ตอนที่แล้วตอนที่ 3 การโจมตีของแมลงประหลาด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 5 ความหวาดกลัวในป่าหมอก

ตอนที่ 4 อ๋องหลิน


ตอนที่ 4 อ๋องหลิน

หัวหน้าผู้คุมเจียงยุ่งจนหัวหมุน

เวลาแค่นิดเดียว นักโทษตายไปห้าสิบหกสิบคน แถมผู้คุมใต้บังคับบัญชาของเขาก็ตายไปเกือบสิบคน โชคดีที่เขาไหวตัวทัน จับมัดคนไว้สิบกว่าคน ไม่เช่นนั้นคงตายกันมากกว่านี้ พอได้ฟังเวิ่นหยุนซีว่ารู้สาเหตุแล้ว เกิดจากแมลงประหลาด เขาถึงค่อยโล่งใจลงหน่อย

เรื่องนี้มันแปลกเกินไป เขานึกว่าเป็นฝีมือภูตผีเสียอีก

แมลงแปลกแค่ไหนก็ยังดีกว่าภูตผีที่มองไม่เห็น

“เผิงซาน เจ้าติดต่อกับฝั่งอ๋องหลิน จางเอ้อ เจ้าตามเวิ่นหยุนซีไป แล้วทำทุกอย่างตามที่นางสั่ง”

เวิ่นหยุนซีรีบจัดการทุกคนให้ช่วยกันตรวจดูร่างกายกันเอง แล้วก็ให้จุดไฟเผาแมลงประหลาด ทันทีที่จับได้

ส่วนพวกที่หัวหน้าผู้คุมเจียง จับและมัดไว้ ทำให้พวกเขากระโดดหน้าผาไม่ได้ ตอนนี้จึงพากันเอาหัวโขกหิน จนเลือดสีแดงกับสีขาวของหินผา ปนกันไปหมด

“เวิ่นหยุนซี เจ้าคิดว่าควรทำยังไงดี?”

ผู้คุมจางเอ้อ มองเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ใบหน้ายังดูเยาว์วัยด้วยความเศร้า

สองวันก่อน เด็กหนุ่มคนนี้ยังบอกอยู่เลยว่าเมื่อเสร็จงานขนย้ายนักโทษครั้งนี้ ก็จะได้แต่งงานกับคนรักที่เขารอคอยมาตลอด

แต่ใครจะรู้… เฮ้อ…

เวิ่นหยุนซีก็ถอนหายใจ รีบปิดตาให้พวกเขาแล้วกล่าว “โยนลงหน้าผาไปเถอะ จะได้ไม่เหงาเพราะมีหลายคนไปด้วย”

สถานการณ์ข้างหน้า เป็นกองทัพของอ๋องหลิน

“เร็วๆ เรียกหมอมาเร็วเข้า ท่านอ๋องอาการพิษกำเริบอีกแล้ว!”

หลิวจงกวน ผู้ดูแลท่านอ๋อง ที่เพิ่งตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีแมลงประหลาดในตัวอ๋องหลิน ยังไม่ทันจะได้ถอนหายใจ ก็พบว่าร่างขององค์ชายที่9 นั้นเย็นเฉียบและซีดลงในทันที

แต่เขายังตามหาหมอไม่เจอ และเจอแต่ฟางซ่งหลิน ผู้บัญชาการที่ร้อนรนไม่ต่างกัน

ทั้งสองสบตากันเงียบๆ โดยไม่พูดอะไร แต่ก็เข้าใจกันดี

หลิวจงกวนถามด้วยความหวังว่า “ตายหมดแล้วหรือ?”

ฟางซ่งหลินไม่ได้ตอบ แต่เดินวนไปมานอกเกี้ยวด้วยความร้อนใจ

"จะทำยังไงดี?

ที่นี่เป็นที่รกร้างไร้ผู้คน จะไปหาหมอจากไหนกัน?

“หลิวจงกวน! ทำไมตอนนั้นเจ้าไม่พาหมอมาด้วยมากกว่านี้!”

หลิวจงกวนไม่สนใจอธิบาย พาหมอมาด้วยได้สามคน ก็ถือว่าเขาใช้ความพยายามอย่างมากสุดแล้ว หากพามามากกว่านี้ อาจจะมีขุนนางยื่นฎีกา แล้วองค์จักรพรรดิจะไม่พอใจอีก

เมื่อเห็นว่าริมฝีปากของท่านอ๋องหลินเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงจากความหนาว หลิวจงกวนจึงรีบเอาผ้าคลุมขนจิ้งจอกอีกสองผืนมาห่มให้ แล้วสั่งให้คนไปเอาถุงน้ำร้อนมา

“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ฟางซ่งหลินเตะก้อนหินอย่างโมโห

หลิวจงกวนรู้ดีว่าเขาด่าถึงใคร ในใจเขาก็แอบด่าด้วยอยู่เหมือนกัน

มีพ่อนิสัยแบบนี้ที่ไหนกัน กดขี่ลูกทุกอย่าง ยังไม่พอ แม้ลูกจะช่วยปกป้องบัลลังก์ไว้ ก็ยังแอบวางยาพิษ อีกทั้งลูกคนที่สามที่คิดกบฏยังได้แต่งตั้งไปปกครองแดนเหนือ แต่ท่านอ๋องของพวกเขากลับต้องถูกส่งไปแคว้นหลานโจว ดินแดนป่าเถื่อน

ทั้งที่มีทางเรือที่เดินทางได้ปลอดภัยกว่า แต่กลับบังคับให้ท่านอ๋องที่ป่วยอยู่ ต้องเดินผ่านทางบกพร้อมกับนักโทษ ราวกับอยากจะให้ท่านอ๋องตายกลางทาง!

“ใครก็ได้ เอากล่องยาของหมอมาสามกล่อง” ฟางซ่งหลินตะโกนสั่งทันที

จนกระทั่งฟางซ่งหลินดึงแขนของอ๋องหลินออกจากผ้าห่ม หลิวจงกวนถึงได้รู้ตัว

“ท่านจะทำอะไร ท่านบ้าไปแล้วหรือ?!”

หลิวจงกวนรีบวิ่งเข้ามาห้าม แต่ถูกฟางซ่งหลินเตะลงไปกับพื้น

ฟางซ่งหลินเอามีดไปลนไฟ แล้วกรีดแขนของอ๋องหลิน

แต่เลือดที่ควรจะพุ่งออกมากลับไม่เป็นเช่นนั้น มีเพียงเลือดที่ค่อยๆ ไหลออกมาอย่างเชื่องช้า

ทั้งสองตกใจมาก!

เลือดหนาวจนแข็งแบบนี้แล้ว อ๋องหลินยังจะรอดอีกหรือ?

ถ้าอ๋องหลินเป็นอะไรไป ข้าจะไปบอกกับพระสนมเยี่ยนได้ยังไง...

ต่างจากฟางซ่งหลินที่เริ่มสิ้นหวัง หลิวจงกวนเหมือนจะนึกอะไรออก รีบลุกขึ้นจากพื้นแล้ววิ่งไปทางด้านหลังทันที

“นี่! ไม่ต้องจับข้า ข้าวิ่งเองได้!”

เวิ่นหยุนชีแทบจะถูกหลิวจงกวนแบกมาที่หน้าเกี้ยว

ตอนแรกนางยังไม่เข้าใจสถานการณ์ แต่พอเห็นสภาพแขนของอ๋องหลิน ก็เข้าใจได้ทันที

ชายผู้นี้พิษเย็นกำเริบ ต้องรักษาโดยด่วน!

"เอาเข็มเงินที่ยาวที่สุดมาให้ข้า เร็ว!"

หลิวจงกวนยิ้มอย่างมีความหวัง แล้วพาฟางซ่งหลินที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเกี้ยวเดินออกไป ก่อนจะรีบ ดึงเข็มเงินยื่นให้เวิ่นหยุนซี

ถ้านางรักษาด้วยการฝังเข็มได้ แสดงว่าฝีมือการแพทย์ของนางต้องไม่ธรรมดาแน่!" หลิวจงกวนกล่าว

เวิ่นหยุนซีเรียนการฝังเข็มขั้นต้นจากระบบ แต่ตอนนี้ก็ไม่มีเวลามากพอจะมัวแต่ลังเล ไหนๆ ก็เจอคนไข้แล้ว นางย่อมต้องพยายามเต็มที่เพื่อช่วยชีวิต

ชายผู้นี้ร่างกายเย็นเฉียบ เลือดก็แข็งตัว เกรงว่าจะไม่ใช่แค่พิษเย็น อาจจะมีพิษศพปนอยู่ด้วย พิษชนิดนี้ทั้งเจ็บปวดและรักษายาก พอเกิดอาการก็ยิ่งยากจะจัดการ

หากเป็นวิชาฝังเข็มระดับตำนานที่เรียกว่า "เผาภูเขา" ในศาสตร์การแพทย์แผนจีน อาจจะช่วยยับยั้งได้บ้าง แต่นั่นเป็นทักษะฝังเข็มระดับกลางซึ่งเธอยังไม่สามารถใช้ได้

ยังมีวิธีอะไรอีกบ้างที่จะทำให้เลือดไหลเวียน?

เวิ่นหยุนซีเปิดแผงระบบ เหลือแต้มอยู่ 2,342 แต้ม พออยู่แล้ว

เธอรีบซื้อ "ยาบำรุงเลือด" "ยาสมานเนื้อ" "ผงลดอักเสบ" และ "ผงห้ามเลือด"

“ระบบ ช่วยข้าแลกทาก มาอีก 20 ตัว”

แต้มถูกหักไป 960 แต้ม พร้อมทั้งมีสิ่งเหล่านี้ ปรากฏขึ้นในกระเป๋าของเธอ

เวิ่นหยุนซีหยิบกระบอกไม้ไผ่ที่ใส่ทากไว้ สูดหายใจเข้าลึก แล้วตั้งสมาธิก่อนเริ่มการรักษา

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ชายหนุ่มรูปงาม ที่นอนอยู่บนเตียงอ่อนนุ่ม ก็ขยับตัวเล็กน้อย แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น

“โอ้โห ท่านอ๋องของข้า ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว ข้านี่แทบหัวใจวายแล้ว”

หลิวจงกวนยิ้มทั้งน้ำตา รีบสั่งองครักษ์ให้ไปเอาชาและขนมมา

อ๋องหลินพยายามจะลุกขึ้น แต่เสียงหนึ่งห้ามไว้ก่อน “ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว รออีกครึ่งชั่วโมง”

พอได้ยินเช่นนั้น อ๋องหลินก็หยุดขยับ แล้วล้มตัวลงนอนต่อ

สายตาของเขาปะหลาดใจเล็กน้อย เมื่อสบตาเข้ากับเวิ่นหยุนซี

นางเป็นหญิงสาวที่สวมใส่เสื้อผ้าของนักโทษ เนื้อตัวมอมแมม ผมยุ่งเหยิง ใบหน้ามีแต่คราบดำ มองเห็นชัดเจนเพียงดวงตาคู่สวยที่ส่องประกาย

เวิ่นหยุนซีรู้สึกเหมือนดอกไม้บานนับไม่ถ้วนอยู่ตรงหน้า รอบตัวมีแต่กลีบดอกไม้สีชมพูลอยอยู่รอบๆ ชายหนุ่มคนนี้ ตอนหลับตาก็หล่อเหลาจนทำให้นางตกตะลึง พอเขาลืมตา ยิ่งทำให้ดวงตารูปทรงหงส์ยิ่งขับให้เขาดูโดดเด่นมากขึ้นไปอีก

ตั้งแต่เส้นผมลงไปยันลูกกระเดือก ผิวหนังทุกตารางนิ้ว รูปทรงทุกส่วนราวกับถูกสร้างมาเพื่อหัวใจของเธอ

อ๋องหลินรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยจากสายตาอันร้อนแรงของเธอ จึงเบือนสายตาหนีไปก่อน “ขะ..ข่ะ..ขอบคุณ…เจ้า”

เสียงแผ่วเบานั้นดึงสติของเวิ่นหยุนซีกลับมา เธอกระแอมเบาๆ ก้มศีรษะประสานมือแล้วกล่าวว่า “ทาสหญิงเวิ่นหยุนซี ขอคารวะอ๋องหลิน ไม่ใช่เพราะความชอบของข้า แต่เป็นเพราะท่านมีวาสนา”

เธอไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรออกไป และสมควรแล้วหรือไม่

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม เวลานี้ควรต้องทำความเคารพด้วยการคุกเข่า แต่เธอไม่ใช่คนในยุคนี้ จะให้เธอคุกเข่ากราบใครโดยไม่มีเหตุผล เธอทำไม่ได้จริงๆ

เวิ่นหยุนซี… ลูกสาวท่านหญิงเหอหยุนซีสินะ…

เมื่อคิดคำนวณเวลาแล้ว นักโทษกลุ่มนี้ก็ควรจะเดินมาถึงที่นี่แล้ว

อ๋องหลินหลับตาลงเบาๆ เพื่อปกปิดอารมณ์ในดวงตาของเขา

หญิงสาวตรงหน้านี้ ดูท่าไม่น่าจะใช่องค์หญิงที่เติบโตในห้องหอ

อีกทั้งฝีมือทางการแพทย์ของนาง นางไปเรียนมาจากที่ใดกัน...

“ให้รางวัล” อ๋องหลินพูดเบาๆ โดยไม่ลืมตา

เวิ่นหยุนซีได้ยินดังนั้นก็ยิ้มกว้าง แถมได้มองหนุ่มหล่อ แถมยังได้รางวัลอีก แม้ว่าระบบจะไม่ให้แต้ม แต่ก็คุ้มค่าอย่างมากแล้ว

เธอแอบมองกรามสวยๆ ของอ๋องหลินอีกครั้งสองครั้ง แล้วเดินตามหลิวจงกวนไปเพื่อรับรางวัล

หลิวจงกวนเดิมทีจะให้รางวัลเป็นเงิน แต่เห็นสภาพของเธอแล้วก็เปลี่ยนใจ เป็นให้ใบไม้ทองคำแทน ใบไม้ทองคำมีมูลค่า น้ำหนักเบา และพกพาสะดวก

เวิ่นหยุนซียิ้มกว้างรับมา แล้วขออาหารและน้ำเพิ่มก่อนเดินจากไปอย่างอารมณ์ดี

สุภาษิตที่ว่า "แบ่งนานต้องรวม รวมกันนานต้องแบ่ง" จักรพรรดิแก่ชราขาดสติ ตอนนี้กลับยิ่งทำสิ่งเลอะเลือน ยกให้ลูกชายคนโตเป็นรัชทายาท แต่กลับตั้งลูกชายอีกแปดคนเป็นอ๋องปกครองแคว้นต่างๆ ต่อหน้าบอกว่าให้พวกเขาออกห่างจากการแก่งแย่งในราชสำนัก แต่ความจริงกลับเป็นการให้พวกเขาสร้างอำนาจของตนเองขึ้นมา

เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ แล้วจะยิ่งเป็นเก้าตัวได้อย่างไร?

หากรัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์ แน่นอนว่าจะต้องเข่นฆ่าพี่น้องอย่างแน่นอน บรรดาอ๋องเองก็ไม่โง่ คงเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นแผ่นดินจะต้องวุ่นวายอย่างแน่นอน ใครๆ ก็ต้องมีอำนาจของตนเองไว้เพื่อไม่ให้เป็นแค่เศษหญ้าลอยตามน้ำอีกต่อไป

หวังว่าอ๋องหลินผู้นี้จะเป็นตัวช่วยที่ดี ไม่เช่นนั้นที่อุตส่าห์ช่วยไปก็สูญเปล่าเสียเปล่า

…โปรดติดตามตอนต่อไป…

หากพบคำที่พิมพ์ผิด แจ้งได้เลยนะ

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด