ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 195 ปล้นดวงดาว
ระบบหุ่นเชิดในตำนาน ตอนที่ 195 ปล้นดวงดาว
ขุมอำนาจต่าง ๆ ล้วนหวาดกลัวเด็กหนุ่มชุดขาวผู้นั้นถึงขีดสุด
พวกเขาทั้งหมดสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของตน หากพบเจอเด็กหนุ่มผู้นั้น ให้หนีไปให้ไกลที่สุด
ห้ามก่อความขัดแย้งเป็นอันใด
มิเช่นนั้น ห้ามหามณฑลเทพทั้งหมดจะต้องพบกับหายนะ แม้แต่กายาสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ก็มิอาจต้านทานได้!
และเมื่อเรื่องราวทั้งหมดจบลง ห้ามหามณฑลเทพก็กลับคืนสู่ความสงบอีกครั้ง
ทว่าภายในใจของเหล่าผู้บำเพ็ญกลับไม่สงบเช่นนั้น
มหายุคเพิ่งจะมาถึงได้เพียงไม่กี่เดือน ก็มียอดฝีมือระดับกายาสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่สองคนต้องจบชีวิตลง
หนึ่งคนคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ อีกหนึ่งคนคือกายาดวงดาวสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่
ทั้งสองคน ล้วนเป็นบุคคลที่เคยสร้างชื่อเสียงไว้ในสายธารแห่งประวัติศาสตร์ เคยไร้ผู้ต่อต้านในยุคสมัยหนึ่ง
ทว่าในตอนนี้ พวกเขากลับต้องจบชีวิตลงในมหายุค!
ช่างน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!
ยิ่งไปกว่านั้น นี่อาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น
ในอนาคต คงจะโหดร้ายและน่ากลัวยิ่งกว่านี้
ผู้บำเพ็ญมากมายเพิ่งจะตระหนักได้ว่า มหายุค อาจจะมิได้สวยงามเช่นที่พวกเขาคิด เบื้องหลังความรุ่งโรจน์ อาจจะเป็นการล่มสลาย!
และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วังสวรรค์ ยมโลก นิกายพุทธ เผ่าจอมเวท และวังอสูร ขุมอำนาจโบราณทั้งห้านี้ ก็กลายเป็นที่หวาดกลัวของทุกคน
น้อยคนนักที่จะกล้าล่วงเกิน
ท้ายที่สุดแล้ว กายาสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ทั้งสอง ล้วนจบชีวิตลงด้วยน้ำมือของพวกเขา!
………………
ในขณะที่ทุกคนหวาดกลัวขุมอำนาจโบราณทั้งห้า
จี๋อวิ๋นกลับกำลังมีความสุขกับการรับสมบัติฟ้าดินจากเครื่องมือของเขา
ภายในโถงมารสวรรค์
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัวนั่งอยู่เบื้องบน
มองไปยังสิบเจ้าโถงมารผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านล่าง กล่าวอย่างแผ่วเบาว่า
“การสะสมสมบัติฟ้าดิน เป็นอย่างไรบ้าง?”
“อยู่ที่นี่ทั้งหมดแล้ว ขอเชิญใต้เท้าตรวจสอบ”
เจ้าโถงมารสวรรค์ยื่นแหวนเก็บของหนึ่งวงออกมา ภายในนั้นมีสมบัติฟ้าดินที่เจ้าโถงทั้งสิบร่วมมือกันสะสม
จี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัวรับมา จากนั้นก็เริ่มต้นแปลงเป็นแต้มต้นกำเนิด
ติ๊ง!
[แปลงสำเร็จ ได้รับแต้มต้นกำเนิด 5,000,000 แต้ม]
เพียงห้าล้านแต้มหรือ
จี๋อวิ๋นขมวดคิ้ว ควบคุมหุ่นเชิดเทียนเฟยอู๋มัว กล่าวว่า “ไฉนจึงมีเพียงเท่านี้?”
เจ้าโถงมารสวรรค์ยิ้มอย่างขมขื่น “ใต้เท้า แม้ว่ามหายุคจะมาถึง สภาพแวดล้อมของฟ้าดินจะเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่ขุมอำนาจก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน”
“สมบัติฟ้าดินมากมายต่างก็ถูกขุมอำนาจอื่นยึดครองไป ยิ่งไปกว่านั้น โถงมารของพวกเราไม่ถนัดการค้นหาสมบัติฟ้าดิน”
“ดังนั้นจึงได้มาเพียงเท่านี้”
จี๋อวิ๋นฟังจบ ก็ไม่ได้กล่าวอันใด เพียงแค่โบกมือไล่พวกเขา
“ดูเหมือนว่าจะต้องหาวิธีรีดไถขุมอำนาจเหล่านี้”
จี๋อวิ๋นคิดในใจ
ขุมอำนาจเหล่านี้ที่เดินทางมาจากห้วงดาราคงจะร่ำรวยอย่างแน่นอน
แม้ว่าจะไม่ได้ขนย้ายคลังสมบัติทั้งหมดมาที่นี่ แต่ก็คงจะนำสมบัติล้ำค่ามาไม่น้อย!
“เริ่มจากเชื้อสายบุตรเทพก่อนก็แล้วกัน”
อย่างไรก็ตาม บุตรเทพผู้นั้นตายไปแล้ว และกายาดวงดาวสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังเขาก็ตายเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้ การนำสมบัติฟ้าดินของบุตรเทพผู้นั้นมาคงจะไม่ยาก
เมื่อคิดเช่นนี้ จี๋อวิ๋นจึงควบคุมหุ่นเชิดลู่หยาเดินทางไปยังห้วงดาราเบื้องนอกห้ามหามณฑลเทพ
ท้ายที่สุดแล้ว ลู่หยาเป็นเผ่าราชาอีกาทองคำ วิชารุ้งแปลงกายอีกาทองคำคือวิชาที่เร็วที่สุด เหมาะแก่การเดินทาง
เพียงพริบตา เขาก็ทะลวงผ่านฟ้าดิน มาถึงห้วงดารา
ที่ตั้งของบุตรเทพผู้นั้น ย่อมมิได้อยู่บนห้ามหามณฑลเทพ แต่เป็นดาวดวงหนึ่งที่อยู่เบื้องนอกห้ามหามณฑลเทพ
ดาวดวงนี้ เป็นดาวที่บุตรเทพผู้นั้นขนย้ายมาจากห้วงดาราอันลึกล้ำ และถูกเขาปรับเปลี่ยนเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เมื่อจี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดลู่หยามาถึง เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏภูเขาโบราณอันกว้างใหญ่ไพศาล
จากตำราฮวงจุ้ย ที่แห่งนี้คือดินแดนแห่งมังกร
มองเห็นเทือกเขาหลายสาย ราวกับมังกรกำลังขดตัว คดเคี้ยวไปมา น่าเกรงขามยิ่งนัก เชื่อมต่อกับสุริยัน จันทรา และดวงดารา ราวกับมังกรกำลังหายใจ
ยิ่งไปกว่านั้น บนเทือกเขาแต่ละสายต่างก็มีอักขระโบราณสลักอยู่ หากเปิดใช้งาน พลังอำนาจคงจะน่ากลัวอย่างยิ่ง
เมื่อจี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดลู่หยาเดินทางเข้าไปในส่วนลึกของดาวดวงนี้
เขาก็เห็นปราณเซียนมากมายปกคลุม แสงสว่างห้าสีส่องประกายเจิดจ้า ตำหนักและหอคอยตั้งตระหง่านอยู่ ราวกับโลกเทพนิยาย
เขาเดินไปข้างหน้า ผ่านประตู
เห็นสิ่งมีชีวิตมากมาย พวกเขาล้วนเป็นลูกหลานของเก้าแม่ทัพเทพ แข็งแกร่งไร้เทียมทาน
ทว่าเมื่อสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเห็นเขา ต่างก็ถอยร่น
ไม่มีใครกล้าลงมือ แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุด ในเวลานี้ต่างก็สั่นสะท้าน
นี่คือพลังอำนาจของกายาสำเร็จขั้นยิ่งใหญ่ แม้ว่าจะเพียงแค่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ สรรพสิ่งต่างก็มิอาจเผชิญหน้า ร่างกายต่างสั่นเทือน ราวกับจะแตกสลาย
จี๋อวิ๋นไม่ได้สนใจ เขาคว้าจับสิ่งมีชีวิตหนึ่งตน จากนั้นก็ใช้พลังสืบค้นวิญญาณ จึงเดินเข้าไป
ไม่นานนัก เขาก็มาถึงเบื้องหน้าตำหนักหลังหนึ่ง ใหญ่โตราวกับวังสวรรค์กลาง น่าเกรงขามยิ่งนัก
เพียงแค่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ก็ราวกับกำลังมองลงมาจากฟ้าดิน
สถานที่แห่งนี้มีสมุนไพรโบราณมากมายปลูกอยู่เบื้องหน้าตำหนัก ปราณเซียนปกคลุม กลิ่นหอมฟุ้งกระจาย ทำให้จี๋อวิ๋นรู้สึกตื่นเต้น
สมุนไพรเหล่านี้ ล้วนเป็นสมุนไพรที่สะสมมานับพันปี เป็นสมบัติฟ้าดินระดับสูงสุด
เขาจึงเก็บทั้งหมดโดยไม่ลังเล แม้แต่ดินก็ยังไม่เหลือ
จากนั้นจี๋อวิ๋นก็พลิกภูเขาทั้งหมด สมุนไพรโบราณ แก่นเทวะ ต้นไม้วิญญาณ ฯลฯ ถูกรวบรวมจนหมดสิ้น
ในที่สุด ภูเขาทั้งหมดแทบจะไม่มีต้นหญ้า ตำหนักพังทลายลง แม้แต่แก่นเทวะที่ประดับอยู่บนกำแพงก็ถูกดึงออกมา ราวกับฝูงตั๊กแตนเดินทางผ่าน ไม่มีสิ่งใดหลงเหลือ
เมื่อจี๋อวิ๋นควบคุมหุ่นเชิดลู่หยาจากไป ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เคยมีปราณเซียนปกคลุม ก็กลายเป็นภูเขาที่รกร้างว่างเปล่า
เหลือเพียงลูกหลานของเก้าแม่ทัพเทพที่มองหน้ากันด้วยความสิ้นหวัง
………………
“ระบบ แปลงสมบัติฟ้าดินทั้งหมดเป็นแต้มต้นกำเนิด”
เบื้องบนความว่างเปล่า
ร่างจริงของจี๋อวิ๋นยืนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น มือของเขาถือสมบัติฟ้าดินที่ได้รับมาจากหุ่นเชิดลู่หยา
ติ๊ง!
[แปลงสำเร็จ ได้รับแต้มต้นกำเนิด 25,000,000 แต้ม]
ซี๊ด!
จี๋อวิ๋นสูดลมหายใจลึก
สมกับเป็นลูกหลานของเทพแท้โบราณ แม้ว่าจะผ่านไปนานนับพันปี รากฐานของพวกเขายังคงแข็งแกร่ง
แปลงเป็นแต้มต้นกำเนิดได้มากกว่ายี่สิบล้านแต้ม!
“บวกกับห้าล้านแต้มก่อนหน้านี้ ตอนนี้ข้ามีแต้มต้นกำเนิดสามสิบล้านแต้มแล้ว วิเศษจริง ๆ!”
จี๋อวิ๋นยังต้องขอบคุณบุตรเทพผู้นั้น หากอีฝ่ายไม่เสียสละ คงจะไม่ได้แต้มต้นกำเนิดมากมายเช่นนี้
หากบุตรเทพผู้นั้นรู้ คงจะต้องโกรธจนฟื้นคืนชีพมาสาปแช่งเขาอีกที
“สุ่ม สุ่ม!”
เมื่อมีเงินทุนมากมาย จี๋อวิ๋นย่อมมิอาจอดทนได้
ถึงเวลาใช้เงินแล้ว
“ตามธรรมเนียม ห้าล้านแต้มลองสุ่มดูก่อน”
จี๋อวิ๋นใช้แต้มต้นกำเนิดห้าล้านแต้ม เริ่มต้นสุ่มหุ่นเชิด
ติ๊ง!
[ได้รับหุ่นเชิด ‘พญาเหยี่ยวปีกทอง’]
ช่างน่าตกใจยิ่งนัก!
เมื่อจี๋อวิ๋นได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ ก็ตกตะลึงในทันที
จากนั้นเขาก็เงยหน้ามองอย่างรวดเร็ว
เห็นเพียงท่ามกลางแสงเทพอันไร้ขอบเขต ชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ร่างกายราวกับหลอมสร้างจากทองคำ
ดวงตาทั้งสองข้าง ราวกับดวงอาทิตย์สองดวง ส่องประกายเจิดจ้า ทำให้ผู้คนมิอาจมองตรง ๆ
สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ กลิ่นอายโบราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับเทพโบราณ!