหวช้า อ่อนแอเหมือนจะล้มลงทุกเมื่อ
เหมือนแค่ก้าวอีกสองก้าวก็จะแหลกสลาย
ในตอนนั้นเอง เย่เหรินก็เห็นข้อความแจ้งเตือนชัดเจนขึ้นมาในสายตา
[สามารถเปิดใช้งานทักษะติดตัว : ประหาร]
เยี่ยมไปเลย! พายยักษ์สามารถสังหารได้เรียบร้อยแล้ว ที่เป็นแบบนี้ได้ ก็เพราะทุกคนคงคิดว่ามันอ่อนแอจนแทบไม่เหลือแรงสู้
ทีนี้ก็ถึงตาเราแสดงบ้างแล้ว
เย่เหรินหรี่ตาลง บรรยากาศรอบตัวพลันเย็นยะเยือก หมอกสีแดงฉานเริ่มแผ่กระจายออกมาจากเขา!
ดาบโลหิตเปล่งแสงสีแดงเรื่อๆในความมืดของรถไฟ
เย่เหรินขยับตัว ดาบโลหิตก็ตัดผ่านอากาศ ส่งเสียงหวีดหวิวชวนขนลุก
"ประหาร!"
คมดาบนี้ ไม่เพียงแต่ตัดผ่านร่างกาย แต่มันยังตัดผ่านแก่นแท้ของตัวตน
ในวินาทีนั้น เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง
โลกทั้งใบเงียบสงัด มีเพียงเสียงหัวใจของเย่เหรินที่ดังก้อง
คลื่นที่มองไม่เห็นสั่นสะเทือนออกไปราวกับระลอกคลื่น นั่นคือผลกระทบจากการแตกสลายของตัวตน ราวกับมีใครดึงด้ายแห่งเหตุและผลออกจากผืนผ้าทอลายสวยงาม
"...."
การประหารนี้ ได้ลบพายยักษ์ออกจากตรรกะของความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง
ราวกับว่ามันไม่เคยมีตัวตนอยู่
เมื่อเย่เหรินเก็บดาบ ความเงียบงันอย่างประหลาดก็เข้าปกคลุมรถไฟ
ผู้โดยสารทุกคนเหมือนถูกหยุดเวลา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน
ดวงตาของพวกเขาว่างเปล่า สีหน้าเลื่อนลอย พวกเขาเริ่มมองหน้ากันแต่ไม่พบหนทางที่จะสื่อสาร
"เกิด...อะไรขึ้น...?"
"ทำไมฉันถึงนอนคว่ำอยู่บนโต๊ะ?"
"ที่รัก คุณร้องไห้ทำไม?"
ความทรงจำทั้งหมดเกี่ยวกับ "มัน" ของผู้โดยสารทุกคนหายไปพร้อมกับการล่มสลายของตัวตนของมัน
นี่ไม่ใช่การลืม
แต่มันคือการหายไปอย่างสิ้นเชิง การลบออกจากมิติของเหตุและผล
มีเพียงเย่เหริน เจียงซุ่ย และยวี้หลิงหลงเท่านั้นที่ยังคงจำได้
เย่เหรินกับเจียงซุ่ยไม่ต้องพูดถึง
เย่เหรินมีพลังพิเศษ ก็ไม่แปลก
เจียงซุ่ยตอนนี้เป็นสาวกของจ้าวแห่งห้วงลึก ก็ไม่แปลกเช่นกัน
ส่วนยวี้หลิงหลง เธอมีความสามารถพิเศษที่ทำให้เธอจำได้