ตอนที่แล้วChapter 42: โรงเรียนเซนต์เปาโล
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 44: เงื่อนงำ

Chapter 43: อัศวิน


"ซิสเตอร์โมนี่!" เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัยกลางคนทักทายเธอด้วยความเคารพ

ฉินหรานสามารถบอกได้ว่าไม่ใช่เพราะอายุของเธอหรือการที่เธอเป็นซิสเตอร์ที่โรงเรียนนี้ที่ทำให้เธอได้รับความเคารพเช่นนี้

"ฉันจัดการเรื่องนี้เอง รี้ด" ซิสเตอร์สูงวัยตอบด้วยท่าทางใจดี ส่งยิ้มอบอุ่น

"ครับ ซิสเตอร์!" รี้ดทำความเคารพเธอแล้วเดินจากไป ตอนที่เขาเดินผ่านฉินหราน สายตาเขาเต็มไปด้วยการตักเตือน เขาไม่ได้เดินไปไหนไกล เขาหยุดอยู่ที่ข้างประตูโรงเรียนและยืนเฝ้าอยู่ตรงนั้น

ฉินหรานแน่ใจว่า ถ้าเขามีกริยาไม่เหมาะสมต่อซิสเตอร์เพียงนิดเดียวรี้ดก็คงจะพุ่งเข้ามาพร้อมปืนโดยไม่คิดซ้ำสองแน่ ๆ สัญชาตญาณระวังภัยของเขาบอกแบบนั้น

"รี้ดไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรอก เขาเป็นคนมีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ มีแค่ช่วงนี้เท่านั้นที่เขาดู..บุ่มบ่ามไปสักนิด" ซิสเตอร์อธิบายต่อฉินหรานพร้อมรอยยิ้มเมตตา

เธอมีสีหน้าแบบเดียวกับตอนที่เธอคุยกับรี้ด ราวกับว่าสำหรับเธอแล้ว รี้ดและฉินหรานคือคนคนเดียวกัน ท่าทีของเธอทำให้ฉินหรานรู้สึกไม่สบายใจนิด ๆ เขายิ้มให้ทุกคนเหมือนกันหมดแบบนี้ไม่ได้

สำหรับฉินหราน เพื่อนก็คือเพื่อน คนแปลกหน้าก็คือคนแปลกหน้า เป็นคนละกลุ่มกัน และเอามารวมกันไม่ได้

แม้ว่าเขาเองจะแสดงความเมตตาเช่นนี้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะแสดงความเคารพต่อความเมตตาของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้อาวุโส

ฉินหรานโค้งให้ซิสเตอร์แล้วบอกความตั้งใจของตัวเอง "สวัสดีครับซิสเตอร์ ผมฉินหราน ผมมาที่นี่..."

"เรื่องอัลทิลลี่ ฮันเตอร์ ใช่หรือเปล่า? กรุณาตามฉันมา ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะคุยกัน" ซิสเตอร์โมนี่พูดเบา ๆ เรียกให้ฉินหรานตามเธอไป

พวกเขาเดินอ้อมตึกใหม่จนมาถึงสนามหญ้าแห่งหนึ่ง สิ่งที่สะดุดความสนใจของฉินหรานคือโบสถ์ที่อยู่อีกฟากของสนามหญ้า มันไม่ใหญ่ จุคนได้ราว ๆ 30-40 คน ฉินหรานตามซิสเตอร์โมนี่ข้ามสนามหญ้าและเข้าไปในโบสถ์เล็ก ๆ นั่น

ด้านใน ที่อีกด้านของห้องเป็นรูปปั้นเทพธิดาผู้เมตตาแต่ไม่ใช่องค์ที่ฉินหรานจำได้ มีม้านั่งตัวยาวเรียงสองแถวเป็นระเบียบยาวมาถึงด้านหน้าโบสถ์ เมื่อพวกเขาเข้าไป ซิสเตอร์โมนี่ก็เดินเข้าไปที่รูปปั้นเทพธิดา ก้มศีรษะลงในท่าภาวนา ฉินหรานอยู่ด้านหลังเธอ เขาได้ยินชัดเจนว่าเธอพูดว่า "แบร์นาแด็ตผู้เปี่ยมเมตตา" และอื่น ๆ ในแนว ๆ นี้

"เชิญนั่งค่ะ ฉันชื่อโมนี่ เป็นอาจารย์ใหญ่ของเซนต์เปาโล" ซิสเตอร์พูดตอนที่หันกลับมา

"ผมฉินหราน เป็นนักสืบ" ฉินหรานระบุสถานะที่ได้รับมา

"ค่ะ ฉันเคยได้ยินชื่อคุณ คุณเป็นนักสืบที่เก่งกาจที่สุดของเมือง คุณฮันเตอร์คิดถูกแล้วที่ขอความช่วยเหลือจากคุณตามหาอัลทิลลี่ เด็กหญิงน้อย ๆ คนนั้นบางครั้งก็ดื้อ แต่ไม่เคยสร้างปัญหา เธอรู้ว่าอะไรควรทำและอะไรไม่ควรทำ" ซิสเตอร์โมนี่อธิบาย ภายใต้สีหน้าเมตตามีความกังวลปะปนอยู่

"ซิสเตอร์โมนี่ครับ พักหลังมานี้คุณสังเกตพบอะไรผิดปกติเกี่ยวกับอัลทิลลี่บ้างไหม?" ซิสเตอร์โมนี่ดูยินดีให้ความร่วมมือ  ดังนั้นฉินหรานจึงเริ่มถามคำถามทันที

"ไม่มีนะคะ ทิลลี่ก็เหมือนเด็กคนอื่น ๆ ดื้อบ้างแต่ไม่มีอะไรผิดปกติ หลังจากที่คุณฮันเตอร์มาที่นี่ครั้งก่อนฉันก็ไปคุยกับเด็กหลายคนที่สนิทกับเธอ แต่พวกเขาก็ไม่เห็นว่ามีอะไรผิดปกติ" ซิสเตอร์โมนี่ตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง

ฉินหรานเชื่อเธอ ในฐานะอาจารย์ใหญ่แห่งเซนต์เปาโล เธอเพิกเฉยต่อเหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้

"คุณรู้หรือเปล่าว่าอัลทิลลี่ค่อนข้างมีทักษะ?" ฉินหรานถามคำถามต่อไป

ซิสเตอร์โมนี่ดูตกใจ

"คุณหมายถึงอะไร?" เธอตอบด้วยคำถาม

"ผมหมายถึง เธอเก่งเรื่องกีฬาฟันดาบ ยิงปืน และอาจจะมีความสามารถอื่นด้วย" ฉินหรานลงรายละเอียด

"โรงเรียนของเรามีชั้นเรียนขี่ม้า แต่ไม่ได้สอนฟันดาบหรือยิงปืน ฉันขอโทษนะคะคุณนักสืบ แต่ฉันอยากพักแล้ว ฉันรู้สึกเหนื่อย ถ้ายังไงพวกเราค่อยคุยต่อพรุ่งนี้เถอะนะ" ซิสเตอร์โมนี่ตอบด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพย มองที่ฉินหรานด้วยสายตาเศร้า ฉินหรานมองออกว่าซิสเตอร์โมนี่ตั้งใจหลีกเลี่ยงหัวข้อสนทนา เธอโกหกไม่เก่ง

เห็นได้ชัดเจนว่าเธอรู้อะไรบางอย่างแต่เธอไม่ยินดีบอก

ก่อนที่ฉินหรานจะทันได้ถามอะไรเพิ่ม รี้ด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัยกลางคนก็ปรากฏตัวที่ด้านนอกโบสถ์พร้อมกับคนของเขาอีกสองคน ทุกคนสวมเสื้อผ้าแบบเดียวกันและพกอาวุธ

"คุณนักสืบ เชิญกลับครับ!" รี้ดไม่สุภาพเลยสักนิด

"รี้ด!" ซิสเตอร์โมนี่มองเขาอย่างไม่พอใจ

"ซิสเตอร์โมนี่ ผมเป็นหัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยของโรงเรียน และผมมีหน้าที่ปกป้องทุกคนในโรงเรียนนี้และกำจัดใครก็ตามที่มาที่นี่ด้วยจุดประสงค์ไม่ดี!" รี้ดเหลือบมองฉินหราน ที่บอกว่าจุดประสงค์ไม่ดีนั้นชัดเจนว่าหมายถึงเขานั่นเอง

"คุณนักสืบ อย่าใส่ใจรี้ดเลยค่ะ เขากังวลจากเรื่องที่เกิดขึ้น กรุณาให้อภัยเขานะคะ" ซิสเตอร์โมนี่ขอโทษซ้ำแล้วซ้ำอีก

"ไม่เป็นไรครับซิสเตอร์ พรุ่งนี้ผมจะกลับมาใหม่" ฉินหรานยิ้ม และเดินไปที่ทางออก

รี้ดพาฉินหรานออกมาพร้อมกับคนของเขา พวกเขาไม่ได้กลับไปประจำจุดเดิมจนกระทั่งฉินหรานออกไปจากโรงเรียนและเดินไปตามถนนแล้ว อย่างไรก็ตาม หัวหน้าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนั้นก็ไม่ได้สังเกตเห็นเงาที่ตามเขามา

สกิล [อำพราง] ระดับผู้มีฝีมือของฉินหรานทำให้เขาสามารถเล็ดลอดสายตาของผู้รักษาความปลอดภัยได้อย่างง่ายดายและตามหลังรี้ดกลับเข้าไปในโบสถ์ ซิสเตอร์โมนี่กำลังสวดภาวนาอยู่ที่ด้านหน้ารูปปั้นอีกแล้ว การสวดภาวนาครั้งนี้ของเธอกินเวลากว่า 20 นาที ดูเหมือนว่าครั้งนี้จะเป็นการสวดเต็มรูปแบบ

รี้ดรออยู่เงียบ ๆ ทางด้านข้าง

เมื่อซิสเตอร์โมนี่สวดภาวนาจบ รี้ดก็ขยับเข้ามายื่นมือพยุงเธอลุกขึ้น เขาพาเธอมาที่ม้านั่งยาวใกล้ ๆ และนั่งลง

"ไม่เป็นไรรี้ด คุณนักสืบไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร เขาแตกต่างจากคนโลภพวกนั้น" ซิสเตอร์โมนี่บอกรี้ดหลังจากนั่งลงที่ม้านั่ง

"สำหรับผม พวกมันดูเหมือนกันไปหมดนั่นแหละ งานของผมคือปกป้องคุณและโรงเรียน และเพื่อการปกป้องนี้ ผมจะต้องกำจัดทุกอันตรายออกไป!" หัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยส่ายหน้า ย้ำจุดยืนของตัวเอง

ซิสเตอร์โมนี่มองรี้ด แล้วสุดท้ายก็ถอนหายใจยาว เธอพูด "กลับไปลาดตระเวนต่อเถอะรี้ด ฉันอยากพักสักหน่อย"

"ครับ ซิสเตอร!์" รี้ดก้าวยาว ๆ ออกจากโบสถ์ไป

หลังจากหัวหน้ากองกำลังรักษาความปลอดภัยออกไปแล้ว ซิสเตอร์โมนี่ไม่ได้พักผ่อนอย่างที่เธอบอกว่าจะทำ ตรงกันข้าม เธอเองก็ออกจากโบสถ์ เดินไปตามทางเล็ก ๆ ที่ตรงลึกเข้าไปในพื้นที่โรงเรียน

เธอแก่เกินกว่าจะเดินรวดเดียวจนถึง เธอต้องพักระหว่างทางหลายครั้งกว่าที่ในที่สุดจะมาถึงบ้านไม้หลังหนึ่ง มันเป็นมุมที่ลับตาที่สุดของโรงเรียนเซนต์เปาโล นอกจากบ้านไม้แล้ว ก็มีแต่ต้นไม้จนสุดลูกหูลูกตา

ซิสเตอร์โมนี่หยุดเดิน ประตูบ้านไม้เปิดออก ชายผมขาวไว้หนวดคนหนึ่งเดินออกมา ผู้ชายคนนั้นตัวใหญ่ สวมเสื้อคอกลมแขนกุด มือและเท้าเปล่าเปลือย แขนแข็งแรงของเขาไม่ได้แสดงร่องรอยของอายุ กล้ามเนื้อดูราวกับจะระเบิดพลังออกมาได้

"โมนี่!" ชายสูงวัยทักทายซิสเตอร์โมนี่ด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

"กุนเธอร์สัน คุณใช่ไหมที่สอนอัลทิลลี่ ฮันเตอร์?" ซิสเตอร์โมนี่ขมวดคิ้วถามน้ำเสียงเข้มงวด

"ใช่" กุนเธอร์สันไม่ปฏิเสธ การปฏิเสธความจริงไม่ใช่วิถีของเขา "เด็กผู้หญิงคนนั้นมีพรสวรรค์บางอย่างนะ มันน่าเสียดายถ้าเธอจะไม่หัดใช้มัน" เขาบอกตรง ๆ

กุนเธอร์สันยอมรับ ซิสเตอร์โมนี่รู้สึกหายใจลำบาก เธอสูดลมหายใจลึก ๆ

"คุณลืมที่สัญญากับฉันไว้แล้วใช่ไหม?" เธอถามเขาด้วยน้ำเสียงโมโห "คุณไม่เข้าใจหรือว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้อัลทิลลี่ตกอยู่ในอันตราย?"

"ฉันแค่สอนเด็กคนนั้นอย่างสองอย่างเอง อีกอย่าง ทักษะพวกนั้นก็ทำได้แค่ปกป้องตัวเธอ" กุนเธอร์สันยักไหล่

"แต่ตอนนี้ทิลลี่หายตัวไป! พ่ออัศวินผู้พิทักษ์ที่รัก!" ซิสเตอร์โมนี่เริ่มไอ เหมือนว่าร่างกายของเธอไม่สามารถรับบทสนทนาตึงเครียดเช่นนี้ได้ กุนเธอร์สันขยับเข้ามาเพื่อปลอบเธอโดยไม่รู้ตัว แต่จู่ ๆ เขาก็ชะงักและหันไปทางเงาที่อยู่ในพุ่มไม้

"นั่นใคร? ออกมา!" กุนเธอร์สันกระโจนไปทางเงานั่นพร้อมคำรามเสียงดัง เขาส่งหมัดออกไปทางนั้นราวกับเป็นกระแสลมกรรโชก

หมัดกระแทกใส่เป้าหมาย และใบหน้าของฉินหรานก็เจ็บปวดขึ้นมาทันทีเมื่อปะทะกระแสลมอันรุนแรง ฉินหรานรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันทีที่เสียสมาธิไปเมื่อได้ยินคำว่า อัศวินผู้พิทักษ์ มันทำให้ลมหายใจของเขาปั่นป่วนจนกุนเธอร์สันรู้ตัว

เขายังตกใจมากกับระดับความแข็งแกร่งของหมัดที่ชายสูงวัยตรงหน้าส่งออกมา

ร่างกายและกล้ามเนื้อของกุนเธอร์สันเตือนผู้อื่นถึงความแข็งแกร่งของเขา แต่ฉินหรานคาดไม่ถึงว่าจะเขาจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ ระดับของกุนเธอร์สันต้องเป็นระดับ E หรืออาจจะสูงกว่า E+ ด้วยซ้ำ เพราะว่าฉินหรานเองสามารถขึ้นถึงระดับ E ได้เมื่อใช้ขา เขาจึงเดาว่าเพียงระดับ E+ ไม่น่าจะแข็งแกร่งถึงขนาดนี้ หมัดทรงพลังอย่างนั้นน่าจะทำได้เพื่อมีระดับสูงกว่า E+ แล้ว

ฉินหรานตะลึงกับสิ่งที่ประเมินได้ เขาไม่คิดจริง ๆ ว่าจะพบกับบุคคลระดับเดียวกับซูเปอร์แมนตั้งแต่ดันเจี้ยนแรก ฉินหรานรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

ไม่มีใครเข้าใจสถานการณ์ได้ดีเท่าเขา มันหมายถึงว่าเขาอาจจะสามารถแข็งแกร่งได้มากขึ้นในเกม และได้รับรางวัลมากขึ้น

รางวัลมหาศาล!

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด