ตอนที่แล้วกำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 461 แผนการอันใด?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 463 เป็นเพียงมดปลวกตัวใหญ่

กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 462 ตระกูลฉินเกี่ยวข้องอันใด?


กำราบภพด้วยระบบกลไกลสวรรค์ ตอนที่ 462 ตระกูลฉินเกี่ยวข้องอันใด?

“เพียงเท่านี้หรือ”

ฉินเสวียนหลางดีใจยิ่งนัก

การรับใช้หอคอยกลไกสวรรค์ ในสายตาของเขามิใช่การลงโทษ เพราะในโลกภายนอกมีผู้คนมากมายที่ต้องการสังกัดหอคอยกลไกสวรรค์ กลายเป็นขุมอำนาจภายใต้บังคับบัญชา แต่กลับไม่มีโอกาส

ไม่นึกเลยว่าตระกูลฉินของเขา จะได้รับโอกาสเช่นนี้!

บรรพบุรุษของตระกูลฉินเพิ่งจะละสังขาร แต่กลับมีขุมอำนาจที่แข็งแกร่งกว่าหนุนหลัง คาดการณ์ได้ว่าตระกูลฉินกำลังจะทะยานขึ้นฟ้าอีกครั้ง ส่วนอนาคตของตระกูลฉิน

เขาไม่เคยกังวล แม้ในอีกหลายล้านปีข้างหน้าจะมีบุตรแห่งโชคชะตาปรากฏขึ้นเขาก็ไม่สนใจ

ในตอนนี้ คาดว่าแม้เขาจะรู้ ก็คงยินดีที่จะรับใช้หอคอยกลไกสวรรค์

เพราะว่าบุตรแห่งโชคชะตายังคงต้องใช้เวลาหลายล้านปีกว่าจะปรากฏตัว ส่วนการสร้างสัมพันธ์อันดีกับหอคอยกลไกสวรรค์ในตอนนี้นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

“อย่าเพิ่งดีใจไป”

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างแผ่วเบา

“ข้าเพียงแต่กล่าวว่าตระกูลฉินต้องรับใช้ข้า แต่อนาคตหากตระกูลฉินพบเจอกับภัยพิบัติ ข้าจะไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ”

“เอ่อ”

ฉินเสวียนหลางตะลึงงัน

ในตอนนี้ เขาเข้าใจแล้ว

เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ต้องการเพียงผู้รับใช้ที่ไม่ต้องเสียค่าจ้าง ตระกูลฉินของพวกเขามาถึงที่นี่พอดี กล่าวให้ไพเราะคือขุมอำนาจภายใต้บังคับบัญชา

กล่าวให้ฟังดูโหดร้ายก็คือเครื่องมือ

เมื่อไร้ประโยชน์ก็จะถูกเขี่ยทิ้ง

“ผู้น้อย ตระกูลฉินยังมีทางเลือกอื่นหรือไม่”

ฉินเสวียนหลางกล่าวอย่างขมขื่น

“ไม่มี”

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างเย็นชา

เขากล่าวจบก็ใช้นิ้วดีดเบา ๆ ตราประทับสีขาวหนึ่งดวง ปรากฏพลังอันลึกลับ พุ่งเข้าไปในศีรษะของฉินเสวียนหลาง หลอมรวมเข้ากับสายเลือดของเขา

มิใช่เพียงเขา

ในตอนนี้ ทุกคนในตระกูลฉิน ต่างก็รู้สึกว่ามีตราประทับหนึ่งดวงฝังอยู่ในสายเลือด ราวกับเป็นสิ่งที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่อาจลบเลือน

“นี่คือสิ่งใด”

ฉินเสวียนหลางเบิกตากว้าง เอ่ยถามอย่างสงสัย

“ผลลัพธ์ของการทรยศหอคอยกลไกสวรรค์”

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างเย็นชา

ตระกูลฉินในตอนนี้ย่อมต้องเคารพหอคอยกลไกสวรรค์ เพราะหากพวกเขามีความคิดทรยศเพียงเล็กน้อย ก็จะถูกทำลายในทันที

แต่จิตใจคนเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อเวลาผ่านไป ใครจะรู้ว่าตระกูลฉินจะมีความคิดอื่นหรือไม่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องเตรียมการล่วงหน้า

หากตระกูลฉินมีความคิดอื่น เขาจะรู้ได้ในทันที เพียงแค่คิด ตระกูลฉินทั้งหมดก็จะสลายกลายเป็นเถ้าธุลี

“ผู้น้อยเข้าใจแล้ว”

ฉินเสวียนหลางมีสีหน้าเศร้าหมอง ประสานมือคารวะ กล่าว

แม้เขาจะไม่รู้ว่าแสงสีขาวเมื่อครู่คืออะไร แต่คาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นวิธีควบคุมตระกูลฉิน

เช่นนั้นแล้ว ตระกูลฉินในอนาคต ถือว่าผูกติดกับหอคอยกลไกสวรรค์ ไม่อาจทรยศได้อีก

“อืม”

หลี่อวิ๋นพยักหน้าเบา ๆ ยกถ้วยชาขึ้นจิบ กล่าวอย่างแผ่วเบา “เจ้ากลับไปได้แล้ว”

“ขอรับ!”

ฉินเสวียนหลางลุกขึ้นยืน โค้งคำนับ กล่าว “ผู้น้อยขอบคุณผู้อาวุโสที่ไม่สังหาร ในวันนี้ผู้น้อยขอตัวลาไปก่อน หากผู้อาวุโสมีสิ่งใดให้รับใช้ โปรดสั่งมาได้เลย”

“จริงสิ”

ในตอนที่ฉินเสวียนหลางกำลังจะก้าวออกจากหอคอยกลไกสวรรค์ หลี่อวิ๋นเอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“ผู้อาวุโสมีสิ่งใดให้รับใช้หรือ”

ฉินเสวียนหลางหยุดก้าวเท้า หันกลับมาถามอย่างสงสัย

“อีกไม่นาน โลกเซียนปฐพีจะเกิดเรื่องวุ่นวาย ตระกูลฉินควรเตรียมการเสียแต่เนิ่น ๆ มิเช่นนั้นอาจจะพบเจอกับภัยพิบัติ” หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างเชื่องช้า

เป้าหมายที่จักรพรรดิปฐมกาลโบราณกลับมาที่โลกสวรรค์ก่อกำเนิด เขารู้ดีตั้งแต่ที่อีกฝ่ายเดินทางมาถึง

บางเรื่องสำหรับเขาแล้วมิใช่ความลับ

แต่สำหรับคนอื่นแล้ว นับว่าเป็นความลับ

หากต้องการรู้รายละเอียด ขออภัยด้วย ต้องใช้ทรัพยากรมาแลก แม้แต่ตระกูลฉินที่เป็นขุมอำนาจภายใต้บังคับบัญชาก็ต้องทำเช่นเดียวกัน

“อีกไม่นาน?”

ฉินเสวียนหลางตะลึงงัน

ได้ยินสี่คำนี้ เขารู้สึกปวดฟัน

เขาเข้าใจว่าเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้กำลังเตือนเขา ไม่อยากเห็นขุมอำนาจที่เพิ่งจะเข้ามาสังกัดหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย

แต่ปัญหาคือเจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้ กล่าวอย่างคลุมเครือ

ไม่ได้บอกเวลาที่แน่นอน และเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น บอกเพียงแค่ให้เตรียมการ ปัญหาก็คือ เขาควรเตรียมการเช่นไร

“ผู้อาวุโสโปรดชี้แนะ เรื่องวุ่นวายที่ท่านกล่าวคือเรื่องใด”

ฉินเสวียนหลางถามอย่างสงสัย

หลี่อวิ๋นเงยหน้าขึ้น มองอีกฝ่าย ใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ ปล่อยเสียงดังกึกก้อง เขากล่าวอย่างเชื่องช้า “กฎของหอคอยกลไกสวรรค์ เจ้ายังไม่เข้าใจอีกหรือ”

ฉินเสวียนหลางยิ้มอย่างเขินอาย

กฎของหอคอยกลไกสวรรค์เขาย่อมเข้าใจ แต่การมาที่นี่ในวันนี้มีเป้าหมายเพียงแค่ขอขมา มิใช่มาซื้อวาสนา ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้นำสมบัติติดตัวมา

เขาไม่แน่ใจว่าสิ่งของในแหวนเก็บของของเขา จะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด

ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ฉินเสวียนหลางกัดฟัน ถอดแหวนเก็บของออกจากนิ้ว วางไว้บนโต๊ะ เลื่อนไปเบื้องหน้าหลี่อวิ๋น เอ่ยถามอย่างสุภาพ

“ผู้น้อยมาอย่างกะทันหัน ไม่ได้เตรียมการสิ่งใดมากนัก ไม่ทราบว่าสิ่งของเหล่านี้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากน้อยเพียงใด”

เมื่อครู่ เจ้าหอคอยกลไกสวรรค์ผู้นี้กล่าวอย่างชัดเจน

หากไม่เตรียมการ ตระกูลฉินอาจจะพบเจอกับภัยพิบัติ แม้จะต้องเสียใจ เขาก็ต้องแลกเปลี่ยนข้อมูล มิเช่นนั้นตระกูลฉินอาจจะถูกเล่นงานโดยไม่ทันตั้งตัว

“สมกับเป็นตระกูลที่เคยมีเซียนแท้”

หลี่อวิ๋นมองแหวนเก็บของแวบหนึ่ง กล่าวพร้อมรอยยิ้ม

ฉินเสวียนหลางผู้นี้ เพียงแค่สิ่งของที่นำติดตัว ก็มีสมุนไพรวิญญาณระดับจักรพรรดิหนึ่งต้น หากเป็นโลกสวรรค์ก่อกำเนิด คงยากที่จะจินตนาการ

หากสมุนไพรวิญญาณระดับจักรพรรดิปรากฏขึ้น ขุมอำนาจต่าง ๆ คงต้องแย่งชิงกันอย่างดุเดือด

แต่ในตอนนี้ฉินเสวียนหลางกลับนำออกมาโดยไม่ลังเล ชัดเจนว่าภายในตระกูลฉินมีสมุนไพรวิญญาณระดับจักรพรรดิอีกมากมาย สมุนไพรวิญญาณระดับจักรพรรดิหนึ่งต้นนี้ ไม่อาจทำให้เขาเดือดร้อนได้

“สิ่งของเหล่านี้แม้จะล้ำค่า แต่สำหรับเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ยังคงห่างไกล ข้าสามารถบอกเจ้าได้เพียงสี่คำ!” หลี่อวิ๋นเก็บแหวนเก็บของไว้ กล่าวอย่างแผ่วเบา

“สี่คำใดหรือ”

ฉินเสวียนหลางอยากรู้ยิ่งนัก

“ระวังยมโลก!”

หลี่อวิ๋นกล่าวอย่างเชื่องช้า

“ยมโลกหรือ”

ฉินเสวียนหลางตะลึงงัน

ขุมอำนาจนี้ เขารู้จักเป็นอย่างดี มิใช่ขุมอำนาจที่จักรพรรดินียมโลกสร้างขึ้นหรือ

ในตอนนี้ยมโลกตกต่ำลงแล้ว ภายในขุมอำนาจ ไม่มีแม้แต่มหาจักรพรรดิ แม้แต่อภิศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มี เหลือเพียงคนอ่อนแอไม่กี่คน เขายังต้องระวังอีกหรือ

ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่จักรพรรดินียมโลกจะกลับมา เขาก็ไม่กลัว

ตระกูลฉินกับยมโลกไม่เคยมีความแค้นต่อกัน ไม่เคยล่วงเกินกัน แม้แต่จักรพรรดินียมโลกต้องการล้างแค้น ก็ควรไปหาเจ้าสัจจะยืนยงและมหาจักรพรรดิน้ำเต้าพิสุทธิ์ก่อน

ตระกูลฉินเกี่ยวข้องอันใด?

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด