ตอนที่ 216 ก้อนอิฐแผ่นใหญ่!
“เฮ้ย จริงดิ?” อาวุโสใหญ่เบิกตากว้าง รู้สึกเย็นวาบไปถึงหลัง เขายังจำชะตากรรมของนิกายเทียนหมิงได้อย่างชัดเจน ไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นเหตุการณ์ถ่ายทอดสดอีกครั้งเร็วขนาดนี้ และคราวนี้เป้าหมายคือแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง!
“เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้!” เจ้าสำนักเหย่ากวงหรี่ตา กัดฟันแน่น เขาไม่เชื่อว่าสำนักเกาซานจะมีพลังมากพอที่จะทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงได้!
“ยังไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตารึ?” ฮั่วหยุนเฟยหัวเราะเย็นชา จากนั้นหันไปมองภาพในจอ เห็นเพียงว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงในภาพนั้นเต็มไปด้วยความสงบ งดงามดั่งสรวงสวรรค์ เหนือท้องฟ้าแดนศักดิ์สิทธิ์มีเกราะป้องกันบางใสอยู่ ณ ขณะนั้น บนเกราะนั้น ปรากฏก้อนอิฐแผ่นหนึ่งที่ไม่มีความโดดเด่นใด ๆ แต่บนด้านหน้าของอิฐนั้นแกะสลักคำว่า “คุณธรรม”!
“นั่นอะไรน่ะ?” ศิษย์คนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงเงยหน้ามองอย่างสงสัย เห็นอิฐที่มีคำว่า 'คุณธรรม' อยู่ข้างหน้า ไม่เข้าใจว่าทำไมก้อนอิฐถึงบินอยู่บนฟ้า
“หรือว่าเป็นอาวุธเวทย์ของอาวุโสคนใด?”
“แต่ก็เป็นอาวุธที่แปลกดี การโจมตีคงไม่ธรรมดาแน่” ศิษย์หลายคนเริ่มเห็นอิฐแผ่นนั้น พวกเขาต่างหัวเราะและพูดเล่นกัน
“แปลกจัง ข้าไม่เคยได้ยินว่าอาวุโสคนใดใช้ของแบบนี้เป็นอาวุธ” อาวุโสคนหนึ่งมองอย่างสงสัย แดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงในฐานะผู้นำใหญ่ของเขตตะวันออก อาวุโสล้วนเป็นบุคคลสำคัญ จะใช้ก้อนอิฐเป็นอาวุธได้อย่างไร มันเสียศักดิ์ศรี!
“มันใหญ่ขึ้น มันใหญ่ขึ้นอีกแล้ว!”
“ใหญ่มาก!” ในขณะนั้น ผู้คนมากมายร้องเสียงหลง แม้แต่อาวุโสหลายคนก็เผยสีหน้าตกตะลึง เพราะอิฐที่มีคำว่า “คุณธรรม” กำลังขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดก็ขยายตัวใหญ่พอที่จะคลุมแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงทั้งหมด
“ตัวหนังสือคำว่า 'คุณธรรม' ใหญ่จริง ๆ” ศิษย์คนหนึ่งอุทาน ดูเหมือนจะสนุกกับมัน การใช้ก้อนอิฐเป็นอาวุธก็ดูแปลกพอแล้ว แต่การแกะสลักตัวหนังสือบนอิฐนั้นยิ่งทำให้น่าสนใจมากขึ้นไปอีก ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างอาวุธชิ้นนี้
“แปลกมาก!”
“ผิดปกติอย่างยิ่ง!” อาวุโสคนหนึ่งที่มีอายุเก่าแก่ยืนนิ่งอยู่ มือไขว้หลัง เขาสัมผัสได้ถึงบางอย่างผิดปกติ ตั้งแต่วินาทีที่อิฐขยายขนาด เขารู้สึกอึดอัดในใจ หัวใจเต้นแรงราวกับคาดเดาว่าบางสิ่งไม่ดีจะเกิดขึ้น!
“นี่คือ... ศัตรูโจมตี!!” ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักขึ้นมา สีหน้าก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ร่างกายที่ชราพุ่งทะยานขึ้นฟ้าเหมือนสิงโตที่โกรธจัด เขาปลดปล่อยพลังอันมหาศาลและตะโกนลั่นว่า “อิฐนี้จะโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนเตรียมตัว!”
ก้อนอิฐนี้แปลกประหลาดเกินไป มันแทบไม่มีพลังใด ๆ เล็ดลอดออกมา เพียงลอยนิ่ง ๆ อยู่บนท้องฟ้าของแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง ปกคลุมท้องฟ้าเบื้องบน ทั้งหมดนี้ไม่ปกติ! ตามปกติอาวุธเวทย์ระดับนี้ มันจะอ่อนแอเกินไปหรือไม่ก็แข็งแกร่งเกินไป ถ้ามันเป็นอย่างแรกคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง การที่ทุกคนไม่สามารถสัมผัสพลังจากอิฐนี้ได้ มันจะเป็นอาวุธเวทย์ระดับไหนกัน?
ไม่นาน อาวุโสหลายคนที่เห็นสถานการณ์แย่ก็เริ่มเปลี่ยนสีหน้า พวกเขาบินขึ้นฟ้า มองไปยังอิฐที่อยู่เหนือหัวแล้วพูดว่า “ผู้ใดบังอาจโจมตีแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง?”
“อยากตายหรือไร?”
“ได้ไปเชิญจินรื่อแล้วหรือไม่?” อาวุโสคนหนึ่งพูดขึ้น จินรื่อเป็นผู้ที่มีพลังสูงสุดในแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง ณ ปัจจุบัน เป็นหนึ่งในมหานักบุญที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และเคยเป็นเจ้าสำนักเหย่ากวงมาก่อน!
ขณะนั้น ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งในชุดคลุมทองเดินเหยียบอากาศมาด้วยท่าทางสง่างาม ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม คิ้วโก่งดังดาบขมวดเล็กน้อย ก่อนจะหันไปถามอาวุโสหลายคนว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“แดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงได้ไปล่วงเกินพรรคใดมาหรือ?” อาวุโสคนหนึ่งครุ่นคิด ก่อนจะตอบว่า “ได้ยินว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์และเหล่าศิษย์ของพวกเรามีปัญหากับศิษย์ของสำนักเกาซานในเมืองเจิงเซียน...”
“หลานจ้านกับเกาคุนโดนฆ่าตาย...”
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ดูเหมือนว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงจะไม่ได้มีปัญหากับอำนาจอื่น ๆ “สำนักเกาซานงั้นหรือ?”
จินรื่อขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าในช่วงที่เขาเป็นเจ้าสำนักแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงนั้น สำนักเกาซานยังไม่มีตัวตนเลย “ไม่น่าจะใช่พวกเขา แม้ว่าจะได้ยินข่าวมาว่าสำนักเกาซานเพิ่งแสดงพลังที่แท้จริงออกมา โดยที่มีจ้าวกึ่งจักรพรรดิซ่อนตัวอยู่ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าต่อกรกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงแน่!”
“ถ้าไม่เช่นนั้น ถึงพวกเขาจะมีจ้าวกึ่งจักรพรรดิ แต่อย่างไรก็ตายอยู่ดีหากท้าทายแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง” อาวุโสคนหนึ่งเอ่ยขึ้น พวกเขาเคยสงสัยว่าสำนักเกาซานเป็นต้นเหตุ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ ถึงแม้จะมีข่าวว่าสำนักนั้นหยิ่งผยองมากถึงขั้นล้างบางนิกายเทียนหมิง แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงเทียบเทียนหมิงได้หรือ? สำนักเกาซานคงไม่กล้าลงมือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงแบบโจ่งแจ้งขนาดนี้ “หรือจะเป็นนิกายสุริยันจันทรา? นอกจากพวกนั้นแล้ว ใครกล้าลงมือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง?” อาวุโสอีกคนคาดเดา
“ไม่น่าใช่” จินรื่อส่ายหัว ดวงตาหรี่ลงเป็นประกายเย็นเยียบ “นิกายสุริยันจันทราอาจจะไม่ลงรอยกับเรา แต่การทำสงครามกับแดนศักดิ์สิทธิ์จะกระทบอย่างใหญ่หลวง พวกเขาคงไม่กล้าทำแบบนั้น” เมื่อไม่อาจหาคำตอบได้ จินรื่อและพวกจึงเลิกตามหาความจริง ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก่อนคือทำลายแผ่นอิฐที่อยู่เหนือหัวนี้ให้ได้
“ข้าอยากจะรู้จริง ๆ ว่าเจ้าเป็นสมบัติระดับไหน!” จินรื่อสั่งให้คนอื่นทั้งหมดลงไปรอข้างล่าง ส่วนตัวเขาเองดึงดาบยาวสีทองออกมา นั่นคือดาบทองจินรื่อ อาวุธประจำตัวของเขา ที่ปัจจุบันเป็นอาวุธระดับมหานักบุญ มีพลังอันน่ากลัว “วิชาดาบผ่าฟ้า!” จินรื่อร้องเสียงต่ำ พลังอำนาจของนักบุญมหาเต๋าพุ่งพล่าน ดาบทองจินรื่อระเบิดพลังร้ายแรงออกมา ลำแสงดาบขนาดมหึมาเหมือนจะผ่าฟ้าผ่าแผ่นดินเป็นสองซีก! “ฉับ!”
ลำแสงดาบสีทองขนาดยักษ์พุ่งใส่แผ่นอิฐเหนือหัว แต่กลับมีเพียงเสียงแผ่วเบาเท่านั้นก่อนที่ลำแสงดาบจะถูกทำลายไปโดยง่าย จินรื่อขมวดคิ้วหนักกว่าเดิม การโจมตีเมื่อครู่นั้นเขาใช้พลังไปถึงหกส่วน แต่กลับถูกปัดป้องได้อย่างง่ายดาย ดูเหมือนว่าแผ่นอิฐนี้ไม่ใช่ของธรรมดา เขาจะไม่หลงกลไปกับรูปลักษณ์ภายนอกมันได้ จากนั้นเขาจึงใช้วิชาดาบผ่าฟ้าอีกครั้ง คราวนี้เขาใช้พลังเต็มสิบส่วน ลำแสงดาบขนาดมหึมาฉีกฟ้าฉีกดิน พื้นที่รอบ ๆ สั่นสะเทือน มวลเมฆสีดำแปรปรวน! ความโกรธของมหานักบุญ ทำให้มีคนล้มตายเป็นล้าน การโจมตีครั้งนี้ของจินรื่อน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง!
“ฉับ!” แต่ผลกลับเหมือนเดิม เสียงดังน้อยนิด ลำแสงดาบพอสัมผัสกับแผ่นอิฐก็ถูกทำลายทันที มีเพียงควันขาวเล็กน้อยพวยพุ่งจากจุดที่ถูกโจมตี “บ้าจริง แผ่นอิฐนี่มันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”
“มันขยับแล้ว มันขยับแล้ว!” เหล่าศิษย์ไม่ได้กังวลว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงจะเป็นอย่างไร ที่นี่คือสถานที่ปลอดภัยที่สุดในแดนตะวันออก มีอาวุธจักรพรรดิ์คุ้มครอง ใครจะมาเป็นภัยคุกคามได้? ในขณะนี้มีศิษย์คนหนึ่งร้องออกมา เพราะแผ่นอิฐที่ห้อยอยู่เหนือหัวเริ่มเคลื่อนตัวลงมาเรื่อย ๆ!
“แกร๊ก!” “แกร๊ก!”
แผ่นอิฐสัมผัสกับค่ายกลป้องกันของแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง ค่ายกลก็ส่งเสียงคร่ำครวญทันที วินาทีต่อมาก็ปรากฏรอยร้าวแผ่ขยายไปทั่ว จากนั้นเสียงดังสนั่น ค่ายกลป้องกันก็พังทลายลง!
จินรื่อ “!!!!” ไม่เพียงแต่เขาที่หน้าซีดเผือด คนทั้งหมดในแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงต่างก็เปลี่ยนสีหน้ากันหมด! นั่นเป็นค่ายกลที่แดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงถูกวางโดยจักรพรรดิเหย่ากวงเองในอดีต แม้จะยังไม่ถูกเปิดใช้อย่างเต็มที่ แต่กลับถูกทำลายได้ง่ายดายขนาดนี้ ช่างเกินจริงเกินไป แผ่นอิฐไร้กลิ่นอายนี้คือสมบัติอะไรกันแน่?
“เปิดค่ายกลเต็มกำลัง!” จินรื่อตะโกนลั่น จากนั้นเขาก็พุ่งไปยังจุดศูนย์กลางค่ายกล เขาต้องการควบคุมค่ายกลป้องกันด้วยตัวเอง หากปล่อยให้แผ่นอิฐตกลงมาที่แดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวง จะต้องถล่มราบเป็นหน้ากลองแน่นอน!
“ไปยังสุสานบรรพชน ปลุกกึ่งจักรพรรดิบรรพบุรุษขึ้นมาเร็ว!” จินรื่อยึดออกคำสั่ง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล แม้ว่าเขาจะเชื่อมั่นในค่ายกลที่จักรพรรดิเหย่ากวงเคยวางไว้ แต่ก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัย เรื่องนี้แม้แต่ตัวเขายังรู้สึกว่าเหลือเชื่อ ค่ายกลที่วางโดยจักรพรรดิ์ยังมีใครทำลายได้ในยุคนี้อีกหรือ?
แต่ความรู้สึกไม่สบายใจนั้นก็ยังคงอยู่! แกร๊ก! ปัง! ในที่สุด
วินาทีต่อมา หัวใจของทุกคนในแดนศักดิ์สิทธิ์เหย่ากวงเต้นกระตุกด้วยความหวาดกลัว
เมื่อค่ายกลโบราณของจักรพรรดิเหย่ากวงสัมผัสกับแผ่นอิฐ มันก็ถูกทำลายและแตกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที!… “นี่... นี่... นี่... เป็นไปได้ยังไง?” เจ้าสำนักเหย่ากวงปากสั่นระริก ความยิ่งใหญ่และสง่างามที่เคยมีมาหายไปหมด เขานั่งทรุดลงบนเก้าอี้อย่างหมดเรี่ยวแรง นั่นคือค่ายกลป้องกันที่จักรพรรดิเหย่ากวงเป็นผู้วางเอง แต่กลับถูกทำลายได้ง่ายดายเช่นนี้? แล้วแผ่นอิฐนั้นคือสมบัติอะไรกันแน่?